TWO Chapter 238 น้ำแข็ง
TWO Chapter 238 น้ำแข็ง
โอหยางโชวเดินออกจากวัดขงจื้อ และเดินต่อไปที่วัดทางทหาร ที่อยู่อีกข้างหนึ่งของวัดจักรพรรดิเหลือง
การออกแบบของวัดทางทหารคล้ายกับวัดขงจื้อ โดยให้ความเคารพนับถือ ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้และนายทหาร โดยมีเจียงฉีหยา(เจียงซาง) เป็นนักบุญ, จางเหลียงเป็นรองนักบุญ พร้อมด้วย 10 นักปราชญ์ และ 72 ขุนพล
ซีหวานซุ่ยของเมืองซานไห่เองก็เป็น 1 ใน 72 ขุนพล, เนื่องจากเอ้อหลายมาจากราชวงศ์ที่เก่าแก่เกินไป เขาจึงไม่ได้ถูกรวมอยู่ในนี้ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่น่าเศร้ามาก
โอหยางโชวหยิบเม็ดเครื่องหอมออกมา จากนั้น เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้นที่หูของเขา
“แจ้งเตือนระบบ : ตรวจพบว่าผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่มีเม็ดเครื่องหอม คุณต้องการใช้หรือไม่?”
“ใช้มัน!”
เกิดเสียง ‘ซู่’ จากนั้น เม็ดเครื่องหอมก็กลายเป็นแสงสีขาว และพุ่งเข้าไปในรูปปั้น
“แจ้งเตือนระบบ : เม็ดเครื่องหอมทำให้รูปปั้นพอใจ วัดทางทหารได้รับลักษณะพิเศษใหม่ - ศิลปะการต่อสู้(โอกาสที่นายทหารจะทะลุคอขวด เพิ่มขึ้น 30%)”
ลักษณะพิเศษใหม่นี้ เป็นเหมือนพรวิเศษสำหรับนายทหารอย่าง ซุนเถิงเจียว และเจ้าซีฮู ที่ยังติดอยู่ในระดับนายทหารขั้นต้น โอหยางโชวกำลังรอคอยให้พวกเขาทำลายคอขวดทีละคนทีละคน
โอหยางโชวไม่ได้คาดหวังเลยว่า เม็ดเครื่องหอมที่ทั้ง 5 ที่ตี้สินมอบให้เขา จะมีประสิทธิภาพขนาดนี้ มันทำให้เขารู้สึกขอบคุณตี้สินอย่างมาก
หลังทานอาหารค่ำ โอหยางโชวก็เรียกสาวๆที่อยู่ส่วนหลังของคฤหาสน์มาพบ ซึ่งรวมถึงสีฉินและสีฉีด้วย เขามองไปที่ขุ่ยหยิงหยู แล้วกล่าวว่า “หยูเอ๋อ หลังจากกรมการเงินจัดตั้งฝ่ายอุตสาหกรรมแล้ว ร้านค้าต่างๆและโรงเตี๊ยมที่อยู่ภายใต้กรม จะถูกย้ายมาอยู่ภายใต้คฤหาสน์ของลอร์ด” ร้านค้าต่างๆและโรงเตี๊ยมที่โอหยางโชวกล่าวถึง เป็นกิจการที่ขาดทุน โอหยางโชวจึงดึงพวกมันมา เพื่อแสดงความใจกว้างของคฤหาสน์ของลอร์ด
ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่ามันแปลก แต่เธอก็พยักหน้าตอบรับ
ในระหว่างการประชุมการปกกครองและการทหาร การวิพากษ์วิจารณ์ของโอหยางโชว ทำให้ขุ่ยหยิงหยูรู้สึกไม่ดี เธอจึงต้องการทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมให้ดีที่สุด แน่นอนว่า รวมถึงร้านค้าต่างๆและโรงเตี๋ยมด้วย
