เล่ม 3 ตอนที่ 3 : ศึกที่แจ๊คสัน (1)
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
==========
เล่ม 3 ตอนที่ 3 : ศึกที่แจ๊คสัน (1)
“คึคึคึ เข้าโจมตี! กวาดล้างพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือมนุษย์แม้สักคน!”
เป็นอีกครั้ง ที่กลุ่มมอนสเตอร์ฝูงใหญ่พุ่งเข้ามายังประตูด้านหลัง
“ศัตรู ทุกคนเตรียมพร้อมรับศึก!”
ด้วยคำสั่งของครอส กองทหารองครักษ์ที่กำลังพูดคุยกันจึงเร่งร้อนสะดุ้งตัวขึ้น จากนั้นพวกเขาจึงเริ่มเข้าปะทะด้วยเสียงโลหะนับไม่ถ้วนที่ดังขึ้น!
ดังที่ท่านลอร์ดหนุ่มว่าเอาไว้ มันไม่ง่ายเลยที่จะปกป้องประตูทางด้านหลังแห่งนี้
พยุหะมอนสเตอร์หลายสิบตัวได้เข้าโจมตีประตูทางด้านหลังด้วยระยะเวลาที่สม่ำเสมอ ด้วยเลเวลที่ไม่ได้สูงเท่าอัศวินซิลฟีด องครักษ์เหล่านี้ต่างมีความสามารถที่ทัดเทียมได้กับผู้เล่นเลเวล 80 หรือมากกว่านั้น นอกจากนี้ อุปกรณ์สวมใส่ของพวกเขายังนับว่ามีทั้งพลังการโจมตีและป้องกันที่ค่อนข้างดี พวกเขาเพียงลำพังก็สามารถจัดการมอนสเตอร์เงาได้หนึ่งหรือสองตัว แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่บ้าง
ในแง่ขององค์ประกอบ ความสามารถในการศึก และพละกำลัง องครักษ์เหล่านี้ยังห่างไกลจากอัศวินซิลฟีดมากนัก
อย่างแรกเลย องครักษ์เหล่านี้มีองค์ประกอบทั้งมวลไม่อาจดีเทียบเท่าได้กับผู้เล่นในกองกำลังจู่โจม ไม่เหมือนกับผู้เล่นในกองกำลังจู่โจม พวกเขามีทั้งนักรบ นักธนู นักเวท และนักบวช กองทหารองครักษ์มีเพียงแต่นักรบและนักธนู ดังนั้นแล้ว เมื่อศัตรูโผล่เข้ามาพวกเขาจึงไม่มีกลยุทธ์ให้ใช้ได้มากนัก การพุ่งเข้าชนด้วยดาบที่เหวี่ยงสะบัดเป็นเพียงหนทางเดียว
จึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดพวกเขาถึงเสียพลังชีวิตกันไปมากในทุกครั้งที่เกิดการต่อสู้
ปัญหาอย่างที่สองคือ กระทั่งว่าพวกเขาเสียพลังชีวิตไปมาก พวกเขาก็ไม่มีนักบวชคอยเข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟู ต้องขอบคุณที่พวกเขายังมีชุดปฐมพยาบาลหรือว่าอาหารที่กินแล้วฟื้นฟูพลังชีวิตเมื่อการต่อสู้จบลง ในหลายครั้งที่พวกเข้าต้องเข้าต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์อีกครั้งก่อนที่จะได้ทำการฟื้นตัว การต่อสู้โดยที่ความสามารถขาดหายย่อมต้องใช้เวลานานขึ้น และเมื่อมันต้องใช้เวลานานขึ้น กองกำลังองครักษ์จึงต้องสู้อีกครั้งโดยที่พลังชีวิตยังไม่ฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ พวกเขาต้องวนเวียนอยู่เช่นนี้ ที่ยังสามารถยืนหยัดมาจนถึงตอนนี้ได้ก็ต้องขอบคุณอุปกรณ์สวมใส่อันแข็งแกร่งที่เหล่าเอ็นพีซีองครักษ์ได้รับมา
