Chapter 229: ผู้ชายนั้นไม่สามารถที่จะตัดสินได้เพียงแค่หน้าตาของพวกเขา
Chapter 229: ผู้ชายนั้นไม่สามารถที่จะตัดสินได้เพียงแค่หน้าตาของพวกเขา
หมู่บ้านนี้ไม่ได้ใหญ่ มันเป็นร้านเล็กๆที่อยู่ใกล้กับถนนหลัก และมันก็มีขบวนสินค้าจอดไว้อยู่
เป็นเรื่องที่เด่นชัดว่ามันจะไม่สมจริงที่กองกำลังติดอาวุธจะแบกอาหาร อย่างเช่นเนื้อสดและผักผลไม้ซึ่งสามารถอยู่ได้สิบห้าวัน ยิ่งไปกว่านั้น มันยังอันตรายเกินไปในการทำอาหารกลางป่า เมื่อซอมบี้นั้นถูกดึงดูด ความสูญเสียนั้นก็มากเกินกว่าผลประโยชน์ นอกจากนี้ อาหารส่วนมากของพวกเขานั้นเป็นขนมปังกรอบ เนื้อแห้งและผักแห้ง
สำหรับการนอนหลับนั้น คนนับร้อยต้องการที่จะใช้เวลาอยู่บนรถของพวกเขาทั้งนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ด้วยเหตุนี้นี่เอง กองทัพนั้นก็ตั้งเต็นท์กองทัพจำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่ที่มีจำกัดนั้น เต็นท์ก็ถูกตั้งไว้กันเป็นกลุ่มที่ดูแน่นหนาและมันก็เหมือนกับบางอย่างสีดำมืดที่ปกคลุมไปทั่ว จำนวนของเต็นท์ของกองทัพนั้นมีจำกัดมาก ดังนั้นจึงมีชายสามคนในแต่ละเต็นท์
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถอาศัยในบ้านของหมู่บ้านได้ มันก็เป็นเรื่องยากในการจัดสรร ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบนี้ เต็นท์พวกนี้สร้างขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย แต่มันก็ยังโดนโจมตีได้ง่ายอีกด้วย โชคร้ายที่การนอนบนสนาม รวมกับอากาศที่ชื้น มันก็ทำให้เป็นเรื่องยากในการหลับ และยิ่งแย่ไปกว่านั้น ในตอนเย็น ยุงนั้นก็เริ่มทำให้ผู้คนนั้นคลั่ง
หวังฉี่ชีและหลี่ยู่ซินนั้นก็ถูกจัดสรรรวมกับนางพยาบาลที่มีอายุมากกว่าในเต็นท์ หวังฉี่ชีนั้นมึนงงเล็กน้อยหลังจากที่เห็นเต็นท์ มันเล็กพร้อมกับที่นอนที่เล็กและชื้น พวกเธอจะหลับได้ยังไงกัน?
ในตอนแรก หวังฉี่ชีนั้นคิดว่าพวกเธอสามารถที่จะหลับในรถพยาบาลได้ แต่เธอไม่ได้คาดคิดว่าจะมีคนที่ได้รับบาดแผลจากการต่อสู้นั้นเยอะขนาดนี้! ไม่ต้องพูดถึงตัวเธอเองเลย แม้กระทั่งพี่ชายของเธอก็ไม่สามารถนอนในรถพยาบาลได้ด้วยเช่นกัน
“ยู่ซิน พวกเราจะหลับได้ยังไง?”หวังฉี่ชีนั้นประเมินพื้นที่ด้านในเต็นท์และก็มองไปที่นางพยาบาลวัยกลางคน เธอนั้นมีรูปร่างที่ค่อนข้างอ้วน
หวังฉี่ชีนั้นมีโรคประจำตัวตั้งแต่เด็ก และเธอก็รู้สึกว่าเธอไม่สามารถนอนในเต็นท์ได้ แต่ด้านนั้นก็มียุงดูดเลือดเลวร้ายนับไม่ถ้วน เธอไม่ได้คาดคิดจริงๆว่าเธอจะได้มีประสบการณ์ที่มีสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากแบบนี้ในการเดินทางกับกองทัพ