โอหยางโชวมองไปที่หญิงสาวทั้งหมด แล้วกล่าวว่า “ในขณะที่กิจการต่างๆของที่อยู่ภายใต้คฤหาสน์ของลอร์ดมีมากขึ้น ห้องเก็บของภายในของคฤหาสน์จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและครบครันมากขึ้น ซึ่งมันก็จะทำให้ยุ่งมากขึ้นด้วย ดังนั้น เราจึงต้องตั้งกฎระเบียบ เพื่อควบคุมเรื่องต่างๆของที่นี่ โดยข้าตัดสินใจจะสร้างฝ่ายแม่บ้าน ซึ่งจะรับผิดชอบเรื่องภายในคฤหาสน์ทั้งหมด”
คำกล่าวของโอหยางโชวดึงความสนใจของทุกคน เนื่องจากโครงสร้างของเมืองซานไห่ได้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว ขณะที่คฤหาสน์ของลอร์ดกลับไม่มีโครงสร้างใดๆ และขุ่ยหยิงหยูเองก็เคยพูดคุยกับโอหยางโชวในเรื่องนี้แล้วเช่นกัน
โอหยางโชวมองไปที่ซ๋งเจี๋ยและหัวเราะ “ฝ่ายแม่บ้านจะควบคุมตัวเอง และมุ่งเน้นไปที่การจัดการเรื่องต่างๆของคฤหาสน์ของลอร์ดเท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่นอีก สำหรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย เจ้าจะยอมรับมันหรือไม่?”
ซ่งเจี๋ยหน้าแดง เมื่อเธอได้ยิน เธอก็เข้าใจความมหายในคำกล่าวของเขาทันที การที่เขาขอให้เธอเป็นหัวหน้าฝ่ายแม่บ้าน ก็เหมือนกับว่าเขาขอให้เธอเป็นายหญิงแห่งคฤหาสน์ของลอร์ด
เดิมทีเรื่องนี้ถูกเก็บไว้เงียบๆ แต่ตอนนี้ โอหยางโชวตัดสินใจที่จะเปิดเผยมันออกไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเลยว่าเธอรู้สึกอายมาก
“ข้ายอมรับ!” ซ่งเจี๋ยไม่ได้ลังเลมากนักที่จะตอบตกลง
โอหยางโชวพยักหน้า เขาชื่อชมส่วนนี้ของซ่งเจี๋ย เมื่อเธอเกี่ยวข้องกับโอหยางโชวแบบสามีภรรยาแล้ว เธอก็ไม่ต้องกลัวคนอื่นจะซุบซิบนินทาอีก จากนั้น โอหยางโชวก็กล่าวต่อว่า “นอกเหนือจากหัวหน้าฝ่าย ยังจะต้องมีผู้จัดการและผู้ช่วยอีก 2 คน โดยผู้จัดการก็คือ ฉีสือ และผู้ช่วยก็คือ สีนฉินและสีฉี”
“ขอบคุณท่านลอร์ด!” ฉีสือและอีก 2 คน คุกเขาลงแล้วกล่าวขอบคุณโอหยางโชว
ในขณะนี้นิกายกระบี่ตงหลี่เพิ่งจะก่อตั้งขึ้น ซ่งเจี๋ยจึงไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลคฤหาสน์ของลอร์ด ดังนั้น ผู้จัดการจะเป็นผู้ทำหน้าที่แทนเธอ ฉีสือรู้สึกลึกซึ้งและขอบคุณเขา ที่แต่งตั้งเธอให้รับตำแหน่งที่สำคัญเช่นนี้
ไม่มีใครรู้ว่าปานเซี่ยรู้สึกอย่างไร เธอยืนอยู่ด้านหลังของซ่งเจี๋ย ขณะที่เฝ้าดูเหล่าพี่สาวของเธอได้รับตำแหน่งดังกล่าว ถ้าเธอไม่เลือกฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ เธอก็คงจะได้อยู่ฝ่ายแม่บ้านนี้
“เรียนท่านลอร์ด ยังคงมีเวลาอีก 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะถึงเทศกาลในกลางฤดูใบไม้ร่วง ท่านมีความคิดจะทำอะไรหรือไม่?” ฉีสือใช้โอกาสนี้ถามเขา
โอหยางโชวกลายเป็นแข็งค้าง เขาไม่คาดคิดว่าช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงจะมาถึงเร็วขนาดนี้ มันเป็นเทศกาลจีนแบบดั้งเดิม และมันก็เป็นเทศกาลที่สำคัญมาก มันเป็นช่วงเวลาที่คนในครอบครัวจะมารวมตัวกัน
“ข้าไม่ได้ยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับมัน เพียงทำไปตามปกติก็พอ” โอหยางโชวรู้สึกแย่เล็กน้อย
“ค่ะท่านลอร์ด” ฉีสือพยักหน้า
“เอาละ พอเท่านี้แหละ” ทุกคนกลับไปที่สิ่งที่ตัวเองจะทำ ในขณะที่โอหยางโชวกลับไปที่ห้องของเขา
โอหยางโชวนั่งบนเตียงของเขา และหยิบลูกประคำเย็นออกมา เข่าวางมันไว้บนฝ่ามือแล้วปิดตา จากนั้น เขาก็เริ่มการบ่มเพาะของเขา เขาเปิดใช้งานเส้นลมปราณ และหมุนวนกำลังภายในตามเทคนิคการบ่มเพาะกำลังภายในของจักรพรรดิเหลือง โดยเขาเริ่มหมุนวนช้า
ในขณะนั้นเอง ไอเย็นก็กระจายออกมาจากฝ่ามือของเขา มันกระจายไปทั่วเส้นลมปราณของเขา หลังจากที่ได้รับการกระตุ้นจากไอเย็นของลูกประคำ กำลังภายในสีทองก็ดูเหมือนจะหมุนวนได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่า ผลกระทบของไอเย็น จะทำให้สายเลือดอสูรในร่างกายของเขาสงบลงด้วย มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาอีกต่อไป
2 เดือนที่ผ่านมานี้ เขาได้บ่มเพาะเทคนิคการบ่มเพราะกำลังภายในของจักรพรรดิเหลืองมาถึงขั้นที่ 3 แล้ว และขีดจำกัดของขั้นที่ 3 ก็คือ 5,000 จุด ซึ่งเป็น 5 เท่าของขั้นที่ 2
ในช่วงนี้ โอหยางโชวได้อ่านพระคัมภีร์อย่างละเอียด ทำให้การบ่มเพาะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับเขา พระคัมภีร์ทำให้เขาเข้าใจเทคนิคการบ่มเพาะกำลังภายในของจักรพรรดิเหลืองได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เขาบ่มเพาะได้ลึกซึ่งขึ้น
ในครั้งที่เขาเพิ่งจะเริ่มบ่มเพาะเทคนิคนี้ เขาได้พึงพาเพียงความรู้ที่ไกอาได้ปลูกฝังไว้ในหัวของเขา ในตอนนั้น เขาเพียงเรียนรู้จากมันเท่านั้น
ขณะที่เขาได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับลัทธิเต๋า เขาก็พยายามมองหาวิธีบ่มเพาะในรูปแบบใหม่ มันทำให้เขาเข้าใจมันมากขึ้นเรื่อยๆ
ในตันเถียนของเขา เส้นใยของกำลังภายในที่แข็งแกร่ง ไปขดตัวอยู่รวมกัน กลายเป็นหมอกที่ปกคลุมไปทั่วทุกแห่ง
จนถึงวันนี้ โอหยางโชวสามารถหมุนวนได้วันละ 7 รอบ โดยแต่ละรอบจะทำให้เขามีกำลังภายในเพิ่มขึ้น 8 จุด แต่หลังจากที่เขาได้ใช้ลูกประคำเย็น การบ่มเพาะของเขาก็เร็วขึ้น ลูกประคำช่วยให้เขาหมุนวนได้ถึง 9 รอบ
ดังนั้น ในตอนนี้ โอหยางโชวจึงสามารถเพิ่มกำลังภายในได้ถึง 72 จุด/วัน ด้วยความเร็วนี้ อีกไม่นานเขาก็จะบ่มเพาะเทคนิคการบ่มเพาะกำลังภายในของจักรพรรดิเหลืองถึงขั้นที่ 4
จากนี้ จะเห็นความสำคัญของเส้นทางต่างๆในการบ่มเพาะได้ อุปกรณ์จากภายนอกที่สามารถช่วยเหลือการบ่มเพาะก็มีความสำคัญเช่นกัน ลูกประคำเล็กๆนี้สามารถช่วยเขาได้เป็นอย่างมาก
น่าเสียดายที่เขาเพิ่งจะมีสมบัติเช่นนี้เพียงแค่ชิ้นเดียว
เช้าตรู่ โอหยางโชวเริ่มฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของเขา
เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการนอนของปิงเอ๋อ โอหยางโชวจึงไปฝึกฝนอยู่ที่พื้นที่ว่างเปล่าในส่วนหลังของคฤหาสน์ ที่ห่างจากตัวอาคารหลัก และเพื่อช่วยในการฝึกปาจีฉวน เขาได้วางหุ่นไม้ไว้ที่นั่นด้วย
นับตั้งแต่ซ่งเจี๋ยย้ายมากอยู่ที่นี่ ทั้ง 2 ก็มักจะไปฝึกฝนอยู่ที่นั่น ในเวลาเดียวกัน
ซ่งเจี๋ยเป็นดั่งเจ้าหญิงในโลกจริง แต่แรงบันดาลใจของเธอแตกต่างออกไปจากตัวตนในโลกจริงของเธอ เธอมีแรงบันดาลใจในการฝึกฝน และมันไม่ได้ด้วยไปกว่าคนอย่างโอหยางโชวเลย
ส่วนหลังของคฤหาสน์ในตอนเช้าเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยนกและกลิ่นหอมของดอกไม้ เมื่อก้าวไปบนพื้นดิน กลิ่นความสดชื่นจากหญ้าและดอกไม้ก็จะฟุ้งเข้าจมูก ไกอาช่างน่าอัศจรรย์มาก สภาพแวดล้อมเสมือนนี้ เหมือนกับในโลกจริงอย่างมาก
ทั้ง 2 ทักทายและเดินเคียงข้างกัน จากนั้น พวกเขาก็เริ่มการฝึกฝนของตนเอง
ในขณะที่เขาบ่มเพาะเทคนิคการบ่มเพาะกำลังภายในของจักรพรรดิเหลืองได้ลึกซึ่งมากขึ้น ความแข็งแกร่งของกำลังภายในก็ส่งผลสู้ภายนอก มันทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน
ความสามรถในการเรียนรู้อย่างรวดเร็วของโอหยางโชว เริ่มส่งผลต่อการฝึนฝนของเขา
ไม่ว่าจะเป็นปาจีฉวนหรือเพลงหอกตระกูลหยาง พวกมันทั้งหมดพัฒนาขึ้นอย่างมาก ปาจีฉวนของเขาได้มาถึงระดับ ‘คุ้นเคย’ แล้ว และเพลงหอกตระกูหยางก็ได้มาถึงระดับ ‘คล่องแคล่ว’ แล้ว
ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของโอหยางโชว เทียบได้กับหลินยี่
สิ่งที่น่าเศร้าก็คือ เขายังไม่พบหอกที่เหมาะสมกับเขา หอกเหล็กชั้นสูงในมือของเขา ทำให้ไม่สามารถใช้พลังใดๆร่วมกับมันได้
โดยเฉพาะลำหอกที่ทำจากไม้ทั่วไป ที่ขาดกระบวนการทางหัตถกรรมที่ซับซ้อน ทำให้มันไม่อาจจะทนต่อความแข็งแกร่งของพลังภายในของโอหยางโชวได้
ถ้าเขาปล่อยพลังภายในเข้าไปในหอก มันจะเกิดเสียงหึ่งๆ จากนั้น ลำหอกก็จะเริ่มแตกร้าว
อย่างช่วยไม่ได้ โอหยางโชวทำได้เพียงใช้พลังภายในของเขากับหอกได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เพราเขาไม่สามารถเปลี่ยนหอกได้ทุกครั้งที่ฝึกเสร็จ
แม้ว่าเมืองซานไห่จะเจริญรุ่งเรือง แต่ก็ไม่สามารถจ่ายค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยดังกล่าวได้
หลังจากที่โอหยางโชวฝึกเสร็จ ตัวเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อ และเสื้อผ้าของเขาก็เปียกชุ่ม เขาหยิบผ้าเช็ดตัวมาจากราวไม้ และใช้มันเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเขา
อีกด้านหนึ่ง ซ่งเจี๋ยยังคงฝึกเพลงกระบี่ของเธออยู่ เพลงกระบี่เยว่นู่ของเธอๆได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะนั้นเอง ได้มีลมพัดผ่านมา มันได้พัดเอาใบไม้เล็กๆใบหนึ่งขึ้นมา จากนั้น มันก็ลอยไปในอากาศ เข้าไปใกล้กับซ่งเจี๋ย
กระบี่เหล็กประณีตราวกับได้ผสานเข้ากับสายลม มันไม่ติดขัดใดๆ ขณะที่มันถูกกวัดแกว่งผ่านอากาศ เมื่อเขามองไปที่ใบไม้ใบนั้นอีกครั้ง กระบี่ของเธอก็ได้ตัดมันออกเป็น 2 ส่วนแล้ว เมื่อเข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ จะพบว่ารอยตัดถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ซึ่งเป็นผลมาจากคัมภีร์เก้าหยิน
เทคนิคการบ่มเพาะนี้ สามารถฝึกฝนได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่เพศที่แตกต่างกัน ก็จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน พลังภายในของซ่งเจี๋ยมีผลลัพธ์เป็นน้ำแข็ง ถ้าเธอได้บ่มเพาะมากพอ มันสามารถซึมเข้าไปในหัวใจและกระดูกของเธอได้
เมื่อเทียบกับหอกเหล็กกล้าของเขา กระบี่เหล็กในมือของเธอสามารถรับมือกับความแข็งแกร่งของพลังภายในได้มากกว่า ดังนั้น ซ่งเจี๋ยจึงสามารถใช้มันได้โดยไม่ต้องคิดมากนัก
“แปะ แปะ แปะ!” โอหยางโชวปรบมืออย่างชื่นชม “เพลงกระบี่ยอดเยี่ยม!”
ซ่งเจี๋ยลดกระบี่ของเธอลง แล้วหัวเราะ ก่อนจะกล่าวว่า “มันเป็นอย่างไรบ้าง? มันออกมาดีหรือไม่?”
“เพลงกระบี่ของท่านผู้นำนิกายซ่งนั้น ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ข้าอิจฉาจริงๆ” โอหยางโชวอดไม่ได้ที่จะกล่าวชมเธอ
ซ่งเจี๋ยเป็นเหมือนกับนกยูงที่ภาคภูมิใจ เธอหัวเราะคิกคักขณะที่เธอเก็บกระบี่เข้าฝัก หลังจากนั้น เธอก็พยักหน้าให้โอหยางโชว แล้วมองไปรอบๆ ปลดปล่อยกลิ่นอายของนางเอกออกมา
โอหยางโชวมองด้วยความขบขัน เขาหยิบหอกแล้วเดินกลับไปที่อาคารหลัก ฉีสือสั่งให้บางคนเตรียมน้ำเย็นไว้ให้โอหยางโชวอาบ เพื่อทำความสะอาดร่างกาย
แฟนเพจ : TWOแปลไทย