ตอนที่แล้วบทที่ 44: เรื่องราวในอดีต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 46: ครั้งแรกกับเสลี่ยง

บทที่ 45: จับภูติผี


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

====================

บทที่ 45: จับภูติผี

“ไร้สาระ!” ฉิงเฟิงซีตำหนิอย่างรุนแรง “ถ้าหากเจ้ากำลังกล่าวถึงพรสวรรค์ หลานชายของข้านับว่าอยู่ในขั้นเลวร้ายที่สุด เขามีธาตุทั้งห้าองค์ประกอบอยู่ในตัวเท่ากัน แต่เจ้าลองมองดูเขาสิ ในตอนนี้เขาอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นสี่หรือห้า อายุของเขาเพียงแค่ยี่สิบปีเท่านั้น! เจ้าฝึกตนมานานกว่าร้อยปีแต่กลับไม่มีจุดยืนของตน!”

“เรื่องนั้น…” หวังฉีหวู่อึ้งไปครู่หนึ่งพร้อมกล่าวต่อ “อาจารย์ เรื่องนั้นเป็นไปได้อย่างไร? พรสวรรค์ที่น่าต่ำต้อยเช่นนั้น แต่เขากลับฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วเช่นนั้น?

เจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาแทบเป็นลมในขณะที่หัวเราะออกมาอย่างขื่นขม “ศิษย์พี่ เช่นนี้จะกล่าวว่ารวดเร็วได้อย่างไร? เหล่าอัจฉริยะเข้าสู่ระดับเซียนเทียนโดยใช้เวลาไม่กี่ปี และเข้าสู่ระดับปฐมภูมิด้วยอายุเพียงยี่สิบกว่าเท่านั้น!”

“โอ้ อย่าบอกข้านะว่าปราณจิตวิญญาณในเทือกเขานั่นมันแสนวิเศษขนาดนั้น?” หวังฉีหวู่กล่าวอย่างงุนงง “อาจารย์ นี่คือเหตุผลที่ศิษย์ของท่านมิอาจก้าวสู่ความสำเร็จได้ใช่หรือไม่?”

“เฮ้อ แน่นอนว่าปราณจิตวิญญาณเป็นปัจจัยที่สำคัญ แต่เจ้ายังเกียจคร้านเช่นนี้คงมิอาจหวังได้ว่าจะเข้าสู่ระดับปฐมภูมิ!” ฉิงเฟิงซีกล่าวอย่างอับจนหนทาง

“โอ้ แล้วถ้าข้าฝึกตนอย่างหนักตั้งแต่ตอนนี้ล่ะ?” หวังฉิงหวู่รีบถาม

“มันสายเกินไปแล้ว เจ้าโง่!” ฉิงเฟิงซีตวาด “เจ้าเสียเวลาไปหลายปี มันไม่ใช่แค่การฝึกตนเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือลัทธิเต๋าภายในใจ เจ้ามิได้มีหัวใจให้แก่เต๋าอีกแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะฝึกหนักให้ตายตกไป มันก็ไร้ประโยชน์!”

“เหอะ หากเป็นเช่นนั้น ท่านจะว่าอะไรข้าได้อีก ในเมื่อเดินในหนทางไหนก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้น! ข้าจะใช้ชีวิตแสวงหาความอภิรมย์ต่อไป!” หวังฉิงหวู่บ่นออกมา

“เฮ้อ!” ฉิงเฟิงซี สิ้นคำพูดกับศิษย์ผู้นี้โดยสมบูรณ์ เขาส่ายศีรษะพร้อมหันไปหาเจ้าอ้วน “ซ่งน้อย เจ้าอย่าเอาเขาเป็นแบบอย่าง แน่นอนข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่เดินตามคนเช่นนั้น!”

“แน่นอน ศิษย์ผู้นี้เข้าใจขอรับ!” เจ้าอ้วนกล่าวตอบอย่างสุภาพ

“อา ประเสริฐนักที่เจ้ารู้แจ้ง!” ฉิงเฟิงซีกล่าวต่อ “หากข้าจะบอกว่าวัดเสวียนเทียนแห่งนี้ ปราณจิตวิญญาณของมันไม่ค่อยหนาแน่นนัก แต่มันเป็นสถานที่ที่เงียบสงบอย่างมาก ไร้การรบกวนใด ๆ มันจะทำให้เจ้าฝึกตนได้อย่างสงบ!”

“ขอรับ!” เจ้าอ้วนยิ้มกว้างพร้อมถามกลับ “อาจารย์ลุง ในสถานที่แห่งนี้พวกเรามีกิจธุระอันใดต้องกระทำบ้าง?”

“อา ตอนนี้ยังไม่มีสิ่งใดต้องทำ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เจ้าสามารถให้ศิษย์พี่ของเจ้าดูแลมันได้!” ฉิงเฟิงซีกล่าว

“เอ่อ อาจารย์ ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!” หวังฉิงหวู่ตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจทันที “เรามีกิจมากมายในที่แห่งนี้ อีกทั้งต้องค้นหาผู้คนที่มีพรสวรรค์ในการฝึกตนและต้องติดตามสถานที่ที่เหล่าผู้ฝึกตนใช้กัน และยังต้องดูแลกิจการขนาดใหญ่ของแคว้นหลานเย่ว์ หลายสิ่งหลายอย่างของเรายังไม่เพียงพอ! นี่เป็นเหตุผลที่เราขอความช่วยเหลือจากสำนัก! ในตอนนี้มีคนถูกส่งมาที่นี่แต่ท่านกลับบอกเขาว่าไม่มีสิ่งใดให้ทำ อย่าบอกข้านะว่าท่านต้องการเห็นคนตายตกไปเพราะความเหนื่อยล้า?”

“เหอะเหอะ!” หลังจากได้ยินเช่นนั้น ฉิงเฟิงซีอับอายทันที จริงอยู่แม้ว่าหวังฉิงหวู่จะเป็นคนหยาบคาย แต่เขาทราบดีว่าเขามีสิทธิ์จะพูด มีหลายสิ่งที่ต้องทำในสถานที่แห่งนี้ มิเช่นนั้นพวกเขาไม่ขอความช่วยเหลือจากสำนัก แต่ฉิงเฟิงซีรู้สึกไม่ดีหากต้องใช้งานลูกชายของเพื่อนรัก เขาไม่เต็มใจหากกิจทางโลกมารบกวนการฝึกตนของเจ้าอ้วน ในตอนนี้เขากำลังตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

สิ่งที่ดีคือเจ้าอ้วนเป็นคนที่มีเหตุผลมาก เมื่อมองเห็นว่าฉิงเฟิงซีอึดอัดใจ เขาลุกขึ้นพร้อมกล่าวว่า “อาจารย์ลุง เนื่องจากข้ามาที่แห่งนี้เพื่อทำภารกิจ ข้าจะไม่ยอมอยู่ว่างหากศิษย์พี่ของข้ายังยุ่งมาก ตราบใดที่ข้าพอจะช่วยได้ ข้าหวังว่าอาจารย์ลุงจะไม่ขัดขวางการทำงาน!”

“เฮ้อ!” ฉิงเฟิงซีถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า “หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะให้เจ้าทำหน้าที่ของเจ้า! อย่างไรก็ตาม หวังฉิงหวู่ศิษย์น้องของเจ้านั้นไร้ประสบการณ์ เจ้าต้องมอบหมายงานง่าย ๆ ให้กับเขาและห้ามยุ่งเกี่ยวกับเวลาฝึกตนของเขา เข้าใจหรือไม่?”

“ขอรับ เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน ข้าจะดูแลศิษย์น้องอย่างดี!” หลังจากหวังฉิงหวู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาตอบกลับ “ศิษย์น้องยังคงเป็นมือใหม่สำหรับที่แห่งนี้ เมื่อคิดดูแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาทำสิ่งใดที่ซับซ้อนเกินไป เราคุ้นเคยกับสิ่งที่กระทำมาก่อนและคงไม่สบายใจหากมอบมันทั้งหมดให้เขา เหตุใดเราจึงไม่จัดการเรื่องจิปาถะอย่างในแคว้นหลานเย่ว์!”

“เรื่องจิปาถะในแคว้นหลานเย่ว์?” เจ้าอ้วนถามอย่างงุนงง “ข้าขอถามศิษย์พี่ได้หรือไม่ ว่าสิ่งใดคือเรื่องจิปาถะที่เราต้องทำในวัดเสวียนเทียน?”

“อา เจ้าไม่สามารถกล่าวเช่นนั้นได้ แคว้นหลานเย่ว์ตั้งอยู่หลังเขาของวัดเสวียนเทียน เขาให้ความช่วยเหลือเราอย่างมากมาย ดังนั้นเมื่อมีปัญหาบางอย่าง เราจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อคำขอของเขาได้ เข้าใจหรือไม่?” หวังฉิงหวู่หัวเราะออกมา

“โอ้ นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับศีลธรรมด้วย แต่อย่างไรแล้วมันก็เป็นเรื่องของปุถุชน แล้วเหตุใดผู้ฝึกตนเช่นเราต้องเข้าไปยุ่มย่ามอีก?” เจ้าอ้วนตั้งคำถาม

