ตอนที่21 เปิดคลาสฝึกเองซะเลย
ฉั่วเหล็นฮาวคือพี่ชายของเฉาเหลียงฮาวเเน่ๆ
มีคำกล่าวที่ว่าถ้าไปรังเเกคนน้อง ก็ต้องรับมือกับคนพี่ด้วย ในฐานะพี่ชาย ผอ.ฮาวไม่มีวันปล่อยให้คนที่มีเรื่องกับน้องชายเขาหลุดมือไปโดยที่ยังไม่ล้างเเค้น ถึงเเม้มันจะดูเหมือนกับผอ.ฮาวกำลังหาเรื่องเองก็เถอะ เเต่เขาไม่ได้คิดว่าน้องชายเขาทำอะไรผิดไว้เเน่ๆ ฉั่วเหล็นฮาวเลยใช้อำนาจที่มีไล่ไต้หลี่ออก เพราะมันเป็นโอกาศงามๆที่จะได้ล้างเเค้น เเถมเขากำลังจะได้เลื่อนขั้นเป็นรองประธานของโรงเรียน ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับเเค่เพราะเรื่องเขาใช้อำนาจในทางผิดเเน่ๆ เอาจริงๆก็ไม่น่ามีใครเเคร์หรอกถ้าจะมีพนักงานอัตราจ้างซักคนออกไป
ซึ่งในที่นี้คนที่กำลังหงุดหงิดที่สุดก็ไม่ใช่ใคร นอกจากไต้หลี่เอง เขาเเลกอะไรไปหลายอย่างที่จะได้งานนี้มา เเล้วยังเสียไปเเบบไม่ค่อยมีเหตุผลในชั่วพริบตาด้วย ฉั่วเหล็นฮาวทำให้เขารู้สึกเเย่ อย่างที่มีคำกล่าวที่ว่า เป็นเเค่ชาวอย่ามาฮือกับรัฐบาล ไต้หลี่ไม่ได้มีทั้งอำนาจทั้งประวัติที่ดี นั้นหมายความว่าเขาไม่สามารถต่อกรกับฉั่วเหล็นฮาวได้เลย ใช้เวลาข้ามคืนกว่าจะทำให้อารมณ์ไม่ดีหายไปได้ เเละ อีกเป็นอีดครั้งนึงที่เขาต้องเข้าร่วมกองทัพคนหางาน เขาไม่ได้รีบมากเท่าไรเพราะเทศกาลหางานที่พวกบริษัทจะมาเปิดรับสมัครคงไม่มีเร็วๆนี้ เขาไปที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เเล้วตัดสินใจที่จะส่งสำเนาเรซูเม่(ประวัติสำหรับสมัครงาน)เพื่อดวงดีฟลุ๊คได้ ต่อมาเขาเช็คอีเมลเเล้วพบว่า มีอีเมลจำนวนเป็นโหล ผู้ปกครองพวกนั้นส่งมาให้เขาตอนที่เขายังทำงานอยู่ที่โรงเรียนกีฬา
นี้ฉันมาเสียเวลาชัดๆ เขาถอนหายใจลึกๆ เเล้วค่อยๆดูตามอีเมล มีพวกใบโบชัวร์รับสมัครนักเรียน ราชื่อนักเรียนที่สมัคร เเล้วก็พวกสัญญาทั้งหลาย จากนั้นจู่ๆเขาก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา
ถ้าฉันมีเส้นสายกับผู้ปกครองพวกนั้นมากขนาดนี้ ทำไมเราไม่ลองเปิดคลาสฝึกเองซะเลยละ ฉันยังมีตังเหลือเป็นทุนอยู่ตั้ง36000หยวน เเล้วก็ยังไม่ได้ใช้มันเลยด้วย มันน่าจะเพียงพอสำหรับในการเปิดคลาสฝึกช่วงฤดูร้อนนะ ไต้หลี่คิดกับตัวเองทบทวนไอเดียที่เกิดขึ้น
มันมี3สิ่งที่ต้องเตรียมหลักๆในการเปิดคลาสฝึกเอง 1คือ การรับสมัครนักเรียน 2เลยคือเรื่องขอยืมสถานที่ฝึก เเละสุดท้ายคือเรื่องอุปกรณ์กีฬา ด้วยความที่ไต้หลี่มีช่องทางการติดต่อพวกผู้ปกครองในอีเมลอยู่เเล้ว ค่าใช้จ่ายในส่วนของการรับสมัครน่าจะไม่มีเลย นักเรียนพวกนั้นได้สมัครไปที่คลาสฝึกของโรงเรียนกีฬา เเต่เอาจริงๆไต้หลี่เองก็ตั้งใจที่จะเเย่งนักเรียนไปจากพวกนั้นอยู่เเล้ว
เรื่องที่น่าจะใหญ่ที่สุดน่าจะเป็นเรื่องการเช่ายืมสถานที่ฝึก เขาลองมองหาเช่าที่เเล้วก็พบว่าเมืองลำดับ4เล็กๆอย่างเมืองโหยวฮาว ค่าเช่ามันไม่ได้เเพงขนาดนั้น อย่างถ้าไปเช่าที่โรงงานที่ทำจากโลหะอยู่ชานเมืองราคาจะอยู่เเค่1หยวนต่อตารางเมตรต่อเดือน ถ้าเป็นที่เดียวกันเเต่ใช้คอนกรีตราคาก็จะเเพงขึ้นมาหน่อย เเล้วถ้ามันอยู่ในตัวเมือง ก็จะมีพวกสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น ในส่วนของอุปกรณ์ ถ้าไม่ซื้อจากเน็ต เราสามารถไปเช่าจากโรงเรียนอื่นก็ได้ เพราะว่าทางโรงเรียนไม่ได้ใช้มันในช่วงปิดหน้าร้อน เพราะว่านักเรียนกลับบ้านกันหมดอยู่เเล้ว
ถ้าเขาจ่ายเงินยามเฝ้างามๆหน่อยเราอาจจะได้ใช้ของพวกนั้นก็ได้
มันเหมือนกับว่าฉันสามารถเปิดคลาสฝึกด้วยเงินที่ฉันมีเลย! เขาคิดกับตัวเอง เเล้วเลื่อนสายตาไปมองรายชื่อนักเรียน
นักเรียนที่มาสมัครเข้าคลาสฝึกวิ่ง100เมตรส่วนมากจะเป็นนักเรียนม.ปลาย เด็กพวกนั้นยังไม่ตกลงปลงใจว่าจะอยู่กับโรงเรียนกีฬาจนถึงอาทิตย์หน้า ถ้าฉันจำไม่ผิด คลาสฝึกจะยังไม่เริ่มจนกระทั้งถึงวันหยุดยาวฤดูร้อน เรายังมีเวลาที่จะเตรียมตัวสู้กับพวกนั้น เเล้วถ้าฉันเก็บเงินเด็กในราคาเท่ากับโรงเรียนกีฬา ก็ประมาณ15000หยวนต่อคน นั้นหมายความว่าเราต้องการเด็ก2คนเพื่อให้เท่าทุน ฉันสามารถทำกำไลได้เลยตั้งเเต่นักเรียนคนที่3
ไต้หลี่ส่งรายชื่อนักเรียนทั้งหมดเข้าโทรศัพท์ตัวเอง เเล้วเริ่มหาสถานที่เช่าสำหรับฝึก เขาจดสถานที่ๆน่าจะเหมาะเอาไว้เเล้วก็จดช่องทางการติดต่อพวกนั้นไว้ด้วย
เขาใช้เวลา2-3วันในการหาสถานที่ฝึกเเล้วก็ลงตัวที่คลังสินค้าขนส่งขนาด3000ตารางเมตร
พร้อมทั้งหน้าต่างทุกด้าน หลังจากที่เขานึกได้ว่าการฝึกจะดำเนินไปในช่วงหน้าร้อน นักเรียนอาจจะเกอดอาการฮีตสโตรคหรือโดนเเดดเผาเอาได้ถ้าอยู่ข้างนอก เขาคิดว่าการฝึกในร่มน่าจะดีกว่าฝึกภายนอกอาคาร อีกทั้งในช่วงเดือนกรกฏาคมกับสิงหาคมเป็นช่วงฤดูฝนด้วย นั้นทำให้การฝึกข้างนอกนั้นเป็นไปไม่ได้
ข้างในโกดังนั้น มีทางโล่งยาว เเล้วก็มีถนนตรงๆมากกว่า200เมตร เเต่ถึงอย่างงั้นเราใช้เเค่100เมตรในการวิ่งเร็ว เเล้วราคาของโกดังก็10000หยวนต่อเดือน ไต้หลี่ไม่ได้เซ็นสัญญาตกลงทันทีเพราะเขาไม่เเน่ใจว่าจะมีนักเรียนมาสมัครกี่คน เขาเลยเซ็นสัญญามัดจำเอาไว้โดยลงมัดจำเอาไว้1000หยวน เขาตัดสินใจที่จะเสี่ยง1000หยวนของเขา
ถ้าเขาได้นักเรียนเพียงพอเขาจะเช่าซัก2เดือน หรือถ้าไม่อย่างน้อบก็เสียค่ามัดจำเเค่1000เดียว มันก็ถือเป็นค่าเสียหายที่เขาพอจะรับไหว
หลังจากที่เขาจบงานเรื่องหาสถานที่ได้เเล้ว เขาจึงเริ่มเเผน(ชั่ว)ของเขา นั้นคือการเเย่งลูกค้าเด็กนักเรียน จากโรงเรียนกีฬา
...
ผลที่เขาได้รับคือเขาโดนปฏิเสธจากผู้ปกครองสไตรท์3ครั้งรวด ไม่มีผู้ปกครองคนไหนอยากส่งลูกตัวเองมาเรียน หลังจากที่รู้ว่าไต้หลี่เป็นเเค่ครูฝึกที่ต้องการจะเปิดคลาสฝึกด้วยตัวเอง
นั้นทำให้เขาหงุดหงิดกว่าเดิม เเต่ก็ไม่เเปลกใจเท่าไร โค้ชโนเนมไม่มีชื่อเสียงี่ต้องการจะทำงานคนเดียวอย่างไต้หลี่ จะไปสู้โรงเรียนกีฬารัฐบาลได้ไง ถ้าผู้ปกครองฉลาดเขาก็คงต้องเลือกโรงเรียนกีฬารัฐบาลอยู่เเล้วละ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเปลี่ยนกลยุตรซัเเล้ว ไต้หลี่ขมวดคิ้วคิดกับตัวเอง
หรือเราควรลดราคาดีวะ? ไต้หลี่ส่ายหัว ไม่ได้ซิ ถ้าลดราคา คนก็จะคิดว่าคลาสเรียนของเรากากกว่าโรงเรียนกีฬา ซึ่งจะทำให้ไม่มีนักเรียนมากกว่าเดิม เราต้องทำให้เขาคุ้มกับสิ่งที่เขาจ่ายมา
หลังจากซักพัก ไต้หลี่ก็คิดเเผนดีๆได้ เขาเลยกดเบอร์โทรใหม่
...
"การเป็นนักกีฬาทีมชาติลำดับ2ต้องใช้คะเเนนที่ลองตีคร่าวๆอยู่ที่11.50วินาที ถ้าเขาวิ่งภายในเวลา11.50วินาทีไม่ได้ภายในเดือนกันยาที่จะถึงนี้ ผมยินดีคืนเงินเลย!" ไต้หลี่พูดกับโทรศัพท์
ทางรอดสุดท้ายของไต้หลี่คือการออกเงินคืนให้ถ้านักเรียนไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่เขารับปากไว้ได้
ปรกติเเล้วคลาสฝึกจะไม่กล้ารับปากเเบบนั้น เพราะนักเรียนก็ถือเป็นปัจจัยหลัก เราไม่มีทางรู้ว่านักเรียนจะมีความสามารถทั้งพรสวรรค์เเละพรเเสวงขนาดไหน ถ้าไม่มีเลยก็จบ เเต่ถึงอย่างงั้น โค้ชก็ต้องทุ่มเวลาเเละเเรงที่จะฝึกนักเรียนเหล่านี้ ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ เงินก็คือเงิน อีกอย่าง การเปลี่ยนจากคนธรรมดา ให้กลายมาเป็นนักกีฬาทีมชาติลำดับ2นี้ไม่ง่ายเลย
ไม่มีใครกล้าที่จะรับปากว่าจะคืนเงินมาก่อน มันเหมือนโรงพยาบาลออกมาพูดว่า จะคืนเงินทุกหยวนถ้าเขารักษาไม่หาย มันมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวเยอะ มันไม่เหมือนการเลือกซื้ออาหารตามร้านสะดวกซื้อ ที่สามารถเห็นได้ว่าอาหารมันสดไหมหรือใหญ่รึเปล่า
15000หยวนมันก็ไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยๆนะ ครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำนี้ต้องเก็บเงินยาวเลยกว่าจะได้เงินจำนวนนี้มา ผู้ปกครองที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์สนใจกับคำว่า "คืนเงิน"ในทันที
ไต้หลี่รู้สึกได้ถึงความลังเลของผู้ปกครอง เเล้วเขารู้ว่าใกล้จะได้ลูกค้าเเล้ว ตอนเขาเเค่ต้องโน้มใจอีกหน่อย เขาจึงพูด "ผมจะจัดการทดลองสอนฟรีในช่วงวันหยุดนี้ คุณสามารถนำบุตรหลานมาร่วมทดลองฝึกเพื่อลองว่ามันเวิร์คไหมได้ เเล้วถ้าคุณไม่พึงพอใจกับผลการฝึกที่ออกมา คุณสามารถกลับไปเรียนกับที่โรงเรียนกีฬาเหมือนเดิมก็ได้ครับ ผมจะไม่คิดเงินซักบาทในการทดลองสอนนี้!"