เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 197 เปลี่ยนแปลงโชคชะตา
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 197 เปลี่ยนแปลงโชคชะตา
หินวิญญาณจำนวนมากถูกกลืนกินเข้าไปโดยผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก
ขณะที่ไป่หนิงปิงเฝ้ามองอย่างเย็นชา ฟางหยวนกลับเริ่มเคลื่อนไหว แต่เขาเลือกเส้นทางที่ต่างออกไป
"ท่านบรรพชนรุ่นแรก เพราะสถานการณ์ที่เลวร้าย ข้าจึงขอมอบบัวสมบัติสวรรค์ให้กับท่าน" ฟางหยวนก้าวเท้าออกไปและกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมาด้วยการแสดงออกที่จริงใจ
ได้ยินคำกล่าวของฟางหยวน ช่วยไม่ได้ที่ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา "ดีมาก เป็นไปตามคาด ลูกหลานของข้าช่างกตัญญูนัก นี่ทำให้บรรพชนผู้นี้มีความสุขยิ่ง"
เขาต้องการบัวสมบัติสวรรค์และกระทั่งเคยส่งค้างคาวโลหิตสองฝูงไล่ล่าฟางหยวนแต่ฟางหยวนกลับสามารถหลบหนี
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขากลับไม่มีข้อสงสัย
ประการแรก เขายังไม่มีปัญหากับฟางหยวนและก่อนหน้านี้เขาก็โกหกว่าเขาส่งค้างคาวโลหิตออกมาเพื่อปกป้องฟางหยวน
ประการที่สอง ฟางหยวนเป็นผู้กระตุ้นให้กลุ่มผู้ใช้วิญญาณช่วยจ่ายพลังวิญญาณให้กับคิ้วดูดวิญญาณแทนเขา ผลงานที่แสดงความภักดีนี้ยังอยู่ในความทรงจำของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกอย่างชัดเจน
ท้ายที่สุดในสถานการณ์นี้ฟางหยวนยังแสดงจุดยืนว่าต้องการฝากความหวังไว้กับผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเพื่อรักษาชีวิตของตนจากจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ ดังนั้นผู้นำตระกูลแสงจันทร์จึงไม่คิดว่าฟางหยวนจะทำลายโอกาสอยู่รอดของตนเอง
ผู้นำตระกูลแสงจันทร์ยังหัวเราะขณะที่ฟางหยวนเดินใกล้เข้าไปเรื่อยๆ "ด้วยบัวสมบัติสวรรค์ โอกาสชนะของข้าจะสูงขึ้นอีกยี่สิบส่วน เร็วเข้า! ทุกคนเปิดทางให้เขาเข้ามาหาข้า"
"บัวสมบัติสวรรค์งั้นหรือ?" ด้านนอกกำแพงเลือด จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ตะลึงและเร่งตะโกนเสียงดัง "อย่าทำเช่นนั้น!"
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ฟางหยวนเดินเข้าไปด้านข้างผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก
"ท่านบรรพชนรุ่นแรก ท่านเป็นผู้ก่อตั้งหมู่บ้าน เพราะท่าน บุตรหลานทุกคนจึงสามารถมีตัวตนและมีชีวิตที่ดี วันนี้ท่านยังจะช่วยให้หมู่บ้านเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น แน่นอนว่าบัวสมบัติสวรรค์ควรจะถูกใช้โดยบรรพชนผู้ยิ่งใหญ่เช่นท่าน" ถ้อยคำสรรเสริญของฟางหยวนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกระวนกระวาย
นี่ทำให้ผู้นำตระกูลแสงจันทร์พยักหน้าอย่างต่อเนื่องและคิดว่า 'เด็กบ้าผู้นี้กล่าวได้ดี แต่แย่หน่อยที่ข้ายังต้องฆ่าเจ้าและดูดเลือดของเจ้า'
แต่ในจังหวะนี้...
ฟางหยวนกลับย่อตัวลงและพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง!
เขาคว้าร่างของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกด้วยพลังที่ส่งมาจากเอวและเคลื่อนไปยังแขนทั้งสองข้าง
เขาอ้าปากคำรามและใช้พละกำลังของหมูป่าสองตัวเหวี่ยงร่างของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกออกไปจากกำแพงเลือดอย่างกะทันหัน!
"บึม!"
ตายอย่างเงียบๆ...
.......
.......
.......
เวลาราวกับหยุดนิ่ง
หากเป็นคนธรรมดา พวกเขาอาจตายไปอย่างเงียบๆ แต่แน่นอนว่าผู้นำตระกูลแสงจันทร์ไม่!
สายลมพัดเส้นผมสีแดงของผู้นำตระกูลแสงจันทร์ให้ปลิวขึ้นสู่อากาศ ขณะที่ทุกคนจ้องมองอย่างโง่งมและไม่สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์
ห่างออกไปไม่ถึงสิบก้าว จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ยืนนิ่งอยู่ที่นั่น
วินาทีก่อนหน้าชายชราผู้นี้ยังโกรธเกรี้ยวและกังวลว่าฟางหยวนจะมอบบัวสมบัติสวรรค์ให้กับผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก แต่เขาไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเกิดขึ้น
เขาตะลึงและจ้องมองผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า
ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเป็นศัตรูตัวฉกาจของเขา แต่เมื่อถึงจุดนี้ เขากลับรู้สึกราวกับอยู่ในความฝันและไม่สามารถเคลื่อนไหว
บางคนอ้าปากกว้างเท่ากำปั้น บางคนเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน
กระทั่งไป่หนิงปิงยังสูญเสียความเยือกเย็นและมองไปยังฟางหยวนด้วยความตกตะลึง
เป็นเพียงเมื่ออาคารไม้ไผ่หลังหนึ่งพังทลายลงมา ทุกคนจึงสามารถตื่นจากภวังค์
"อันใด? นี่มันเหตุนรกแตกอันใด!?"
"ฟางหยวน เจ้าทำเรื่องบัดซบใด?" บางคนชี้นิ้วไปที่ฟางหยวนด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน
"ท่านบรรพชนรุ่นแรก!" บางคนต้องการดึงผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกให้กลับเข้ามาในกำแพงเลือดแต่ถูกขัดขวางโดยม่านเลือดบุปผาสวรรค์
"เจ้าหัวขโมยที่น่ารังเกียจ! เจ้ากล้าโกหกบรรพชนผู้นี้งั้นหรือ? ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ!" ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกสามารถตอบสนองได้ในที่สุดและเริ่มกรีดร้องอยู่บนพื้น
"ฮ่าฮ่าฮ่า..." ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้คน เสียงหัวเราะสายหนึ่งกลับดังขึ้น
มันไม่ใช่ผู้ใดนอกจากไป่หนิงปิง
เขาหัวเราะจนน้ำตาเล็ดและยังยกนิ้วให้กับฟางหยวนอีกด้วย "น่าสนใจ น่าสนใจมาก ฮ่าฮ่าฮ่า"
"ฟางหยวน เจ้าบ้าไปแล้วงั้นหรือ?"
"ฟางหยวน เจ้าทำร้ายท่านบรรพชน เจ้ายังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่?"
"ฟางหยวน เจ้าถูกซื้อตัวไปโดยตาแก่คิ้วขาวแล้วใช่หรือไม่? เจ้าคนทรยศ!"
ทุกคนชี้นิ้วมายังฟางหยวนด้วยความโกรธ แต่ฟางหยวนกลับหัวเราะเบาๆ "ข้าคือผู้ใช้วิญญาณระดับสาม ผู้ใดต้องการฆ่าข้าก็เข้ามา!"
