ตอนที่ 171 ไม่บอกชื่อ
ผ่านไปตามทางเดิน หลิน ฮวงก็มาถึงกรงมอนสเตอร์ที่สอง มันคือลิงแขนเดียวในกรง ลิงแขนเดียวเป็นยักษ์ มันไม่ได้ถูกเรียกว่าลิงแขนเดียวเพรามันมีเพียงแขนเดียว แต่เพราะแขนข้างหนึ่งของมันมีขนาดที่ใหญ่เท่าร่างมันขณะที่อีกข้างนั้นปกติ แขนขนาดยักษ์มีพละกำลังที่น่ากลัวและมอนสเตอร์ในระดับเดียวกันจะตายภายในการทุบเพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม แขนข้างนั้นก็มีข้อเสียอยู่ – มันจะเคลื่อนไหวได้ช้ามาก มันคือราคาที่ต้องแลกมากับพละกำลังดังกล่าว
คนส่วนใหญ่จะกลัวหากพวกเขาเห็นมอนสเตอร์ตนนี้เพราะการถูกแขนของมันกระทบเบาๆก็เหมือนกับการมุ่งตรงสู่ความตายแล้ว อย่างไรก็ตาม หลิน ฮวงกลับแสยะยิ้มขณะที่ถือCopperSparrow23ไว้ในมือทั้งสองและเดินเข้าไป จากนั้น เขาก็เริ่มยิงลิงแขนเดียว ลิงคำรามด้วยความเจ็บปวดขณะที่รีบวิ่งมาหาหลิน ฮวงด้วยแขนยักษ์ที่ป้องกันใบหน้ามัน
หลิน ฮวงรีบใช้งานท่าเท้าเมฆาทันทีและหลบการโจมตีของลิง เขาหันหลังกลับและยิงใบหน้าลิงขณะที่มันใช้แขนยักษ์ของมันเพื่อป้องกันกระสุนปืน หลิน ฮวงแสยะยิ้มอีกครั้งและกล่าว“ลาก่อน เจ้าตัวโต!”หลิน ฮวงกระโดดไปที่ทางออกกรงด้วยท่าเท้าเงาหิมะ จากนั้นเขาก็หายไปในทางเดินที่3
ลิงแขนเดียวร้องด้วยความโกรธ ส่วนที่อ่อนแอที่สุดของมันก็คือหัว ทันทีที่มันถูกโจมตีใส่หัว ปฏิกิริยาแรกของมันคือการป้องกันตัวด้วยแขนยักษ์ อย่างไรก็ตาม นั่นหมายความว่ามันจะถูกบดบังวิสัยทัศน์ หลิน ฮวงใช้โอกาสนี้เพื่อหนีไปและการต่อสู้ก็จบลงภายในเวลาไม่ถึง10วินาที
ในไม่ช้า หลิน ฮวงก็มาถึงกรงมอนสเตอร์สุดท้าย หลังจากที่ผ่านทางเดินที่3มา มันคือตัวนิ่มเกล็ดเงิน ทั้งพลังโจมตีและความเร็วของมันต่างก็อยู่ในระดับปานกลาง แต่มันเกิดมาพร้อมกับพลังป้องกันที่น่าสะพรึง เมื่อตัวนิ่มเกล็ดเงินเข้าสู่สภาพป้องกันตัวของมัน มันจะกลายเป็นลูกบอลสีเงิน แม้กระทั่งมอนสเตอร์ระดับทองขั้น41หรือ2ก็ไม่อาจทำอะไรมันได้
