TWO Chapter 244 การกำราบด่านเจิ้นหนาน ตอนที่ 3
TWO Chapter 244 การกำราบด่านเจิ้นหนาน ตอนที่ 3
มีแสงเปล่งประกายขึ้นในดวงตาที่ขุ่ยมัวของหลี่อ้านไป๋ ราวกับว่าเขาสามารถมองผ่านหัวใจของโจรภูเขาหนุ่มได้ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “เจ้าหนุ่ม อย่าได้กังวลเลย ข้าอยู่ที่นี่มานับสิบๆปีแล้ว ข้ารู้เกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่ดี มีห้องลับซ่อนอยู่ในอาคารแห่งนี้ ซึ่งเราสามารถไปซ่อนตัวที่นั่นได้”
โจรภูเขาหนุ่มรู้สึกราวกับว่า ความกังวลของเขาได้รับการปลดปล่อย เมื่ออยู่ต่อหน้าชายชราผู้นี้ มันทำให้เขาลดความกังวลลง และเขาก็หัวเราออกมา “ยอมดเยี่ยม ท่านทั้ง 2 จะย้ายไปอยู่ที่นั่นเลยหรือไม่?”
“มีบางอย่างที่ข้าจะต้องเตือนเจ้า”
“เชิญท่านอดีตผู้นำกล่าว!” โจรภูเขาหนุ่มกลายเป็นจริงจังอีกครั้ง
“ข้ารู้จักและเข้าใจนิสัยของผู้นำโจรภูเขาคนใหม่ดี เขาเป็นคนฉลาดและรอบคอบ ข้ามั่นใจว่า เขาจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการหลบหนี ด่านเจิ้นหนานอยู่ภายในหุบเขาลึก และมันมีเส้นทางหลบหนีไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อเกิดวิกฤต เขาคงจะยอมแพ้ และทิ้งด่านไป” ไม่ต้องแปลกใจอะไร เพราะคนที่รู้จักคุณดีที่สุดก็คือ ศัตรูของคุณ
ใบหน้าของโจรภูเขาหนุ่มกลายเป็นซีดขาว ถ้าผู้นำโจรภูเขาหลบหนีไปได้ เขาก็จะล้มเหลวในฐานะสายลับ “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของท่าน”
หลี่อ้านไป๋กระพริบตาเป็นการตอบรับ เขาเตือนโจรภูเขาหนุ่มด้วยความเห็นแก่ตัวเล็กน้อย เพราะถ้าผู้นำโจรภูเขาหนีไปได้ มันอาจจะส่งผลร้ายต่อลูกสาวของเขา
หลังจากที่ได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว เขาก็พยายามขยับตัวมาทำบางอย่างที่ขอบเตียง จากนั้น ก็มีเสียงแตกหักดังขึ้น ก่อนที่ผนังห้องจะแยกออก เผยให้เห็นห้องลับที่ซ่อนอยู่ มันมีขนาดกว้าง 4-5 เมตร ซึ่งมีเตียงนอนและเก้าอี้อยู่ด้านใน นอกเหนือจากนั้น ก็ไม่มีอะไรอีก มันดูคล้ายๆกับห้องธรรมดาทั่วไป
เมื่อเวลาอันล้ำค่าผ่านไป เขาไม่กล้าที่จะเสียเวลาของเขากลับหลี่เฟยเซว่อีก เขารีบย้ายหลี่อ้านไป๋ไปที่เตียงในห้องลับทันที
แม้ว่าหลังจากปิดห้องลับแล้ว จะไม่สามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกได้ โจรภูเขาหนุ่มก็ยังกังวลอยู่ เขามองไปรอบๆ แล้วเก็บกวาดสถานที่ ก่อนที่จะนำกล่องอาหารที่ว่างเปล่าออกไปจากอาคาร
ก่อนจะออกไป เขาเตือนยามว่า ห้ามไม่ให้ใครเข้าไปตรวจสอบ และห้ามไม่ให้พวกเขาละเลยหน้าที่ของตน ในกรณีที่มีคนอื่นเริ่มสงสัย