“อย่าบ่น”หลี่ยู่ซินจ้องไปที่หวังฉี่ชี “ยังมีคนที่มีบาดแผลอีกมาที่พวกเราจะต้องรักษาในวันพรุ่งนี้ พวกเราโชคดีที่พวกเราไม่ได้ไปในสนามรบ ดูคนที่บาดเจ็บพวกนั้นสี พวกเขาไม่สามารถที่จะนอนได้ เนื่องจากบาดแผลของพวกเขา ทหารพวกนั้นก็ยังต้องแลกเวรกันอีกด้วย”หลี่ยู่ซินพูดกับหวังฉี่ชี และหลังจากนั้นเธอก็เห็นรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีที่จอดอยู่ข้างเธอ เธอก็ดึงหวังฉี่ชีและพูด “พวกเราควรที่จะไปขอบคุณเจียงลู่ฉี เขาช่วยพี่ชายของเธอและพวกเรา”
“ฉัน…”หวังฉี่ชีรู้สึกละอายใจ เธอดูถูกเจียงลู่ฉี นอกจากนี้เธอนั้นมีผิวที่บอบบางพร้อมกับนับถือตัวเองอย่างมาก เธอต้องการที่จะหาเหตุผล แต่หลี่ยู่ซินลากเธอไปยังรถมินิบัสแล้ว
ประตูของรถมินิบัสก็เปิดออก ดังนั้นหวังฉี่ชีเห็นหยิงนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ หยิงนั้นดูสมบูรณ์แบบในชุดแจ็คเก็ตหนังสีดำ หวังฉี่ชีนั้นไม่เชื่อกับสิ่งที่เธอเห็น
[เธอเป็นคนขับงั้นเหรอ…? ผู้หญิง?] หวังฉี่ชีไม่สามารถที่จะเชื่อมันได้
“หลี่ยู่ซิน?”เจียงลู่ฉีเห็นหลี่ยู่ซินและเขาก็ยิ้ม “ขึ้นมาเถอะ”
“โอเค ฉันต้องการที่จะมาขอบคุณนายในการเชิญชวนและการช่วยชีวิตพวกเรา…”หลี่ยู่ซินจะพูดต่อแต่เธอก็ตัวแข็งทื่อ
หวังฉี่ชีนั้นกำลังจ้องการออกแบบภายในรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีพร้อมกับดวงตาที่เปิดกว้างของเธอพร้อมกับปากที่เป็นรูปตัวโอ นี่เป็นรถของเจียงลู่ฉีจริงๆงั้นเหรอ?
ทำไมด้านในมันถึงหรูหราขนาดนี้กัน?
ต้องขอบคุณนิวเคลียสกลายพันธุ์สิบแปดก้อน เจียงลู่ฉีนั้นสร้างรถมินิบัสใหม่และด้วยเหตุนี้ ภายในนั้นเปลี่ยนไปมาก พื้นที่ภายในก็ขยายขึ้นกว้างมาก และเขาก็เพิ่มเตียงคิงไซส์ที่มีความกว้าง 1.2 ซึ่งมันดูนุ่มสบายมาก
ในเวลาเดียวกัน เจียงจู้อิงกำลังนอนอืดอยู่บนโซฟาในขณะที่กำลังดูอนิเมบนแท็บเล็ตของเธออยู่ และหลันซิหยู่นั้นกำลังอยู่ในห้องครัว.....กำลังทำอาหารอยู่!?
มีแม้กระทั่งเตา หม้อหุงข้าวและไมโครเวฟที่กำลังทำงานในเวลาเดียวกัน และกลิ่นหอมก็ลอยฟุ้งไปทั่วรถมินิบัส
[ผักผลไม้?] มันเป็นเรื่องยากที่หวังฉี่ชีจะเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันน่ามหัศจรรย์มาก!
ในเวลาเดียวกัน หลันซิหยู่ก็เปิดหม้อข้าว หวังฉี่ชีนั้นไม่สามารถที่จะซ่อนการแสดงออกที่อิจฉาได้หลังจากที่เห็นข้าวสวย
เสบียงอาหารส่วนมากในเขตแรกของเกาะเชนไฮ่นั้นเป็นมันฝรั่งทอด และพวกเธอสามารถที่จะกินได้เพียงข้าวพันธุ์ผสมที่มีผลผลิตจำนวนมาก มันเห็นได้ชัดว่าข้าวของเจียงลู๋ฉีนั้นอร่อยมาก
หวังฉี่ชีนั้นแตะไปที่กระเป๋าตังเธอที่เต็มไปด้วยขนมปังกรอบที่ถูกบด เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เจียงลู่ฉีกิน มันแตกต่างกันอย่างมาก เมื่อคิดถึงครั้งแรกที่เธอพบเจียงลู่ฉี เธอแม้กระทั่งพิจารณาว่าเขานั้นเป็นผู้อพยพด้วยซ้ำ
เหมือนกับสุภาษิตจีนที่ว่า “ผู้ชายนั้นไม่สามารถที่จะตัดสินได้เพียงแค่หน้าตาของพวกเขา”