บทที่ 77 เครื่องจักรทางการเกษตรยอดนิยม (ตอนที่ 1) (อ่านฟรี)
บัญชีธนาคารของบริษัทการค้าไท่หัวมีเงินเกือบ 10 ล้านหยวนแล้ว นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่าย 1 ล้านรูเบิลส์ในเดือนนี้ของจีกลี่เหลียนเคอ ส่วนรถมือสองชุดต่อไปนี้จะมาถึงในเดือนพฤศจิกายน เฝิงหยู่จึงตัดสินใจที่จะนำเข้าเครื่องจักรจากสหภาพโซเวียตการเกษตรจำนวนหนึ่ง
การเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นขึ้นแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่เครื่องจักรทางการเกษตรจะถูกใช้งานจนได้รับความเสียหาย ถ้าเขานำเข้าเครื่องจักรหรือแม้แต่ชิ้นส่วนอะไหล่ เขาคงต้องขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ในชนบท ยอดขายอุปกรณ์ทางการเกษตรและชิ้นส่วนอะไหล่จะขายดีที่สุดในช่วงก่อนและหลังการเพาะปลูกฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง
เฝิงหยู่จัดรายการประเภทและปริมาณอุปกรณ์ทางการเกษตรซึ่งเป็นที่ยอดนิยม แล้วส่งโทรเลขไปยังโซเวีย เพื่อให้จีหลี่เหลียนเคอเเจ้งราคา
วันถัดมา หลี่ซื่อเฉียงได้รับโทรเลขจากที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งเป็นข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับเครื่องจักรทางการเกษตรและชิ้นส่วนต่างๆ
เฝิงหยู่คำนวณค่าใช้จ่ายอยู่สักครู่ หลังจากหักค่าขนส่งให้กับพวกของจีหลี่เหลียนเคอแล้ว ทั้งยังต้องจ่ายภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น เบ็ดเสร็จแล้วจะได้ผลกำไรไม่สูงมาก ทั้งทังมีสินค้าบางชนิดที่ไม่ได้กำไรเลย
ถ้าเป็นผู้อื่นที่ต้องการทำการค้านี้ ถ้าไม่ได้กำไรเลย พวกเขาก็จะนำเข้าผลิตภัณฑ์อื่นๆที่หลากหลาย เพื่อจะได้เอากำไรส่วนอื่นมาโปะ แต่เฝิงหยู่แตกต่างกัน เขาคิดจะทำธุรกิจนี้เป็นเวลาสั้นๆเท่านั้น เพื่อรับประกันว่าปีนี้เขาจะเก็บเงินเพิ่มได้บ้าง
"พี่หลี่ครับ ส่งให้พี่จีหน่อย ขอให้เขาส่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้เร็วที่สุด แล้วไปบอกจื้อกางและคนอื่นๆไปที่ตลาด ลองเลียบเคียงถามราคารถแทรกเตอร์และเครื่องตัดมาหน่อย เราจะขายรถแทร็กเตอร์ในต้นปีหน้า "
"ตกลง เรื่องนี้ปล่อยให้พี่จัดการเอง นี่ก็ดึกมากแล้ว เธอควรจะนอนได้แล้ว"
เฝิงหยู่มองหลี่ซื่อเฉียบ แล้วหันไปมองพี่สาวของเขา วันแต่งงานของพวกเขาถูกกำหนดขึ้นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ ตอนนี้ทั้งสองคนจึงอยู่ร่วมห้องกันแล้ว
เมื่อตอนที่ซื้อห้องนี้ เฝิงหยู่ก็บอกไปแล้วว่าจะซื้อหลายห้อง แต่พ่อกับแม่ไม่เห็นด้วย ตอนนี้เป็นไงละ ห้องพักไม่เพียงพอ พี่สาวเลยต้องไปพักที่ห้องของหลี่ซื่อเฉียง
หนุ่มสาววัยคึกคะนองที่เป็นคู่รักกัน อยู่ห้องเดียวกันกลางค่ำกลางคืน คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำอะไรกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเฝิงหยู่ไม่แน่ใจ แต่วันนี้หลี่ซื่อเฉียงกำลังไล่ให้เฝิงหยูีไปนอน นี่ยังต้องการคำอธิบายอีกหรือ?