“ฮ่าฮ่า เหตุเพราะว่าบางสิ่งอย่างมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถแก้ไขได้ เขาจึงต้องพึ่งพาเราไปโดยปริยาย!” หวังฉิงหวู่หัวเราะพร้อมกล่าวต่อ “ตัวอย่างเช่นบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านมีผีมาสิงสู่ เป็นหน้าที่สำคัญของเรา และมันไม่เหมาะสมหากข่าวดังกล่าวถูกแพร่กระจายออกไป มันจะทำให้หัวใจของผู้คนหวาดระแวงและทำให้ชื่อเสียงของแคว้นเสียหาย ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่สำคัญของเราที่ต้องยื่นมือเข้าไปช่วย แต่เราทุกคนในที่แห่งนี้มีงานต้องทำและไม่มีเวลาเกี่ยวกับเรื่องนั้น นับตั้งแต่ศิษย์น้องมาอยู่ที่นี่ เหตุใดเจ้าจึงไม่เป็นคนตัดสินเรื่องนี้เสียเลยล่ะ?”

“จับภูติผี? สิ่งนี้แปลกใหม่เหลือเกิน ข้าไม่เคยทำมันมาก่อน” เจ้าอ้วนถามต่อ “งั้นข้าสามารถทำสิ่งใดได้บ้าง?”

“ฮ่าฮ่า แน่นอนว่าไม่มีปัญหา!” หวังฉิงหวู่หัวเราะออกมา “แท้จริงแล้วภูติผีที่มนุษย์เรียกกันเป็นเพียงวิญญาณที่ยังคงเหลืออยู่เท่านั้น สิ่งนั้นสามารถทำให้ปุถุชนธรรมดาหวาดกลัวได้ แต่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเหล่าผู้ฝึกตน เว้นเสียแต่ว่าเป็นภูติของเหล่าผู้ฝึกตนเสียเอง สิ่งนั้นคือภัยคุกคาม ส่วนของภูติผีธรรมดาเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนสามารถชำระได้!”

“อา ไม่เลว!” ฉิงเฟิงซีกล่าว “เพียงแค่ภูติป่า แม้แต่มนุษย์ธรรมดายังสามารถจัดการมันได้ แต่ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนเช่นเจ้า เป็นการดีหากเจ้าได้ลองสัมผัสมันสักครั้งเพื่อเป็นประสบการณ์!”

“ขอรับ!” เจ้าอ้วนตอบกลับอย่างผ่อนคลายในขณะที่เจ้าฟังอาจารย์ลุงกล่าว “ข้าจะปฏิบัติตามคำแนะนำของอาจารย์ลุง!”

“อา!” ฉิงเฟิงซีพยักหน้าของเขา พร้อมหันไปพูดกับหวังฉิงหวู่ “เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าจงให้คำแนะนำเขาด้วย!”

“ขอรับอาจารย์!” หวังฉิงหวู่ตอบกลับและเขาทั้งสองได้เดินออกมา

หลังจากที่พวกเขาออกจากถ้ำ หวังฉิงหวู่เดินและอธิบายวัฒนธรรมของผู้คนที่นี่ให้เจ้าอ้วนฟัง เขามักจะเป็นคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนนอกวัดพวกนั้น พอได้เห็นเจ้าอ้วนให้ความสนใจจึงอธิบายออกไปอย่างน้ำไหลไฟดับ

 

 

หลังจากหวังฉิงหวู่อธิบายไปพอสมควร เจ้าอ้วนเริ่มเข้าใจสถานการณ์มากยิ่งขึ้น หลังจากทั้งคู่ได้กลับมาแล้ว หวังฉิงหวู่กล่าวกับเจ้าอ้วนว่า “ศิษย์น้อง เนื่องจากนี่คือครั้งแรกของเจ้า ข้าควรมอบหมายงานที่เหมาะสมแก่เจ้า แต่บ้านของเหล่าผู้สูงศักดิ์ของมนุษย์กำลังถูกภูติผีคุกคาม ซึ่งสถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก พวกเขามาหาเราเป็นครั้งที่สามแล้ว ถ้าหากเราไม่ไปแน่นอนว่าคงไม่เกิดผลดี ดังนั้นข้าจะขอให้เจ้าลำบากสักนิดนึงเพื่อการเดินทางที่รวดเร็ว มันไม่น่าใช้เวลาอะไรมากนัก”

“ไม่มีปัญหา ข้าก็อยากจะเดินทางไปที่นั่นอย่างรวดเร็วที่สุดและดูว่าผีที่ว่านั่นมีลักษณะเช่นไรกันแน่” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างสบายใจ

“หากเป็นเช่นนั้นข้าคงต้องเดือดร้อนศิษย์น้องแล้ว!” หวางฉิงหวู่หัวเราะพร้อมกับกล่าวออกมา “โปรดรอสักครู่ ข้าจะไปบอกผู้ช่วยให้เตรียมเสลี่ยง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด