ตอนที่แล้วตอนที่ 6 จบรอบการทดสอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 ภาพแห่งการสรรค์สร้าง

ตอนที่ 7 เต๋าแห่งการสรรค์สร้าง


ในขณะที่แม่ทัพหลี่กำลังพูดนั้น ทหาร 2 นายนำหินหยกขนาดใหญ่มาวางไว้ที่ข้างหน้าเขา

ทุกคนต่างมองเงียบๆ ไม่มีใครกล้าที่จะส่งเสียงดัง

เต๋าแห่งการสรรค์สร้าง

ทุกคนต่างตื่นเต้นเมื่อนึกถึงมัน มันเป็นพลังที่มีได้เฉพาะบุคคลที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น ใครก็ตามที่ควบคุม เต๋าแห่งการสรรค์สร้างได้ จะกลายเป็นยอดคน ถูกบันทึกลงในหนังสือของราชวงศ์ นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลจากราชวงศ์อีกด้วย

 

สายตาของ ฟาง เจิ้งจือ มองตรงไปที่แม่ทัพหลี่ เขาต้องการจะรู้ว่าเต๋าแห่งการสรรค์สร้างมันคืออะไร?

 

“ปล่อย!”

 

แม่ทัพหลี่เริ่มตั้งท่า ตาของเขาขยายขึ้น เท้าขวาถอยไปวางข้างหลังอย่างมั่นคง ก่อนจะโจมตีไปที่ก้อนหินหยกด้วยฝ่ามือที่แบอยู่ของเขา

 

“ตูม!”

 

พร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังก้อง จากหินก้อนใหญ่ทั้งก้อนระเบิดกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยนับไม่ถ้วน

ชาวบ้านทุกคนต่างตกตะลึงกับฉากที่เกิดขึ้น ในหัวของพวกเขา แค่คนที่สามารถยกหม้อน้ำหนักร้อยกว่ากิโลขึ้นได้ก็น่าประทับใจแล้ว แต่การทำลายหินทั้งก้อนลงด้วยมือเปล่าเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคิดแม้แต่น้อย

 

ถึงอย่างงั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็ยังผิดหวังอยู่เล็กน้อย

“นี่คือ เต๋าแห่งการสรรค์สร้าง งั้นหรอ? ก็แค่เอามือเปล่าทำลายหินเอง?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่เศษหินที่ตกอยู่ตามพื้น

 

เขายังคงจำได้ว่าเด็กหญิงที่เขาหนีมาเมื่อเช้าก็ใช้ท่าทางนี้เหมือนกัน

 

กองตรวจการศักดิ์สิทธิมีคนปกติอยู่บ้างไหมเนี่ย?

 

ขณะที่ฟาง เจิ้งจือ คิดก้อนหยกก็ค่อยแตกออกเล็กลงเรื่อยๆ

สิ่งที่น่าตกใจนี่เกิดขึ้นต่อหน้าเขา

 

มันยังขยับได้หรือ? เป็นเพราะว่าพลังจากฝ่ามือยังคงเหลืออยู่? ฟาง เจิ้งจือ งงงวย ตามความเป็นจริง มันต้องหยุดหลงหลังจากที่โดนทำลายและตกลงมา?

อย่างไรก็ตาม....

 

“เอ่อ... นี่มันไม่เกินจริงไปหน่อยหรอ?”

 

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ทันจะคิดอะไรออก เศษกรวดที่อยู่ด้านหน้าเขาค่อยแตกเล็กลงเรื่อนๆจนกลายเป็นผุยผง!

 

ถ้าเป็นแค่ ฝ่ามือเดียวแบ่งหินเป็นสองส่วนได้ เขาจะไม่ตกใจขนาดนี้ เขาคิดว่าพลังการต่อสู้บนโลกนี้ค่อนข้าวสูง ถ้าเป็นโลกเก่าเขา คงมีแค่ฮีโรในนิยายเท่านั้นแหละ

อะไรคือการที่แค่ฝ่ามือเดียวทำให้ก้อนหินกลายเป็นเศษฝุ่นได้? มันไม่ดูแฟนตาซีเกินไปหน่อยหรอ?

 

ถึงแม้จะมีพลังมากขนาดไหน ก็ไม่ควรที่จะทำให้กินกลายเป็นผุยผงได้ สิ่งที่เหลือยู่บนเวทีตอนนี้มีแคผงฝุ่นจากหินเท่านั้น ไม่มีหินหยกแม้แต่สักชิ้นหนึ่ง

 

หรือนี่จะเป็น ฝ่ามือบดกระดูกในตำนาน?

 

“ประกอบ!”

 

ฟาง เจิ้งจือ งงงวยเต็มไปด้วยความสงสัย แม่ทัพหลี่ เลื่อนเท้าขวากลับมาอย่างดุดัน ทันใดนั้นเกิดแสงขึ้นที่เศษหิน และในขณะเดียวกันเขาก็ดึงเอาฝ่ามือกลับมา

 

ฟาง เจิ้งจือ หัวหมุน หินนั้นมันกลายเป็นเศษฝุ่นไปแล้ว แม่ทัพหลี่พยายามทำอะไร?

ประกอบ?  เขาหมายถึงอะไรกัน?

ความสับสนหายไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น ฟาง เจิ้งจือ อ้าปากค้าง จนมันพอที่จะยัดมือเล็กๆเข้าไปได้ ไม่มีทางที่เขาจะไม่ตกใจเมื่อเห็นฉากนี้โดยเด็ดขาด

 

เพราะว่า.....

หินหยกที่ครั้งหนึ่งถูกพังไปแล้ว เหมือนถูกให้ชีวิตใหม่ มันค่อยๆเข้ามาหลอมรวมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ละชิ้นต่างเคลื่อนไหวด้วยตัวเองราวกับมีเวทย์มนต์ จากฝุ่นกลายเป็นก้อนกรวด จากกรวดกลายเป็นหินขนาดเท่าฝ่ามือ

 

ท้ายที่สุด.....

“กึก!” เหมือนเสียงหินมาประกบกันเบาๆ มันกลายเป็นหินหยกยักษ์อันเดิม!

 

“เชี่ย.....นี่มันอะไรกัน?!”

 

ฟาง เจิ้งจือ แค่ตื่นตระหนกเล็กน้อย การที่หินพังลงด้วยมือเปล่า ทำให้หัวใจเขาเต้นเพียงเล็กน้อย บางทีพลังจากศิลปะการต่อสู้ของโลกนี้ อาจจะสูงมากกว่าโลกเดิมของเขาเท่านั้น

หรือาจจะเป็นเพราะศิลปะการต่อสู้ที่สืบทอดต่อกันมาลับๆของโลกนี้

แต่การที่ฝุ่นผงกลับมารวมกันเป็นก้อนหินขนาดยักษ์เหมือนเดิม มันทำลายสามัญสำนึกของเขาอย่างสิ้นเชิง!

 

ถึงแม้เขาจะถูกส่งกลับไปในโลกเดิมก็ตาม ด้วยโทคโนโลยีขั้นสูง ก็ไม่มีทางทำให้เศษหินกลับกลายเป็นก้อนหินเหมือนเดิมได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นหินก้อนเดิม

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่ามุมมองของเขาที่มีต่อโลกนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โลกนี้มีแต่สิ่งที่อธิบายไม่ได้!

 

เต๋าแห่งการสรรค์สร้าง?

เขาไม่เคยกระวนกระวายใจเท่านี้มาก่อน

เขาขยี้ตาแรงๆอีกครั้ง หินหยกก้อนนั้นก็ยังตั้งอยู่บนเวทีเช่นเดิม.....

 

“นี่คือเต๋าแห่งการสรรค์สร้าง!”

 

แม่ทัพหลี่ หายใจออกเบาๆ ชี้ไปที่หินหยกก้อนนั้น และประกาศขึ้นมาด้วยเสียงดัง

ทั่วทั้งลานหมู่บ้านตกอยู่ในความเงียบงัน ไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว สายลมอ่อนๆพัดทรายที่อยู่ตามพื้นเข้าไปในตาของชาวบ้านบางคน แต่พวกเขาก็ยังเบิกตากว้างเท่าไข่ห่านเช่นเดิม

 

มันเหมือนเป็นความสงบก่อนที่พายุจะมา

เหมือนไฟที่ไหม้กองฟืน ทั่วทั้งลานต่างถกเถียงกันอย่างตื่นเต้น

 

“เต๋าแห่งการสรรค์สร้าง!”

 

“ทรงพลังจริงๆ! ข้าก็อยากควบคุมเต๋าแห่งการสรรค์สร้างได้บ้าง!”

 

“แม่จ๋า ข้าจะฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อวันหนึ่งจะควบคุมเต๋าแห่งการสรรค์สร้างได้ และกลายเป็นยอดคนแห่งยุค!”

 

ชาวบ้านกำลังตื่นตระหนก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลี่ จ้วงฉือ และคนอื่นที่ผ่านเข้ารอบใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดง

จากความตื่นเต้น เห็นแม่ทัพหลี่บนเวที พวกเขาจินตนาการว่าวันหนึ่งพวกเขาจะไปยืนอยู่บนจุดนั้นบ้าง

 

เช่นเดียวกันกับ ฟาง เจิ้งจือ เขาก็มีความปรารถนาที่รุนแรงเช่นเดียวกัน

 

เต๋าแห่งการสรรค์สร้าง?! พวกเขาควบคุมมันได้ยังไง หรือมีหลักการมากจาก ‘กฎแห่งเต๋า’ ถ้าเป็นอย่างงั้นเขาก็พอเข้าใจและเคยศึกษามาบ้างแล้ว

แล้วทำไมข้าทำมันไม่ได้ละ? หรือมีปัญหาอะไร?

