ตอนที่ 21 มีพื้นฐานจากตัวมนุษย์ (FREE)
“ข้าต้องการจะอ่านกฎแห่งเต๋า อ่านทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับมัน!” ฟาง เจิ้งจือ เปิดปากออกมา
หนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาอ่านหนังสือที่ได้รับมาจากพ่อเขาหมดแล้ว ยิ่งอ่านเนื้อหาเดิมเท่าไหร่ เข้ายิ่งซึมซับพลังได้น้อยลงเขาตัดสินใจที่จะหา ‘แหล่งความรู้ใหม่’
วานพ่อของเขาให้หาซื้อหนังสือเพิ่มเติมจากนอกหมู่บ้าน? นอกจากค่าใช้จ่ายที่มากแล้ว มันต้องใช้เวลาในการเดินทาง แต่ที่สำคัญที่สุดคือจำนวนหนังสือที่พ่อเขาซื้อมานั้นเพียงพอ
“ก็ได้ๆ แต่เจ้าต้องตอบคำถามของข้าให้ได้ก่อน!” โดยไม่บ่นอะไรอีก หวัง อันฮุย พยักหน้า
ฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆอีกครั้งหนึ่ง ท่าทีของเขาดูสงบ แต่ตอนนี้ใจของเขากำลังลิงโลดอยู่ หลังจากที่เขาพยายามอย่างหนัก ในที่สุด ‘ปลา’ก็ติดเบ็ด!
ว่ากันว่าผู้รอบรู้มักจะเป็นพวกกล้าได้กล้าเสีย ฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่มีอะไรจะต้องเสีย เขาคอยมานั่งลงที่ข้างนอกหอแห่งเต๋าทุกๆวันเพื่อทดสอบโชคของเขา การที่ทำแบบนี้เพื่อ อย่างแรก ผู้คนจะเห็นว่าเขากำลังเนื้อหาที่กำลังสอนอยู่ข้างในหอ ดังนั้นเขาจะถูกยอมรับว่าอ่านหนังสือได้ในอนาคต อย่างที่สอง ถ้าเขาโชคดีพอ การที่มานั่งตรงนี้ทุกวันต้องดึงดูดใครสักคนที่อยู่ในหอแห่งเต๋าแน่นอน!
แค่คำถามเดียว คำถามเดียวเท่านั้นที่ ฟาง เจิ้งจือ ต้องตอบ เขามั่นใจถ้าเขาตอบได้ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นแน่นอน!
เขาจินตนาการถึงที่อาจารย์ที่อยู่ในหอแห่งเต๋าออกมาคุยกับเขา เขาตั่งใจจะทำตัวเป็นเด็กดี ตอบทุกอย่างที่เขาถามมา
แต่ขณะที่เขาคิด เขาตัดสินใจที่จะเอารางวัลที่ดีที่สุด อาจจะเป็นสิทธิในการเข้าหอแห่งเต๋า หรือไม่ก็....
ถ้าเขาแสดงความสามารถจริงๆออกมา เขายังคงต้องเรียนตำราขงจื้อสำหรับเด็กร่วมกับคนอื่นอีกหรือไม่?
เขายอมเสียเวลาวางแผนมากมายทั้งหมดเพื่อ กฎแห่งเต๋า สิทธิในการศึกษากฎแห่งเต๋า!
“ท่านอาจารย์ โปรดถาม” น้ำเสียงของ ฟาง เจิ้ง จือดูเป็นมิตรมากขึ้น
หวัง อันฮุย ยิ้มออกมาเล็กน้อยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันของ ฟาง เจิ้งจือ
“‘บุคคลที่มีคุณธรรมล้ำเลิศเป็นเหมือนกับสายน้ำที่กำลังไหลอยู่’ เจ้าจะอธิบายมันยังไง?” หวัง อันฮุย ถามออกมา
เมื่อได้ยินคำถาม ฟาง เจิ้งจือ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาคิดว่าปกติแล้ว หวัง อันฮุย ควรจะถามคำถามง่ายๆกับเขาเช่นอาจจะถามเกี่ยวกับตำราขงจื้อสำหรับเด็ก หรือจะเป็นหนังสือขั้นพื้นฐานอื่นๆ
เขาไม่คิดว่า หวัง อันฮุย จะทดสอบเขาด้วย เต้าเต๋อจิ้ง จากโลกเดิมของเขา
มันเหมือนมีบางอย่างแปลกๆ
เขานอนเล่นอยู่ข้างนอกหอแห่งเต๋าทุกวัน เขาสามารถเห็นบทเรียนที่เรียนในแต่ละวันได้ตอนนี้เนื้อหาที่เรียนกันยังไปไม่ถึงไหนเลย รู้สึกยังเป็นเรื่องเกียวกับพื้นฐานตัวอักษรอยู่?
เขาจะถามข้าเรื่องนี้จริงๆ? ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกหนักใจขึ้นมา
ยอมแพ้? ทำตัวเป็นเด็กโง่ๆต่อไป? เขารู้สึกมันเป็นสิ่งที่สมควรทำ...แต่ เขาเสียเวลาเป็นเดือนเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีโอกาสนี้ ถ้าเขายอมแพ้ตอนนี้ เส้นทางในอนาคตของเขาต้องยากลำบากแน่นอน
“ฮ่า ฮ่า ตอบไม่ได้สินะ?” หวัง อันฮุย ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเตรียมเดินจากไป
“เดี๋ยว!” ฟาง เจิ้งจือ ตะโกน
“รู้คำตอบแล้วหรือ?” หวัง อันฮุย หันหน้ากลับมามอง ฟาง เจิ้งจือ
ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก เขาต้องการได้รับสิทธิเข้าไปอ่านหนังสือ!
“บุคคลที่มีคุณธรรมอันล้ำเลิศเปรียบกับสายน้ำเนื่องจาก น้ำให้คุณแก่สรรพสิ่ง แต่ตัวมันเองกลับไม่ได้แย่งชิงสิ่งใด น้ำตั้งตนอยู่ในที่ต่ำ อันผู้คนรังเกียจเดียจฉัน ดังนั้นมันจึงเข้าใกล่ เต๋า” เขากัดฟันตอบออกไป
“‘ บุคคลที่มีคุณธรรมอันล้ำเลิศเปรียบกับสายน้ำ’ ข้อความนี้มาจากบทที่ 8 ของ คัมภีร์เต้าเต๋อจิ้ง ข้าสามารถจำมันได้หมด แต่ไม่แน่ใจในบางส่วนจึงย่อมันลง”
ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมา หวัง อันฮุย ที่ยืนอยู่ก็เบิ่งตาโตด้วยความตกตะลึงเขาเพียงให้ ฟาง เจิ้งจือ อธิบายความหมายของ ข้อความที่ว่า ‘ บุคคลที่มีคุณธรรมอันล้ำเลิศเปรียบกับสายน้ำ’ แต่ไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ ถึงกับบอกได้ว่ามันมาจากตำราเล่มไหน
นี่แสดงว่าการอธิบายความหมายนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับเขาแม้แต่น้อย
ทันใดนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็พูดต่อ “น้ำช่วยค้ำจุนทุงสิ่งอย่าง แต่ไม่แก่งแย่งแข่งขันชิงดีกับสิ่งอื่น ยอมอยู่ในที่ ที่ผู้คนเกลียดชัง มันจึงอยู่ใกลเต๋ามากที่สุด!”
“เยี่ยม! เยี่ยมมาก! เป็นการอธิบายที่ยอดเยี่ยม! ข้าไม่เคยคิดเลยว่าหมู่บ้านภูเขาทางใต้แห่งนี้ จะมีผู้ที่มีพรสวรรค์สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้อยู่ ฮ่า ฮ่า.....ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถ้าเจ้าต้องการยืมหนังสืออะไร ให้มาที่ด้านหลังของหอแห่งเต่าและตะโกนเรียกชื่อข้า!” หวัง อันฮุย อารมณ์ดีถึงเขาจะรู้สึกสับสนอยู่บ้าง แต่ยังไงก็ตาม เขาก็ได้รับคำตอบที่เขาต้องการแล้ว
“ข้าขอถามคำถามท่านหน่อยได้หรือไม่?” ฟาง เจิ้งจือ หยุด หวัง อันฮุย อีกครั้งหนึ่ง
“ได้สิ ถามมาเลย!”
“จะเข้าถึงวิถีแห่งเต๋าได้ยังไง?”
