เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 198 เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากภัยพิบัติ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 198 เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากภัยพิบัติ
"ฟางหยวน เจ้ากำลังทำสิ่งใด?"
"หยุด! ศัตรูอยู่ตรงหน้า แล้วพวกเราจะสามารถต่อสู้กันเองได้อย่างไร?"
"หยุดเดี๋ยวนี้! มิฉะนั้น...อา..."
ทุกคนตกใจกับการสังหารหมู่ที่ชั่วร้ายและป่าเถื่อนของฟางหยวน
"ข้าจะสังหารเฉพาะสมาชิกตระกูลแสงจันทร์ คนนอกหุบปาก มิฉะนั้นข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด!" ฟางหยวนคำรามเสียงดัง
ทุกคนตะลึงและเร่งล่าถอย ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าฟางหยวนจะกลายเป็นบ้าคลั่งได้เช่นนี้
"ฟางหยวน เจ้าบ้าไปแล้ว!"
"เขาเสียสติไปแล้ว โจมตีเขาพร้อมกัน!"
"มันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร? กระทั่งก่อนที่ท่านบรรพชนรุ่นแรกจะสามารถกำจัดศัตรู พวกเราก็อาจถูกสังหารโดยฟางหยวนไปเรียบร้อยแล้ว"
การเคลื่อนไหวของฟางหยวนทำให้ทุกคนกลายเป็นแตกตื่น แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าโจมตีเขาจริงๆ ทุกคนทำได้เพียงกรีดร้องและกระตุ้นให้คนอื่นต่อสู้เท่านั้น
"ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนใจ" ไป่หนิงปิงหัวเราะเสียงดังก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีและสังหารผู้คนรอบข้าง
"ท่านไป่หนิงปิง! ท่าน!" คนที่ถูกฆ่าคือสมาชิกตระกูลไป่
"โอ้ ไม่ ท่านไป่หนิงปิงก็บ้าไปแล้วเช่นกัน" ทุกคนตะโกน
ฟางหยวนหรี่ตามองไป่หนิงปิง
แต่ไป่หนิงปิงกลับหัวเราะ "เมื่อเจ้าสามารถสังหารสมาชิกตระกูลเดียวกัน แล้วข้าจะพ่ายแพ้เจ้าได้อย่างไร ตั้งแต่ผู้คนมากมายตกตายไป อนาคตของตระกูลไป่ก็จบสิ้นแล้ว แม้แต่ผู้นำตระกูลไป่เองยังไม่รอด ดังนั้นข้าจะตอบแทนบุญคุณเขาด้วยการทำให้ทุกคนสามารถตายอย่างสบายๆ ฮ่าฮ่าฮ่า"
"ฮ่าฮ่าฮ่า ดี!" ฟางหยวนหัวเราะเสียงดังก่อนจะเริ่มการสังหารหมู่อีกครั้ง
ไม่ว่าอย่างไรผู้คนเหล่านี้ก็ต้องตายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นมันจะดีที่สุดหากพวกเขาตายในมือฟางหยวนและช่วยเพิ่มพรสวรรค์ให้กับเขา
ผู้คนที่อยู่ด้านในกำแพงเลือดไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวนกับไป่หนิงปิง โดยเฉพาะเมื่อไป่หนิงปิงกำลังจะตาย ความแข็งแกร่งของเขาก็ยิ่งปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขากระทั่งสามารถสังหารผู้คนได้มากกว่าฟางหยวนอีกด้วย
ฟางหยวนสังหารและดูดเลือดสมาชิกตระกูลแสงจันทร์
หลังจากสังหารผู้คนไปนับร้อย กะโหลกเลือดก็ส่องสว่างขึ้นอย่างเต็มที่ ฟางหยวนหัวเราะก่อนจะยกมันขึ้นเหนือศีรษะ
กะโหลกเลือดปล่อยเลือดออกมาจากปากและอาบย้อมร่างกายของฟางหยวนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทั้งหมดมันทำให้เขาดูราวกับปีศาจจากขุมนรก ผู้คนที่ได้พบเห็นต่างกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
"พรสวรรค์ของข้าเพิ่มขึ้นจริงๆ"
เดิมทีฟางหยวนมีพรสวรรค์นภาที่สามและมีระดับทะเลวิญญาณสี่สิบสี่ส่วน หลังจากใช้วิญญาณวารีพิสุทธิ์ชำระล้างทะเลวิญญาณที่ได้รับผลกระทบจากวิญญาณงานฝังศพอสูร ทะเลวิญญาณของเขาจึงลดลงเหลือสี่สิบสองส่วน แต่หลังจากกระตุ้นใช้งานวิญญาณกะโหลกเลือด ทะเลวิญญาณของเขากลับเพิ่มขึ้นอีกสิบส่วนทำให้เขามีพลังวิญญาณทั้งสิ้นห้าสิบสองส่วน
"มันเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแท้จริง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้นำตระกูลรุ่นแรกจะดูแลมันเท่าชีวิตของเขา" ฟางหยวนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจก่อนจะเริ่มต้นล่าสังหารอีกครั้ง
คนทั้งสองก่อเหตุนองเลือดขึ้นภายในกำแพงเลือดและทำให้มันดูราวกับโรงฆ่าสัตว์ขนาดใหญ่
"ฟางหยวน เจ้าบ้าไปแล้ว เจ้าปีศาจร้าย!" โม่เยี่ยนกรีดร้อง
ฟางหยวนหลบการโจมตีของเธอก่อนจะสะบัดตะขาบทองคำทำลายล้างออกไป
สาวน้อยถูกแยกร่างออกเป็นสองส่วนทันที
"ฟางหยวน โปรดปล่อยพวกเราไป พวกเราเป็นลุงกับป้าของเจ้า!" ผู้ใช้วิญญาณตงถูกับภรรยาคุกเข่าลงอ้อนวอน
ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็นก่อนจะสะบัดมือซ้ายส่งดาบแสงจันทร์สีเลือดตัดศีรษะของคนทั้งคู่
กะโหลกเลือดดูดเลือดของสมาชิกตระกูลแสงจันทร์และเปลี่ยนเป็นกระแสพลังไหลเข้าสู่ทะเลวิญญาณของฟางหยวน
"ยอดเยี่ยมนัก" ฟางหยวนหลับตาลงเพื่อสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงและมันก็ทำให้เขารู้สึกยอดเยี่มราวกับได้กำเนิดใหม่
ทะเลวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นเป็นหกสิบสองส่วน!
พรสวรรค์นภาที่สามมีระดับทะเลวิญญาณอยู่ที่สี่สิบส่วนถึงห้าสิบเก้าส่วน
พรสวรรค์นภาที่สองมีระดับทะเลวิญญาณอยู่หกสิบส่วนถึงเจ็ดสิบเก้าส่วน
พรสวรรค์นภาที่หนึ่งมีระดับทะเลวิญญาณแปดสิบส่วนขึ้นไป
เวลานี้ฟางหยวนได้ก้าวออกจากนภาที่สามสู่นภาที่สองเรียบร้อยแล้ว
"แต่การบ่มเพาะของข้าลดลง!" ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจหลังจากเพ่งจิตเข้าไปในทะเลวิญญาณ
พรสวรรค์ของเขาก้าวเข้าสู่นภาที่สองแต่ระดับการบ่มเพาะกลับลดลงจากระดับสามสู่ระดับสอง
แปลก!
เห็นได้ชัดว่าผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกสามารถรักษาระดับการบ่มเพาะหลังจากยกระดับพรสวรรค์ แต่เหตุใดระดับการบ่มเพาะของฟางหยวนจึงลดลง?
'ปัญหานี้ควรจะเกิดจากวิญญาณกำแพงหิน' ฟางหยวนถอนหายใจ
ฟางหยวนใช้วิญญาณกำแพงหินเพื่อบีบเค้นสมรรถนะของทะเลวิญญาณ แต่กะโหลกเลือดคือการฉีดพ่นพรสวรรค์เข้าไปในทะเลวิญญาณของเขาโดยตรง
วิญญาณทั้งสองถือเป็นวิญญาณที่ต่อต้านกันเองตามธรรมชาติ
แต่วิญญาณกะโหลกเลือดเป็นวิญญาณระดับสี่ ขณะที่วิญญาณกำแพงหินเป็นวิญญาณระดับสาม ดังนั้นกะโหลกเลือดจึงเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ นี่ทำให้กำแพงหินถูกเปลี่ยนกลับสู่สภาพกำแพงแสง อย่างไรก็ตามเมื่อกำแพงวิญญาณลดระดับลง มันจึงบังคับให้ระดับการบ่มเพาะของเขาลดลงในเวลาเดียวกัน
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ฟางหยวนไม่สามารถตระหนักถึงได้ในระยะเวลาอันสั้น
อีกด้านหนึ่งไป่หนิงปิงกลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆและฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า ดังนั้นฟางหยวนจึงทำได้เพียงเก็บพลังเอาไว้และสังหารสมาชิกตระกูลแสงจันทร์เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกที่อยู่ด้านนอกกรีดร้องด้วยความโกรธเมื่อเห็นการสังหารหมู่ แต่เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใด
เขาสืบทอดสายเลือดและรอคอยมาหลายร้อยปีเพื่อยกระดับพรสวรรค์ของตน แต่สุดท้ายมันกลับถูกฉกฉวยไปโดยบางคน
"เด็กบ้าผู้นี้อายุยังน้อยแต่กลับโหดเหี้ยมยิ่งกว่าบรรพบุรุษ!" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน
การฆ่าล้างสังหารโหดดำเนินต่อไปถึงสามชั่วโมง
การบ่มเพาะของฟางหยวนลดลงสู่ระดับหนึ่งขั้นต้น แต่ทะเลวิญญาณของเขากลับเพิ่มจากระดับสี่สิบสองส่วนเป็นเก้าสิบส่วน!
เก้าสิบส่วน! พรสวรรค์นภาที่หนึ่ง!
'ห้าร้อยปีในชีวิตก่อนหน้า ข้าสามารถยกระดับพรสวรรค์จากนภาที่สามสู่นภาที่สองหลังจากสองร้อยปี แต่คิดไม่ถึงว่าข้าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากภัยพิบัติและยกระดับพรสวรรค์สู่นภาที่หนึ่งจริงๆ' ฟางหยวนกำหมัดแน่นและลอบตื่นเต้นเล็กน้อย
ไป่หนิงปิงหยุดฆ่าและเดินกลับมา "พวกเราจะทำสิ่งใดต่อไป?"
ด้านในกำแพงเลือดเหลือพวกเขาอยู่เพียงสองคน คนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้วิญญาณหรือมนุษย์ธรรมดาถูกสังหารทั้งหมด
นอกกำแพงเลือดไม่มีผู้ใดรอดชีวิตไปจากผลพวงการต่อสู้ของผู้ใช้วิญญาณระดับห้าเช่นกัน
เวลานี้ในพื้นที่ทั้งหมดเหลือเพียงสองคนอยู่ด้านในและอีกสองคนอยู่ด้านนอกกำแพงเลือดเท่านั้น
ฟางหยวนมองออกไปด้านนอกก่อนจะกล่าวอย่างไม่เป็นทางการ "รอให้ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกวิ่งเข้าสู่ความพ่ายแพ้และรอให้กำแพงเลือดหายไป"
"จากนั้น?" ไป่หนิงปิงถามต่อ
"จากนั้นงั้นหรือ?" ฟางหยวนหันกลับมาทางไป่หนิงปิงและเผยรอยยิ้มสดใส "ก็ถึงเวลาที่เจ้าต้องตาย"
ไป่หนิงปิงตะลึง
"โอ้ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" ดวงตาของไป่หนิงปิงส่องประกายเย็นเยียบ
"การระเบิดตัวเองของสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดทรงพลังมาก แม้การบ่มเพาะของเจ้าจะยังอ่อนแออยู่เล็กน้อย แต่ก็ควรสามารถทำร้ายผู้ใช้วิญญาณระดับห้า เมื่อการระเบิดเกิดขึ้น เจ้าสามารถควบคุมทิศทางคลื่นน้ำแข็งได้หรือไม่?" ฟางหยวนหัวเราะ
"ข้าจะรู้ได้อย่างไร?" ไป่หนิงปิงหงุดหงิด "ข้าไม่เคยระเบิดตัวเองมาก่อน!"
"แต่ข้ารู้ว่าเจ้าทำได้" ฟางหยวนหัวเราะและตบไหล่ไป่หนิงปิง ภาพการระเบิดตัวเองของไป่หนิงปิงยังแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำของเขา โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "จงมีชีวิตอยู่เป็นพยานให้กับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกใบนี้เพื่อข้า..."
"ข้าจะยืนอยู่ด้านข้างเจ้า เมื่อการระเบิดเกิดขึ้น เวลานั้นข้าจะช่วยให้เจ้าฟื้นคืนสู่ชีวิต!" ฟางหยวนกล่าวต่อ
"จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากเจ้าทำไม่ได้?"
"ฮ่าฮ่าฮ่า" ฟางหยวนหัวเราะ "นั่นเป็นเรื่องที่เจ้าต้องเดิมพัน แต่เมื่อเจ้าระเบิดตัวเอง ข้าจะยืนอยู่เคียงข้างเจ้า หากเจ้าสงสัยความจริงใจของข้า เจ้าสามารถส่งพายุน้ำแข็งมาออกมาสังหารข้าได้เลย เจ้าต้องตระหนักได้แล้วว่าระดับการบ่มเพาะของข้าลดลง ด้วยการบ่มเพาะระดับหนึ่งขั้นต้น ข้าไม่มีทางรอดชีวิตไปได้"
"แต่หากเจ้าเชื่อข้า แม้ข้าจะโกหกเจ้า หรือแม้ข้าจะไม่สามารถช่วยให้เจ้าฟื้นคืนสู่ชีวิต ข้าก็ไม่มีทางอยู่รอดต่อไปได้เช่นกัน ดังนั้นเจ้าจำเป็นต้องพนัน ไม่เพียงเจ้าจะต้องตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง แต่เจ้าต้องพิจารณาว่าเจ้าจะใช้ช่วงเวลาที่เหลือก่อนตายของเจ้าอย่างไร?"
ไป่หนิงปิงครุ่นคิดอย่างจริงจัง
ฟางหยวนบอกให้เขาพนัน แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ว่าฟางหยวนก็ต้องพนันเช่นกันงั้นหรือ? เขาใช้ชีวิตของตนเองเป็นสิ่งเดิมพันและเลือกที่จะยืนอยู่ข้างไป่หนิงปิง!
"ฮ่าฮ่าฮ่า น่าตื่นเต้น น่าตื่นเต้นมาก เช่นนั้นข้าก็จะเดิมพันกับมัน ฮ่าฮ่าฮ่า" ไป่หนิงปิงหัวเราะเสียงดัง
ฟางหยวนไม่สนใจไป่หนิงปิงอีกแต่มองไปยังการต่อสู้ด้านนอก
ตามคาด ผู้นำตระกูลแสงจันทร์ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้เขาจะเติมเต็มทะเลวิญญาณมาแล้ว แต่ในการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ เขายังไม่สามารถแข่งขันกับจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ นอกจากนี้จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ยังไม่เปิดโอกาสให้ผู้นำตระกูลแสงจันทร์สามารถกู้คืนพลังวิญญาณได้อีกด้วย
"บัดซบ! ชาติชั่ว! ระยำ!" ผู้นำตระกูลแสงจันทร์กรีดร้อง "หัวขโมยน้อย เจ้าทำลายแผนการนับพันปีของข้าไปแล้ว วันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า แต่วันหนึ่งข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆเพื่อระบายความโกรธของข้า!"
หลังจากกล่าวจบคำผู้นำตระกูลแสงจันทร์สะบัดปีกทะยานร่างขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อหลบหนีออกจากสนามรบอย่างรวดเร็วที่สุด
"อย่าคิดว่าสามารถหลบหนี!" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์กลายเป็นลำแสงพุ่งตามผู้นำตระกูลแสงจันทร์ไปอย่างไม่ลดละ
เมื่อปราศจากการต่อสู้ที่รุนแรง สนามรบจึงกลายเป็นเงียบสงบ
หลังจากสองชั่วโมงแห่งความเงียบงัน ม่านเลือดบุปผาสวรรค์เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงและดูเหมือนกำลังจะสูญสลาย
แต่เป็นเพียงเวลานี้ที่จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์บินกลับมา
ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล รอยกรีดลึกตั้งแต่ไหล่ซ้ายยาวไปถึงเอวสามารถมองเห็นกระดูกสีขาวได้อย่างชัดเจน มันกระทั่งถูกเคลือบคลุมไปด้วยพิษสีแดงม่วงอีกด้วย แต่ใบหน้าของเขายังปรากฏให้เห็นถึงความสุขของการแก้แค้นที่รอคอยมาอย่างแน่นนาน
มือขวาของเขาถือกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่อาบย้อมไปด้วยเลือด ไม่จำเป็นต้องคาดเดา เพราะมันก็คือศีรษะของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก!
"เขาสามารถสังหารผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกได้จริงๆ" ไป่หนิงปิงรู้สึกประหลาดใจ
ฟางหยวนหัวเราะ "มันดูเหมือนว่าสหายเฒ่าผู้นี้มีความเกลียดชังผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเป็นอย่างมาก ฮ่าฮ่า เพื่อสังหารผู้นำรุ่นแรก เขากระทั่งยอมจ่ายค่าตอบแทนขนาดใหญ่"
ขณะที่พวกเขาพูดคุย ม่านเลือดบุปผาสวรรค์ก็สูญหายไปแล้ว
"โจรน้อย ส่งวิญญาณสองดวงนั้นมาเร็วเข้า ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดี บางทีข้าอาจจะปล่อยเจ้าไป มิฉะนั้นเจ้าจะต้องตายโดยไร้ดินกลบหน้า" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์บินลงมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ
ฟางหยวนกับไป่หนิงปิงมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะเบาๆแต่ไม่กล่าวสิ่งใด
นี่ทำให้จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์กลายเป็นกรุ่นโกรธ "ดี เด็กบ้า เช่นนั้นก็จงตายไปซะ!"
ไป่หนิงปิงหัวเราะเสียงเย็นก่อนจะก้าวเท้าไปข้างหน้า "เข้ามา ข้ากำลังรอเจ้าอยู่"
หลังจากกล่าวจบคำ ร่างกายของไป่หนิงปิงก็กลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งไปอย่างสมบูรณ์
พายุน้ำแข็งและมวลอากาศเย็นระเบิดออกจากจุดศูนย์กลางและขยายขนาดออกไปอย่างไม่รู้สิ้นสุด!
"นี่!" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ไม่เคยคาดคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น มันจึงทำให้เขาไม่สามารถตอบสนองและถูกผนึกไว้ในโลกน้ำแข็งทันที