ตอนนี้ ภายในใจของเขา กำลังครุ่นคิดวิธีหยุดการหลบหนีของผู้นำโจรภูเขา
ด้านนอกด่านเจิ้นหนาน ระฆังแห่งสงครามได้ดังขึ้นแล้ว
กลุ่มแรกที่จะโจมตีก็คือ เครื่องยิงหน้าไม้ 3 คันศร และกองพันทหารธนู ฝนลูกศรโค้งอย่างสวยงามบนอากาศ ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าสู่กำแพงของด่าน
ลูกศรที่ยิงออกมาจากเครื่องยิงหน้าไม้ 3 คันศร พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับมันเป็นเครื่องยิงปืน ลูกศรที่ถูกมัยิงออกมา ได้สังหารศัตรูตายในทันที
ตราบเท่าที่พวกโจรภูเขากล้าออกมาเผชิญหน้า พวกเขาก็จะถูกยิงสังหารอย่างไร้ปราณี
“เข้าที่กันบัง! เข้าที่กันบัง!” ผู้นำโจรภูเขาตะโกนออกไปขณะที่เขาหลับอยู่ใต้โล่
เมื่อได้ยินคำสั่ง พวกโจรภูเขาก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับฝนลูกศร พวกเขาตะกุกตะกักหยิบโล่ออกมาป้องกันตัวเอง และไม่สามารถยิงสวนกลับไปได้มากเท่าที่ควร
ลูกศรเปรียบดังใบมีดแห่งความตาย มันพุ่งลงมาจากบนป้องฟ้าอย่างน่าหวาดหวั่น
“ยกโล่ขึ้น!” ผู้บัญชาการทหารตะโกน
“ฮูเร่!” เหล่าทหารยกโล่ของพวกเขาขึ้น หากมองจากด้านบน มันดูราวกับว่าเป็นพื้นที่ประกอบด้วยชั้นของโล่ที่แข็งแกร่ง
ทหารบางนายโชคร้าย ที่ถือโล่ไม่ถูกต้อง มันเปิดช่องให้ลูกศรทะลวงเข้าไปในร่างของพวกเขา และสังหารพวกเขาในทันที
ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่าย กำลังยิงปะทะกัน บันไดกำแพงทั้ง 10 ก็ค่อยๆเข้าไปใกล้กำแพงอย่างช้าๆ ที่ซ่อนตัวอยู่หลังบันได้กำแพงก็คือ กองพันที่ 1 แห่งกรมทหารองครักษ์
ในขณะเดียวกัน เครื่องยิงหน้าไม้ก็เริ่มเปลี่ยนเป้าหมาย โดยเริ่มยิงลูกศรไปที่กำแพง ลูกศรขนาดใหญ่ได้ทะลวงเข้าไปในกำแพง และกลายเป็นดงลูกศรเต็มอยู่ทั่วกำแพง
ลูกศรเหล่านี้ได้สร้างเป็นบันไดลูกศร และมันเป็นสัญญาณให้ทหารโล่กระบี่ที่อยู่ด้านหลังเริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาเริ่มก้าวไปใกล้กำแพงอย่างช้าๆ
ลูกศรที่ยิงมาจากบนกำแพง ถูกหยุดโดยเครื่องป้องกันของบันไดกำแพง เมื่อพวกมันเข้าไปใกล้มากพอ พวกเขาก็เปิดกลไกให้บันไดรองถูกดันขึ้นไปเกราะเข้ากับด้านบนของกำแพง
ทหารจากกองพันทหารองครักษ์เริ่มออกมาจากที่กำบังของบันไดกำแพง และปีนขึ้นไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ พวกเขาชักกระบี่ถังออกมา คาบมันไว้ในปากของพวกเขา และใช้มือทั้ง 2 ข้างในการปีนบันไดขึ้นไป
“ท่านผู้นำ พวกเขากำลังปีนขึ้นมาแล้ว!” พวกโจรภูเขาตื่นตระหนก
“ข้าไม่ได้ตาบอด ข้ามองเห็นได้เองเว้ย” ผู้นำโจรภูเขาโกรธมาก เขารีบออกคำสั่งในทันที “เร็วเข้า ผลักดันมันออกไป และฆ่าพวกเขาซะ!”