“นี่คือการต่อสู้ที่ทุกคนช่วยแบกรับการป้องกันครั้งยิ่งใหญ่เอาไว้ด้วยชีวิต”
แต่อาร์คไม่ได้เข้าช่วยสนับสนุนการป้องกันด้วยชีวิตในฐานะองครักษ์ ถ้าหากเขาต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่พร้อมจะกระโจนตัวเข้าใส่ดังเช่นที่พวกเขากระทำ ไม่นานเขาก็คงต้องจบสิ้นด้วยความตายแล้ว
“คอยกำจัดพวกมอนสเตอร์อ่อนแอระหว่างที่พวกองครักษ์ปกป้องตัวเองด้วยโล่ก็เข้าท่าดี”
อาร์คเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์เงาสามถึงสี่ตัวที่พลังชีวิตของพวกมันใกล้หมดสิ้นและถูกผลักดันมาทางด้านหลัง ทว่า แม้จะใช้เวลานาน แต่เอ็นพีซีเองก็สามารถเลเวลเพิ่มขึ้นได้ถ้าหากสะสมค่าประสบการณ์เพียงพอ และเมื่อใดที่แต้มสะสมของพวกเขาเพิ่มมากขึ้น ตำแหน่งทางสังคมของพวกเขาก็จะสูงยิ่งขึ้น แน่นอนว่าพวกเขากระหายในค่าประสบการณ์และแต้มสะสม แต่โชคดีที่พวกเขาไม่ได้กล่าวต่อว่าอย่างเปิดเผยเพราะค่าความสัมพันธ์ของเขากับพวกเขานั้นค่อนข้างสูง แต่พวกเขาก็ยังคงจ้องมองเขาด้วยความไม่ยินดีนักที่เขาคว้าเอามอนสเตอร์ที่พลังชีวิตใกล้หมดไป
“จุดยืนของเราอาจหายไปถ้าปล่อยให้ค่าความสัมพันธ์กับเหล่าองครักษ์ลดน้อยลง”
อาร์คที่รู้สึกได้ถึงสถานการณ์ที่ย่ำแย่จึงตัดสินใจละทิ้งความโลภของตนไป
หลังผ่านศึกไปหลายครั้ง เขาก็เริ่มเห็นถึงความประนีประนอมเล็กน้อย
เมื่อเขาเลือกเอามอนสเตอร์ที่พลังชีวิตเหลือเพียงครึ่ง พวกองครักษ์จะไม่เผยปฏิกิริยาที่ชัดเจนมากนัก
“เฮ้ อาร์ค ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองให้มากนักก็ได้”
กลับกัน พวกเขากระทั่งเกลี้ยกล่อมเขา
“ดีล่ะ พวกเขาเริ่มมีท่าทีดีขึ้นมาก! ตอนนี้ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว”
เมื่อถึงขีดจำกัดที่พอมั่นใจได้แล้ว อาร์คจึงเริ่มเคลื่อนไหวเร็วมากขึ้น ดาบของอาร์คจะโบกสะบัดผ่านความมืดไปราวแสงที่วูบวาบ
มอนสเตอร์เงาที่สูญเสียพลังชีวิตไปครึ่งหนึ่งจึงโดนอาร์คโจมตีคริติคอลเข้าใส่สามถึงสี่ครั้ง อาร์คเตะพวกมันเป็นวงกว้างจากทุกทิศทาง จากนั้นจึงปล่อยคมดาบแห่งความมืดเข้ากำจัดมอนสเตอร์เหล่านี้ทิ้งไป
เขาไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเรื่องพลังชีวิตและพลังมานา หลังการต่อสู้จนกระทั่งเข้าสู่สภาวะวิกฤตแล้ว เขาจะถอนตัวออกมาจากอันตรายไปกินอาหาร ด้วยความที่พวกองครักษ์อยู่แนวหน้าป้องกันให้ ดังนั้นแล้วเขาจึงสามารถปล่อยวางมาพักผ่อนชั่วครู่ได้ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เขาไม่อาจทำหากร่วมมือต่อสู้กับผู้เล่น
ระหว่างที่การต่อสู้ดำเนินไปเช่นนี้ หน้าต่างข้อความใหม่จึงเด้งขึ้นมา
=====
ทักษะ ‘ความไม่ย่อท้อ’ ได้มีค่าประสบการณ์ทักษะเต็ม 100 จึงเลื่อนระดับขึ้นเป็นขั้นกลาง
=====
ความไม่ย่อท้อ (ขั้นกลาง, มีผลต่อเนื่อง) : ในสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ความกล้าหาญในตัวท่านจะถูกปลุกขึ้นมา ด้วยความตั้งใจของท่าน ความสามารถจะส่องประกายขึ้นในห้วงวิกฤตจนแข็งแกร่งขึ้นอีกระดับหนึ่ง
ในสภาวะวิกฤต โอกาสการโจมตีคริติคอลเพิ่มขึ้น 40% และความสามารถในการฟื้นฟูเพิ่มขึ้น 10%
=====
ความไม่ย่อท้อเป็นทักษะแรกที่อาร์คได้เรียนรู้มา
ความไม่ย่อท้อเป็นทักษะที่จะถูกใช้งานก็ต่อเมื่ออยู่ในสภาวะวิกฤต ทักษะนี้หยุดเติบโตขึ้นก็เพราะอาร์คได้พัฒนาตนเองจนถึงขนาดที่ยากจะเข้าสู่สภาวะวิกฤต ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่อาจที่จะจงใจทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาวะวิกฤตเพื่อยกระดับทักษะนี้ได้ เป็นเพราะเขาต้องออกล่าคนเดียว สถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ มันอันตรายเกินไป ทว่า สถานการณ์ในครั้งนี้แตกต่างออกไป เพราะมีองครักษ์เป็นกองร้อยคอยช่วยสนับสนุนเขา
‘ความไม่ย่อท้อ ในที่สุดก็เลื่อนระดับเป็นขั้นกลางแล้ว ตอนนี้คือโอกาสที่จะยกระดับทักษะ ร่างทรหดก็ขาดอีกไม่มาก เราควรใช้โอกาสนี้เข้าสู่สภาวะวิกฤตให้บ่อยเข้าไว้ ถ้าหากเราเข้าไปช่วยเหลือตอนที่พวกเขาใกล้ตาย ไม่ใช่ว่ามันดีหรือที่จะช่วยยกระดับค่าความสัมพันธ์?’
“เดดริค เจ้ากะโหลก พวกนายไม่ต้องเข้าร่วมศึกครั้งนี้แล้ว ไปตระเวนรอบบริเวณนี้และคอยช่วยองครักษ์ที่ตกอยู่ในอันตราย!”
“ขอรับเจ้านาย”
อาร์คมีเดดริคและเจ้ากะโหลกคอยช่วยตรวจสอบสถานการณ์สู้รบ มันทำให้เขาสามารถเร่งร้อนมุ่งออกไปขวางหน้าแทนองครักษ์ที่ตกอยู่ในสภาวะวิกฤตในห้วงความอันตรายได้ทันท่วงที
จากนั้น เขาจึงเหลือบมองไปยังองครักษ์นายหนึ่งที่กำลังตกอยู่ภายใต้การโจมตีของมอนสเตอร์ที่ขี่กิ้งก่า มันคือมอนสเตอร์เงาที่วิวัฒนาการขึ้นมาที่เรียกว่า ผู้ล้างแค้น
“คึคึคึ ตายเสียเจ้ามนุษย์!”
“หยุดนะ อั่ก!”
พลังชีวิตของอาร์คลดลงฮวบเพราะโดนการโจมตีคริติคอลจากหอกเข้าใส่
“อาร์ค!”
“ไป ตรงนี้ผมจัดการเอง!”
“ขะ-ขอบคุณ”
“คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!”
“คึคึคึ รับการโจมตีแทนผู้อื่นหรือ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความอัศจรรย์ของมนุษย์สินะ?”
ผู้ล้างแค้นพ่นคำพูดทิ่มแทงออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน
“เดดริค ตอนนี้แหละ บังตามันเอาไว้!”
เดดริคร่อนลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมกางปีกทั้งสองเข้าปิดบังใบหน้าของผู้ล้างแค้นเอาไว้ จากนั้น อาร์คจึงคว้าเจ้ากะโหลกปาเข้าใส่ใบหน้าของผู้ล้างแค้นจนทำให้มันต้องชะงักงันถอยกลับ ขณะเดียวกันนั้นเอง อาร์คจึงพุ่งตัวเข้าใส่ร่างของกิ้งก่าและมอบความตายให้กับมัน
“คมดาบแห่งความมืด!”
ผู้ล้างแค้นที่โดนการโจมตีโดยไม่สนพลังป้องกันเข้าไปจึงม้วนตัวตกลงจากหลังของกิ้งก่า อาร์คเริ่มใช้ลูกเตะและดาบของตนโรมรันใส่ผู้ล้างแค้นให้สยบแทบเท้า!
แน่นอนว่า ในเมื่อเขาต้องการยกระดับเซ็ตทักษะทรหด เขาจึงไม่ลืมที่จะยอมรับการโจมตีไม่กี่ครั้ง จากนั้น เมื่อความไม่ย่อท้อและร่างทรหดถูกเรียกใช้งาน โดยทันที เขาได้ลั่นคมดาบแห่งความมืดเข้าใส่ปลิดชีวิตของผู้ล้างแค้นไป
=====
ท่านได้โค่นล้มผู้ล้างแค้น และช่วยเหลือสหายร่วมรบจากห้วงวิกฤต แต้มสะสม +20 (+10)
=====
‘แต้มสะสมพิเศษ!’
เขาได้รับแต้มสะสมโบนัสนี้จากการที่จัดการศัตรูลงได้หลังเข้ารับการโจมตีแทนองครักษ์นายหนึ่ง
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อเขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือเหล่าองครักษ์เช่นนี้อยู่หลายครั้ง ความเปลี่ยนแปลงทางมุมมองของเหล่าองครักษ์ที่มีต่ออาร์คก็เปลี่ยนไป จากความคุ้นเคยกลับกลายเป็นความนับถือ...
“ขอบคุณมาก นายช่วยชีวิตฉันเอาไว้เลย”
“สมเป็นนายจริง ๆ ถ้าให้ตายเพื่อนายฉันก็ยินดี!”
ในเมื่อสหายร่วมรบเริ่มเคารพเขามากขึ้น ข้อจำกัดที่อาร์คมีก็เริ่มลดน้อยลง พวกเขาไม่พูดกล่าวอันใดแม้เขาจะแย่งชิงมอนสเตอร์ที่พลังชีวิตเหลือน้อยกว่า 40% ไป
‘ยังมีที่ให้เพิ่มความสัมพันธ์กับองครักษ์เหล่านี้อีกไหมนะ?’ ดวงตาของอาร์คทอประกาย
แต่แล้วเขาก็ได้รู้ว่า ตนควรทำอะไรในสถานการณ์เช่นนี้
เมื่อถึงเวลาพักของอาร์ค เขาจะทำอาหารเพื่ออยู่รอดโดยไม่คิดตระหนี่ถี่เหนียววัตถุดิบ การฟื้นฟูพลังชีวิตนั้นส่งผลดีกว่าอาหารทั่วไป กระทั่งว่ามันมีผลลัพธ์ที่เพิ่มเติมเข้าไปอีก!
“อา หลังกินอาหารนี่เข้าไป ราวกับความเหนื่อยล้าได้ละลายหายวับไป”
“นี่มันทำให้รู้สึกราวกับว่าจะสามารถวิ่งร้อยเมตรได้ในสิบวินาทีเลยทีเดียว”
“รสชาติยังยอดเยี่ยมอีกด้วย”
หลังต้องกินเสบียงกรังมาหลายวัน พวกองครักษ์จึงพูดคำเหล่านี้ออกด้วยใบหน้าที่อิ่มเอม นอกจากนี้ ค่าสถานะของพวกเขายังเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งอัตราการฟื้นฟูที่รวดเร็วมากขึ้น ดังนั้นแล้วมันจึงช่วยให้การเผชิญฝูงมอนสเตอร์ของพวกเขาเป็นไปโดยง่ายขึ้น
ถัดมา อาร์คเปลี่ยนไปใช้เส้นทางการซ่อมแซม
กองทหารองครักษ์มีกล่องเครื่องมือก็จริง แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องเหวี่ยงค้อนเข้าใส่อุปกรณ์สวมใส่อยู่นานพอสมควรถึงจะซ่อมแซมเสร็จ แต่เวทมนตร์ฟื้นคืนของอาร์คกลับส่งผลโดยทันที!
“ส่งอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดที่พังแล้วมาให้ผม!”
อาร์คดื่มชาสมุนไพรฟื้นคืนมานาระหว่างที่พัก จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการซ่อมแซมอุปกรณ์ของพวกองครักษ์อย่างรวดเร็ว ทั้งพลังโจมตีและป้องกันของอุปกรณ์สวมใส่ที่องครักษ์ใช้นั้นเป็นดังคาด พวกมันทั้งหมดเป็นอุปกรณ์สวมใส่ธรรมดา ผลลัพธ์ก็คือเหล่าองครักษ์ต่างเผยความยินดีเมื่ออาร์คซ่อมแซมอุปกรณ์ให้พวกเขาได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องความทนทานที่ลดลง
“ขอบคุณมาก พอได้รู้ว่าการซ่อมแซมสามารถเป็นไปได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ การต่อสู้ครั้งนี้ก็ง่ายขึ้นอีกมากโขเลย”
“ขอบคุณมาก ที่เรื่องราวง่ายขึ้นเป็นเพราะเจ้าเลยทีเดียว โปรดรับนี่เอาไว้”
เมื่อเขาซ่อมแซมอุปกรณ์สวมใส่สำเร็จไปจำนวนหนึ่ง ครอสจึงนำเอากล่องเครื่องมือสำรองที่เก็บเอาไว้มามอบให้กับเขา พวกมันเป็นเพียงกล่องเครื่องมือทั่วไป แต่ว่า แต่ละกล่องนั้นมีค่าเท่ากับ 10 เหรียญทอง!
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ทักษะของเขายังเพิ่มขึ้น และแต้มสะสมก็เพิ่มมากขึ้นเพราะช่วยการศึกผ่านทางอาหารและการซ่อมแซม เขาได้รับแต้มสะสมเพิ่มเติมเข้ามาอีกมาก ในขณะเดียวกัน ค่าความสัมพันธ์เองก็เพิ่มขึ้น ดังนั้นแล้วเมื่อใดที่เขาเข้าไปแย่งการโจมตีปลิดชีพจากมอนสเตอร์ที่อยู่ในสภาวะวิกฤต หรือกระทั่งว่าฉกฉวยไอเทมที่ดร็อปจากมอนสเตอร์โดยนายทหารคนอื่น พวกเขาก็ไม่ว่ากล่าวอะไรแม้สักคำ
ราวกับโบยบิน หลังจากที่ต่อสู้เช่นนี้อยู่หลายครั้งจนทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาวะวิกฤต ร่างทรหดในไม่ช้าก็เลื่อนระดับสู่ขั้นกลาง ทั้งความไม่ย่อท้อและร่างทรหดต่างก็เหลือค่าประสบการณ์ทักษะอีกเพียงแค่ 7 หน่วยจึงจะครบ ดังนั้นแล้วมันจึงใช้เวลาไม่มากนัก
=====
ร่างทรหด (ขั้นกลาง, มีผลต่อเนื่อง) : ในฐานะนักรบผู้แข็งแกร่ง บาดแผลจำนวนนับไม่ถ้วนรวมถึงความเจ็บปวดทำให้ร่างกายของท่านแข็งแกร่งขึ้น ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก พลังป้องกันของท่านจะเพิ่มมากขึ้น
ในสภาวะวิกฤต พลังป้องกัน การหลบเลี่ยงการโจมตีคริติคอลเพิ่มขึ้น 40%, ความสามารถฟื้นฟูพลังเพิ่มขึ้น 10%
=====
*ด้วยผลของเซ็ตทักษะความไม่ย่อท้อและร่างกายทรหด ท่านได้เรียนรู้ อะดรีนาลีน
อะดรีนาลีน : แด่นักรบแท้จริงผู้ไม่หวั่นเกรงต่อสถานการณ์อันตราย ด้วยความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นจะสามารถปลดปล่อยอะดรีนาลีนจนทำให้ลืมความเจ็บปวดและหวาดกลัวไปได้ ตอนนี้ หากท่านเข้าสู่ห้วงวิกฤต อะดรีนาลีนจะหลั่งออกมาจนทำให้ท่านสามารถนำความสามารถของร่างกายออกมาใช้ได้อย่างถึงที่สุด
ในสภาวะวิกฤต ภูมิต้านทานความกลัว +50%, อัตราการตอบสนอง +20%
=====
‘ในที่สุดก็ยกระดับเซ็ตทักษะทรหดขึ้นถึงขั้นกลางได้!’
เมื่อเขาตั้งเป้าหมายและกระทำอย่างแน่วแน่ การเติบโตของทักษะจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ผลลัพธ์ของอะดรีนาลีนเหลือเชื่อยิ่ง เมื่อเขาตกอยู่ในสภาวะวิกฤตขึ้นมา ประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาจะเฉียบคมมากขึ้น มันจะทำให้เขาสามารถรู้สึกได้ราวกับศัตรูกลายเป็นเชื่องช้าไป ผลที่ตามมาคือจะทำให้สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของศัตรูได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกัน ความเร็วโจมตีของเขาก็จะเพิ่มมากขึ้น มันทำให้เขาสามารถโจมตีได้ถึงหกครั้งทั้งที่ความเป็นจริงเคยโจมตีได้เพียงแค่ห้าครั้ง ด้วยผลลัพธ์ของเซ็ตทักษะทรหดที่เพิ่มเข้าไป พลังการต่อสู้ของเขาจะพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก หลังการต่อสู้ผ่านไปสามถึงสี่ชั่วโมง เขาก็เริ่มที่จะสามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับกองทหารองครักษ์ได้แล้ว
“ทุกคนเข้มแข็งเข้าไว้! มีเพียงแค่พวกเราเท่านั้นที่จะปกป้องปราสาทแจ๊คสันเอาไว้ได้!”
“โอ้!”
ทักษะเยียวยาที่เขาใช้งานออกไปก็ส่งผลอย่างมหาศาล ด้วยจิตวิญญาณที่พุ่งสูงขึ้น เหล่าทหารที่ต่อสู้กับมอนสเตอร์จึงได้รับพละกำลังที่มากยิ่งขึ้น
เพื่อผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ อาร์คได้ก้าวออกจากสมรภูมิไปหาเรย์มอนด์เพื่อรับภารกิจมา เรย์มอนด์ที่รับหน้าที่ดูแลเหล่ากองกำลังอาสาสมัครจึงมอบภารกิจเล็กน้อยให้กับเขา
“การโค่นล้มมอนสเตอร์เงาถึงห้าสิบตัวจะเป็นความช่วยเหลืออันใหญ่หลวงต่อการปกป้องปราสาท”
“ผู้ล้างแค้นคือผู้นำกองกำลังเหล่ามอนสเตอร์เงา... ถ้าหากเจ้าสามารถโค่นล้มมันได้ พวกเราก็จะสามารถสะบั้นสายการบัญชาของพวกมันได้”
“เคยเห็นฮิปตันมาก่อนใช่ไหม? พวกมันเป็นมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ที่ถือค้อนหรือไม่ก็คันศรโลหะ ตอนนี้มีฮิปตันสามถึงสี่ตัวกำลังมุ่งหน้าเข้ามาทลายกำแพงปราสาท จงไปหยุดพวกมันเอาไว้”
ภารกิจย่อยเป็นอะไรที่เข้าใจง่ายดังที่กล่าวไป เมื่อเขาทำภารกิจเสร็จสิ้น ทั้งค่าประสบการณ์ แต้มสะสม รวมถึงความไว้เนื้อเชื่อใจต่อการมอบหมายงานก็เพิ่มขึ้น ในคราแรก เขาไม่รู้ว่าความไว้เนื้อเชื่อใจมันหมายถึงอะไร แต่หลังจากทำภารกิจเสร็จสิ้นไปสิบภารกิจ เขาก็เริ่มจับทางได้ เขาได้รับภารกิจที่ยากขึ้นเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจที่สูงขึ้น
ทว่า พวกผู้เล่นต่างไม่รับภารกิจเหล่านี้แม้ว่าจะมีพวกมันอยู่ก็ตาม เพราะว่ารางวัลที่เป็นค่าประสบการณ์และแต้มสะสมที่ได้นั้นน้อยนิด และในหน่วยบุกจู่โจม มันออกจะเป็นเรื่องยากอยู่บ้างที่จะได้เป็นผู้ปลิดชีพเป้าหมายด้วยการโจมตีสุดท้าย
อีกทางหนึ่ง ด้วยการอยู่ร่วมกับเอ็นพีซีองครักษ์ การรับภารกิจเช่นนี้เอื้ออำนวยต่ออาร์คยิ่ง บางครั้ง พวกเขากระทั่งว่าปล่อยให้ตนเองตกอยู่ในอันตรายเพื่อร้องขอให้อาร์คช่วยเหลือจนสำเร็จภารกิจ ต้องขอบคุณเรื่องราวเหล่านี้จึงทำให้อาร์คสามารถทำภารกิจได้สำเร็จ อีกทั้งยังง่ายดาย รวมถึงค่าประสบการณ์และแต้มสะสมที่ได้รับเพิ่มมากขึ้น
‘ข้อจำกัดเรื่องการเพิ่มแต้มสะสมเพียงลำพังไม่มีอีกต่อไป ไม่สิ นี่มันดียิ่งกว่านับร้อยเท่าของพวกหน่วยบุกจู่โจมเสียอีก และเหนือสิ่งอื่นใด เราสามารถเชื่อใจเอ็นพีซีเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่’
เพียงแค่ห้าชั่วโมงหลังอาร์คเข้าร่วมศึก เลเวลของเขาก็เพิ่มขึ้นไปถึง 2 ระดับ
=====
ชื่อตัวละคร : อาร์ค
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
แนวโน้ม : ความดี +100
ชื่อเสียง : 750
เลเวล : 71
อาชีพ : ผู้เดินทางแห่งความมืด
ฉายา : อัศวินแห่งแมว, ผู้เยียวยาดวงวิญญาณ
พลังชีวิต : 1,415
พลังมานา : 1,125 (+100)
พลังจิตวิญญาณ : 100
พละกำลัง : 178
ความคล่องตัว : 218 (+17)
ความอดทน : 268
สติปัญญา : 27
ความฉลาด : 216
โชค : 43
ความยืดหยุ่น : 17
ศาสตร์แห่งการสื่อสาร : 23
เสน่หา : 23
ค่าสถานะพิเศษ ภูมิความรู้โบราณวัตถุ : 63
ผลจากอุปกรณ์สวมใส่
ชุดเกราะหนังหนูหมีสีดำ : ความคล่องตัว 2, ภูมิต้านทานความหนาว +20
อุ้งตีนแมว : ความเร็วโจมตี +10%, ความคล่องตัว +15, อัตราการโจมตีคริติคอล +10%
หมวกโกเลมคริสตัล : +100
รองเท้านอแรต : ความเร็วเคลื่อนที่ 10%, หลบหลีก +5%
*ทุกความสามารถเพิ่มขึ้น 30% ในความมืด
*ท่านได้รับความสามารถหลบซ่อนตัวตนในความมืด ระยะเวลาส่งผล 15 นาที ยกเลิกเมื่อเข้าสภาวะต่อสู้
*ภูมิต้านทานความกลัว ความมืด ตาบอด และคาถาเสน่ห์เพิ่มขึ้น 50%
*ท่านสามารถนำเอาความสามารถแท้จริงออกมาได้จากอุปกรณ์ทุกชนิด
=====