ตอนที่ 165 ความจริงเกี่ยวกับการประเมินรอบ2
กล่องคริสตัลวัชพืช50กล่องถูกเอาไปโดยหลิน ฮวงและอีก6คน หลิน ฮวงได้รับมากที่สุด ขณะที่เด็กสาวผมหางม้าได้รองลงมา ท้ายที่สุดหลิน ฮวงก็รู้ชื่อของเธอ ชื่อของเธอคือ เซี่ย หยู
เมื่อนึกว่าเซี่ย หยูต้องการที่จะขายคริสตัลวัชพืชก้อนละ100คริสตัลชีวิต หลิน ฮวงก็คิดว่ามันช่างไร้สาระ คริสตัลชีวิตหนึ่งก้อนก็เพียงพอที่จะซื้ออุปกรณ์ระดับเงิน2-3ชิ้นแล้ว แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงคนเดียวที่ครอบครองคริสตัลวัชพืช แต่ก็ไม่มีใครจะซื้อมันจากเธอด้วยราคานั้นเว้นแต่มันจะเป็นการทดสอบรอบสุดท้ายสำหรับนักล่าระดับทองแดง อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่กับรอบสองของการประเมินและแม้ว่าพวกเขาจะผ่านรอบสองไป ความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะผ่านรอบอื่นก็ยังไม่แน่ชัด
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้ง7คนต่างก็ครอบครองคริสตัลวัชพืชและผู้คนก็จะกำหนดราคาได้ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถขายคริสตัลวัชพืชได้ในราคาที่สูงนักและสามารถขายได้เพียงก้อนละ1หรือ2คริสตัลชีวิต อย่างไรก็ตาม หลิน ฮวงพอใจกับสิ่งที่เขาจะได้แล้ว เขาได้รับคริสตัลชีวิตมาบางส่วนและไม่มีใครรู้ว่าเขานั้นอยู่เบื้องหลังของการสังหารหมู่
หัวหน้าผู้คุม โจว หลิน ประหลาดใจเมื่อผู้เข้าร่วมกว่า5000คนได้แสดงตัวขึ้นที่สมาคมนักล่าพร้อมกับคริสตัลวัชพีชในมือ ในไม่ช้า เขาก็ได้ยินเกี่ยวกับการสังหารหมู่ในปราสาทไฮน์เซ็นจากผู้เข้าร่วมบางส่วน จากนั้นเขาก็รายงานต่อฝ่ายบริหารและให้พวกเขาติดตามเหตุการณ์นี้
48ชั่วโมงผ่านไป หัวหน้าผู้คุม โจว หลินมองคนทั้ง5600คนและเริ่มพูด
“นอกจากคำใบ้ที่ฉันได้มอบให้ในรอบสองของการประเมิน ข้อมูลส่วนที่เหลือคือของปลอม รวมถึงคริสตัลสีดำ5000ก้อนที่จะมีการสลักสัญลักษณ์ของฉันลงไป มันก็เพื่อป้องกันพวกคุณจากการโกง ฉันเชื่อว่ามีบางคนในหมู่พวกคุณคิดออกถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของภารกิจนี้แล้ว.
“อย่างแรกคือความสามารถในการจัดการกับข้อมูล นักล่าที่โดดเด่นควรจะมีความสามารถในการแยกแยะข้อมูลว่าเป็นจริงหรือปลอม แทนที่จะหน้ามืดตาบอดหลงเชื่อในสิ่งที่ทุกคนกล่าว แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นหัวหน้าผู้คุมก็ตาม”
“อย่างที่สองคือความสามารถในการล้วงข้อมูล มีหลายวิธีที่จะล้วงข้อมูล เครือข่ายหัวใจและเพจนักล่าต่างก็เป็นตัวหลักที่ใช้เพื่อหาข้อมูล อย่างไรก็ตาม มีหลายครั้งที่นักล่าจะต้องพึ่งพาหนทางอื่นเพื่อให้ได้รับข้อมูล ในการประเมินนี้ มีเพียงสองคนที่สามารถได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง พวกเขาก็คือหลิน ฮวงและเซี่ย หยูขณะที่คนอื่นๆนั้นไม่ผ่าน”
“อย่างที่สาม ความสามารถในการทำงานร่วมกัน ฉันเลือกภารกิจที่เป็นไปไม่ได้เพียงลำพัง มันไม่ได้หมายถึงการเข่นฆ่า แต่เป็นการให้พวกคุณได้รับสิ่งของโดยการทำงานร่วมกัน แต่ทว่า เนื่องจากเหตุการณ์นี้ เป้าหมายจึงไม่ลุล่วง”
“อย่างไรก็ตาม โคถือเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมดนี้ เพราะฉะนั้น พวกคุณทุกคนที่มีคริสตัลสีดำจะถือว่าผ่านการประเมิน....”
หลายคนที่เป็นกังวลรู้สึกโล่งใจเมื่อพวกเขาได้ยิน พวกเขาหลายคนคิดว่าผลการประเมินจะผิดไปเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“แต่ทว่า มันยังเร็วเกินไปที่จะดีใจ นี่เป็นเพียงรอบสองของการประเมิน ไม่มีใครรู้ว่าจะมีกี่คนที่ผ่านรอบต่อไปนี้”โจว หลิน ยิ้ม
สิ่งที่เขากล่าวก็เหมือนกับการสาดน้ำเย็นลงบนหน้า เนื่องจากรอบสองของการประเมินก็ยากพอแล้ว พวกเขาหลายคนจึงกังวลว่าพวกเขาจะสามารถผ่านรอบต่อไปได้หรือไม่
“ฉันขอแจ้งให้ทุกคนทราบในนามของหัวหน้าผู้คุมของการประเมินรอบที่สาม ที่พวกคุณทุกคนจะต้องมารวมตัวกันที่สมาคมนักล่าตอน8โมงเช้าในวันพรุ่งนี้ จะมีคนมาพาพวกคุณทุกคนไปยังจุดประเมิน อย่าสาย คุณจะถูกตัดสิทธิ์หากมาสาย”หลังจากที่แจ้งข่าวการประเมินรอบสาม โจว หลินก็เคาะโต๊ะด้วยไม้เท้าของเขา“เอาละ นั่นคือทั้งหมด ออกไปกันได้แล้ว”
จากนั้นผู้เข้าร่วมทั้ง5600คนก็ออกไปจากสมาคมนักล่า หลังจากที่พวกเขาออกไป หัวหน้าผู้คุมรอบแรก ซู จั่นเพิงก็ปรากฏตัวอีกครั้ง
“ฉันคิดว่านายจะให้ผ่านเฉพาะเด็กสองคนนั้นเสียอีก”ซู จั่นเพิงหัวเราะ
“ฉันให้เวลาพวกเขา48ชั่วโมง แต่เด็กสองคนนี้กลับสามารถหาข้อมูลได้ภายใน2ชั่วโมง พวกเขาอัจฉริยะ แต่ทว่า นั่นไม่ได้หมายความว่าคนที่เหลือจะไม่สามารถหาข้อมูลได้ภายใน48ชั่วโมง”โจว หลินหัวเราะขณะที่อธิบาย
“อย่างไรก็ตาม หากเหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้น อัตราการผ่านคงจะเป็น0 มันเสี่ยงเกินไปที่นายกำหนดภารกิจเช่นนี้”ซู จั่นเพิงส่ายหัว เขาไม่เห็นด้วยกับวิธีการประเมินของโจว หลิน
“เพื่อนซู ดูเหมือนว่านายจะยังไม่รู้จักฉันดีนะ”โจว หลิน หัวเราะ“การประเมินนี้จะจบลงเมื่อผู้เข้าร่วมเดินออกจากตลาดมืด มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะสามารถหาวัชพืชได้หรือไม่ นายเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันจริงๆ?ฉันเคยเป็นสายลับ ฉันไม่เคยทำงานร่วมกับใครมาก่อน”
“ไอสุนัขเฒ่า นายมันมักจะโกหกเสมอ”ซู จั่นเพิงไม่คาดว่าเขาจะถูกหลอกโดยโจว หลิน
“เอาละ มาคุยเรื่องงานกันเถอะ เกิดอะไรขึ้นที่ปราสาทไฮน์เซ็น?”โจว หลินถาม ซู จั่นเพิงคือคนที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาขมวดคิ้ว“เราไม่อาจแกะรอยผู้ทำเช่นนี้ได้ มันเป็นงานที่สะอาดหมดจดและไม่อาจระบุตัวคนร้ายได้ มันอาจจะมีหนึ่งคน สองคนหรือสามคนที่กระทำเช่นนี้ นอกจากนี้มันอาจจะเป็นฝีมือของผู้ควบคุมที่มีมอนสเตอร์ในการปกครองหลายตัว”
“มีสถานการณ์ที่เป็นไปได้สามประการเกี่ยวกับคดีนี้ พวกเขาถูกตัดโดยดาบ ถูกเผาด้วยไฟหรือพวกเขาอาจจะฆ่าตัวตาย”
“พวกเราสามารถคาดเดาได้ว่าคนที่ลงมือจะต้องเป็นปรมาจารย์ดาบ ผู้ใช้ธาตุไฟ และแม้กระทั่งผู้ใช้ภาพลวงตาและทักษะควบคุมจิตใจ”
“มันสามารถเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วม?เวลาดูเหมือนจะตรงกับการประเมินนักล่าพอดี เราอาจจะมองข้ามไป”โจว หลิน แนะนำ
“นายคิดมากเกินไป มองดูร่องรอย ฆาตกรได้ฆ่ามนุษย์ระดับเงินด้วยการโจมตีเดียว แม้กระทั่งผู้พิทักษ์ระดับทองขั้น3ก็ยังถูกฆ่าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว นี่หมายความว่า ฆาตกรจะต้องมีระดับทองขั้น3เป็นอย่างน้อย ไม่มีผู้เข้าร่วมคนใดที่อยู่ในระดับเงิน พวกเขาจะทำเช่นนั้นได้ยังไง?แม้ว่าพวกเขาอาจจะเป็นผู้ควบคุม แต่มอนสเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดที่พวกเขามีก็จะเป็นระดับเงินขั้น3 พวกเราต่างก็เป็นระดับทองขั้น3 ทำไมเราจึงต้องเกรงกลัวมอนสเตอร์ระดับเงินขั้น3ด้วยละ?”ซู จั่นเพิงส่ายหัวลยิ้ม
“หากฉันเผชิญกับมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้ง ฉันคงจะกลัว”โจว หลินเงียบไปก่อนที่จะตอบกลับ
“มอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้ง?นายคิดว่าเด็กๆเหล่านี้จะสามารถควบคุมมอนสเตอร์เช่นนั้นได้?”ซู จั่นเพิงยืนยันว่าโจว หลินคิดมากเกินไป
“เอาละ นายยังไม่เห็นถึงการลงมือของฆาตกร ฆาตกรจะต้องเป็นคนที่ทรงพลังอย่างมาก แต่กระทั่งฉันก็ไม่อาจทำเช่นนั้นได้”
“งั้นฉันก็อาจจะคิดมากเกินไป...”โจว หลินส่ายหัวและสะบัดไล่ความกังวลไป
...
หลิน ฮวงไม่ได้ยินบทสนทนาระหว่างโจว หลินและซู จั่นเพิง หากเขาได้ยินพวกเขาคุยกัน เขาคงจะกังวลเพราะการวิเคราะห์ของโจว หลินนั้นใกล้เคียงกับความเป็นจริงมาก เมื่อการประเมินรอบ2จบลง หลิน ฮวงคิดว่าการประเมินนั้นมันยากกว่าที่เขาจินตนาการไว้ เขาคิดว่าการประเมินจะเพียงแค่ตรวจสอบความสามารถของพวกเขาและพวกเขาก็จะผ่าน เขาไม่คิดว่าจะมีกับดักที่คาดเดาไม่ได้ทุกหนแห่ง
หัวหน้าผู้คุมเกือบทั้งหมดได้ตั้งเนื้อหาการประเมินตามแบบฉบับพวกเขา นั่นทำให้การประเมินคาดเดาไม่ได้ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าหัวหน้าผู้คุมจะไร้สาระได้แค่ไหน
“หวังว่าหัวหน้าผู้คุมของรอบต่อไปจะไม่เป็นคนเพี้ยนๆ หากพวกเขาเป็นเหมือนกับหัวหน้าผู้คุมรอบสอง อัตราการผ่านคงจะยากยิ่งกว่าเดิม..”หลิน ฮวงกล่าวอย่างกังวล