ตะขอของบันไดกำแพงถูกออกแบบมาพิเศษ จึงเป็นเรื่องยากอย่างมากที่จะผลักดันมันออกไปได้ พวกโจรภูเขาเหล่านี้ไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมในการผลักดันบันไดกำแพง ทำให้พวกเขาแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย และเมื่อพวกเขาได้เห็นความกระหายเลือดของเหล่าทหารที่กำลังปีนขึ้นมา พวกเขาก็เกิดหวาดกลัว
“ขว้างก้อนหินใส่พวกมัน!” ผู้นำโจรภูเขาตระหนักได้ถึงความผิดพลาดทางกลยุทธ์ของเขา และเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์
“ขอรับ!” พวกโจรภูเขายกก้อนหินขึ้นก่อนที่จะขว้างพวกมันลงไป
แต่น่าเสียดาย มันสายเกินไปแล้ว
ทหารอยู่ใกล้กับด้านบนของกำแพงแล้ว ก้อนหินจึงไม่ได้ส่งผลต่อพวกเขามากนัก เมื่อเห็นเช่นนั้น ทหารที่อยู่ด้านหลังก็ใช้โอกาสนี้รีบปีนขึ้นไปให้ถึงบนกำแพง
เมื่อทหารปีนขึ้นไปถึงที่ด้านบนของกำแพง พวกเขาก็ใช้มือจับกระบี่ถัง แล้วพุ่งขึ้นไปต่อสู้กับพวกโจรภูเขา
ทหารจากกรมทหารองครักษ์ เป็นทหารที่มีประสบการณ์สูง และกองพันที่ 1 ก็เป็นทหารชั้นสูงของชั้นสูง พวกเขาแต่ละคนเป็นทหารสงครามชั้นสูงชั้น 10 เป็นอย่างน้อย ความสามารถในการฆ่าของพวกเขา เป็นสิ่งที่น่าตกใจมาก
ตำแหน่งของบันไดกำแพงทั้ง 10 ชุด กลายเป็นจุดสังหารทั้ง 10 จุด
หวังเฟิงเปิดทางเข้าสู่กำแพงก่อน
เขาสะบัดหอกและตะโกนออกไปว่า “ข้าหวังเฟิง ใครที่ไม่กลัวตายก็จงก้าวออกมา!”
