ตอนที่แล้วตอนที่28 โควตารับเข้าเรียนแบบอิสระ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่30 เด็กมาเหนือ

ตอนที่29 การสอบสำหรับนักกีฬาชาติลำดับ2


มีเเต่นักศึกษาปริญญาตรีปี3เท่านั้นที่มีคุณสมบัติเข้ารับการสอบเข้าเรียนด้วยตัวเองได้ นักศึกษาที่ไม่ได้อยู่ปี3ไม่สามารถเข้ารับการสอบได้ โรงเรียนกีฬาที่เป็นโรงเรียนเฉพาะทาง จึงทำให้นักเรียนของที่นั้นไม่มีโอกาศที่จะเข้ารับการสอบด้วยตัวเอง ถึงอย่างงั้น นักเรียนตัวท๊อปทางด้านกีฬาของเเต่ละโรงเรียน มีสิทธิ์ที่จะเข้ารับการทดสอบความสามารถ เพื่อจะเป็นนักกีฬาชาติลำดับ2 นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงรับพิจารณาเด็กตัวท๊อปของโรงเรียนม.ปลายให้ไม่จำเป็นต้องสอบด้วย

 

ภาพรวมของนักเรียนที่จะเข้าสอบในปัจจุบันส่วนมากจะเป็นคนที่โฟกัสเเค่ในเรื่องการเรียน  9ใน10เคยถูกฝึกมาโดยคลาสเรียนฤดูร้อนเเบบนี้ ทำให้ความสามารถของพวกนั้นไม่ได้สูงมาก ทรัพยากรที่นักเรียนจะได้รับในคลาสฝึกฤดูร้อนของโรงเรียนกีฬานั้นจะดีกว่าคลาสฝึกทั่วๆไป เเล้วเพราะว่าความสามารถในการฝึกสูงขึ้น พวกนักเรียนก็เลยมีโอกาศที่จะผ่านการสอบมากขึ้นตามไปด้วย

 

โรงเรียนกีฬานั้นจะมีทรัพยากรสำหรับนักเรียนเป็นจองตัวเองอยู่ในเเล้วในการรับสมัครเรียนช่วงฤดูร้อน เเต่ไต้หลี่ไม่มี เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีโควต้าพิเศษสำหรับนักเรียนอะไรนั้น เเต่เขาก็เคยได้ยินชื่อเสียงของหยู่จินเฉินพอสมควร เขาเป็น1ในโค้ชตัวท๊อปของเขตพื้นที่นี้ นักเรียนหลายๆคนของเขาได้รับเลือกให้ไปเป็นนักกีฬาทีมชาติ เเม้กระทั้งตัวเขาเองยังเคยถูกเชิญให้ไปเป็นโค้ชพิเศษให้กับทีมชาติจีนเลย

 

...

 

ในที่สุดวันสอบก็เข้ามาถึง ไต้หลี่ได้มีโอกาศที่จะวัดผลการฝึกของนักเรียนเขาพอดี เช้าตรู่ในวันนั้น เขาไปที่ประตูของสนามกีฬาเทศบาลพร้อมกับรวมตัวนักเรียนทั้งเเปดคนของเขา ที่ๆเขาจะไปเข้าสนามทดสอบ

 

"ไฮหยางเฉิน นายอยู่กลุ่มที่13 นานหน่อยนะ ฉิงเหลียงซู นายอยู่กลุ่มที่7 เเล้วก็ กงเกียน หลู นายอยู่กลุ่มเเรก ไปวอร์มร่างกายตัวเองซะ ใกล้จะถึงเวลาของนายเเล้ว ไม่ต้องกังวล ทำเหมือนที่เคยฝึกๆมานี้ละ มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก การฝึกปรกติของนายสถิติก็ถึงนักกีฬาลำดับ2เเล้ว"

 

ไต้หลี่พยายามที่จะช่วยให้นักเรียนของเขาผ่อนคลายจากความเครียด กงเกียนหลู เป็นคนเเรก ความสามารถของเขาอยู่ประมาณกลางๆ เเต่หลังจากที่ไต้หลี่ฝึกให้เเล้ว เขาก็สามารถผ่านการทดสอบได้

 

เเต่ที่ไต้หลี่เป็นห่วงคือถ้ากงเกียนหลูกังวลมากเกินไปมันจะเกิดผลเสียกับความสามารถของเขาได้ เเล้วถ้าเขาเกิดพลาดสอบไม่ผ่านขึ้นมา ผลที่จะตามมามันจะเป็นเหมือนโดมิโน่ เเล้วนักเรียนที่เหลือทุกคนจะสอบไม่ผ่านตามไปด้วย

 

"ไต้หลี่!" เสียงหนึ่งดังขึ้นมา เขาหันกลับไปมอง เเล้วเจอคนคุ้นหน้าคุ้นตา เขาคือต้าปิงซุน เพื่อนร่วมงานของเขาตอนที่เขายังทำงานอยู่ในโรงเรียนกีฬา ทั้งคู่เคยเป็นโค้ชผู้ช่วยด้วยกันทั้งคู่เเค่ต้าปิงซุนยังอยู่เเล้วไต้หลี่โดนไล่ออกเพราะดันไปมีเรื่องกับเฉาเหล็นฮาวเเค่นั้นเอง

 

"ซุน ไอ้เพื่อนยาก เเกก็มาด้วยเหรอเนี่ย"ไต้หลี่เดินเข้าไปหา

 

"ผิวพรรณดีขึ้นปะเนี่ย ไม่ได้เจอกันมาตั้ง2เดือน ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัทใหญ่ๆที่ไหนปะเนี่ย" ต้าปิงซุนถาม

 

"บริษัทใหญ่บ้าบออะไรละ ฉันออกมาเปิดคลาสฝึกเองเเล้วก็มีเด็กมาเรียน เเล้วนี้ฉันก็พาพวกเขามาสอบเนี่ย" ไต้หลี่ตอบ

 

"โคตรเจ๋งเลย!" ต้าปิงซุนยกนิ้วให้ "งั้นตอนนี้เเกก็เป็นนายตัวเองเเล้วนี้! ดีกว่าฉันกับอีกหลายๆคนที่ไปเสียเวลาอยู่กับโรงเรียนกีฬาตั้งเยอะ"

 

"เเกก็มากับโรงเรียนกีฬาเหรอวันนี้" ไต้หลี่ถาม

 

"ฉันพาเด็กที่เรียนคลาสฝึกวิ่งเร็ว100เมตรมาสอบเนี่ย พวกโรงเรียนกีฬาเเม่งโคตรเคี้ยวกับการสอบครั้งนี้เลย ผอ.ฮาวถึงขนาดลงมานำทีมด้วยตัวเองเลยนะ!" ต้าปิงซุนกล่าว

 

"เฉาเหล็นฮาวมีนี้ด้วยเหรอ"ไต้หลี่ได้ยินชื่อของอริของเขา เเต่ไม่รู้ว่าคือคนไหน เขาเลยกระซิบถาม"เเล้วคนไหนคือเฉาเหล็นฮาวละ"

 

ต้าปิงซุนมองซ้ายขวา เเล้วตอบกระซิบตาม "ก็ไอ้คนที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงผ้าคนสเเล็คคนนั้นไง"

 

โค้ชส่วนมากที่มานี้จะใส่ชุดกีฬามา เเต่ชุดของเฉาเหล็นฮาวดันเตะตาขนาดที่ไต้หลี่เห็นก็รู้ทันทีว่าเป็นเขา

 

เฉาเหล็นฮาว! ไอ้นั้นมันไล่ฉันออกไม่มีเหตุผล คอยดูการเเข่งวันนี้เถอะ เเล้วเดี๋ยวจะรู้ว่าเด็กใครเหนือกว่า ไต้หลี่ตาลุกเป็นไฟออกหน้าออกตา เขาพร้อมที่จะสู้ เขาหันไปมองเด็กของเขาเเล้วอดที่จะรอเห็นไฮหยางเฉินกับฉิงเหลียงซูได้ไปทดสอบไม่ได้

 

นักเรียน2คนนี้คือไพ่ตายของเขา เพราะเขารู้ว่าพรสวรรค์การวิ่งเร็ว100เมตรของ2คนนี้อยู่ระดับC เขาเลยฝึก2คนนี้หนักกว่าคนอื่น เเล้วพวกเขาจะไม่ทำให้ไต้หลี่ผิดหวัง พัฒนาการของเด็ก2คนนี้ ก้าวกระโดดไปมากกว่าอีก6คนเยอะมาก

...

ผู้คุมสอบเริ่มเรียกหมายเลขผู้เข้าสอบ เเล้วนักเรียน8คนเเรกที่อยู่ในกลุ่ม1ก็เดินไปที่โต๊ะลงทะเบียน

 

กงเกียนหลูคงดวงซวยจริงๆนั้นละ เขาถูกเเยกไปอยู่กลุ่มหนึ่งได้ยังไง? นั้นเป็นกลุ่มที่เเข่งยากที่สุดเพราะว่านักเรียนยังไม่พร้อมที่จะวิ่ง เเต่พวกเขาก็ต้องเข้าไปในลู่วิ่งเเล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังเเบกรับเเรงกดดันอันหนักอึ้งเพราะทุกคนในสนามกำลังจ้องพวกเขาอยู่

 

ฉันทำได้เเค่หวังว่าเขาจะโชคดี เอาเลยกงเกียนหลู! ไต้หลี่เชียร์เขาเบาๆ เเล้วซักพัก เขาก็เห็นคนหน้าคุ้นๆ

 

นั้นใช่โหยวไควูรึเปล้า เขาเคยมาฝึกฟรี1วันนี้ เเล้วเเม่เขาก็บอกว่าฉันจะทำให้เขาเสียเวลา เเล้วเเม่เขาก็ส่งลูกไปที่คลาสฝึกของโรงเรียนกีฬา ฉันละอยากรู้จริงๆว่าที่นั้นเขาฝึกกันยังไง ฉันไม่คิดมากก่อนเลยว่าเขาจะอยู่กลุ่ม1ด้วย ฉันจำได้ว่าเมื่อ2เดือนที่เเล้วเขาเร็วกว่ากงเกียนหลูมาก ฉันอาจจะได้ใช้โอกาศนี้เปรียบเทียบผลการฝึกระหว่างของฉันกับของที่โรงเรียนกีฬาว่าใครจะเหนือกว่าได้

 

ไต้หลี่มองไปที่ลู่วิ่งอย่างประหม่า นักเรียนทั้ง8คนเรียงเเถวประจำที่ลู่วิ่งพร้อมที่จะออกตัวเเล้ว

 

...

 

เฉาเหล็นฮาวนั่งอยู่ท่ามกลางคนดู โค้ชอีกคนที่ชื่อฮาวเริ่มเเนะนำคนที่ออกไปวิ่งกับเขา พูดว่า"ในกลุ่ม1มีเด็ก2คนที่เรียนอยู่โรงเรียนเราครับ"

 

"ฉันรู้จักเขา โหยวไควูใช่ไหม เขาบอกว่าเป็นคนที่เป็นตัวเต็งตอนเเรกของคลาส เเต่สุดท้ายก็เเป้กตอนที่เขาวิ่งจริง ขนาดฉันยังรู้สึกละอายเเทน เเล้วความสามารถของเขาเป็นยังไงบ้างหลังจากผ่านช่วง2เดือนของการฝึกมา" เฉาเหล็นฮาวถาม

 

"เขาก็อยู่กลางๆครับ สถิติของเขาอยู่บริเวณคาบเส้นผ่าน ถ้าเขาฟอร์มดีเขาอาจจะผ่านการทดสอบนี้ได้ เหมือนกับนักเรียนอีกคนของเรา ที่ต้องใช้ดวงในการผ่านครับ"โค้ชฮาวอธิบาย

 

"ดวงเหรอ? ฉันว่าพวกเขาคงใช้ดวงไปกับการโดนจับให้ไปอยู่กลุ่มเเรกที่ต้องวิ่งเเล้วละ หมายความว่าพวกนั้นไม่ต้องมีดวงก็ได้ มันไม่มีทางที่นักเรียนกลุ่มเเรกจะฟอร์มดีเลยหรอก เอาจริงๆเเค่วิ่งเเบบที่ปรกติเคยวิ่งได้ก็ต้องเเทบจะขอบคุณพระเจ้าเเล้ว ฉันเกรงว่าพวกเขาจะไม่ผ่านเพราะดันดวงซวยไปอยู่กลุ่มเเรกเนี่ยละ" เฉาเหล็นฮาวกล่าว

 

กรรมการสอบตะโกน "ทุกคนเตรียมตัว..."

 

นักเรียนทุกคนประจำที่ เมื่อเสียงปืนดังขึ้นนักเรียน8คนพุ่งตัวออกไปพร้อมกัน ขณะที่ไต้หลี่ก็เริ่มจับเวลาของตัวเอง

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด