ตอนที่ 30 อาวุธลับ (FREE)
“…” จาง หยางปิง ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ปล้น? มันหมายความว่ายังไง?
“เขาพูดว่าอะไรนะ? ปล้นงั้นรึ?!”
“ข้าฟังไม่ผิดใช่ไหม?”
เมื่อสมาชิกในหน่วยล่าสัตว์เริ่มได้สติ พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ
“เด็กคนนี้...จะปล้นพวกเรา?” จาง หยางปิง ในที่สุดก็รู้สึกตัว ตอนนี้เขากำลังตกใจอย่างสุดขีด แม้แต่ในความฝัน เขายังไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะถูกเด็กน้อยอายุ 7 ขวบมาบอกว่าจะปล้นเขา เขาควรจะคิดยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้ดี มันดูไม่สมเหตุสมเหตุสมผลเอาเสียเลย!
มันเป็นไปได้งั้นหรือ?
ถ้าพูดถึงหน่วยล่าสัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วละก็ หมู่บ้านภูเขาทางเหนือนั้นอาจจะไม่ใช่หน่วยที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ถ้าพูดถึงแถบตีนเขาคังหลิงนี้ละก็ พวกเขาเป็นเหมือนราชาของที่นี่
ถูกปล้นโดยเด็ก 7 ขวบ?
จาง หยางปิง อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เขารู้สึกว่าถ้าเขาไปบอกคนอื่นเรื่องนี้ คงไม่มีใครสักคนเชื่อเขา แต่ฟังจากน้ำเสียงของเด็กนั่นแล้วดูเหมือนเขาจะไม่ได้ล้อเล่น
“รองหัวหน้า ข้าคิดว่าเจ้าเด็กนั่นคงไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว!”
“ยิงเขาซะ!”
จาง หยางปิง ไม่คิดที่จะหยุดสมาชิกหน่วยของเขา พวกเขาแสดงความต้องารออกมาชัดเจน โดยไม่สนว่าเจ้าเด็กนั่นจะมีชีวิตอยู่หรือไม่
คนที่อยู่บนเขานั้นเป็นคนง่ายๆ แต่ถ้าเกิดพวกเขาไร้เหตุผลขึ้นมาละก็คนที่อยู่ในเมืองก็ยังเทียบไม่ได้
พวกเขากำลังถูกปล้น พวกเขาควรจะยืนอยู่เฉยๆและถูกหัวเราะเยาะใส่หรือไงกัน?
“ฟุบ!”
“ฟุบ! ฟุบ!..”
พวกเขากว่า 20 คนหยิบธนูขึ้นมาและเริ่มยิง ถึงมันอาจจะไม่ได้ดูไม่มากแต่พลังของมันก็ยังน่าตกตะลึงอยู่ดีเสียงของเชือกธนูที่ถูกดึงและปล่อยดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธนูเหล็ก 10 กว่าลูกพุ่งเป้าไปทาง ฟาง เจิ้งจือ
แม้ว่า ฟาง เจิ้งจือ รู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้คงไม่จบอย่างง่ายดาย แต่การที่ถูกลูกธนูจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาเคยคิดมาก่อน ดูเหมือนการปล้นนี้จะไม่ราบลื่นเสียแล้ว
พวกเขาจะทำตัวแบบคนมีการศึกษามากกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไงกัน? แต่ตอนนี้มันคงสายเกินไปแล้วที่จะถามออกไป
ฟาง เจิ้งจือ เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเข้าไปหลบหลังหินก้อนใหญ่พร้อมกับยกตะกร้าขึ้นมาบังลูกธนูเหล่านั้น
ดูเหมือนว่าโลกใบนี้จะไม่มีจารีตประเพณีอะไรเลยสินะ
ยิงธนูมาอย่างนี้ มันป่าเถื่อนเกินไปแล้ว!
อย่างน้อยก็ควรถามก่อนสิ เจ้าจะปล้นข้าหรอ? เจ้าไม่ปล้นข้าได้ไหม? ได้โปรดอย่าปล้นข้าเลยนะ….แม่ง! ฟาง เจิ้งจือ ชูนิ้วกลางขึ้นมาพร้อมกับป้องกันตัวของเขาด้วยตะกร้าใบใหญ่
เขานั่งกัดฟันเงียบๆอยู่ในตะกร้าเพื่อรอพวกนั้นเลิกยิงธนูออกมา
ดีนะที่เขาพึ่งพาสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาถ้าเขาเป็นพวกบ้าพลังตอนนี้ตัวของเขาคงพรุนไปด้วยรูแล้ว
ฟาง เจิ้งจือ ไม่รีบเร่ง เขามั่นใจว่าหน่วยล่าสัตว์ไม่มีทางหนีออกไปได้ เพราะว่าในตอนที่พวกเขาได้เข้ามาติดกับดัก ก็ไม่มีทางหนีออกไปได้แล้ว ที่นี่คือพื้นที่ปิดตาย
ถึงเขาจะพูดว่า ‘ปิดตาย’ ก็ตาม แต่ที่จริงแล้วก็แค่ปิดไว้ชั่วคราวเท่านั้น ที่เขาพยายามมาทั่งหมดก็เพื่อช่วงเวลานี้ที่เขารอคอย เขาต้องการใช้ความรู้ของเขาเพื่อเปลี่ยนแปลง ‘โชคชะตา’
ตัวอย่างคือ การใช้หินเพื่อบดบังวิสัยทัศน์นี้เป็นความรู้จากหนังสือที่เขาเคยอ่านมาในอดีต เขาใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหินสร้าง ‘พื้นที่ปิดตาย’ ที่เต็มไปด้วยกับดักขึ้นมา
ถ้านี่เป็นโลกเดิมของเขาอาจจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะพังหินเหล่านี้ทิ้ง ระเบิด? ปืน?หรือขับรถพุ่งชนไปเลย? แต่สำหรับโลกใบนี้คงเป็นเรื่องยากพวกเขายังใช้แค่ ธนู ดาบ หอก ไม้พลองเท่านั้น
และการที่จะใช้มือเปล่าแยกหินออกจากกันนั้นป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วๆไป
ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องทั่วไป แต่ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกลไกบางอย่างที่คงเพียงพอสำหรับจะจัดการพวกนักล่าให้จดจำไปอีกนาน
ไม่นานพวกเขาก็หยุดยิงธนู
ทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบ แต่ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่โง่พอที่จะยื่นหัวออกไปดู
ใครจะไปรู้ ถ้ามีใครยังเล็งธนูมาที่เขาอยู่ละ?
จาง หยางปิง ถือคันธนูยาวไว้ในมือ มองไปที่หินก้อนใหญ่ เขาตายแล้วหรือยัง? ถ้าเกิดเขาตายจริงขึ้นมาใครจะพาพวกเขาออกจากที่นี่?
“เฮ่! เจ้าเด็กน้อย ตายรึยังนะ?” จาง หยางปิง ตะโกนถามออกไป
“แค่นี้เรื่องเด็กๆน่า” เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับมา
“ฮ่า ฮ่า งั้นพวกเรามาทำข้อตกลงกัน ถ้าพวกเราให้กระต่ายขนเขียวสองตัว เจ้าตองพาพวกเราออกไปจากที่นี่ เป็นยังไง?” จาง หยางปิง กล่าวอย่างใจกว้าง
“ปัญญาอ่อน!” ฟาง เจิ้งจือ ตอบด้วยความรังเกียจ
จาง หยางปิง ผงะไปทันที เขาไม่เคยคิดว่าจะถูกเด็ก 7 ขวบตรงหน้าเรียกเขาว่าปัญญาอ่อน เขากล้าที่จะเป็นศัตรูกัลหน่วยล่าสัตว์ของหมู่บ้านภูเขาทางเหนืองั้นหรือ?