ณ จุดนี้ ภายในกำแพงเลือดเหลือผู้ใช้วิญญาณระดับสามอยู่เพียงไม่กี่คน นอกจากนั้นพลังวิญญาณของพวกเขาก็แทบหมดสิ้นจากการต่อสู้ก่อนหน้า ส่วนที่เหลือก็เป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งและสองเท่านั้น
ปราศจากผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก ภายในกำแพงเลือด นอกจากไป่หนิงปิงก็ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งฟางหยวนได้อีก
"หึหึ" ฟางหยวนหัวเราะก่อนจะหยิบวิญญาณสองดวงขึ้นมาจากพื้น
มือซ้ายถือกะโหลกเลือด มือขวาถือกงล้อหยินหยาง ทั้งสองเป็นวิญญาณของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกที่ถูกผนึกไว้โดยยันต์สะกดมาร
แต่ผนึกชนิดนี้ยังเป็นอุปสรรคสำหรับฟางหยวนเช่นกัน
เขาจำเป็นต้องทำลายผนึกเพื่อปรับแต่งวิญญาณ แต่หากออกแรงมากเกินไป พวกมันอาจถูกทำลายไปพร้อมกัน
สิ่งที่แตกต่างจากวิญญาณม่านเลือดบุปผาสวรรค์ก็คือ ม่านเลือดบุปผาสวรรค์จะปลดปล่อยความสามารถออกมาเมื่อถูกทำลาย การทำลายผนึกก็เหมือนกับการกระตุ้นใช้งานมัน
อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพราะเขารู้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น หลังจากนี้โซ่ผนึกปีศาจกับยันต์สะกดมารที่ได้รับผลกระทบจากวิญญาณกระหายเลือดจะกลายเป็นบ่อเลือดและสูญสลายไป
"ฮ่าฮ่าฮ่า พี่ใหญ่ที่ประเสริฐ มอบชีวิตของท่านมาให้ข้า!" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์หัวเราะเสียงดังพร้อมกับพุ่งเข้าโจมตีผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกอย่างรวดเร็ว
ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกถูกผนึกการเคลื่อนไหวโดยโซ่ผนึกปีศาจและกลายเป็นเหยื่อที่ไม่สามารถหลบหนีแม้เขาจะพยายามดิ้นรนขัดขืนอย่างไรก็ตาม
แต่ทันใดนั้นโซ่ผนึกปีศาจกับยันต์สะกดมารกลับเปลี่ยนสภาพเป็นบ่อเลือดอย่างกะทันหัน เมื่อผู้นำตระกูลแสงจันทร์ได้รับอิสรภาพ เขาจึงเร่งทะยานร่างขึ้นสู่ท้องฟ้าแต่กลับพุ่งชนกำแพงเลือดเป็นเหตุให้เกิดเสียงดังสนั่น
วิญญาณม่านเลือดบุปผาสวรรค์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา มันมีการป้องกันที่ยอดเยี่ยม เมื่อกระตุ้นการทำงานของมัน ผู้ใช้วิญญาณยังสามารถออกมาจากกำแพงเลือด อย่างไรก็ตามแม้จะสามารถออกแต่เขาไม่สามารถกลับเข้าไปได้เป็นครั้งที่สอง
"เจ้าเด็กบ้า! เจ้าจะต้องตายอย่างทรมาน!" ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกตะโกนสาปแช่งฟางหยวนด้วยความโกรธ
จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ที่กำลังไล่ล่าเขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง
แต่เนื่องจากผู้นำตระกูลแสงจันทร์พึ่งเติมเต็มพลังวิญญาณของตน ดังนั้นเขาจึงยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายมากเกินไป
"ท่านบรรพชนรุ่นแรกระวังด้วย!"
"ท่านผู้นำรุ่นแรก พวกเราจะเป็นกำลังใจให้ท่าน!"
"ท่านบรรพชน ท่านเป็นความหวังของพวกเรา!"
การต่อสู้ของผู้ใช้วิญญาณระดับห้าดึงดูดความสนใจของทุกคน ฟางหยวนถอนหายใจและมองไปยังไป่หนิงปิง
นี่เป็นการต่อสู้ของพยัคฆ์ร้ายสองตัว ขณะที่ฟางหยวนเป็นเพียงกระต่าย ทั้งจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์และผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกต่างเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ มีเพียงต้องรอให้คนทั้งสองได้รับบาดเจ็บ ฟางหยวนจึงจะมีโอกาส
แต่แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดโง่เขลา ไม่มีผู้ใดปล่อยให้อารมณ์นำหน้าเหตุผล
นอกจากนั้นม่านเลือดบุปผาสวรรค์ยังสามารถป้องกันได้เพียงชั่วคราว เมื่อเวลามาถึงทุกคนที่อยู่ด้านหลังกำแพงเลือดจะถูกสังหารโดยผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกและจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์
ฟางหยวนกำเนิดใหม่อีกครั้งเป็นเหตุให้วิญญาณกาลเวลากลับสู่สภาพอ่อนแออีกหนและไม่สามารถใช้งาน
ตอนนี้เขาต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น
แต่ฟางหยวนมีแผนการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามบุคคลที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในแผนการนี้ก็คือ ไป่หนิงปิง
การระเบิดตนเองของสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดจะส่งผลกระทบต่อสนามรบเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับผู้ใช้วิญญาณระดับห้าทั้งสอง
แต่เขาจะโน้มน้าวไป่หนิงปิงอย่างไร?
ฟางหยวนมองไปที่ไป่หนิงปิง เมื่อไป่หนิงปิงรู้สึกถึงการจ้องมองของฟางหยวน เขาจึงหันหน้ากลับมามองฟางหยวนเช่นกัน
คนทั้งสองจ้องมองกันและกัน
ฟางหยวนในชุดคลุมดำ ผมดำ ดวงตาสีดำ ยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย "ข้ามีวิธีที่จะแก้ปัญหาพรสวรรค์สุดขีดของเจ้าและช่วยให้เจ้ากลับคืนสู่ชีวิตอีกครั้ง"
ร่างของไป่หนิงปิงสั่นสะท้านขึ้นอย่างกะทันหัน ชัดเจนว่าเขาต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป "วิธีใด?"
อย่างไรก็ตามถ้อยคำของฟางหยวนกลับเปลี่ยนไป "แต่วิธีนี้มีโอกาสประสบความสำเร็จไม่มากนัก มันมีโอกาสล้มเหลวมากกว่า"
แต่ด้วยถ้อยคำนี้ มันกลับยิ่งทำให้ไป่หนิงปิงรู้สึกเชื่อถือมากขึ้น
หลังจากนั้นฟางหยวนก็เริ่มกล่าวประโยคที่สาม "แต่ข้าคิดว่าแม้เราจะล้มเหลว มันก็ยังช่วยให้ช่วงเวลาสุดท้ายของเจ้างดงามเช่นที่เจ้าต้องการ"
หัวใจของไป่หนิงปิงถูกสั่นคลอนทันที
ฟางหยวนกล่าวเพียงสามประโยคแต่มันกลับมุ่งเป้าไปยังความปรารถนาในหัวใจของไป่หนิงปิงอย่างแม่นยำ
แต่ไป่หนิงปิงยังฉลาดพอและเริ่มถาม "แล้วข้าต้องทำอย่างไร?"
รอยยิ้มของฟางหยวนหายไปเมื่อวิญญาณสองดวงในมือที่ถูกปลดผนึกเรียบร้อยแล้วกำลังจะบินหนีไป แต่ในจังหวะนี้เขากลับคว้าพวกมันเอาไว้และใช้กลิ่นอายของวิญญาณกาลเวลาเพื่อปรับแต่งพวกมันทันที
"บัดซบ!" นอกกำแพงเลือด ผู้นำตระกูลแสงจันทร์กรีดร้องออกมาเมื่อสูญเสียการเชื่อมต่อกับวิญญาณกะโหลกเลือดและวิญญาณกงล้อหยินหยาง
เขาตกใจและเร่งบินไปยังกำแพงเลือด
"เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าสามารถปรับแต่งวิญญาณของข้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร?" ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกโจมตีกำแพงเลือดราวกับคนบ้า
ฟางหยวนขโมยอาหารจากปากเสือ นี่เป็นการทำลายล้างแผนการนับพันปีของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกลงอย่างแท้จริง
ทุกคนตกตะลึงและเร่งถอยห่างออกไป เพราะขณะนี้ผู้นำตระกูลแสงจันทร์์รุ่นแรกดูไม่ต่างจากอสูรกายที่สิ้นหวัง
แต่การโจมตีของจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ก็มาถึงอย่างรวดเร็ว
"เจ้าต้องตาย! เจ้าจะต้องตาย!" ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกคำรามเสียงดังและระเบิดความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดกับจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์
ทั้งสองต่อสู้กันอีกครั้งและเริ่มเข้าสู้จุดสำคัญ
ฟางหยวนหัวเราะเสียงดังก่อนจะกล่าวกับไป่หนิงปิง "ฆ่าพวกเขาทั้งหมดกับข้า"
ก่อนที่เขาจะกล่าวจนจบประโยค ตะขาบทองคำทำลายล้างก็พุ่งออกไปตัดร่างของผู้ใช้วิญญาณผู้หนึ่งออกเป็นสองส่วนเรียบร้อยแล้ว
วิญญาณกะโหลกเลือด!
หลังจากนั้นวิญญาณกะโหลกเลือดก็ถูกกระตุ้นให้ดูดเลือดของผู้ใช้วิญญาณผู้เคราะห์ร้ายคนแรกทันที