“เข้าถึงวิถีแห่งเต๋า?! ฮ่า ฮ่า....ดูข้าสิ เจ้าคิดว่าข้าเข้าถึงวิถีแห่งเต๋าแล้วงั้นหรือ?” หวัง อันฮุย หดหู่เล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเด็กน้อยอายุแค่ 6 ขวบ จะถามเรื่องนี้กับเขา
“การที่ท่านยังเป็นเพียงอาจารย์ในหอแห่งเต่า นั่นหมายความว่า....ท่านยังไม่เข้าถึงวิถีแห่งเต๋า?” ฟาง เจิ้งจือตอบโดยไม่ต้องคิด
“เจ้าช่างฉลาดจริงๆ ถูกต้องแล้ว ที่จริงแล้วข้ายังไม่เข้าถึงวิถีแห่งเต๋า ถ้าใครต้องการที่จะเข้าถึงวิถีแห่งเต๋าละก็.....มันเป็นเรื่องที่ยากมาก! แต่ในเมื่อเจ้าถาม ข้าจะบอกเจ้าเรื่องหนึ่ง! อาจารย์ของข้าเคยบอกว่า เต๋าแห่งการสรรค์สร้างนั้นมีพื้นฐานมากจากตัวของมนุษย์เอง!” เมื่อเขาพูดจบประโยค หวัง อันฮุย ก็เดินกลับเข้าไปในหอแห่งเต๋า
“เต๋าแห่งการสรรค์สร้างมีพื้นฐานมาจากตัวมนุษย์เอง?!” คำพูดของ หวัง อันฮุย ทำให้ ฟาง เจิ้งจือ จมอยู่กับความคิด....
....
คืนนั้นเอง สิ่งมีชีวิตบางอย่างที่มีสีขาวราวกับหิมะ กรงเล็บแหลมคมราวกับใบมีด ได้ทะยานตัวออกจากหอแห่งเต๋าและหายไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน
วัดถัดไป สิ่งมีชีวิตที่บินได้นั้นได้บินลงไปที่ลานขนาดใหญ่ ที่ทางเข้ามีป้ายสีทองเขียนว่า ‘กองตรวจการศักดิสิทธิ์’ เขียนไว้อยู่
หลังจากนั้นม้วนกระดาษที่ปิดผนึกอย่างแน่นหนาถูกส่งผ่านโดยทหารไปที่ เด็กหญิงที่ใส่ชุดกระโปรงสีฟ้าอยู่ เธอเปิดออกและมองไปที่ตัวอักษร ดวงตาของเธอเปล่งประกาย มุมปากของเธอยกขึ้นด้วยความยินดี
“ฟาง เจิ้งจือ?! ฮ่าฮ่า ....หลังจากที่ข้าปล่อยเจ้าไปเกือบเดือน ในที่สุดเจ้าก็มาติดกับดักของข้า!”
….
เต๋าแห่งการสรรค์สร้างมีพื้นฐานมาจากตัวของมนุษย์เอง?!
สองสามวันถัดไป ฟาง เจิ้งจือ ยังคงนอนอยู่บนเตียงพิจรณาถึงคำพูดที่ได้ยินมา การตีความมันไม่ใช่เรื่องยากเลย
แต่สิ่งที่ยากคือมันสัมพันธ์ยังไงกับการเข้าสู่วิถีแห่งเต๋า
แม่ทัพหลี่เคยบอกว่าการที่จะเข้าสูวิถีแห่งเต๋าได้ต้องเข้าทุกอย่างเกี่ยวกับเต๋าแห่งการสรรค์สร้าง แต่ หวัง อันฮุย กลับบอกว่ามีพื้นฐานมากจากมนุษย์เอง?!
ทำไมเหมือนสิ่งที่ที่งสองคนพูดนั้นขัดแย้งกัน...
ข้าจะเชื่อใครดี....หรือพวกเขาจะถูกทั้งสองคน?
