TWO Chapter 237 ได้รับการช่วยเหลือจากความตาย
TWO Chapter 237 ได้รับการช่วยเหลือจากความตาย
โอหยางโชวระงับความต้องการของเขา สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ เขายังคงวางแผนและจัดระเบียบดินแดนของเขาต่อไป
“ปัญหาทางการเงินของดินแดนส่วนใหญ่เกิดจาก เราพึ่งพาเหมืองแร่หลางซานและนาเหลือเขตเหนือมากเกินไป ทำให้เราสูญเสียแรงจูงใจในการขยายและค้นหาอุตสาหกรรมใหม่ๆ เนื่องจากดินแดนและกองทัพขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เราจึงต้องให้เงินจาก 2 แหล่งนี้เพื่อหล่อเลี้ยง และมันก็ยังคงไม่เพียงพอ เราต้องการมากกว่านี้”
“ไม่ว่าจะเป็นเหมืองแร่หลางซานหรือนาเกลือเขตเหนือ ขนาดและกำไรของพวกมันได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว มันไม่สามารถที่จะพัฒนาและเติบโตได้อีก ดังนั้น สำหรับแผนในระยะยาว เราจำเป็นต้องค้าหาอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากอุตสาหกรรมหลักของเรา อย่างผลิตภัณฑ์ทางทหาร และดินแดนยังมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่าง เหล้า 3 ดอกไม้ และผ้าไหมหลากสี พวกมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรได้สูง แต่น่าเสียดายที่พวกมันไม่ได้รับการสนับสนุนที่มากพอ และอยู่ในภาวะครึ่งๆกลางๆ ในความเป็นจริง ศักยภาพของผลิตภัณฑ์ท้องถื่นเหล่านี้ สูงกว่าเหมืองแร่หลางซานและน่าเกลือเขตเหลือเสียอีก เพราะมันมีความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด”
คำกล่าวของโอหยางโชวเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ตนเอง และยังเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกรมการเงินด้วย ไม่ว่าจะเป็นเหล้า 3 ดอกไม้หรือผ้าไหมหลากสี โอหยางโชวได้ส่งพวกมันให้กรมการเงินดูแล และได้ให้คำแนะนำกับพวกเขา แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้เอาใจใส่พวกมันมากนัก ทำให้พวกมันไม่ได้รับการสนับสนุนที่มากพอ
โอหยางโชวส่งสายตาไปที่ขุ่ยหยิงหยู เพื่อเป็นสัญญาณไม่ให้เธอกล่าวขอโทษออกมา จากนั้น เขาก็กล่าวต่อว่า “ข้าได้ตัดสินใจที่จะจัดตั้งฝ่ายอุตสาหกรรมขึ้น โดยข้าจะให้พวกเขาดูแลเหล้า 3 ดอกไม้, ผ้าไหมหลากสี และชาขาว ในขณะเดียวกัน ข้าจะมอบทุน 5,000 เหรียญทอง เป็นทุนในการสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น สำหรับแผนการเฉพาะ เราจะสร้างโรงงานผลิตเหล้าขนาดใหญ่ ที่ชานเมืองทางตะวันตก โดยเราจะเรียกมันว่า ‘โรงงานเหล้า 3 ดอกไม้’ การผลิตขั้นต้นจะต้องไม่น้อยกว่า 500,000 หน่วย/เดือน นอกจากนี้ เรายังจะขยายสวนหม่อนให้มีขนาดไม่น้อยกว่า 10,000 หมู่ สำหรับชาขาว เนื่องจากภูมิประเทศมีผลต่อการเพาะปลูกพวกมัน มันจึงมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง”
ในขณะที่โรงงานเหล้า 3 ดอกไม้เปิดทำการ มันจะเป็นที่นิยมมากขึ้นในต้าหลี่ เมื่อพวกเขาขายมันในราคาหน่วยละ 2 เหรียญเงิน มันจะทำให้พวกเขาได้กำไรมากถึงหน่วยละ 150 เหรียญทองแดง หากโรงงานสามารถบรรลุเป้าการผลิตขั้นต้นได้ พวกมันจะทำกำไรได้มาถึง 7,500 เหรียญทอง/เดือน นอกจากนี้ หากพวกเขาขยายโรงงานอีกในอนาคต ผลกำไรของมันก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ หลังจากที่พวกเขาได้สร้างโรงงานเหล้า 3 ดอกไม้แล้ว มันยังเป็นการสร้างงานจำนวนมากอีกด้วย
จากข้อมูลของประธานสมาคมสิ่งทอ หยิงขุ่ย แอ่งเหลียนโจวสามารถเลี้ยงตัวไหมได้ 4 ครั้ง/ปี สวนหม่อน 1 หมู่ สามารถเลี้ยงตัวอ่อนไหมได้ 90 ตัว ผลผลิตจากตัวไหม 3 ตัว จะใช้ทำไหมได้ 1 หน่วย, ไหม 5 หน่วย จะใช้ทำผ้าไหมได้ 1 หน่วย
ซึ่งก็หมายความว่า สวนหม่อน 1 หมู่ จะสามารถผลิตผ้าไหมได้ 6 หน่วย/ฤดูกาล หลังจากหักภาษี 10% และหักค่าใช้ค่ายในการผลิตแล้ว พวกเขาสามารถทำกำไรจากมันได้มากถึงหน่วยละ 4 เหรียญทอง
ถ้าส่วนหม่อนขยายไปถึง 10,000 หมู่ พวกเขาจะสามารถทำกำไรได้มากถึง 40,000 เหรียญทอง/ฤดูกาล และ 160,000 เหรียญทอง/ปี
จากแผนของเขา โรงงานเหล้า 3 ดอกไม้ และสวนหม่อนแห่งใหม่นี้ จะมีความคล้ายกับเหมืองแร่หลางซานและนาเกลือเขตเหนือ พวกมันจะช่วยเกื้อหนุนดินแดนได้เป็นอย่างมาก
แผนการที่โอหยางโชวเสนอ เป็นแผนที่น่าตื่นเต้นมาก และมันทำให้เลือดของทุกคนเดือดพล่าน
อย่างไรก็ตาม โอหยางโชวยังคงไม่พอใจ และหันมาสนใจอุตสาหกรรมหลัก คือ อุตสาหกรรมทางทหาร หลังจากที่เขาได้แก้ปัญหาเกี่ยวกับแร่เหล็กแล้ว โรงผลิตทั้ง 3 ก็เริ่มขยายตัวขึ้นอีกครั้ง แต่มันก็ยังคงไม่เพียงพอ หากการผลิตอาวุธและอุปกรณ์ใช้เองยังคงไม่เพียงพอ แล้วเขาจะผลิตเพื่อการค้าได้อย่างไรกัน
โอหยางโชวมองไปที่หัวหน้ากิลด์ลั้วเยว่ ซุนเสี่ยวเยว่ แล้วกล่าวว่า “เราจะเปิดโรงผลิตทางทหารทั้ง 3 แห่งในเขตตะวันออก โดยจะรับช่างตัดเย็บ, ช่างตีเหล็ก และช่างไม้จากกิลด์ลั้วเยว่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะต้องลงนามในข้อตกลงการไม่เปิดเผยข้อมูล ข้าหวังว่า ทางกิลด์จะนำคนมาทำงานนี้ได้อย่างเพียงพอ”
ซุนเสี่ยวเยว่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ในฐานะที่ปรึกษา จึงไม่เหมาะนักที่เธอจะพูดมากเกินไป ดังนั้น เธอจึงเพียงแค่พยักหน้าตอบรับเท่านั้น