“ฆ่าเขา!” ผู้นำโจรภูเขาไม่ได้ออกมาเผชิญหน้ากับเขา
“ฆ่า!” มีคนชั่วร้ายหลายคนอยู่ในหมู่โจรภูเขาเหล่านี้ พวกเขาไม่เคยกลัวอะไร เมื่อมีคนมาบอกว่าพวกเขาขลาดกลัว มันจึงทำให้พวกเขาโกรธมาก
“เฮอะ!” หวังเฟิงไม่สะทกสะท้าน เขาพุ่งออไปสู้กับเหล่าโจรภูเขา พื้นที่ด้านหน้าเขากลายเป็นพื้นที่สังหารในทันที
ในระหว่างการสู้รบที่สันเขาเอ้อซี การเลื่อนขั้นของหวังเฟิงได้เพิ่มพลังต่อสู้ให้กับเขา ไม่ว่าจะฟันหรือแทง เขาก็สามารถสังหารศัตรูได้ในทันที ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้
เขาดูราวกับเป็นอสุรา ที่คอยปกป้องพื้นที่รอบๆบันได ไม่ให้พวกโจรภูเขาเข้าใกล้ได้ ถือโอกาสนั้น เหล่าทหารองครักษ์ที่อยู่ด้านหลังก็รีบปีนขึ้นไปบนกำแพงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นขุนพลของพวกเขาแสดงทักษะของเขา กลุ่มทหารที่บ้าการต่อสู้เหล่านี้ก็ชักกระบี่ถังของพวกเขาออกมา โดยไม่สนใจเรื่องความต่างของจำนวน พวกเขาพุ่งออกไปสังหารศัตรูในทันที
ความแข็งแกร่งของทหารองครักษ์ทำให้เหล่าโจรภูเขาหวาดกลัว
เมื่อมีจุดหนึ่งถูกทำลาย จุดอื่นๆก็เริ่มที่จะถูกทำลาย
ทหารที่ที่อยู่บนบันไดอื่นๆเริ่มไต่ไปถึงด้านบนกำแพง และได้ต่อสู้กับพวกโจรภูเขา
เมื่อเฆ้นว่าพวกเขาเริ่มจะป้องกันไม่ได้ ผู้นำโจรภูเขาก็สั่งให้พวกโจรภูเขาที่ขว้างก้อนหินกลับมาช่วยพวกเขาต่อสู้กับเหล่าทหาร
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่า ทหารโล่กระบี่กำลังรอโอกาสนี้อยู่ ภายใต้การนำของเหล่านายทหาร พวกเขาปีนขึ้นไปบนกำแพงด้วยบันไดกำแพงหรือไม่ก็บันไดลูกศร เพื่อไปช่วยเพื่อนทหารของพวกเขา
ในช่วงเวลานี้ ด่านเจิ้นหนานได้กลายเป็นสถานที่แห่งการสังหาร และมีเลือดไหลนองพื้นอย่างไม่มีสิ้นสุด
เมื่อทหารโล่กระบี่ประสบความสำเร็จในการปีนขึ้นไปบนกำแพง มู่กุ้ยหยิงก็ได้สั่งให้ทหารราบเกราะหนักของเมืองซานไห่ ไปทำลายประตูด่าน
เมื่อซีฮูได้รับคำสั่ง เขาก็ตะโกนออกไป “พี่น้องบุก!”
“บุก!!!” เหล่าทหารที่เป็นนักรบคนเถื่อนภูเขายกโล่ของพวกเขาขึ้น และผลักดันเครื่องกระทุ่งไปที่ประตูด่าน
“ฮ่อง!” ขณะที่เครื่องกระทุ่งพุ่งไปกระแทกเข้ากับประตู มันได้ทำให้เกิดเสียงดังราวกับแผ่นดินไหว กระจายออกไปทั่วทั้งด่าน
“เฮ้!!!” ทหารตะโกนเป็นสัญญาณ และดึงเครื่องกระทุ้งกลับหลัง ก่อนที่จะผลักดันมันไปกระแทกที่กระตูอีกครั้ง
แม้ว่าประตูจะถูกปกคลุมด้วยเหล็ก แต่ภายใต้การกระแทกของเครื่องกระทุ้ง มันก็เริ่มที่จะมีเสียงแตกหักดังขึ้น
คนเถื่อนภูเขามีชื่อเสียงเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย เครื่องกระทุ้งที่พวกเขาผลักดันออกไป มีแรงกระแทกมากกว่า 5 ตัน
“ตั้งงง!!!” ประตูได้ถูกทำลายในที่สุด
