ตอนที่ 19 แตกหน่อ
“โบยมัน 10 ทีซะ!” ผู้นำทหารโบกมืออกคำสั่งให้ทหารที่อยู่ข้างหลังจับตัวหลี่ เฮ่อ กดลงกับพื้น และเอาไม้เรียวหวดลงทันที
หัวหน้าหมู่บ้าน เมิ่ง ไป่ และ หลี่ จ้วงฉือ ไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบสนองอะไร พวกเขายังไม่รู้เลยว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น? โบย?...10ที?
“เพี๊ยะ!”
ทหารไม่สนใจเรื่องอื่น เขายกไม้เรียวขึ้นสูงก่อนจะฟาดลงมาที่หลังของ หลี่ เฮ่อ อย่างรุนแรง
หลี่ เฮ่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและความสับสน แต่ความเจ้บปวดที่ได้รับจากด้านหลังของเขาเป็นของจริง
“หึก หึก....”
หลี่ เฮ่อ เริ่ม ร้องไห้ออกมา
“เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!....”
ก่อนที่ หลี่ จ้วงฉือ จะได้ขอร้องอ้อนวอนอะไรเพื่อลูกชาย ไม้เรียวก็ได้ตีไปครบ 10 ครั้งแล้ว
“กลับ!” หัวหน้าเหล่าทหารหันมามอง หลี่ เฮ่อ ที่นอนกองอยู่กับพื้นแล้วถอนหายใจ ก่อนจะเอาม้าของพวกเขาวิ่งออกจากหมู่บ้านไป
ชาวบ้านต่างมองไปที่ หลี่ เฮ่อ ด้วยความว่างเปล่า พวกเขาแต่ละคนต่างตกตะลึง ตอนแรกพวกเขายังชื่นชมและอิจฉา หลี่ เฮ่อ แต่ไม่กี่วินาทีถัดมาเขากับถูกทิ้งอยู่บนพื้นเสียแล้ว!
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไปแล้ว!
ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ หลี่ เฮ่อ คิดเกี่ยวกับภาพที่เขียนอยู่บนกระดาษแผ่นนั้น ก่อนที่จะเรียลงลำดับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แม่ของเขาดีใจ ของขวัญจากกองตรวจการศักดิสิทธิ์ เพิ่มที่สำหรับ 1 คนที่จะเข้าไปยังหอแห่งเต๋าได้ ข้อจำกัดด้านอายุ 6-8 ขวบ...
ทันใดนั้น เขาก็รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด นี่เป้นแผนของเด็กหญิงนั่นงั้นหรือ?
ความเมตตาของกองตรวจการศักดิสิทธิ์? เห็นอยู่ชัดๆนี่มันคือกับดัก ถ้าข้าเป็นคนที่ได้เข้าไปยังหอแห่งเต๋าละก็ ต้องเป็นเขาแน่ๆที่นอนกองอยู่กับพื้นในวันนี้!
เขาไม่นึกเลยว่าเธอจะแก้แค้นเขาไวขนาดนี้
ฟาง เจิ้งจือ มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ความรู้สึกอันดำมืดเริ่มก่อขึ้นในใจเขา แค่ข้าเตะก้นเจ้า ถึงกับต้องคิดแก้แค้นกันขนาดนี้?
ดูเหมือนว่าข้าจะเตะเธอน้อยไปสินะ!
....
ทุกคนเห็นอย่างชัดเจนว่า หลี่ เฮ่อ ตอบคำถามไม่ได้
“หลี่ เฮ่อ อย่ายอมแพ้! จงขยันหมั่นเพียร ซักวันเจ้าจะตอบคำถามนั้นได้เอง!”
“ใช่แล้ว! หลี่ เฮ่อ นี่เป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึกของกองตรวจการศักดิสิทธิ์ พวกเขากล่าวเสมอว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า!”
“ใช่พวกเราเชื่อมันในตัวเจ้า!”
ทุกคนต่างให้กำลังใจ หลี่ เฮ่อ ไม่มีใครกล่าวโทษกองตรวจการศักดิสิทธิ์
เมื่อได้ยินคำพูดของพวกชาวบ้าน หัวหน้าหมู่บ้าน เมิ่ง ไป่ และ หลี่ จ้วงฉือ คิดได้อย่างรวดเร็ว ความรักมาพร้อมความเจ็บปวด! พวกเขาทำให้ หลี่ เฮ่อ เจ็บปวด เพราะว่ากองตรวจการศักดิสิทธิ์ให้ความสนใจกับ หลี่ เฮ่อ มาก! แม้แต่คุณหนูยังเรียกชื่อของ หลี่ เฮ่อ และกระทั่งส่งคนมาทดสอบความรู้ แน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน!