หลังจากที่ทำงานอย่างหนักมา 3 เดือน กิลด์ลั้วเยว่ก็อัพเกรดเหรียญกิลด์เป็นระดับเงินได้สำเร็จ ซึ่งมันทำให้พวกเขามีขีดจำกัดสมาชิกเพิ่มเป็น 10,000 คน นอกจากนี้ พวกเขายังได้ลักษณะพิเศษของกิลด์เพิ่มขึ้นด้วย
เมื่อโอหยางโชวรู้ข่าวนี้ เขาก็รีบติดต่อน้าของเขาในทันที จากนั้น เขาก็เทเลพอร์ตผู้เล่นอาชีพสายการทำงานทั้งหมดที่กลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบสงคราม-หิมะสรรหา มายังเมืองซานไห่
ทำให้จำนวนสมาชิกของกิลด์ลั้วเยว่ทะลุ 2,000 คนแล้ว และจะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากจำนวนผู้เล่นในเมืองซานไห่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสมดุล โอหยางโชวไม่มีทางเลือก นอกจากต้องส่งผู้เล่นอาชีพสายการทำงานบางส่วน ไปทำงานที่เมืองฉิวซุ่ยและเมืองมิตรภาพ
สำหรับเมืองเป่ยไห่ เขายังคงไม่เปิดให้ผู้เล่นคนอื่นๆเข้าไป
ผู้เล่นอาชีพสายการทำงานมักจะพาครอบครัวของพวกเขามากับพวกเขาด้วย ดังนั้น พวกเขาทั้งหมดจึงมาอาศัยอยู่ในเมืองซานไห่
ผลข้างเคียงนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ผู้เล่นที่เข้ามามักจะเป็นคนรุ่นเยาว์ และสมาชิกในครอบครัวที่มากับพวกเขาแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม มีทั้งผู้สูงอายุ, กลุ่มรุ่นเยาว์ และรุ่นเยาว์ที่อายุน้อย
กลุ่มผู้สูงอายุ มักจะเป็นพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของพวกเขา ทุกคนมีประสบการณ์มากมาย คนเหล่านี้อาจเลือกที่จะตกปลาหรือทำอาหาร และสนุกไปกับชีวิตในเกมส์ หากพวกเขามีทักษะ มหาวิทยาลัยสีหนานก็จะจ้างพวกเขาเป็นครูระดับพื้นฐาน พวกเขาเป็นกลุ่มที่มีเสถียรภาพและมั่นคงมาก
กลุ่มคนรุ่นเยาว์มักจะเป็นพี่น้องของพวกเขา กลุ่มคนเหล่านี้มักจะเป็นผู้เล่นอาชีพสายการต่อสู้เกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ความสามารถพิเศษของพวกเขายังไม่แน่ชัด ส่วนใหญ่ในหมู่พวกเขาจะเลือกผู้เล่นโหมดนักผจญภัย และพวกเขาเป็นกลุ่มที่ไม่มีเสถียรภาพมากที่สุด
สำหรับเรื่องนี้ โอหยางโชวได้สั่งให้ ฝ่ายอัยการดูแลผู้เล่นเจ้าหน้าที่กฎหมาย, กรมการแพทย์ดูแลผู้เล่นหมอ และนิกายกระบี่ตงหลี่ของซ่งเจี๋ย ดูแลผู้เล่นผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เล่นนักเล่นแร่แปรธาตุยังสามารถไปที่วัดฉิงหยางที่ชานเมืองทางทิศตะวันตกได้ด้วย
สำหรับผู้เล่นนักวางกลยุทย์และผู้เล่นนายทหาร เมืองซานไห่ยังไม่เปิดให้ผู้เล่นเหล่านี้เข้ากองทัพชั่วคราว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถเข้าร่วมได้
