ตอนที่ 8 ภาพแห่งการสรรค์สร้าง
“โชคชะตา?!” ชาวบ้านทุกคนต่างงงงัน ไม่เข้าใจสิ่งที่แม่ทัพหลี่พูดออกมา โชคชะตา? จะทดสอบโชคชะตาได้ยังไง?
ฟาง เจิ้งจือ ก็สงสัยเช่นเดียวกัน
หรือจะเกิดเหตุการ์ภัยพิบัติแบบในตำนานงั้นหรือ? ตอนนี้เนี้ยนะ?! ข้ายังไม่ได้เตรียตัวเลย ข้าพึ่งอายุ 6 ขวบเองนะ ข้ายังไม่อยากตายตอนนี้!
“เอามันออกมา!” แม่ทัพหลี่ให้คำสั่งกับทหารทั้ง 8 นายที่ถือวัตถุปริศนาอยู่ โดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม
“รับทราบ!” ทหารทั้ง 8 นายตอบรับในทันที
ทหารทั้ง 8 นายเดินไปที่ด้านข้างของวัตุปริศนา พวกเขายืดแขนออก ก่อนจะค่อยๆดึงผ้าสีทองที่คลุมอยู่ออก
“มันคืออะไรนะ?”
“หรือมันจะคือ.....ภาพแห่งการสรรค์สร้าง? เหลือเชื่อ! หรือรอบสุดท้ายจะเกี่ยวกับภาพแห่งการสรรค์สร้างกัน”
เมื่อแผ่นหินยักษ์ที่ทำจากหยกสีดำสนิทถูกเปิดเผยออกมา ชาวบ้านทุกคนต่างพูดไม่ออก จ้องมองไปที่แผ่นหินสีดำที่ถูกกระทบโดยแสงแดด
โดยเฉพาะผู้ที่ผ่านเข้ารอบที่สองต่างเบิกตาจ้องเขม็งไปที่แผ่นหินนั้น เหมือนกลัวว่าจะไม่ได้เห็นมันอีกเป็นครั้งที่ 2
บนแผ่นหินหยกสีดำ มีเส้นสีทองพาดผ่านไปตามพื้นผิว มีทั้งรูปตัวละคร ทั้งตัวเลขที่ดูซับซ้อน จากด้านบนลงไปที่ด้านล่างล่างแผ่นหิน
ด้านล่างของรูป ยิ่งดูสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น จากรูปตัวละคร ตัวเลข กลายเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส วงกลม และสุดท้ายเป็น ดาว ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และเต็มไปด้วยตัวเลขต่างๆมากมาย....
ล่างสุดของรูปเป็นฉากของภูเขาและแม่น้ำ
แม่ทัพหลี่ ยิ้ม กระแอมแล็กน้อยหลังจากเห็นปฏิกริยาของชาวบ้าน
“ถูกต้องแล้ว! นี่คือภาพแห่งการสรรค์สร้าง ถึงแม้มันจะเป็นแบบที่มีคุณภาพต่ำที่สุดที่ถูกวาดขึ้นอย่างหยาบๆ แต่มันก็ยังยากที่จะไขปริศนาอยู่ดี ภาพแห่งการสรรค์สร้างนั้นคือโชคชะตา และเป็นเหมอืนประตูเช่นเดียวกัน!”
“ถ้าพวกเจ้าอยากเข้าร่วมกับกองตรวจการศักดิสิทธ์ มีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน หนึ่งคือสามารถไขปริศนาจากรูปภาพแห่งการสร้างสรรค์ได้ สองมีคะแนนสูงสุดใน ‘การทดสอบกฎแห่งเต๋า’ที่เมืองหลวง ใครที่ทำได้ กองตรวจการศักดิสิทธิ์ จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ”
ทั้งสองสิ่งนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ถึงแม้จะเป็นแค่การทดสอบกฎแห่งเต๋าก็ตาม แต่คนที่จะผ่านได้นั้น ต้องมีคะแนนสูงสุดเท่านั้น มันหมายความว่าถ้าเป็นที่ 2 หรือที่ 3 ก็จะไม่ถูกเหลียวแลในทันที!
ส่วนเส้นทางแรกนั้นเป็นปัญหากับชาวบ้านที่ไม่รู้หนังสือเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เพราะเป็นถึงกองตรวจการศักดิสิทธิ์ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
การที่ได้เข้าร่วมกับกองตรวจการศักดิสิทธ์นั้นหมายความว่าสถานะของคนๆนั้นก็จะสูงขึ้นทันที ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลก ชาวบ้านต่างพูดคุยกันเอง แต่ก็ไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับการทดสอบนี้
“ข้าแสดงเส้นทางให้พวกเจ้าเห็น จะเดินไปยังเส้นทางใดนั้นพวกเจ้าต้องเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง ถึงแม้ทั้งสองทางจะดูยากเกินไปสำหรับพวกเจ้าทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ จากการทดสอบครั้งที่1 และ 2 ตัวข้าเห็นถึงศักยภาพของหมู่บ้านภูเขาทางใต้นี้ ข้าจึงได้ส่งเรื่องไปทางกองตรวจการศักดิสิทธ์เพื่อจัดตั้ง ‘หอแห่งเต๋า’ขึ้นที่นี่ ใครที่ผ่านการทดสอบในสองรอบแรกนั้นจะมิสิทธ์ได้เขาไปศึกษาที่หอแห่งนั้น
“ข้าหวังว่าสักวันหนึ่งด้วยการชี้นำจากหอแห่งเต๋า พวกเจ้าจะกลายเป็นคนที่ทำคะแนนได้สูงสุดจากการทดสอบกฎแห่งเต๋าที่เมืองหลวง!”
แม่ทัพหลี่ ไม่ได้พูดถึงเส้นทางที่จะต้องเข้าใจภาพเต๋าแห่งการสรรค์สร้าง เนื่องจากเขาคิดว่ามันยากเกินไป ลืมไปได้เลยว่าจะมีใครหมู่บ้านนี้ทำได้ ในกองตรวจการศักดิสิทธ์เอง นอกจาก ราชันศักดิสิทธ์ และ “แขกพิเศษ” แล้วมีแค่คุณหนูนั้น ที่สามารถแก้ปัญหาจาก ‘ภาพแห่งการสรรค์สร้างระดับต่ำได้’
แม้แต่ แม่ทัพหลี่ เอง ที่ถือว่าเป็นบุคคลที่โดดเด่นในกองตรวจการศักดิสิทธิ์แล้ว ยังทำได้แค่มองรูปนั้นแล้วถอนหายใจ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้....แม่ทัพหลี่พลันนึกถึงคุณหนู เธอมีอายุแค่ 5 ขวบเท่านั้นในตอนที่เธอไขปริศนาจากภาพนั้น เมื่อราชันศักดิสิทธิ์ได้ยินข่าวนั้นเขาถึงกับนั่งไม่ติด ส่งวาจาศักดิสิทธิ์ ชื่นชมกองตรวจการศักดิสิทธ์ที่สามารถผลิตบุคลากรชั้นเยี่ยมเช่นนี้ขึ้นมาได้ เธอคือ“ความภาคภูมิใจของสรวงสวรรค์”
ถึงแม้มันเหมือนจะเป็นประโยคทั่วๆไป แต่มันเป็นถึง วาจาศักดิสิทธ์! จากการบันทึก ของราชวงศ์ เซี่ย อันยิ่งใหญ่ จนถึงทุกวันนี้ มีการใช้วาจาศักสิทธ์เพียงแค่ 30 ครั้ง
“เอาละ เราจะเก็บภาพแห่งการสรรค์สร้างไปก่อน แม่ว่าการไขปริศนาจากภาพจะเป็นหนทางไปสู่ความยิ่งใหญ่ เป็นหนทางในการเข้าถึงหัวใจแห่งเต๋า และเป็นการเปิดเส้นทางสู่วิถีแห่งเต๋า แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้ เพียงแค่ผู้ที่มีความรู้กว้างขวางเท่านั้นที่จะ.....ที่จะ...”
ในขณะที่แม่ทัพหลี่ อธิบายถึงจุดนี้ เขาก็หยุดพูดต่อ
ในตอนนั้นเอง ภาพแห่งการสรรค์สร้าง ก็ส่องแสงสลัวๆออกมาก่อนจะค่อยๆเข้มขึ้นจนร้อนดั่งดวงอาทิตย์
ภาพแห่งการสรรค์สร้างเปล่งแสงออกมาอย่างสมบูรณ์ แส่งสีทองส่องออกมาจากข้างใน!
หัวหน้าหมู่บ้าน เมิ่ง ไป่ ที่ยืนอยู่บนเวทีกำลังฟังแม่ทัพหลี่อย่างเคารพนั้นพึ่งรู้ตัวว่าแม่ทัพหลี่ ได้หยุดพูดไปแล้ว เขารู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติจึงหันไปมองทาง แม่ทัพหลี่
“แม่ทัพหลี่?” หัวหน้าหมู่บ้านส่งเสียงออกมาอย่างถ่อมตัว
เมื่อเห็นแสงที่ส่องออกมาจากภาพแห่งการสรรค์สร้างนั้น เขาเกือบจะร้องไห้ออกมา
“นี่คือ.....” หัวหน้าหมู่บ้าน เมิ่ง ไป่ ขยับตัวเข้าไปใกล้ๆเพื่อดูให้ชัดเจนจนตาของเขาแดงขึ้น เขาหยิกแก้มตัวเองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน
แสงสีทองที่ส่องออกมาจากภาพแห่งการสรรค์สร้างนั้นยังคงมองเห็นได้ชัดเจน
ชาวบ้านที่ยืนมองภาพแห่งการสรรค์สร้างด้วยความโง่งม พวกเขาต่างไม่เข้าใจว่าอยู่ดีๆทำไมภาพแห่งการสรรค์สร้างถึงส่องสงออกมา และยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้ชาวบ้านหลายๆคนกำลังสับสนอยู่นั้น แต่แม่ทัพหลี่ นั้นรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่เพียงแต่แม่ทัพหลี่เท่านั้น แม้แต่ทหารที่อยู่ด้านล่างของเวทีก็ตกใจเช่นกัน
“มัน...มันเกิดขึ้นได้ยังไง?”
“ภาพแห่งการสรรค์สร้าง.... ถูกไขปริศนาแล้ว!”
“ใครกัน?! มีใครบางคนในหมู่บ้านภูเขาทางใต้นี้สามารถไขปริศนาภาพแห่งการสรรค์สร้างได้!”
“เขาเห็นมันไม่นานเองนี่? แค่ไม่กี่นาทีด้วยซ้ำ...”
เหล่าทหารต่างไม่เชื่อในตาของตัวเอง ลืมหมู่บ้านนี้ไปได้เลย แม้แต่ในกองตรวจการศักดิ์ยังมีน้อยคนที่ไขปริศนาได้
มีใครบางคนในหมู่บ้านเข้าใจกฎแห่งเต๋า การที่ไขปริศนาภาพนี้ได้โดยยังไม่ได้เข้าถึงวิถีแห่งเต๋านั้น ยากราวกับนกที่บินโดยไม่ใช้ปีก!
มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจนเกินไป
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กองตรวจการศักดิสิทธ์ได้ส่งกองกำลังพร้อมกับภาพแห่งการสรรค์สร้างไปยังหลายๆเมืองเพื่อจูงใจผู้เข้าทดสอบ เป้าหมายที่แท้จริงคือเพื่อเผยแผ่ศาสตร์แห่งเต่า และจัดตั้งหอแห่งเต๋าที่จะช่วยคนจำนวนมากให้มีโอกาสศึกษากฎแห่งเต๋า เพื่อพวกเขาจะได้ค่อยๆเข้าสู่โลกของการฝึกตน
แต่ตอนนี้...
แม่ทัพหลี่ แค่อยากจะให้ชาวบ้านได้เห็นภาพเต๋าแห่งการสรรค์สร้างเฉยๆ แต่กลับพบว่ามีใครบางคนไขปริศนาภาพนั้นได้?!
เขาจะใจเย็นได้ยังไง? เขาจะตั้งสติได้ยังไง?!
ยิ่งไปกว่านั้นคนคนนั้นยังใช้เวลาไม่กี่นาทีด้วยซ้ำ
เขาจำได้ว่าคุณหนูใช้เวลาไปเป็นสัปดาห์เพื่อจะไขปริศนานี้ เรื่องนี้ต้องทำให้ทั่วทั้งอณาจักรเซี่ย อันยิ่งใหญ่ ต้องตกตะลึงแน่นอน
ใคร? ใครที่เป็นคนไขปริศนา? ด้วยเวลาเพียงเท่านี้? มันจะเป็นไปได้งั้นหรือ?
เพจหลัก : Gate of god TH