“รองหัวหน้า พวกเราค่อยๆหาทางออกไปจากที่นี่ก็ได้ ข้าเชื่อว่าพวกเราต้องหนีออกไปได้แน่!” นักล่าคนหนึ่งแนะนำ
“ถูกต้อง ที่นี่มีกับดักไม่มาก พวกเราสามารถเดินอย่างระมัดระวังได้! นอกจากนี้ที่นี่ไม่ใหญ่มาก พวกเราสามารถออกไปได้แน่นอน!” นักล่าอีกคนหนึ่งกล่าวสนับสนุน
เมื่อฟังคำแนะนำของเหล่าสมาชิกทีม จาง หยางปิง จมอยู่ในความคิด เขากัดฟันแน่น
“เอาละ นี่คือสิ่งที่พวกเราจะทำ ไปช่วยเหลือคนที่ตกลงไปในกับดักก่อน อย่าแยกตัวออกจากกัน พยายามรวมกลุ่มเข้าไว้!” จาง หยางปิง รีบออกคำสั่งในทันที
“รับทราบ!” พวกนักล่าเข้าใจในทันที พวกเขาค่อยๆเคลื่อนตัวอย่างช้าๆเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีกับดักอยู่ที่ใต้เท้าของพวกเขา
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยินเสียงวุ่นวายข้างหลังก้อนหิน เขาก็ได้แต่ถอนหายใจ เขารู้ว่าพื้นที่ปิดตายที่เขาสร้างขึ้นมานั้นมีรูปแบบที่ง่ายเกินไป แต่ถ้าเขาเพิ่มบางอย่างเข้าไป...มันจะเปลี่ยนเป็นอีกเรื่องทันที
รวมกลุ่มกัน? ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มออกมาเบาๆ โอกาสของเขามาถึงแล้ว
ต้องการหลบหนีงั้นหรือ?มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆหรอกนะ! เขาคิดไว้แล้วว่าแค่กับดักคงไม่เพียงพอที่จะจัดการกลับหน่วยล่าสัตว์ของหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ
นอกจากนี้หลุมที่เขาขุดนั้นก็ไม่ได้ลึกมาก
เอาละ....
ถึงเวลาเพิ่มส่วนผสมบางอย่างเข้าไปแล้ว ไพ่ตายของข้า ฮ่า ฮ่า!
ฟาง เจิ้งจือ หยิบวัตถุสีดำคล้ายไข่ ออกมา ถึงแม้มันจะดูทั่วๆไป แต่สิ่งนี้มันคือความ ‘ไฮเทค’ ที่แท้จริง
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เอาหัวออกมาทำให้รู้ว่าตอนนี้สมาชิกหน่วยล่าสัตว์ทั้งหมดนั้นเริ่มเคลื่อนที่เข้าไปหาจุดที่ จาง หยางปิง ยืนอยู่แล้ว
“ระวัง อาวะลับ!” ฟาง เจิ้งจือ ร้องตะโกนออกไปพร้อมกับที่แขนสั้นๆของเขาโยนของที่อยู่ในมือทั้งหมดไปที่ จาง หยางปิง ในครั้งเดียว
“รองหัวหน้าระวัง เจ้าเด็กนั่นใช้อาวุธลับได้!” เมื่อได้ยินคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ พร้อมกับเห็นวัตุที่ลอยผ่านมา พวกเขาก็ตะโกนออกมาในทันที
“อาวุธลับ?” จาง หยางปิง ใช้สัญชาตญานหลบมันได้อย่างง่ายดาย
แต่เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เห็น จาง หยางปิง และคนอื่นสามารถหลบมันได้ เขากลับดีใจมาก เพราะสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือพวกนั้นจะรับสิ่งที่เขาขว้างเข้าไปได้
“อาวุธลับ? ฮ่า ฮ่า ควรจะเรียกมันว่า ‘ความไฮเทค’ ต่างหาก!”
เพจหลัก : Gate of god TH