ปืนในมือหลิน ฮวงถูกลั่นไกอีกครั้ง เขาพยายามที่จะล่อให้มันออกไปจากทางออก แต่ทว่า เขาก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวนิ่มเกล็ดเงินจะไม่พุ่งโจมตีเขาแต่กลับม้วนเป็นลูกบอลแทน มันแม้กระทั่งกลิ้งตัวมันไปที่ทางออกและขวางกั้นทางออกจนสิ้น
“ล้อกันเล่นรึไง?”หลิน ฮวงพูดไม่ออก
เขาขมวดคิ้วและเดินเข้าไปใกล้ตัวนิ่มเกล็ดเงินก่อนที่จะเปิดฉากยิง มันยังคงอยู่ในสภาพป้องกันตัวและดูเหมือนว่ามันจะตั้งใจอยู่อย่างนั้นจนกว่าหลิน ฮวงจะยอมแพ้ เมื่อยืนมองมันข้างๆ หลิน ฮวงก็เตะมันแต่มันก็ไม่ตอบสนองอะไร
“เอาละ ได้ แกเป็นคนบังคับฉันเองนะ”จากนั้นหลิน ฮวงก็เก็บปืนทั้งสองและหยิบดาบระดับทองแดงขึ้นมา เขาเปิดใช้งานเนตรไร้ขอบเขตและเดินไปรอบๆตัวนิ่มเกล็ดเงิน เขาหยุดและแสยะยิ้ม
ดาบระดับทองแดงถูกแทงสอดเข้าไปในช่องว่างระหว่างเกล็ดมัน ตัวนิ่มเกล็ดเงินร้องออกมาและกลิ้งไปด้านข้าง ตามที่วางแผนเอาไว้ หลิน ฮวงจึงรีบออกไปจากกรงที่สาม ตัวนิ่มเกล็ดเงินจ้องมองหลิน ฮวงอย่างโกรธแค้น ดังนั้นเขาจึงลดแขนลงและขว้างดาบทิ้ง
“แกบังคับฉันเองนะ หากแกหลีกทางให้ฉัน ฉันก็คงไม่ต้องแทงตูดแก ฉันไม่ต้องการดาบนี้อีกต่อไป ถือซะว่าเป็นที่ระลึกจากฉัน”
จากนั้นหลิน ฮวงก็เดินไปที่ทางออก เมื่อนึกถึงท่าทางบนใบหน้าของตัวนิ่มเกล็ดเงิน หลิน ฮวงก็หัวเราะ ความสามารถในการป้องกันของมันถือว่าน่าทึ่ง แต่มันก็มีจุดอ่อนร้ายแรง เมื่อมันขดตัวเป็นสภาพป้องกันตัว มันจะมีช่องว่างเล็กๆระหว่างหางและตัวของมัน มันยากที่จะเห็นด้วยตาเปล่า แต่ด้วยความช่วยเหลือของเนตรไร้ขอบเขต ช่องว่างระหว่างเกล็ดจึงถูกขยาย ด้วยมุมทแยง มันจึงไม่ยากที่จะแทงดาบลงไปในช่องว่างนั้น มันคือก้นของตัวนิ่มเกล็ดเงิน ส่วนที่บอบบางและละเอียดอ่อนที่สุดของมัน รูที่หลิน ฮวงแทงไปก่อนหน้าก็คือตูดของมัน....
เมื่อเดินผ่านทางเดินสุดท้าย หลิน ฮวงก็มาถึงจุดสิ้นสุด เพียงเมื่อเขาเดินออกจากทางออก เขาก็ได้ยินเสียงจากลำโพง
“ขอแสดงความยินดีด้วย ผู้เข้าร่วมลำดับที่23 หลิน ฮวงได้ผ่านทางเดินมอนสเตอร์ที่66และผ่านการประเมินรอบที่สามแล้ว!”