 

“ตอนนี้ทุกคนคงได้เห็นพลังของ เต๋าแห่งการสรรค์สร้างแล้ว ข้าหวังหว่าพวกเจ้าทุกคนสักวันหนึ่งจะมีพลังเช่นนี้อย่างไรก็ตามข้ามีเรื่องสำคัญจะต้องบอกกับพวกเจ้า การควบคุมเต๋าแห่งาการสรรค์สร้างเป็นเรื่องยาก พูดได้ว่ามีโอกาสแค่หนึ่งในหมื่นเท่านั้น การที่จะควบคุมมันได้นอกจากจะต้องมีพื้นฐานที่ดีแล้ว เจ้าต้องมีโชคเป็นอย่างมากอีกด้วย!”

 

แม่ทัพหลี่ หยุดพอดแล้วกวาดสายตาไปทั่วลานหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยชาวบ้านที่มีท่าทีกระตือรือร้นอยู่

 

“การที่จะได้รับพลังนั้น พวกเจ้าต้องเข้าใจพื้นฐานแห่งการสรรค์สร้าง ต้องเข้าใจธรรมชาติของการสรร์สร้าง ต้องเข้าใจการดำรงอยู่ของสิ่งต่างๆบนโลก ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา แม่น้ำ ก้อนหิน หญ้า ดอกไม้ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์...ทุกอย่างคือการสรรค์สร้าง ทั้งชีวืต ความเป็น ความตาย พวกมันเกิดขึ้นได้อย่างไร? พวกมันถูกทำลายลงได้อย่างไร?”

 

“ทุกสิ่งทุกอย่างรวมกันเป็น ‘เต๋าแห่งการสรรค์สร้าง’ รวมถึงทุกสิ่งมีชีวิตภายใต้แผ่นสวรรค์! เพื่อที่จะควบคุมพลัง นอกจากต้องการร่างกายที่แข็งแก่งแล้ว  ต้องมีจิตใจที่มุ่งมั่นที่จะศึกษา ‘กฎแห่งเต๋า’ เพื่อให้เข้าใจการสรรค์สร่างทุกสิ่งอย่างถ่องแท้!”

 

“ทั้งหมดที่ข้าพูด พวกเจ้าเข้าใจไหม?” หลังจากที่เขาพูดจบเหมือนร่างกายของเขาปล่อยแรงกดดันที่มองไม่เห็นบางอย่างออกมา

 

“เข้าใจแล้ว!” ชาวบ้านทุกคนทนแรงกดดันไม่ไหว พวกเข้ารีบตอบรับคำถามของ แม่ทัพหลี่

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ตะโกนตอบรับไปกับคนอื่น เขากำลังก้มหัวคิดถึงคำพูดของแม่ทัพหลี่

 

การที่จะควบคุมมันได้ต้องเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ การสรรค์สร้างทุกอย่างคือ ‘กฎแห่งเต๋า’

เขาเคยอ่านหนังสือ 'กฎแห่งเต๋า' นี่!

ทำความเข้าใจ ทำความเข้าใจ....

 

ข้ารู้แล้ว!

 

ในที่สุดเขาก็เข้าใจ  ‘กฎแห่งเต๋า’ เป็นเพียงแค่พื้นฐานของ เต๋าแห่งการสรรค์สร้างเท่านั้น เหมือนรากของต้นไม้ ถ้าปลูกต้นไม้ลงบนก้อนหิน ต้นไม้ก็คงตาย ถ้าอยากให้ต้นไม้ออกดอกออกผล ต้องปลูกมันลงในดินที่มี่แร่ธาตุเพียงพอ และมีอุณหภูมิที่เหมาะสม

 

‘กฎแห่งเต๋า’คือราก มันเป็นพื้นฐานที่สำคัญ! ส่วนเต๋าแห่งการสรรค์สร้างเหมือนดอกและผลของต้นไม้!

 

สถานการณ์ของเขาตอนนี้เหมือนการปลูกพืชที่ดีลงบนผืนดิน การคาดเดาของเขาเหมือนกับการวางรากฐานที่มั่นคง หมายความว่า เขาได้นำหน้าคนอื่นไปแล้ว

แน่นอน เขายังไม่สามารถไปเทียบได้กับเด็กหญิงที่ใส่ชุดกระโปรงประดับลายดออกไม้ ถ้าให้เขาเดาเธอต้องเข้าถึงวิถีแห่งเต๋าแล้ว

 

เข้าถึงวิถีเต๋าด้วยอายุเพียง 5 ปี? เธอเป็นใครกันแน่?

 

ต่อจากนี้.....

สิ่งที่เขาต้องทำต่อไปนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ นอกจากพัฒนาพื้นฐานของเขาแล้ว เขาควรจะนั่งเฉยๆ รอโชคชะตางั้นหรือ แล้วเขาจะเข้าถึงวิถีแห่งเต๋า?

 

 

“เยี่ยมมาก! การทดสอบรอบต่อไปของกองตรวจการศักดิสิทธ์จะเริ่มแล้ว ชื่อของการทดสอบรอบนี้คือ ‘โชคชะตา’!” แม่ทัพหลี่พยักหน้าอย่างพอใจขณะมองไปที่ชาวบ้าน

 

เพจหลัก : Gate of god TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด