HK ตอนที่ : 44
ในเขตชานเมืองของเมืองขวนกิ่ง ในรถตู้ได้ยินเสียงเย่เฟิงถอนหายใจผสมกับเสียงเครื่องยนต์
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงในเมืองชวนกิ่ง ชิเล่ยบอกให้หม่าเหลียงหยุดรถตู้และเขาอธิบายว่า "เย่เฟิง พวกเรากำลังเข้าไกล้ในเมืองแล้ว นายควรทำให้ฉันสลบแล้วทิ้งฉันไว้แถวนี้"
เย่เฟิงเห็นถึงความตั้งใจของชิเล่ย "ที่นี่แทบไม่มีรถผ่านมาเลย? นายแน่ใจนะจะให้ฉันปล่อยนายลงที่นี่แถวนี้ไม่มีคนอาศัยอยู่เลยมันจะเป็นอันตรายได้? ถ้าไม่มีใครผ่านมาช่วยนาย มันจะลำบากเอานะ!"
"ผ่อนคลายหน่อย!" ชิเล่ยพูดอย่างใจเย็นว่า "ผมเชื่อว่าสังคมนี้มีคนดีอยู่ อย่างน้อยๆก็ต้องมีรถขับผ่านมาและถามถึงสถานการณ์ของฉันแน่นอน นอกจากนี้ถ้าฉันเจอพวกไม่มีเจตดีที่จะช่วย ฉันก็จะโทรแจ้งตำรวจ!"
"มันมีคนแบบนั้นจริงๆ?" เสียงของเย่เฟิงกลายเป็นสับสนมีคนดีจริงๆงั้นหรอ? แต่ทำไมครอบครัวเติ้งที่เป็นคนดีถึงไม่ได้รับความเป็นธรรม? นอกจากนี้ไอ้อันธพาลชั่วนั่นก็ยังไม่ได้รับการลงโทษจากความยุติธรรม! เรื่องนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งในความคิดของเย่เฟิง
"ใช่" ชิเล่ยพูดอย่างหนักแน่นว่า "โลกเล็กๆใบนี้ ก็ยังมีคนดีอยู่นับไม่ถ้วน ถ้าหากไม่มีทางออกจริงๆใครที่ไหนจะอยากจะเป็นคนชั่ว? เย่เฟิงถ้าพวกนั้นถูกดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม นายยังจะอยากแก้แค้นอยู่ไหม? นายเต็มใจที่จะพาเซียวหลิงหนีไปจนสุดหล้าฟ้าเขียวยังงั้นหรอ?"
เย่เฟิงกำหมัดของเขาแน่นและสั่นเล็กหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ชิเล่ยพูดถูกว่าถ้าโศกนาฏกรรมของครอบครัวเติ้ง ถูกดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ทำไมเขาจะต้องแก้แค้นด้วยวิธีของตัวเอง? แม้ว่าเขาจะฆ่าพวกชั่วได้ทั้งหมด แต่ชีวิตของเขาเองก็ถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิงและชีวิตของสองสหายทั้งสองของเขาก็ถูกทำลายไปด้วย ไหนจะอนาคตของเติ้งเซียวหลิงที่ต้องถูกปกคลุมไปด้วยเงาอีก เติ้งเซียวหลิงเพิ่งจะอายุได้ 5 ขวบ ตามปกติเธอควรจะต้องได้เข้าโรงเรียนอนุบาลเพื่อได้รับการศึกษาและใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน
แม้ว่าเติ้งเซียวหลิงจะไม่ถูกลงโทษตามกฎหมาย แต่ถ้าเย่เฟิงถูกจับ และเธอต้องถูกให้อยู่ในเมืองเฮย์เจียงคนเดียว แน่นอนว่าปลายทางของเธอต้องไปจบที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
เย่เฟิงจะไม่ยอมให้เติ้งเซียวหลิงต้องเข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอยางแน่นอน เพราะชีวิตหลังจากนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง เขาจะไม่ใชหัวเข่าคิดอีกต่อไปแล้ว!
"ไปกันเถอะ ฮ่าฮ่า!" ชิเล่ยตบไปที่ไหล่ของเย่เฟิง "ให้ฉันหนึ่งสัปดาห์ แล้วฉันจะจัดการทุกอย่างให้หมดเพื่อให้นายปลอดภัยแน่นอน!"