เฝิงหยู่มองหลี่ซื่อเฉียงอย่างจริงจัง "พี่หลี่ครับ ถ้าพี่ผมท้องก่อนแต่ง พ่อตีพี่แน่ๆ แต่ที่แน่นอนกว่าคือ พ่อจะนำปืนลูกซองมาเจรจากับพี่"
"แค่ก แค่ก ... พูดทะลึ่งอะไร รีบไปนอนเลย ไป!"
......
ทางด้านจีหลี่เหลียนเคอจัดส่งสินค้ามาอย่างรวดเร็ว สหภาพโซเวียตมีคลังเก็บอุปกรณ์การเกษตรและอะไหล่เหล่านี้ จีหลี่เหลียนเคอจึงสามารถจัดซื้อสินค้าต่างๆในรายการสั่งซื้อของเฝิงหยู่ได้ พร้อมทั้งจัดส่งมาอย่างรวดเร็ว
ช่วงเวลาสั้นๆนี้ จีหลี่เหลี่ยนเคอใช้ชีวิตอย่างสุขขี วันๆอยู่กับเหล้ายาปลาปิ้งและสาวงาม มองดูเงินตราในบัญชีของตัวเองที่เพิ่มขึ้นทุกๆวัน เเละยังมีสินค้าของจีนซึ่งขายดีเป็นนิยม ชื่อเสียงของจีหลี่เหลียนเคอจึงยิ่งเป็นที่โจษจัน.
เพียงแต่ธุรกิจนี้เขามีหุ้นส่วนกับคนอื่นๆ ซึ่งเขาเป็นเพียงหนึ่งในผู้ถือหุ้น แต่เขาเป็นเจ้าของธุรกิจนี้เพียงคนเดียวก็อาจจะได้กำไรมากกว่านี้ แต่น่าเสียดายที่คนที่ร่วมมือกับเขามีภูมิหลังที่ทรงอิทธิพลยิ่งกว่า เขาจึงไม่สามารถแยกตัวออกมาทำธุรกิจได้เอง
......
"ฉันมาก่อน ฉันควรจะได้ก่อน"
"มาก่อนกับผีอะสิ! ฉันรออยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืน ฉันควรจะได้เป็นคนแรก"
"ไปให้พ้นๆเลย พวกนายสองคนไม่ต้องเถียงกัน ฉันเป็นคนแรกที่ลงนามในสัญญา ดังนั้นฉันควรจะเป็นคนแรก"
......
ผู้แทนจำหน่ายเครื่องมือทางการเกษตรมายืนแออัดเบียดเสียดกันที่สถานีขนส่งสินค้า. พวกเขาต้องการจะเป็นคนแรกในบรรจุสินค้าเข้าไปในรถขนของ. ถ้าได้จัดส่งสินค้าก่อน ก็จะสามารถครอบครองตลาดได้ก่อน. พวกเขาไม่ต้องการแบ่งตลาดกับใคร ทั้งยังวางแผนที่จะขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในดินแดนของผู้อื่น แม้กระทั่งมีบางส่วนจากเมืองเดียวกัน คนเหล่านี้ยืดถือว่าใครไวกว่าก็กอบโกยได้มากกว่า
"หยุดเถียงกันได้แล้ว ตอนที่พวกคุณลงนามในสัญญาคุณจำไมได้หรือว่าผมพูดไว้ว่าอย่างไร? จ่ายเงินก่อนก็ได้สินค้าก่อน จ่ายเงินทีหลังจะได้สินค้าทีหลัง คุณสู คุณจะรีบร้อนไปทำไม รถบรรทุกสินค้าของคุณยังมาไม่ถึงเลย!"
