ตอนที่ 163 ปัญหา
กลุ่มคนได้มารวมตัวกันที่หน้าทางเข้าสมาคมนักล่าเพื่อมองแผ่นกระดาษสีขาวบนทางขวาของประตู เด็กสาวผมห้างม้ายืนดอกนอกฝูงชนและแสยะยิ้ม
“หลิน ฮวง มันต้องใช้เวลาสักพักเพื่อหาชื่อของนาย นายกล้าดียังไงถึงปฏิเสธข้อเสนอฉัน ตอนนี้ นายจะต้องชดใช้!”
แผ่นกระดาษสีขาวบนฝั่งขวาของประตูถูกเขียนด้วยลายมือที่สวยงาม และมันเขียนเอาไว้ว่า“วัชพืชที่ถูกกล่าวถึงในคำใบ้ก็คือยาเสพติดขั้นสูงที่เรียกว่าZC พวกนายทุกคนสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดได้จากเครือข่ายหัวใจ ยาเสพติดชนิดนี้จะมีขายเป็นแบบผงในตลาด และชนิดคริสตัลสีดำจะมาจากผู้ผลิต จักรวรรดิของผู้ผลิตยาชนิดนี้ถูกเรียกว่าปราสาทไฮน์เซ็น จักรวรรดิที่แข็งแกร่งซึ่งถูกรับรองโดยสามผู้หลุดพ้น มันมีสาขาในเมืองเป่ยซวน สาขาจะตั้งอยู่ที่ป่าทางใต้ของเมือง มันอยูในปราสาทและทุกคนสามารถหามันได้บนแผนที่”
“อย่างไรก็ตาม ปราสาทไฮน์เซ็นถูกบุกรุกโดยหนึ่งในผู้เข้าร่วมการประเมิน ชื่อของเขาคือหลิน ฮวง เขาได้ขโมยยาเสพติดทั้งหมด เขาบอกกับฉันว่าหากใครคนไหนต้องการจะผ่าน ทุกคนก็จะต้องซื้อยาจากเขาในราคา1000คริสตัลชีวิต...”
ภาพของหลิน ฮวงที่ถูกถ่ายระหว่างการลงทะเบียนถูกแนบมาที่ด้านล่างของกระดาษ
“มันกล้าดียังไงถึงกล้าขายพวกเราในราคา1000คริสตัลชีวิตต่อก้อน!มีทั้งหมด5000คริสตัลวัชพืช ไม่ใช่ว่ามันจะทำเงินได้ถึง5ล้านคริสตัลชีวิต?!”
“นี่มันมากเกินไป!”
“เราสามารถพิจารณาจ่ายเงินให้เขาได้ในราคาที่สมเหตุสมผล แต่ราคานี่มันบ้าบอเกินไป!”
หลายคนร้องด้วยความโกรธเมื่ออ่านข้อความบนกระดาษ บางคนเริ่มที่ค้นข้อมูลผ่านเครือข่ายหัวใจ ในไม่ช้า พวกเขาก็พบภาพของคริสตัลZCและยืนยันว่ามันเหมือนกันกับที่เขาได้เห็นจากหัวหน้าผู้คุม และพวกเขายังพบข้อมูลของปราสาทไฮน์เซ็นและยืนยันว่าพวกเขาเป็นผู้ผลิตจริงๆ
เนื่องจากข้อมูลที่แสดงบนเครือข่ายเป็นจริง หลายคนจึงเริ่มเชื่อว่าหลิน ฮวงได้ขโมยยาไปจริงๆ ความวุ่นวายเกิดขึ้นภายในฝูงชนและพวกเขาก้ขอดูภาพหลิน ฮวงเนื่องจากกระดาษได้เผยตำแหน่งของหลิน ฮวงเอาไว้ หลายคนจึงมุ่งหน้าไปยังป่าโดยรถมอนสเตอร์ พวกเขาต้องการจะเอาคริสตัลวัชพืชมาจากหลิน ฮวง
“หลิน ฮวง?ไม่ใช่ว่านั่นคือเด็กที่ยังไม่ถึงระดับเหล็ก?หากนั่นคือเข้าจริงๆ ฉันจะสั่งสอนบทเรียนให้เขาเอง!”ไป่ หยานผู้ที่สวมเสื้อคลุมสีแดงขมวดคิ้วขณะที่อ่านข้อความบนกระดาษ เขาจำหลิน ฮวงได้ดีจากเมื่อหลายเดือนก่อน และก็เพราะหลิน ฮวง เขาจึงถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขี้ขลาดบนเครือข่ายหัวใจ
หลังจากที่พึมพำ ไป่ หยานก็อัญเชิญอินทรีสีเลือดออกมาและมุ่งหน้าไปยังป่าทางใต้ขณะที่คนอื่นๆชื่นชมเขา เด็กสาวผมหางม้าก็หายไปเช่นกัน หลิน ฮวงที่อยู่ในป่าทางใต้ของเมืองเป่ยซวนไม่ได้ตระหนักถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมาคมนักล่า
มันเกือบจะเที่ยงแล้ว เขารู้สึกผ่อนคลายขณะที่กินขนมเพื่อรอคอยความมืดอย่างอดทน ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงกระพือปีกบนหัวเขา หลิน ฮวงรีบเปิดใช้งานเนตรไร้ขอบเขตทันที
“อินทรีสีเลือด?!”หลิน ฮวงตระหนักถึงมันในทันทีขณะที่นึกถึงไป่ หยาน ตอนนี้อินทรีมันอยู่ในระดับเงินแล้ว
“ไป่ หยานเองก็พบสถานที่นี้เช่นกันฝ.
หลิน ฮวงพบว่ามันแปลก เขาไม่คิดว่าไป่ หยานจะพบสถานที่นี้ได้หลังจากเขาครึ่งชั่วโมง ในทางทฤษฏี มันควรจะใช้เวลาสักพักเพื่อที่ไป่ หยานจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด
“ออกมาซะ หลิน ฮวง!”ไป่ หยานตะโกนจากท้องฟ้า โชคดี ระยะห่างระหว่างพวกเขากับตัวปราสาทนั้นค่อนข้างไกล หลิน ฮวงกังวลว่าเด็กสาวผมหางม้าจะมาหาเขาอีกครั้ง นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงอยู่ห่างจากตำแหน่งเดิมถึง2-3กิโลเมตร ไม่อย่างนั้น ผู้คนในปราสาทคงจะได้ยินเสียงของไป่ หยานไปหมดแล้ว
“เขามาหาฉัน?”หลิน ฮวงขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าไป่ หยานจะมาหาเขาแทนที่จะมาหาปราสาท
“ไป่ หยาน แกบ้าไปแล้วรึไง?!”หลิน ฮวงยืนขึ้นบนกิ่งไม้และจ้องมองไป่ หยานที่กำลังบินอยู่ในอากาศ ไป่ หยานลูบอินทรีของเขาขณะที่มันร่อนลงบนพื้นช้าๆ จากนั้นเขาก็เรียกอินทรีกลับและมองหลิน ฮวงที่ยืนบนกิ่งไม้ “หลิน ฮวง ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็นแกจริงๆ เป็นเพราะแก ฉันจึงถูกวิจารณ์โดยชาวเน็ตว่าเป็นไอขี้ขลาด วันนี้ ฉันจะสั่งสอนแกและอัดวิดิโอเอาไว้ ฉันจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าใครคือไอขี้ขลาดที่แท้จริง!”
“แกบ้ารึเปล่า!หรือว่าแกจะเป็นคนบ้าอยู่แล้ว?”หลิน ฮวงจ้องมองไป่ หยานจากข้างบน“แกมาหาฉันเพียงเพราะผู้คนเรียกแกว่าไอขี้ขลาด?ฉันได้ยอมรับคำขอสัมภาษณ์จากสื่อต่างๆหรือพูดไม่ดีใส่แกรึไง?”
“แก....”ไป่ หยานไม่รู้วิธีตอบสนองต่อคำพูดของหลิน ฮวง จากนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่ามีสองคนที่เปิดเผยถึงความจริงที่เกิดขึ้นกับสื่อและไม่ใช่หลิน ฮวง หลิน ฮวงไม่ได้ให้การสัมภาษณ์ใดๆกับสื่อ หรือพูดไม่ดีใส่ไป่ หยาน เขาไม่ได้ตอบโต้คำพูดของหลิน ฮวง
“อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นถูกแล้วเพราะแกเป็นไอขี้ขลาดจริงๆ!”หลิน ฮวงพูดต่อเมื่อเห็นไป่ หยานไม่สามารถตอบโต้ได้
“บัดซบ!”ไป่ หยานเกลียดการถูกเรียกว่าไอขี้ขลาด
“แกมาหาฉันเพราะอยากที่จะต่อสู้กันฉัน?”หลิน ฮวงหัวเราะ “ตอนนี้ ฉันได้มาคิดเกี่ยวกับมัน ทำไมแกจึงเลือกที่จะหนีไปในวันนั้น?แกรู้สึกกลัวที่จะต้องตาย?ไม่ใช่ว่ามันถูกแล้วที่พวกเขาเรียกแกว่าไอขี้ขลาด?”
เส้นเลือดดำปูดขึ้นบนหน้าผากของไป่ หยาน เพราะเขาไม่อาจหักล้างคำพูดของหลิน ฮวงได้
“นอกจากนี้ ตอนที่แกหนีก็ไม่ใช่หลักฐานเดียวที่บ่งชี้ว่าแกเป็นคนขี้ขลาด”หลิน ฮวงยิ้มเย้ย
“แกหมายความว่ายังไง?!หลิน ฮวง หากแกยังไม่หยุดพูด ฉันจะฆ่าแก ฉันไม่สนว่าฉันจะถูกขึ้นบัญชีดำไหม ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะฆ่าแก!!!”ไป่ หยานโกรธจนตัวสั่น
“งั้นแสดงว่านายอยากจะรู้ ฉันจะบอกนายเอง”หลิน ฮวงรู้สึกภูมิใจ
“ครึ่งปีก่อน แกถูกเชิญให้เข้าร่วมกับสมาคมในฐานะนักล่า แกไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการประเมินนักล่าเช่นคนอื่น แต่ทว่า แกลับตัดสินใจที่จะเข้าร่วม แล้วอะไรคือเหตุผลนั้นละ?บางทีมันอาจจะเหมือนกับสิ่งที่แกได้กล่าว แกต้องการทดสอบความสามารถของแก แต่นั่นไม่ใช่!แกเพียงต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นว่านายทรงพลังกว่าเราแค่ไหน”
“ตอนนี้ แกได้เข้าร่วมการประเมินนักล่าปกติด้วยจุดประสงค์เดียวกัน – เพื่อแสดงให้เห็นว่าแกทรงพลังกว่าเราทุกคน”
“แล้วมันผิดยังไงละ?!ฉันทรงพลังกว่าพวกแกทุกคนจริงๆ แกมีสิทธิ์อะไรถึงเรียกฉันว่าไอขี้ขลาด?”ไป่ หยานยังคงไม่รู้ว่าหลิน ฮวงต้องการจะสื่อถึงอะไร
“แกไม่ตระหนักเลยรึไงว่าแกกำลังนำตัวเองไปเทียบกับคนที่อ่อนแอกว่า?แกสนุกไปกับการกดข่มผู้ที่อ่อนแอกว่า นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมแกจึงเข้าร่วมการประเมินที่ไม่จำเป็น”
“หากฉันเป็นแก ฉันจะใช้เวลาที่มีไปกับการฝึกแทนที่จะเอาพลังที่มีมาอวดเบ่งกับการประเมินที่ไร้ค่า”
“พลังที่แท้จริงจะมาก็ต่อเมื่อคนๆนั้นกล้าพอที่จะเผชิญกับความเสี่ยง พวกเขาคือคนที่กล้าพอจะท้าทายคนที่ทรงพลังกว่าเพื่อข้ามผ่านกำแพงที่ขวางกั้นพวกเขา....ไม่เหมือนกับแก คนที่เอาแต่วางตัวอยู่ในเขตสบายๆขณะที่กดขี่ผู้ที่อ่อนแอกว่าเพื่อให้ตัวเองรู้สึกเหนือกว่า”
“แกกลัวที่จะท้าทายคนที่ทรงพลังกว่าแก นี่คือเหตุผลที่ทำให้แกเข้าร่วมการประเมินที่ไม่จำเป็นนี่ครั้งแล้วครั้งเล่า แทนที่จะท้าทายคนที่อยู่ในระดับเดียวกับแกหรือมากกว่านั้น แกกลัวว่าแกจะแพ้ ดังนั้น แกจึงมุ่งมั่นที่จะเอาชนะแต่คนที่อ่อนแอกว่าแก”
“บอกฉันสิ ว่าแกไม่ใช่คนขี้ขลาดที่กลัวความท้าทายที่แท้จริง?!”สิ่งที่หลิน ฮวงกล่าวทำให้ไป่ หยานพูดไม่ออก
ไป่ หยาน ไม่ได้ตระหนักว่าปัญหาคือตัวเขาเอง ทั้งหมดที่เขารู้คือเขารักที่จะอวดเบ่งผู้ที่อ่อนแอกว่า เขาไม่เคยมองปัญหานี้ในระดับที่ลึกขึ้น สิ่งที่หลิน ฮวงได้กล่าวทำให้เขาตระหนักถึงตัวเขาเอง – การหลบหลีกความท้าทายที่แท้จริง เขาไม่มีอะไรจะพูด
ไป่ หยานโกรธ แม้ว่าหลิน ฮวงจะพูดถูก แต่เขาก็ไม่อยากจะยอมรับมัน เขาไม่ต้องการยอมรับว่าหลิน ฮวงพูดถูก แหวนระดับทองแดงบนมือเขาเปลี่ยนเป็นหอก เขาชี้หอกมาทางหลิน ฮวงที่ยืนบนกิ่งไม้ “หลิน ฮวง เราควรจะลืมทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเราหลังจากการต่อสู้นี้ ฉันจะไม่มาหาเรื่องแกอีก เพื่อป้องกันความไม่เป็นธรรม.. ฉันจะไม่อัญเชิญมอนสเตอร์ตัวใดของฉันออกมา จงรับการโจมตีของฉันโดยไม่พ่ายแพ้เร็วไปนัก ฉันหวังว่าความสามารถของแกจะดีเหมือนปาก เพราะความสามารถของเรามันต่างกันเหมือนสวรรค์กับโลก!”
หลิน ฮวงยิ้มหยันเมื่อได้ยินสิ่งที่ไป่ หยานกล่าว แหวนระดับทองแดงบนมือเขาเปลี่ยนเป็นดาบ จากนั้นเขาก็กระโดดลงจากกิ่งไม้ราวกับอินทรีที่กำลังจะโจมตีกระต่าย ประกายแสงสีแดงไหววูบผ่านอากาศราวกับดาวหางในท้องฟ้ามืดสนิท มันเป็นความเร็วที่ทำให้ไป่ หยานตกตะลึง เขาสามารถหลบการฟันได้ขณะที่หลิน ฮวงพุ่งทะยานมาทางเขา
“ความเร็วอะไรกัน…”ไป่ หยานตะโกน หอกในมือเขาถูกตัดครึ่งหนึ่งและมีรอยเลือดบนคอเขา เขารู้สึกแปลกๆที่คอจนเอื้อมมือไปแตะกับคอและเห็นเลือดบนนิ้วเขา เขาตกใจมาก“อะไรกัน?ทำไมแกจึงทรงพลังนัก?”ท้ายที่สุดไป่ หยานก็ตระหนักว่าหลิน ฮวงสามารถฆ่าเขาได้ด้วยการตวัดดาบเพียงครั้งเดียว หากแผลมันลึกกว่านี้อีกไม่กี่เซนติเมตร เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
“นี่คือสิ่งที่ฉันได้รับในช่วง6เดือนที่ผ่านมา ขณะที่แกเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งไร้ประโยชน์ ฉันแข็งแกร่งขึ้นด้วยตัวฉัน”หลิน ฮวงอธิบาย
“มันเป็นแกเองที่บอกว่าจะลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราเมื่อการต่อสู้นี้จบลง ฉันหวังว่าแกจะเก็บคำสัญญานี้ไว้และหยุดตอแยฉัน”หลิน ฮวงกล่าวและเดินจากไป
“เดี๋ยวก่อน!”ไป่ หยานตะโกนและหยุดหลิน ฮวงจากการเดินหนีไป