ภายในสองนาทีหลังจากการประกาศว่ามอนสเตอร์ตัวแรกได้ถูกฆ่า หลิน ฮวงก็สามารถที่จะผ่านการประเมินได้
“เร็วมาก!”ผู้เข้าร่วมหลายคนร้องอุทาน แม้กระทั่งหัวหน้าผู้คุมเจียง เซินก็ยังอดที่จะเฝ้ามองดูภาพวิดิโอของหลิน ฮวงในกรงมอนสเตอร์ที่2และ3ไม่ได้ เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของตัวนิ่มเกล็ดเงินเมื่อเขาเห็นหลิน ฮวงแทงไปที่ตูดมัน
“นี่ไม่ใช่แค่ผู้ควบคุมที่ทรงพลังเท่านั้น เขายังมีความรู้เกี่ยวกับนิสัยและจุดอ่อนของมอนสเตอร์ทั้งหมดเป็นอย่างดี!ความคิดและความสามารถเองก็ใกล้เคียงกับเหล่าอัจฉิรยะ ฉันต้องแนะนำเขาให้ฝ่ายบริหาร!”เจียง เซินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ หลังจากที่อัพโหลดวิดิโอของหลิน ฮวงเสร็จสิ้น เจียง เซินก็เขียนรายงานสั้นๆและส่งมันไปยังสำนักงานใหญ่เขต7พร้อมกับคลิปวิดิโอ
ในความเป็นจริง มีคนไม่มากที่รู้ว่านอกจากการสรรหานักล่าระดับทองแดงจากการประเมินประจำปีของสมาคมนักล่าแล้ว มันยังมีการประเมินลับ หัวหน้าผู้คุมทั้งหมดจะสามารถแนะนำผู้เข้าร่วมที่พวกเขาเห็นว่าเหมาะสมแก่สำนักงานใหญ่ได้ หัวหน้าผู้คุมแต่ละคนจะมีโควต้า3สิทธิ์ หากผู้เข้าร่วมคนใดที่พวกเขาแนะนำถูกเลือก หัวหน้าผู้คุมคนนั้นก็จะได้รับรางวัลอันหรูหรา
นอกจากการจัดการกับการประเมิน ความรับผิดชอบของหัวหน้าผู้คุมก็คือการหาคนมีพรสวรรค์ให้สมาคมนักล่า อย่างไรก็ตาม มีผู้เข้าร่วมไม่มากนักที่สามารถผ่านการคัดเลือก มีจุดประเมินทั้งสิ้น180จุดในเขต7 และหัวหน้าผู้คุม5คนในแต่ละจุดประเมิน ด้วยการประเมินสองครั้งต่อปีและสามสิทธิ์แนะนำจากหัวหน้าผู้คุมแต่ละคน สมาคมนักล่าจะได้รับการแนะนำบุคลากรกว่า5000คนในเขต7 อย่างไรก็ตาม มีคนน้อยกว่า10คนที่สามารถผ่านและโดยปกติแล้วจะมีเพียง4-5คนเท่านั้นที่ผ่านการประเมินลับนี้
เมื่อรายชื่อถูกส่งไปถึงสำนักงานใหญ่ ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องก็จะทำการตรวจสอบเบื้องต้น หลังจากนั้น เอกสารก็จะถูกส่งไปให้ผู้บริหารคนอื่นๆเพื่อตรวจทาน หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จ เหล่าผู้บริหารก็จะทำการประชุมกันเพื่อตรวจทานขั้นสุดท้าย เมื่อการตรวจทานจบลง แบบคำขอสำหรับการฝึกแบบเร่งรัดก็จะถูกนำออกมา เมื่อผู้เข้าร่วมมาถึงขั้นนี้ พวกเขาจะถูกพิจารณาให้เป็นสมาชิกของกลุ่มการฝึกแบบเร่งรัด ตราบเท่าที่ผู้เข้าร่วมไม่ได้ข้องเกี่ยวกับโลกมืด พวกเขาก็จะยังคงมีสิทธิ์ได้รับการฝึกเร่งรัด
หลังจากที่ชื่อของหลิน ฮวงถูกส่ง เขาก็ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นและตรวจทาน ในฐานะที่เหล่าผู้บริหารทั้งหมดต่างก็เป็นผู้หลุดพ้น พวกเขาสามารถบอกได้ทันทีว่าไทแรนด์คือมอนสเตอร์ที่ผ่านการกลายพันธ์สองครั้ง ในทางทฤษฏี ผู้ควบคุมที่มีมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งถือเป็นคนที่คุ้มค่าแก่การฝึกเร่งรัด ในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงการตรวจทานครั้งสุดท้าย