ฟังที่ชาวบ้านพูด หลี่ เฮ่อ เริ่มยิ้มออกมา เช็ดน้ำตา เขาไม่สงสัยอีกต่อไปว่าทำไมถึงถูกโบย มันเป็นวิธีหนึ่งของกองตรวจการศักดิสิทธิ์ที่ใช้ดูแลเขา....
มองไปที่ หลี่ เฮ่อ ที่ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจออกมาอย่างเงียบๆ “เห้อ ทำยังไงถึงได้โง่กันขนาดนี้นะ?”
ค่ำคืนมาเยือน ฟาง เจิ้งจือ นั่งอยู่ในห้องของเขา มองออกไปนอกหน้าต่างที่เปิดอยู่ มองไปที่ดวงดาว
จากนั้นมือของเขาก็สัมผัสกับหนังสือในกระเป๋าโดยไม่ตั้งใจ เขารู้สึกแปลกๆ นี่อาจจะเป็นหนังสือเล่มแรกบนโลกใบนี้ของเขา!
ตำราขงจื้อสำหรับเด็ก มันอาจะเป็นหนังสือธรรมดาทั่วๆไป นอกจากนี้ยังเก่าและมีรอยฉีกขาด แต่มันแสดงให้เห็นถึงความหวังและความฝันของ ฉิน ซูเหลียน และ ฟาง เฮ่าเตอ ที่มีต่อเขา
เขาค่อยๆหยิบตำราขงจื้อสำหรับเด็กขึ้นมาอย่างเบามือ
ประโยคทีเห็นในนั้นก็เป็นประโยคเดิมกับที่เขาเคยเห็นในโลกเก่า ทุกคำนั้นเหมือนโลกเดิมของเขาเป๊ะๆ! มันเป็นเรื่องบังเอิญงั้นหรือ? ใครเป็นคนเขียนกฎแห่งเต๋าขึ้นมาบนโลกนี้กัน!
“ครืนๆ!”
เสียงของฟ้าผ่าดังขึ้น แสงของสายฟ้าทีฟาดลงมาส่องไปทั่วก้อนเมฆ หยาดฝนค่อยๆตกลงมาจากท้องฟ้า ลมพัดกระแทกหน้าต่างไปมา เหมือนแสดงความไม่พอใจของสวรรค์
ฟาง เจิ้งจือ เพียงหันไปมองและหันกลับมาอ่านตำราต่อ “นิสัยของแต่ละคนต่างกัน หากละเลยไม่ได้รับการสั่งสอน พวกเขาจะค่อยๆเลวร้ายลง...”
ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ อ่าน เขาพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขารูสึกแปลกๆเหมือนอะไรบางอย่างในตัวเขากำลังปะทุออกมา
เขาหยุดอ่าน
ความรู้สึกนั้นหายไป
พอเขาพูดต่อ
ความรู้สึกนั้นก็กลับมา
เกิดอะไรขึ้น? ฟาง เจิ้งจือ สับสน หรือเพราะว่ามันเป็นเพราะท่องหนังสือ? เขาวางตำราขงจื้อสำหรับเด็กลง และนั่งคิดทบทวน
เขาตัดสินใจที่จะท่อง‘เต้าเต๋อจิง’ ( เป็นคัมภีร์โบราณเกี่ยวกับปรัชญาแห่งชีวิต)
จากโลกเก่าของเขา
“เต๋าที่เรียกกันนั้น ไม่ใช่เต๋าที่แท้จริง เต๋าที่เรียกกันไม่ใช่นามที่แท้จริง
ไร้นามนั้นคือแหล่งกำเนิดของโลกและสวรรค์
นามนั้นคือผู้ให้กำเนิดทุกสิ่ง
ดังนั้น ความมั่นคงที่ว่างเปล่าทำให้มองเห็นถึงแก่นแท้
ความมั่นคงของสิ่งมีชีวิต ทำให้เราเห็นรูปลักษณ์ภายนอก
ทั้งสองนั้นเกิดมาคู่กัน แต่เมื่อแก่นแท้นั้นถูกแสดงออกมา
พวกมันกลับถูกเรียกในนามที่ต่างกัน
จุดกำเนิดของทั้งสองนั้นเรียกว่า ‘ความลึกลับ’
มันลึกลับสุดที่ใครจะหยั่งถึง
มันคือประตูสู่แก่นแท้ของชีวิต”
“ตูม!!”