ทั้งสองเดินไปอีกฟากหนึ่งของถนนและข้ามรั้วไปยังรางน้ำฝน ชิเล่ยพยักหน้าให้เย่เฟิงและบอกว่า "เย่เฟิง อย่าจงใจลดลงแรงลง นายต้องทำให้ฉันสลบ ตาลายและสับสนอย่างน้อยสองชั่วโมง! และเมื่อฉันสลบไม่ต้องช่วย! ทำให้มันเป็นธรรมชาติมากที่สุดและปล่อยฉันล้มลงไปจะได้ไม่ทิ้งร่องรอยไว้ ให้น่าสงสัย!"
ถ้าการทำให้สลบแล้วให้เป็นธรรมชาติด้วยจะต้องมีแผลเล็กน้อย แต่ถ้าทำให้สลบอย่างระมัดระวังและไม่มีแม้แต่แผลถูกทำร้าย บางทีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่นนี้ตำรวจอาจจะไม่ตรวจเจอ แต่ถ้าบังเอิญเจอละ? ถ้าคุณต้องการให้ละครครั้งนี้แนบเนียนที่สุดคุณจะปกปิดมันอย่างไร?
มือขวาของเย่เฟิงและแบออกคล้ายมีดด้วยการควบคุมความแรงที่เหมาะสมสับมันลงไปที่คอของชิเล่ย ในฐานะที่เป็นหน่วยรบพิเศษเย่เฟิงสามารถควบคุมความแรงของมือได้อย่างดี ร่างกายชิเล่ยอ่อนยวบลงไปทันทีเอียงไถลลงไปในข้างรางน้ำฝนทำให้ข้อศอกและส่วนอื่นๆครูดไปกับปูน
เย่เฟิงมองไปที่ชิเล่ยและถอนหายใจ "ชิเล่ยนายเป็นคนดี!" หลังจากนั้นเย่เฟิงก็จากไปอย่างรวดเร็ว!
พวกเขาขับรถตู้เข้าไปในเขตเบหยูของเมืองชวนกิ่ง ในอีกด้านหนึ่งชิเล่ยที่ตกลงไปในข้างรางน้ำฝนที่ด้านข้างของถนนอย่างเงียบๆ เพื่อรอคนดี
ในรถเบนท์ลีย์สีดำ เบาะหลังมีเด็กสาวชาวต่างชาติที่อายุประมาณ 15-16 และมีผมสีเทาสั้นและผิวขาวราวกับหิมะ หญิงสาวมีคางแหลมคมและใบหน้าผอมบาง นัยน์ตาของเธอมีแต่ความเศรร้าหมอง เธอกำลังมองออกไปนอกกระจกรถอย่างเงียบๆ
"ลุงเคน หยุด!" เสียงที่ดูเรียบง่ายและสง่างามซึ่งเผยออกมาจากปากของหญิงสาว
รถเบนท์ลีย์มีระบบเบรกที่ยอดเยี่ยม ทำให้รถหยุดอย่างรวดเร็ว คนขับรถอายุประมาณ 40-50 ปี แต่กล้ามเนื้อของเขาสมบูณณ์บบมาก ดูมีความเฉียบแหลม ชัดเจนว่าไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
"คุณหนูอัฟฟรา เกิดอะไรขึ้นครับ?"
ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหลังคนนี้ ชื่อว่าอัฟฟรา อัลเบอร์ตา จากครอบครัวอัลเบอร์ต้าในประเทศแกรนด์
ในปัจจุบันครอบครัวอัลเบอร์ตานั้นเป็นครอบครัวที่เก่าแก่และบรรดาศักดิ์ขั้นเอิร์ลที่สืบทอดกันมา แล้วก็มีคฤหาสน์อยู่ในคอร์นวอลล์ที่เป็นที่อาศัยของครอบครัวชนชั้นสูงเก่าแก่นี้
"ลุงเคน มีคนนอนอยู่ริมถนน!" ทั้งร่ายกายของอัฟฟราเต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าราวกับใบไม้ที่ร่วงโรยในปลายฤดูใบไม้ร่วง ไม่ว่าใครก็ตามไม่สามารถบรรเทาความเศร้าหมองของเธอได้
เคนขมวดคิ้วเล็กน้อย "คุณหนูอัฟฟราครับ มิสเดซี่ให้เราไปตรงกลับไปที่เมืองชวนกิ่งเลยนะครับและเราไม่ควรหยุดรถครึ่งทาง!"
[ไม่รู้ว่าเป็นคุณหนูหรือเปล่า ส่วนเดซี่ไม่รู้ว่าเป็นใครในเว็ปมัน Miss เลยไม่รู้จะใช้แม่น้าหรืออะไรดีแปลถึงเมื่อไหร่จะกลับมาแก้ถ้าไม่ลืมแว๊บๆ]
ในความเป็นจริงมีอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เคนเป็นกังวล เพราะว่าสถานะของอัฟฟราสูงส่งมาก ถ้าศัตรูวางกับดักไว้ละ ฉันจะทำอย่างไร?