เมื่อเห็นผู้คนกำลังโต้เถียงกันเสียงดัง หลี่ซื่อเฉียง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจางเดินเข้ามาห้ามปรามไว้ โชคดีที่บริษัทการค้าไท่หัวมีชื่อเสียงยอดแย่เป็นที่โจษจัน บริษัทนี้แตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ ตั้งแต่เจ้านายไปจนถึงพนักงานทุกคนล้วนเย่อหยิ่ง
ก็ใครใช้ให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาที่นิยมด้วยละ ผู้คนจึงต้องมาแย่งกันซื้อ เพราะเป็นเครื่องมือทางการเกษตรที่นำเข้าจากสหภาพโซเวียต แม้ชิ้นส่วนอะไหล่ยังมีความทนทานมากขึ้นและดีกว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศ
หลังจากที่หลี่ซื่อเฉียงตะโกนใส่พวกคนเหล่านี้ ทุกคนจึงต้องต่อแถวเรียงคิวตามลำดับการชำระเงิน. แต่คนที่ผิดหวังมากที่สุดคือนายสู เขาชำระเงินเป็นคนที่สอง แต่เขาไม่สามารถหารถบรรทุกใด้
เมื่อไม่มีความต้องการรถบรรทุก ก็มักเห็นรถบรรทุกเหล่านี้ได้ทุกที่ แต่เมื่อมีความต้องการรถบรรทุก กลับหามาไม่ได้สักคัน
เมื่อคนที่สำระเงินลำดับที่สามเริ่มลำเลียงสินค้าเข้าไปในรถบรรทุก แต่รถที่เขาจ้างเอาไว้ยังมาไม่ถึง ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะรถบรรทุกที่เขาจ้างพึ่งจะกลับจากที่ไซต์งานอื่นในวันนี้ เพราะยังขนย้ายสินค้าที่ไซต์อื่นไม่เสร็จ
หลังเลิกเรียน เฝิงหยู่ไปที่สถานีขนส่งสินค้าและเห็นว่าการบรรทุกเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"พี่หลี่, เป็นยังไงบ้าง?"
หลี่ซื่อเฉียงกล่าวอย่างตื่นเต้น "เสี่ยวหยู่ สินค้าทุกอย่างขายหมดแล้ว สินค้าเหล่านี้เป็นที่นิยมมาก ส่วนเงินก็ถูกฝากเข้าบัญชีของบริษัทแล้ว มากกว่า 4 ล้านหยวนเลยนะ!"
ประโยคสุดท้าย หลี่ซื่อเฉียงใช้มือปิดปากแล้วพูดเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคน
ราคาสินค้ารอบนี้ถูกกำหนดโดยเฝิงหยู่ แต่ผู้ที่เซ็นสัญญาและเรียกเก็บเงินคือหลี่ซื่อเฉียง เฝิงหยู่รู้เพียงแค่ว่าเมื่อวานนี้หลี่ซื่อเฉียงยุ่งจนกลับมาถึงบ้านช้ามาก เขาไม่ทันได้ถามเขา วันนี้เขาจึงมาสถานีขนส่งสินค้าเพื่อดูด้วยตาของตัวเอง คิดไม่ถึงว่าสินค้าทุกอย่างถูกขายไปหมดแล้ว
บรรดาพนักงานของบริษัทข่างขยันขันแข็งจริงๆ ออกไปสำรวจตลาดอย่างมิมีเกียจคร้าน. สิ้นเดือนนี้ต้องจ่ายโบนัสให้พวกเขามากขึ้น เพื่อให้พวกเขารู้ว่าการทำงานหนักขึ้นผลตอบแทนก็เพิ่มขึ้น วิธีนี้พวกเขาจะกระตุ้นให้พวกเขาขยันทำงานเพื่อ บริษัทยิ่งขึ้น
ต่อมา เฝิงหยู่พบว่าพนักงานของเขาได้ขอรายชื่อของผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรจากโรงงานผลิตเครื่องยนต์. ทั้งยังไปขอซื้อรายชื่อตัวแทนจำหน่ายจากโรงงานอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกของเมืองปิง แล้วอ้างอิงจากรายชื่อนั้นไปไปติดต่อตัวแทนจำหน่าย วิธีการนี้ใช้เวลานานพอควร
ยังคงมีตัวแทนจำหน่ายจำนวนมากที่ไม่พวกเขาไม่ได้ติดต่อไป หากพวกเขาไปติดต่อเสียทุกคน สินค้าคงขายไม่เพียงพอ!