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถหาบทสรุปได้ในตอนนี้ แต่ตอนนี้ด้วยการฝึกฝนอย่างหนัก ความสามารถของเขาคืบหน้าไปมาก ภาพของหยดน้ำที่เขาเคยเห็น จาก1 หยดกลายเป็น 5 หยดแล้ว
ในเวลาเดียวกันความสามารถในการควบคุมร่างกายของเขาก็เริ่มดีขึ้น
การไหลของเลือด การยืดหดของเส้นเอ็น เขาสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรน์ นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงอะไรบางอย่างที่อยู่ในร่างกายได้
ถ้าให้เขาตั้งชื่อมันละก็ คงเรียกว่าความสามารถในการควบคุมเนื้อหนัง
มันเป็นเรื่องที่เขาเคยคาดคิดมาก่อน ตอนนี้เขารู้สึกแข็งแกร่งขึ้นมาก
ตอนนี้เขายังไม่สามารถควยคุมได้ทุกส่วน แต่สามารถควบคุมได้แค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น เช่น ทำให้เนื้อบนปลายนิ้วงอกเพิ่มขึ้นมา ทำให้หนักขึ้น หรือเปลี่ยนลักษณะของผิวหนังชั้นนอกบริเวณแขนของเขา....
เขาไม่รู้ว่าความสามารถนี้มีประโยชน์อะไร แต่ยังไงก็ตามเขารู้สึกเยี่ยมมาก
เดี๋ยวก่อนนะ!...
ควบคุม? ควบคุมร่างกายตัวเอง? เต๋าแห่งการสรรค์สร้างมีพื้นฐานมาจากตัวมนุษย์เอง!
ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าปัญหาที่เขาครุ่นคิดมานานกำลังจะได้รับคำตอบแล้ว...หมายความว่าการจะควบคุมทุกสรรพสิ่ง อย่างแรกคือต้องควบคุมร่างกายตัวเองให้ได้ก่อนงั้นหรือ?
ข้ารู้แล้ว!
สรรพสิ่งล้วนกำเนิดมาจากหัวใจ!
ทุกสรรพสิ่งเกิดจากตัวมนุษย์เอง!
เมล็ดพันธุ์ถูกฝังไว้ในหัวใจ หยดน้ำแต่ละหยด หมายถึงความสามารถในการควบคุมร่างกายของเขา...เงื่อนไขคือ เขาต้องควบคุมร่างกายให้ได้อย่างสมบูรณ์
นั้นหมายความว่า.....
ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว!
ด้วยความยินดีและตื่นเต้น เขารู้สึกว่าปัญหาทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้วตอนนี้! ฟาง เจิ้งจือ ทนไม่ไหวที่จะลองแล้ว เขารีบลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว เปิดหน้าต่างและกระโดดออกไปที่ลานเล็กๆหน้าบ้านอีกครั้ง
เขามองไปที่กำแพงหินด้วยความลังเล
ความพยายามครั้งก่อนๆของเขามักนำความเจ็บปวดอย่างรุนแรงมาสู่ตัวเขาทุกๆรอบ
“เพื่อความสำเร็จ ต้องมีการเสียสละ!!”
ฟาง เจิ้งจือ กัดฟันแน่น ก่อนจะค่อยๆหายใจเข้าลึกๆ และปรับเปลี่ยนกล้ามเนื้อฝ่ามือของเขา....
เขารู้สึกกล้ามเนื้อบริเวณฝ่ามือขวาค่อยๆหนาขึ้นเรื่อยๆ.....
อีกนิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น!
“ใช่เลย!.. อย่างนี้แหละที่ข้าต้องการ! อย่าหยุดนะ!”
ฟาง เจิ้งจือ คำรามในใจเงียบๆ ก่อนจะเอาฝ่ามือขวาเข้าไปกระแทกกับผนังหิน
“…”
ช่วงเวลาสั้นๆของความเงียบสงบ ฟาง เจิ้งจือ พลันรู้สึกกถึงความบิดเบี้ยว
“โอ๊ย!!”
ฟาง เจิ้งจือที่ ตอนแรก‘อารมณ์ดี’ กระโดดเหยงๆไปรอบๆด้วยความเจ็บปวด และกลับเข้าไปในห้องของเขาทางหน้าต่าง...
“เปรี๊ยะ!”
เสียงเบาๆดังขึ้นมาด้านหลังของ ฟาง เจิ้งจือ หลังจากที่เขาเข้าห้องไปแล้วด้านบนของแผ่นหินนั้น ค่อยๆปรากฎรอยแตกเป็นรูปฝ่ามือออกมา....
เพจหลัก : Gate of god TH