อัฟฟราโต้เถียงอย่างไม่เต็มใจ: "ลุงเคน ย้อนกลับไป ช่วยเหลือคนที่ประสบปัญหา นั้นคือลักษณะที่ชนชั้นสูงนั้นควรจะเป็นนะคะ!"
เคนมองไปที่อัฟฟราอย่างหมดหนทาง กับความดื้อรั้นของเด็กหญิงตัวเล็กๆคนนี้ "ตามคำสั่งครับ คุณหนูอัฟฟรา!"
รถเบนท์ลีย์ไม่สนใจต่อกฎจราจร รถอยู่ที่เลนขวาสุดและเปิดไฟฉุกเฉินกระพริบถอยไปข้างหลัง
อัฟฟราหันคอของเธอมองผ่านไปยังกระจกด้านหลัง หลังจากรถถอยหลังไปได้ 200-300 เมตร รถเบนท์ลีย์ก็หยุดลงที่ชิเล่ยกำลังนอนสลบอยู่ อัฟฟราเปิดประตูลงจากรถ หลังจากที่เขาจอดรถด้วยความรวดเร็วเคนก็รีบก้าวขึ้นไปที่ด้านหน้าของอัฟฟราทันที
"ลุงเคน เกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้?" อัฟฟรามองไปที่ชิเล่ยอย่างอยากรู้อยากเห็น ชิเล่ยที่กำลังสลบอยู่ข้างรางน้ำฝน แว่นตาของเขาตกอยู่ไม่ไกลจากเขาเท่าไหร่ แต่ก็เผยให้เห็นถึงความหล่อเหลาที่ไม่ธรรมดา
เคนสังเกตดูชิเล่ยอย่างระมัดระวัง จากแว่นตาที่ตกอยู่ข้างๆ ข้อศอกซ้ายมีรอยถลอก เช่นเดียวกับมีรอยรอยฟกช้ำที่คอ สัญญาณเหล่านี้ทำให้เคนขมวดคิ้วขึ้มาเล็กน้อย
'ชายหนุ่มคนนี้ ควรจะถูกคนรอบทำร้าย ไม่มีสัญญาณของการต่อสู้ในที่เกิดเหตุ ไม่มีรอยเท้าเดินไปมา สรุปได้ว่า ชายคนนี้ถูกข่มขู่ทำให้ตกใจอยู่และไม่กล้าต่อต้านหรือขัดขืน สุดท้ายจึงโดนรอบทำร้าย คนประเภทนี้เขาไม่น่าจะเป็นภัยคุกคามสำหรับเรา!'
หลังจากที่เคนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกโล่งใจเปิดปากพูดกับอัฟฟราว่า "คุณหนูอัฟฟราครับ ชายคนนี้กำลังสลบอยู่"
นิ้วหัวแม่มือขวาและนิ้วชี้ของอัฟฟราจับปลายผมสีเทาอ่อนของตัวเองและหมุนเล็กน้อย "ลุงเคน เขาไปเจออะไรมา? ทำไมเขาถึงได้มาสลบอยู่นี้?"
"คุณหนูอัฟฟรา ผมขอแนะนำว่าเราไม่ควรไปยุ่งเรื่องของเขา หากคุณหนูอัฟฟราต้องการที่จะช่วยเขา ผมว่าโทรแจ้งตำรวจท้องที่มาจัดการดีกว่าครับ" แม้ว่าชิเล่ยจะดูไม่เป็นอะไรที่น่าสงสัย แต่เคนก็ยังไม่หายกังวล สถานะของอัฟฟราเป็นสิ่งสูงส่งมากและไม่สามารถให้เกิดอันตรายกับเธอได้
เป็นอีกครั้งที่อัฟฟรายังคงดื้อรั้น แสดงบุคลิกที่เอาแต่ใจและส่ายหัวพูดว่า "ไม่! เราไม่แค่จะโทรแจ้งตำรวจเท่านั้น แต่เราจะช่วยพาเขาไปส่งที่โรงพยาบาลในเมืองด้วย"
เคนฝืนยิ้มออกมา สุดท้ายก็พยักหน้าแล้วดึงโทรศัพท์มือถือออกมาและกดหมายเลขฉุกเฉินของประเทศเซี่ยแล้วพูดภาษาเซี่ยว่า "สวัสดีครับ ผมมาจากประเทศแกรนด์ ตัวแทนของเบอร์เบอรี่ ชื่อเคน"
คอลเซ็นเตอร์ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินได้อยู่ยินเสียงของอีกฝ่ายเป็นคนต่างชาติและบอกถึงสถานะของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงพูดอย่างสุภาพทันทีว่า "สวัสดีครับคุณเคน คุณต้องการแจ้งความเรื่องอะไรครับ?"