เหล่าผู้จัดการที่มีหน้าที่รับผิดชอบทั้ง12คนของเขต7ได้มารวมตัวกัน นอกจากซู เทียนยู่ คนอื่นๆต่างก็ประชุมผ่านโฮโลแกรมทั้งสิ้น(แบบKingsmanเลย)
“คุณซู พวกเรากำลังยุ่งอยู่กับการประเมิน คุณมีเด็กที่สนใจงั้นหรอ?”หญิงสาวที่ไม่อาจคาดเดาอายุได้พูดขึ้น
“ฉันก็คิดเช่นนั้น นั่นคงเป็นเพียงเหตุผลเดียว”ชายร่างใหญ่พยักหน้า
ซู เทียนยู่นั่งบนเก้าอี้ประธานและยิ้มให้ทุกคน“ถูกต้อง มีการรับรองเด็กเข้ามา ฉันไม่อาจตัดสินได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นฉันจึงต้องการความเห็นจากทุกคน”
จากนั้น ซู เทียนยู่ก็เล่นคลิปวิดิโอของหลิน ฮวงระหว่างการประเมิน ทุกคนนิ่งเงียบหลังจากที่เฝ้าดูวิดิโอ
“แค่นี้?มีวิดิโอเพิ่มไหม?”ชายชราเคราขาวถาม
“ไม่มีแล้ว เด็กคนนี้เพียงเปิดเผยความสามารถเขาในฐานะผู้ควบคุมเท่านั้น”ซู เทียนยู่ส่ายหัว“มอนสเตอร์อัญเชิญดูเหมือนจะเป็นยักษ์แต่มันคือมอนสเตอร์ประเภทใหม่ที่ผ่านการกลายพันธ์สองครั้ง นอกจากพละกำลังที่มหาศาลแล้ว มันไม่ได้แสดงความสามารถอื่นใด”
“แล้วตัวผู้ควบคุมเองละ?มีวิดิโอการต่อสู้ของเขาหรือไม่?”บางคนถามขึ้น
ซู เทียนยู่พยักหน้าและเล่นคลิปวิดิโอของหลิน ฮวงในกรงมอนสเตอร์
“ความคิดของเขาไม่เลว ทักษะเคลื่อนไหวก็เช่นกัน จากทักษะดาบเขา ฉันสามารถเห็นได้ว่าเขามีพื้นฐานของมือปืนฝึกหัด อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นศักยภาพที่ผู้ควบคุมทุกคนควรพึงมี โดยรวมแล้ว เขาถือเป็นอัจฉริยะทั่วไป ไม่มีค่าควรต้องสนใจมาก”ชายชราเคราขาวแสดงความคิดเห็น
“ฉันไม่เห็นด้วยที่จะให้เขาเข้าร่วมกลุ่มฝึกฝนเร่งรัด ตามความสามารถของมอนสเตอร์ตัวนี้ มันไม่อาจพัฒนาได้อีก”
“แม้ว่ามอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งตัวนี้จะเป็นมอนสเตอร์ประเภทใหม่ สิ่งที่เห็นได้ก็เป็นแค่พละกำลัง มันไม่ยากที่จะบอกว่ามันเป็นเพียงมอนสเตอร์ที่พึ่งแต่พละกำลัง คล้ายๆกับยักษ์ แม้ว่ามอนสเตอร์เช่นนั้นจะสามารถไปถึงระดับหลุดพ้นได้ สติปัญญาของมันก็หยุดนิ่ง ท่ามกลางมอนสเตอร์ระดับหลุดพ้นทั้งหมด นี่ถือเป็นประเภทที่อ่อนแอที่สุด หากมันเหมือนกับมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งที่ครอบครองพลังในการควบคุมผู้คนดั่งที่เราอ่านในรายงานก่อนหน้า ฉันก็คงจะเห็นด้วยที่จะใส่รายชื่อเขาลงในกลุ่มฝึกฝนหลักสูตรเร่งรัด อย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่เราเห็นจากมอนสเตอร์ตัวนี้ มันคงจะไม่คุ้มค่า มันไม่ต่างอะไรไปกับมอนสเตอร์พิเศษที่ผ่านการกลายพันธ์หนึ่งครั้ง ฉันไม่เห็นด้วยกับการให้เขาเข้าร่วมกลุ่มฝึกฝน”
“ด้วยมอนสเตอร์ตัวนี้เพียงอย่างเดียว ฉันไม่เห็นอนาคตใดในตัวเขา ฉันไม่เห็นด้วย”หญิงสาวที่พูดก่อนหน้าส่ายหัว
“ฉันไม่เห็นด้วย!”
“ฉันไม่เห็นด้วย!”
“ฉันไม่เห็นด้วย!”
…
หลิน ฮวงถูกปฏิเสธจากทุกคนในการตรวจทานขั้นสุดท้าย ซู เทียนยู่พยักหน้า“เข้าใจแล้ว งั้นฉันก็จะลบชื่อเขาออกไป”