ทันใดนั้น ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างในใจของเขาแตกหน่อเติบโตขึ้นมา
ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกนั้นคือ เหมือนบางอย่างในใจของเขาได้แตกหน่ออกมาจากเมล็ดพืช เหมือนมีบางอย่างหลั่งไหลเข้ามาในตัวเขา เข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้แค่ว่ามันเป็นเรื่องจริง
หนังสือ! ต้องอ่านหนังสือ!
ข้าเข้าใจแล้ว ในที่สุดข้าก็เข้าใจ! ปราณ พลังงานจิตวิญญาน นั่งสมาธิ พวกมันล้วนไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ในโลกนี้!
โลกนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับเต๋า ต้องอ่านหนังสือเท่านั้นถึงจะมีพลังได้ ยิ่งอ่านเนื้อหาที่ลึกเท่าไหร่ยิ่งได้พลังมามากเท่านั้น ตำราขงจือขั้นพื้นฐานทำให้เขาสามารถสัมผัสกับอะไรบางอย่างในจิตใจได้ แต่ตอนนี้ไม่มีไอไรที่ดีไปกว่า ‘เต้าเต๋อจิง’(คำภีร์ปรัชญาโบราณของจีนเกี่ยวกับธรรมชาติการใช้ชีวิต ฯลฯ)
แค่เริ่มต้นแค่บทแรกของเต้าเต๋อจิ้ง ก็ทำให้เขาเต็มไปด้วยความสุขแล้ว!
งั้น เริ่มท่องบทที่สอง ต่อเลยดีกว่า
“ทันทีที่ความงดงามถูกรู้จักโดยโลกใบนี้ มันกลับกลายเป็นความน่าเกลียด
ทันทีที่คุณธรรมถูกอ้างว่า....”
เอ๊ะ! แล้วยังไงต่อนะ?
ฟาง เจิ้งจือ ปาดเหงื่อบนหน้าผากด้วยมืออันตุ้ยนุ้ยของเขา
หืม....
ถึงแม้เขาจะเป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ แต่ใครบอกกันละว่านักวิชาการต้องจำคัมภีร์เต้าเต๋อจิงได้ทั้งหมด?
ถ้าให้เขาเติมคำลงในคำภีร์หรือถอดความมันยังพอเป็นไปได้ แต่การที่จะให้จำทั้งหมดได้เลยมันก็....
หรือจะลองท่องเรื่องอื่นดี?
ฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆท่องหลักคำสอนอื่นที่เขานึกออกอีก เขารู้สึกสุขสบายเหมือนตัวลอยอีกครั้ง เขารู้สึกมีชีวิตชีวาจริงๆ!
หลังจากนั้น...
เขาก็ลืมอีก
ไม่เป็นไร ลองอีกเรื่องหนึ่ง
หลังจากลองมาเกือบ 2 ชั่วโมง เขาท่องสิ่งที่เขาจำได้จากหนังสือ 4 เล่ม และจากปรัชญาคำสอนอีก 5 อย่าง ถึงแม้เขาจะรู้สึกมีความสุข แต่การที่เด็ก 6 ขวบต้องท่องหนังสือจำนวนมากอย่างนี้ เป็นเรื่องปกติที่เขาจะเหนื่อยล้าจิตใจและหลับไป
ในฝัน เขาเห็นเมล็ดพันธุ์สีดำฝังอยู่ลึกในหัวใจของเขา บนเมล็ดมีใบอ่อนเล็กๆงอกออกมา
บนใบอ่อนมีหยดน้ำกำลังก่อตัวขึ้นมา
“ติ๋ง!”
เสียงหยดน้ำหยดกระทบลงพื้นแต่มันกลับทะลุพื้นดินลงไปอย่างรวดเร็วไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
รวดเร็วมาก...
หยดน้ำหายไป
ไม่นานหยดน้ำก่อตัวขึ้นอีกแล้วก็หยดลงบนพื้นอีกเช่นเดิม
อีกครั้งและอีกครั้ง วัฏจักรนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ....
แสงอาทิตย์แรกในยามเช้าส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างกระทบกับใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ เขาลุกขึ้นนั่ง ดวงตาสีดำสนิทของเขาเปิดออกมาก
ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่....
*** ในตอนนี้มีการกล่าวถึงปรัชญาจากคัมภีร์จีนโบราณ 'เต้าเต๋อจิง' ค่อนข้างมากแต่ในตอนต่อๆไปจะมีกล่าวถึงน้อยลงครับ ซึ่งเนื้อหานั้นค่อนข้างซันซ้อนถ้าใครสนใจก็ลองหาศึกษาเพิ่มเติมกันได้ครับ ***
เพจหลัก : Gate of god TH