ด่านเจิ้นหนานมีประตูทั้งสิ้น 3 ชั้น เมื่อชั้นนอกสุดถูกทำลาย พวกเขาก็ยังคงมีประตูอีก 2 ชั้น โชคดีที่เหล่าทหารพุ่งเข้าไปในช่องว่างและเปิดทางให้เครื่องกระทุ้ง มันจึงสามาระเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
“เฮ้!เฮ้!เฮ้!” เสียงตะโกนดังขึ้นจากประตูทางเข้าราวกับแผ่นดินไหว ทำให้พวกโจรภูเขาที่อยู่ด้านในหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เมื่อผู้นำโจรภูเขาได้ยินเสียงดังกล่าว เขาก็ขมวดคิ้ว เขาเงยหน้ามองไปเห็นกองกำลังของศัตรูจำนวนมาก ได้วิ่งไปทั่วบนกำแพง และแม้ว่าจะมีกำลังทหารเพียงครึ่งหนึ่งของพวกเขา เหล่าศัตรูก็ยังคงได้เปรียบ
ในทางกลับกัน พวกโจรภูเขาเริ่มที่จะหวาดกลัว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถปกป้องกำแพงได้อีกต่อไป
“เฮ้อ” ผู้นำโจรภูเขาถอนหายใจยาว และค่อยถอยหนีตามแผนการหลบหนีของเขา
ในขณะนั้นเอง ประตูชั้นที่ 2 ก็ถูกทำลาย
ในเวลานี้ ซีฮูมี 2 ทางเลือก ทางเลือกแรกก็คือ ปีนขึ้นไปบนกำแพงผ่านทางเดินในประตูชั้นที่ 2 เพื่อเข้าช่วยกองกำลังฝ่ายของเขา อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ ดำเนินการบุกทะลวงประตูชั้นที่ 3 และปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของพวกโจรภูเขา
ซีฮูพิจารณาทางเลือกนี้สั้นๆ และเริ่มที่จะคิดแผน เขาส่งทหารไปรายงานสถานการณ์ต่อผู้บัญชาการ สุดท้าย เขาก็ให้ทหาร 1 กองร้อยไปทะลวงประตูชั้นที่ 3 ในขณะที่เขานำกองกำลังที่เหลือขึ้นไปบนกำแพง
เมื่อได้รับรายงาน มู่กุ้ยหยิงก็ขมวดคิ้ว มันไม่ฉลาดเลยที่เลือกเช่นนี้
ในขณะนั้นเอง ก็มีผลุสัญญาณถูกยิงขึ้นภายในด่านเจิ้นหนาน
มู่กุ้ยหยิงประหลาดใจ เธอรู้ว่านี่เป็นสัญญาณจากสายลับ ซึ่งมันหมายความว่ามีเหตุฉุกเฉิน
เธอไม่ลังเลเลย นอกจากทหารม้า 1 กองร้อยแล้ว เธอสั่งให้ทหารม้าที่เหลือ 4 กองร้อย ไปที่ประตูด้านหลัง เพื่อตัดเส้นทางหลบหนีของศัตรู
โอหยางโชวและมู่หลานเยว่ยืนอยู่ที่ด้านข้าง และไม่ได้กล่าวคำใดๆ พวกเขาเชื่อในความสามารถของเธอ
กองพันทหารม้าคิดว่าพวกเขาคงจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการสู้รบครั้งนี้แล้ว เมื่อพวกเขาได้รับคำสั่ง เลือดของพวกเขาก็เดือดพล่าน และรีบวิ่งไปที่ประตูด่าน พร้อมกับม้าของพวกเขาในทันที
ในขณะที่ด่านเปิดโล่ง พวกโจรภูเขาไม่สามารถยิงสกัดคนที่บุกเข้าไปได้ เนื่องจากพวกเขากำลังพัวพันกับการสู้รบที่วุ่นวายบนกำแพง มันทำให้ทหารม้าบุกเข้าไปได้อย่างราบรื่น
หลังจากนั้นไม่นาน ประตูชั้นที่ 3 ก็ถูกทำลาย กองพันทหารม้าบอกให้ทหารราบเกราะหนักเปิดทางให้พวกเขาผ่านเข้าไปในประตู แล้วรีบมุ่งไปทางใต้เพื่อปิดเส้นทางหลบหนีของศัตรู
แฟนเพจ : TWOแปลไทย