กลุ่มสุดท้ายก็คือ เด็กเล็ก คนกลุ่มนี้ก็เหมือนกับปิงเอ๋อ พวกเขาต้องไปโรงเรียนที่โลกเสมือนทุกวัน เวลาที่พวกเขาไม่ได้ไปโรงเรียน พวกเขาจะเล่นอยู่รอบๆดินแดน สร้างความสนุกสนานและสีสันให้กับดินแดน
เมื่อเมืองซานไห่เปิดกว้างมากขึ้น กลุ่มผู้เล่นก็เริ่มให้ความไว้วางใจ และมีความรู้สึกที่ดีต่อเมืองซานไห่เพิ่มมากขึ้น
หลังจากที่โอหยางโชวจัดเตรียมแผนการต่างๆ สำหรับการทหาร, เมืองสาขาของดินแดน, โครงสร้างดินแดน และอุตสาหกรรมของดินแดนแล้ว สุดท้าย เขากล่าวว่า “ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะทำงานอย่างหนัก เพื่อให้แผนการทั้งหมดนี้ประสบความสำเร็จ”
“ขอรับท่านลอร์ด!” ข้าราชการและนายทหารทุกนายคำนับพร้อมกันขณะที่กล่าวตอบ
ด้วยเหตุนี้ การประชุมการปกครองและการทหารที่โอหยางโชวเป็นผู้ดำเนินการก็สิ้นสุดลง
ในขณะที่โอหยางโชวกำลังจัดการและวางแผนสำหรับโครงการต่างๆในดินแดนของเขา ก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นที่เมืองดาบหักที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแอ่งเหลียนโจว ซึ่งเหตุการณ์นี้จะส่งผลต่ออนาคตของแอ่งเหลียนโจว
ณ เมืองดาบหัก, คฤหาสน์ของลอร์ด
“เจ้ากล่าวว่าอะไรนะ ช่วยกล่าวซ้ำอีกครั้งทีซิ?” ปาเตากล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“เรียนนายท่าน มันเป็นความจริง 100% ชนเผ่าคนเถื่อนภูเขาที่ร่วมงานกับเราได้ค้นพบเหมืองทองในป่า พวกเขาไม่ทราบวิธีการขุดและการถลุงทอง ดังนั้น พวกเขาจึงต้องการทำงานร่วมกับเรา”
“เยี่ยม!” ปาเตาตบโต๊ะและลุกขึ้นยืน จากนั้น เขาก็เดินออกจากห้องโถงประชุม เขาพยายามที่จะสงบสติอารมณ์ ขฯะที่พึมพำออกมาว่า “สวรรค์ยังไม่ทอดทิ้งข้า!”
ในช่วงสงครามระหว่างดินแดน เมืองดาบหักได้สูญเสียเป็นอย่างมาก ทหารของพวกเขาเกือบจะไม่มีเหลือ และพวกเขาได้ใช้เงินทั้งหมดของดินแดนไปกับการเทเลพอร์ตก่อนหน้านี้
เพื่อระดมทุนในการสร้างกองทัพขึ้นมาใหม่ ปาเตาได้ขายทรัพยากรเกือบทั้งหมด ในช่วงเวลานั้น ปาเตาแทบจะไม่สามารถข่มตานอนหลับได้ เขากลัวว่า เมื่อตื่นขึ้นมา เขาจะพบว่า เมืองซานไห่ได้บุกโจมตีดินแดนของเขา โชคดีที่เมืองเทียนเฟิงได้ดึงความสนใจของพวกเขา จนพวกเขาไม่มีเวลามาพอจะใส่ใจทางฝั่งตะวันออก ดังนั้น พวกเขาจึงปล่อยเมืองดาบหักไว้ชั่วคราว
เพียงในขณะนั้นเอง การเพิ่มขึ้นของราคาธัญพืช ได้ส่งผลให้เมืองดาบหักเข้าสู่ภาวะวิกฤต เมื่อใกล้ตาย เขาก็กลายเป็นสิ้นหวัง
แต่ในขณะที่เขาคิดว่าทุกสิ่งที่อย่างที่เขาสร้างขึ้นกำลังจะหายไป ความหวังก็ปรากฎขึ้น
เหมืองทองจะต้องเป็นของขวัญจากสวรรค์อย่างแน่นอน มันทำให้เขาค้นพบหนทางที่จะอยู่รอด
“ฉีเยว่หวู่ยี่ ข้าจะไม่มีวันให้อภัยเจ้า!” ปาเตาสาบานอย่างแรงกล้า
ในช่วงบ่าย โอหยางโชวเดินออกจากคฤหาสน์ของลอร์ด และมุ่งหน้าไปที่พื้นที่เคารพบูชาที่อยู่ทางตะวันออกของคฤหาสน์
มันมีพื้นที่กว้างใหญ่ และมีจตุรัสตั้งอยู่ที่ส่วนเหนือของพื้นที่เคารพบูชา ซึ่งถึง 100 หมู่ หรือราว 2 ใน 3 ของพื้นที่เคารพบูชา
จตุรัสถูกปูด้วยแผ่นหินสีเขียว นอกจากนี้ ยังล้อมรอบหินอ่อนแกะสลักที่งดงาม
ใจกลางจตุรัสมีเวทีที่ตั้งด้วยหม้อทองแดง นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ ไม่มีสิ่งประดับอื่นใดในจตุรัสอีก
วัดทั้ง 3 แห่ง ตั้งอยู่ด้านหลังของจตุรัส ตรงกลางเป็นวัดจักรพรรดิเหลือง ด้านข้างประกบด้วยสิ่งก่อสร้างพื้นฐานของเมืองขนาดกลางระดับ 3 คือ วัดขงจื้อและวัดทางทหาร
เมื่อมีคนเดินเข้าไปในวัดขงจื้อ พวกเขาจะเห็นลาน 5 แห่ง จากด้านหน้าต่อไปยังด้านหลัง สถานที่แห่งนี้มีกำแพงสีแดง, กระเบื้องสีเหลือง, กำแพงหว้าเหริน, ประตูหลิซิง, ทะเลสาบผาน, ประตูต้าเฉิง, โถงหมิงหลุน, ศาลาจุนจิน และอื่นๆ
วัดขงงจื้อจะให้ความเคารพนับถือขงจื้อ, ศิษย์อาวุโสที่สุดหยานหยาน, 10 นักปราชญ์, 72 ผู้ทรงเกียรติ และ 22 ผู้รอบรู้ นอกจาก 22 ผู้รอบรู้แล้ว คนอื่นๆเป็นสาวกของลัทธิขงจื้อทั้งหมด
10 นักปราชญ์ทั้งหมดจะมีรูปปั้นเป็นของตัวเอง, 72 ผู้ทรงเกียรติจะมีเพียงภาพวาด โดยพวกเขาทั้งหมดจะได้รับเครื่องหอมและการเคารพบูชา
ในเกมส์ ไกอาได้เปลี่ยนแปลงบางอย่างเกี่ยวกับวัดขงจื้อ นอกจากรักษาส่วนของขงจื้อไว้เป็นหลักแล้ว มันได้เปลี่ยน 10 นักปราชญ์ และ 72 ผู้ทรงเกียรติ เป็นเสนาบดี และบุคคลทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง
ฟ่านจงหยานของเมืองซานไห่ก็เป็น 1 ใน 72 ผู้ทรงเกียรติ
หากคนที่อยู่ในรายชื่อเหล่านี้ตายในเกมส์ พวกเขาจะสามารถฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง พวกเขาแทบจะเป็นอมตะเช่นเดียวกับผู้เล่น
โอหยางโชวหยิบเม็ดเครื่องหอมออกมา แล้วเสียงการแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้นที่หูของเขา
“แจ้งเตือนระบบ : ตรวจพบว่าผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่มีเม็ดเครื่องหอม คุณต้องการใช้หรือไม่?”
“ใช้มัน!”
เกิดเสียง ‘ซู่’ จากนั้น เม็ดเครื่องหอมก็กลายเป็นแสงสีขาว และพุ่งเข้าไปในรูปปั้น
“แจ้งเตือนระบบ : เม็ดเครื่องหอมทำให้รูปปั้นพอใจ วัดขงจื้อได้รับลักษณะพิเศษใหม่ - ความสำเร็จทางการเมือง(โอกาสที่ข้าราชการพลเรือนจะทะลุคอขวด เพิ่มขึ้น 30%)”
ตามที่คาดไว้ วัดขงจื้อเพิ่มลักษณะพิเศษของข้าราชการพลเรือน
แฟนเพจ : TWOแปลไทย