Chapter 231: โรงงานไฟฟ้าที่ถูกทิ้งร้างไว้
Chapter 231: โรงงานไฟฟ้าที่ถูกทิ้งร้างไว้
โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรงที่มีโรงงานนิวเคลียร์หลายแห่ง และถูกก่อสร้างในแผ่นดินหลักของจีน พร้อมกับที่มันสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 5หมื่นล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และมันก็เป็นโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ที่จริงแล้วมันเป็นความภาคภูมิใจของจีน
ถึงแม้ว่ามันจะมีหลายแง่มุม จีนนั้นก็ไม่ได้มีเทคโนโลยีที่เทียบเท่ากับประเทศต่างชาติ โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นเป็นองค์กรที่เข้มงวดกับความปลอดภัยมาก ภายใต้ระยะเวลาหลายสิบมี มันไม่เคยปิดตัวลงโดยปราศจากการวางแผนเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุผลนี้นี่เอง มันจึงถูกจัดอันดับไว้เป็นอันดับหนึ่งในโลกสำหรับโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก โชคร้าย ที่มันเป็นเพียงประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์เท่านั้น
ซูตงนั้นกำลังสวมชุดป้องกันรังสีที่หนาและแข็ง มองไปทางตึกที่ไม่ชัดเจนผ่านหน้าต่าง และหลังจากนั้นเธอก็ถอนหายใจด้วยความเสียใจ ครั้งหนึ่ง โรงงานนี้นั้นเป็นความภาคภูมิใจของนักวิจัยรังสีในจีน แต่ในตอนนี้ มันกลายเป็นบาดแผลต่อโลกมนุษย์ในฝั่งตะวันตก
เนื่องจากวันโลกาวินาศนั้นอยู่ๆก็เกิดขึ้นมา บุคลากรในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นก็ตายลงหรือได้รับบาดแผล และหลังจากนั้นน้ำเย็ฯก็จะไม่ถูกผลิตขึ้น ดังนั้นเครื่องปฏิกรณ์นั้นก็จะร้อนขึ้นเรื่อยๆ และก็ทำให้เหล็กและน้ำเดือดนั้นจะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี และทำให้เกิดไฮโดรเจนจำนวนมากหลุดออกมาและทำให้เกิดระเบิดไฮโดรเจนและทำให้นิวเคลียร์นั้นหลุดออกมา โชคดีที่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฉินชานนั้นมีการป้องกันที่แข็งแกร่งเพียงพอ ไม่เหมือนโรงงานไฟฟ้าเชอร์โนบิลในยูเครน
ซูตงนั้นเคยมาที่โรงานไฟฟ้านิวเคลียร์เมื่อสิบวันก่อน และพวกเธอก็พยายามอย่างดีที่สุดที่จะหยุดการทำงานของเตาปฏิกรณ์พลังงานของโรงงาน แต่....หลังจากเสร็จภารกิจนั้น อุบัติเหตุก็เกิดขึ้น สัตว์ประหลาดที่ลึกลับโจมตีกองทัพ และฆ่าทหารจำนวนมากและทำให้เกิดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ทหารที่เหลือนั้นก็ปกป้องนักวิทยาศาสตร์อย่างสิ้นหวังและพวกเขาพบผู้รอดชีวิตที่อยู่อาศัยห่างไกลจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ แต่กับความโชคร้ายของเขานั้น พวกเขาก็ติดอยู่ที่นี่เกือบครึ่งเดือนแล้ว ทุกวันที่ผ่านไปนั้นเหมือนเป็นปี
ในช่วงเวลานี้ ซูตงนั้นก็ผอมลงเรื่อยๆ จากเดิมที่เธอดูสง่างาม แต่ในตอนนี้เธอนั้นดูแก่กว่าเดิมนับสิบปี ยี่สิบวันก่อน เธอยังสวมชุดคลุมของห้องวิจัยอยู่เลย และกำลังสอนลูกสาวของเธอเกี่ยวกับจุลชีววิทยา ฉากที่มีความสุขนั้นหายไปตลอดกาล ที่จริงแล้ว ลูกสาวของเธอนั้นคือความภาคภูมิใจของเธอ ถึงแม้ว่าพวกเธอจะร่ำรวยก็ตามที ลูกสาวของเธอนั้นก็เป็นเด็กที่มีความคิดที่ดี ที่เป็นนักเรียนระดับท็อปของโรงเรียนเสมอๆ
ในตอนนี้ ซูตงนั้นกังวลเกี่ยวกับลูกสาวของเธอ เมื่อเธอไม่สามารถกลับไปยังเกาะเชนไฮ่ได้ แล้วลูกสาวของเธอจะมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขได้อย่างไร? นอกจากนี้ ใบหน้าที่แท้จริงของวันโลกาวินาศนั้นเลวร้ายมาก เธอนั้นกังวลเกี่ยวกับลูกสาวของเธอ....หัวใจของซูตงนั้นสั่นระรัว ทุกครั้งที่เธอคิดเกี่ยวกับลูกสาวของเธอ เธอไม่รู้ว่ามันเป็นเวล่ากี่วันแล้วที่เธอมองผ่านหน้าต่างออกไป แต่ทีมช่วยเหลือก็ยังมาไม่ถึง เธอรู้ว่าฝูงซอมบี้อันเลวร้ายนั้นปรากฏขึ้นบนเกาะเชนไฮ่ เธอไม่สามารรถที่จะทำอะไรได้เลย แต่เธอก็ยังคงไม่ละทิ้งความหวัง
“ถึงเวลากินข้าวเที่ยงแล้ว”ทันใดนั้น เสียงของทหารก็ดังออกมานอกประตู
ซูตงก็หยุดคิดและหยิบถ้วยของเธอ “พ่อ ฉันจะไปเอาข้าวมา รอที่นี่นะ”ซูตงพูดกับพ่อของเธอ ซูกวงฉีที่เป็นชายแก่ ที่จริงแล้วเขานั้นพึ่งจะเกษียนไป แต่หลังจากนั้นเขาก็ถูกจ้างงานโดยมหาวิทยาลัยจินหลิงหลังจากที่เขาเกษียน หลังจากวันโลกาวินาศ เขานั้นรับผิดชอบในการศึกษาตัวตนกลายพันธุ์ที่อยู่ใกล้กับโรงงานนิวเคลียร์
“โอเค”ซูกวงฉีนั้นถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ที่จริงแล้วเขานั้นเป็นชายแก่ที่ดื้อรั้น แต่ในตอนนี้เขาก็ใจเย็นมากกว่าเดิม หลังจากที่สวมใส่ชุดป้องกันเป็นระยะเวลายาวนาน ผิวหนังของเขานั้นก็อักเสบขึ้นและทำให้เกิดความเจ็บปวดที่อดทนไม่ไหว
เขากัดฟันอดทนกับบาดแผล แต่เขาไม่รู้ว่าจะสามารถมีชีวิตรอดได้นานแค่ไหน บางทีเขาอาจจะกลายเป็นประวัติศาสตร์เหมือนกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และถูกฝังกลบในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยรังสี….
ทหารที่แจกจ่ายอาหารนั้นเป็นชายหนุ่มวัยสิบแปดปีพร้อมกับใบหน้าที่ใสซื่อ เขานั้นเป็นหนึ่งในทหารห้าคนที่ยังคงเหลือรอด “พวกเรามีโจ๊กต้มบางส่วน แต่มันก็หอมหวานมากจริงๆ”ไม่สำคัญหรือว่าสถานการณ์นั้นจะสิ้นหวังเท่าไหร่ ชายคนนี้ก็ทำให้คนอื่นนั้นหลงรัก ในความเป็นจริงโจ๊ะนั้นจืดชืดมาก
โจ๊กนั้นที่จริงแล้วเป็นขนมปังกรอบที่ถูกต้มจนเปื่อย ในเวลาหลายวันก่อน มันยังคงมีแฮมอยู่บ้าง แต่ในตอนนี้มันหมดแล้ว น้ำที่ถูกใช้ทำโจ๊กนั้นก็เป็นน้ำกดที่มาจากแท็งค์น้ำ อย่างน้อยมันก็ไม่ปนเปื้อนกับรังสี สำหรับปัญหาเกี่ยวกับแบคทีเรียแล้ว พวกเขาก็สามารถคิดเกี่ยวกับมันได้