ในยุคนี้ เมื่อได้ยินว่าเป็นสินค้านำเข้า ผู้คนจะคิดก่อนเลยว่าสินค้านั้นต้องมีคุณภาพดี และหากเป็นสินค้าที่นำเข้าจากสหภาพโซเวียต คุณภาพก็ต้องดียิ่งกว่า เพราะสหภาพโซเวียตเป็นประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รถแทรกเตอร์หรือเครื่งมือการเกษตรในประเทศจีนก็ถูกเลียนแบบจาก สหภาพโซเวียตไม่ใช่เหรอ? ฉะนั้น ผลิตภัณฑ์ขอสหภาพโซเวียตต้องมีคุณภาพดีกว่าสินค้าในประเทศ ทั้งยังมีราคาถูก ตัวแทนจำหน่ายเหล่านี้จะพลาดข้อเสนอที่ดีเช่นนี้ได้อย่างไร?
เฝิงหยู่คิดไม่ถึงว่าสินค้าเหล่านี้จะเป็นที่นิยมกันมาก. ดูเหมือนว่าเขาเริ่มระแวงเกินไป เพราะเขาสั่งนำเข้าสินค้าเพียง 3 ล้านหยวนเท่านั้น. ตอนนี้เฝิวหยู่รีบโทรหาจีหลี่เหลียนเคอทันที เพื่อขอให้เขาส่งผลิตภัณฑ์มาให้ไวที่สุด กำไรที่ได้เกินกว่า30% เชียวนา!
พอได้รับโทรศัพย์จากเฝิงหยู่ จีหลี่เหลียนเคอก็ยิ้มร่า: "ฉันรู้อยู่แล้วว่าสินค้าเหล่านั้นคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็ไม่ยอมดูเองว่าฉันแจ้งราคาไปเท่าไหร่ ขนาดที่สหภาพโซเวียตเองก็ยังไม่ถูกขนาดนั้น! ฉันได้เตรียมสินค้าจำนวน 1 ล้านรูเบิลไว้ให้แล้ว มั่นใจได้เลยว่าสินค้าชุดนี้จะส่งถึงเมืองปิงภายในหนึ่งสัปดาห์ "
อันที่จริง สินค้าเหล่านี้ถูกเก็บซ้อนทับอยู่ในโรงงานหลายแห่ง เพราะขายไม่ออก. บรรดาเจ้าของโรงงานเริ่มเป็นกังวลเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับสินค้าเหล่านั้น. จีหลี่เหลียนเคอหน้าหนาหน้าทนไปเจรจากับเจ้าของโรงงานเหล่านี้ แล้วบอกพวกเขาว่ากองทัพโซเวียตต้องการที่จะสนับสนุนพันธมิตรชาวจีนของพวกเขา เขายังมีเอกสารทางทหารที่มีตราประทับสีแดง. ท้ายที่สุดเขาก็ยังต่อรองราคาสินค้าที่ต่ำถึงขีดสุด ทั้งยังใช้สินค้าจากประเทศจีนมาแลกเปลี่ยนสินค้าเหล่านี้ รวมเบ็ดเสร็จแล้วเขาจ่ายเพียง300,000 รูเบิลในการซื้อสินค้า
เงินเหล่านี้เป็นของจีหลี่เหลียนเคอทั้งหมด เขาได้แยกตัวกับคู่ค้าคนอื่นๆแล้ว. เขาเป็นคนเดียวที่สร้างช่องทางการขายนี้ นั่นหมายความว่า ยิ่งเขาขยันมากเท่าไหร่ เขาจะหาเงินได้มากเท่านั้น!