เคนมองออกไปไม่ไกลจากถนน เห็นป้ายบนถนนที่มีแต่ภาษาเซี่ยกลางเต็มไปหมดเขาจึงพูดว่า "ผมต้องการแจ้งเหตุ การเดินทางที่ยาวนานของผม ได้มาเจอชายหนุ่มที่กำลังสลบอยู่ ผมกำลังพาเข้าไปส่งที่โรงพยาบาลในเมือง ผมหวังว่าคุณจะส่งเจ้าหน้าที่มาจัดการที่โรงพยาบาลครับ" ภาษาเซี่ยของเคนไม่ดีเท่าไหรนัก นั่นเป็นความหมายที่ดีที่สุดจะสื่อออกมาแล้ว
คอลเซ็นเตอร์ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินกำลังรู้สึกอึดอัดใจเพราะเขาไม่เข้าใจภาษาเซี่ยวของเคนเลย!
"รับทราบครับคุณเคน คุณกำลังพาคนที่สลบอยู่ไปรักษาที่โรงพยาบาลใช่ไหมครับ?" คอลเซ็นเตอร์ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ได้ยินว่ามีชายคนหนึ่งสลบอยู่ ในจุดที่ห่างไกลที่เขากำลังขับรถผ่าน และได้ยินชื่อเมืองชวนกิ่ง ตอนนี้กำลังมีคดีใหญ่อยู่ ทำให้เขาคิดถึงนักศึกษาหนุ่มที่ถูกจับไปเป็นตัวประกัน
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดเร็วมาก ทำให้เคนแปลไม่ทันและเขาพูดติดอ่างว่า "ขอโทษครับ คุณช่วยพูดช้าลงหน่อยได้ไหมครับ?"
คอลเซ็นเตอร์ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแอบหัวเราะและทำให้เขานึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายเป็นชาวต่างชาติจากประเทศแกรนด์!
"คุณเคน คุณกำลังจะพาชายหนุ่มที่สลบอยู่ไปส่งที่โรงพยาบาลนั้นใช่ไหมครับ?" คราวนี้เสียงพูดของคอลเซ็นเตอร์ช้าลงมากทำให้เคนเข้าใจอย่างชัดเจน
"พวกเราตัวแทนจากเบอร์เบอรี่ พักอยู่ที่โรงแรมจินเซิง ในเขตเบเจียง ผมจะไปส่งเขาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เมื่อผมส่งเขาที่โรงพยาบาลเสร็จแล้วผมจะโทรแจ้งตำรวจอีกที"
คำพูดของเคนทำให้คอลเซ็นเตอร์ศูนย์รับแจ้งเหตุไม่รู้จะร้องไห้หัวเราะดี แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นชาวต่างชาติ เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้นอกจาก "คุณเคน แล้วเราจะรอการติดต่อจากคุณนะครับ"
เคนแบกชิเล่ยขึ้นมาจากพื้น ส่วนอัฟฟราหยิบแว่นตาขึ้นมาอย่างระมัดระวังและเปิดปากพูดว่า "ลุงเคน ลุงคุยกับทางตำรวจชัดเจนแล้วใช่ไหมคะ?"
อัฟฟราพูดภาษาเซี่ยไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงไม่เข้าใจว่าเคนกับตำรวจคุยอะไรกัน ภาษาเซี่ยเรียกได้ว่าเป็นภาษาที่เรียนรู้ยากที่สุดในโลก ตัวอักษรจีน ทำให้ชาวต่างชาติหลายคนๆยากที่จะเรียนรู้มัน
เคนเปิดประตูรถข้างคนขับแล้ววางชิเล่ยนั่งลงไปและหลังจากนั้นก็ตอบอัฟฟราว่า "คุณหนูอัฟฟรา ผมกับทางตำรวจได้คุยกันแล้ว หลังจากส่งชายคนนี้ไปที่โรงพยาบาลแล้ว ทางตำรวจเซี่ยก็จะมาจัดการเอง"
อัฟฟราพยักหน้ารู้สึกโล่งใจแล้วกลับไปนั่งที่เบาะหลังของเบนท์ลีย์ เคนกลับไปนั่งลงบนที่นั่งคนขับและขับรถไปที่เมืองชวนกิ่งเขตเบเจียง