พวกเขานั้นตั้งแถวกันเพื่อได้รับโจ๊ก และกระบวนการที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเงียบสนิท ไม่มีใครต่อสู้เพื่อจะได้ส่วนแบ่งที่มากที่สุดและไม่มีใครแซงคิว
ซุตงนั้นได้ถ้วยโจ๊กที่เต็มถ้วย เธอนั้นโชคดีจริงๆ
“ปู่ซูยังโอเคไหม? ให้เขาดื่มน้ำเพิ่มนะ ผมจะช่วยเขาไปฐานทัพในภายหลัง”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับรอยยิ้ม ถ้าพวกเขาต้องการที่จะกินโจ๊ก พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะสวมหน้ากากได้ ดังนั้นเพื่อทำให้มั่นใจว่าพวกเขาปลอดภัย พวกเขาจะต้องเดินไปยังฐานทัพ ซึ่งมันเป็นสถานที่ที่มีรังสีจำนวนน้อย
“อื้ม….”ซูตงส่งเสียงสั้นๆออกมา ที่จริงแล้ว เมื่อผู้คนนั้นสิ้นหวัง พวกเขานั้นก็จะอ่อนแออยู่เสมอๆ ดังนั้นสิ่งเล็กๆแบบนี้จะสามารถทำให้ผู้คนนั้นร้องไห้ออกมาได้เลย
…
ในถนนหลักที่อ้างว้าง ทั้งทีมนั้นก็กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็งคงที่ รถถังนั้นขยับไปอยู่ทั้งสองฝั่ง ในถนนหลักประเภทนี้ มันเป็นเรื่องยากที่มันจะทนน้ำหนักของรถถังไหว ด้วยเหตุนี้นี่เอง รถถังจะต้องขับภายใต้แผ่นดินที่เฉอะแฉะ
เมื่อตอนเช้ามาถึง พวกเขาก็ออกเดินทางอีกครั้ง
หวังฉี่ชีนั้นมีขอบตาดำด้านใต้ตาเธอและร่างกายทั่วร่างของเธอนั้นก็ปวดมาก หวังฉี่ชีนั้นก็เข้าใจถึงความยากลำบากแล้วว่ามันหมายถึงอะไร
หลี่ยู่ซินนั้นยังคงง่วงอยู่ แต่เธอก็ยังคงเต็มไปด้วยสปิริต สุดท้ายแล้วเธอนั้นจำเป็นที่จะต้องดูแลทหารที่ได้รับบาดแผล
สิบกิโลเมตรที่จะถึงนี้ก็คือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยรังสี กองทัพหลักนั้นจะจอดอยู่ในที่นี้และมีทหารเพียงไม่กี่คนที่จะเข้าไป
หลินเหยาฉานนั้นจัดการแบ่งชุดป้องกันรังสี ทีมฉี่หยิงนั้นถูกพิจารณาว่าเป็นทีมชั้นยอด ดังนั้นพวกเขาควรที่จะเข้าร่วมกับภารกิจนี้ แต่ซุนคุนและจางไฮ่นั้นถูกจัดการให้อยู่ด้านหลัง
“ผู้บังคับบัญชาครับ มีเด็กผู้หญิงจากกลุ่มของรถพยาบาลต้องการที่จะเข้าร่วมภารกิจนี้ เธอพูดว่าเธอสามารถที่จะดูแลบาดแผลของทหารที่ได้รับบาดเจ็บได้!”มีทหารคนหนึ่งวิ่งมารายงาน
“หือ?”หลินเหยาฉานขมวดคิ้ว “พื้นที่รังสีนั้นค่อนข้างอันตราย เธอนั้นไม่สามารถที่จะทำให้มันดูเป็นเรื่องปกติได้!”
“เธอพูดว่าเธอเป็นลูกและหลานสาวของนักวิทยาศาสตร์ที่ติดอยู่ในพื้นที่รังสี ผมพยายามที่จะโน้มน้าวเธอแล้ว แต่เธอก็ยังคงต่อต้านครับ”
“ลูกสาวและหลานสาว?”หลินเหยาฉานตกตะลึงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง
เพียงแค่หลังจากนั้น เจียงลู่ฉีก็พูด “ฉันรู้จักผู้หญิงคนนั้น ให้เธอมากับผม และเธอจะอาศัยอยู่ในรถของผม”
…