ตอนที่ 21 เด็กสองคนกับหมาหนึ่งตัว
ตอนที่ 21 เด็กสองคนกับหมาหนึ่งตัว
ครึ่งชั่วโมงต่อมาในซอยของตัวเมือง เด็กที่ปกคลุมด้วยสิ่งสกปรกกำลังหลบซ่อนอยู่หลังถังขยะ มีเสียงตะโกนที่ขู่ว่าจะฆ่าอยู่ไกลออกไป
"ว้าว ฉันกลัวจังเลย!" เขาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา "พวกคนโง่เหล่านี้คงคิดว่าตัวเองเก่ง พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันสลับไพ่ ... ดีที่ฉันวิ่งเร็วและออกมาก่อน มิฉะนั้นฉันได้ตายในที่แห่งนั้นเพราะเงินไม่กี่ร้อยเหรียญ มันไม่คุ้มกันเลย "
เขาหยิบเหรียญเงินออกมาจากกระเป๋าของเขา เขานับมันทีละเหรียญๆ เช็ดเหงื่อด้วยแขนเสื้อของเขาและยิ้ม "มากกว่าสามร้อยปอนด์ ฮ่าฮ่า เป็นครั้งแรกที่ฉันมีเงินมากขนาดนี้ ฉันควรใช้มันกับอะไรดี"
"อย่างแรกควรจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับฉัน" คนที่อยู่ข้างๆเขาพูดด้วยเสียงต่ำและกระซิบที่หู "หรือจะแลกเปลี่ยนมันกับชีวิตของคุณ?"
"อ่ะ !!!"
เด็กตกใจมากเขาล้มลงบนพื้น เขากลิ้งไปและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนถังขยะ ในแสงสลัวเขาจำได้ว่า เขาเป็นคนโง่ที่ถูกหลอกใช้ก่อนหน้านี้ เมื่อคิดเช่นนั้นก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาทันที
"โอ้พี่น้อง?"
"ว่าไงคุณน้อง " เย่วซิงเยาะเย้ยเขา และโยนถุงขยะซึ่งเด็กบ้าได้มอบให้กับเขาก่อนหน้านี้ "คุณน้อง แกวิ่งเร็วมากจนฉันเกือบจะจับตัวแกไม่ได้ แต่ชั้นคิดว่าแกกำลังมีปัญหาแล้วละ"
"อย่างนั้นหรอ"
เด็กคนนั้นยิ้มและเดินถอยหลังจากนั้นก็วิ่ง
"สิบ เก้า แปด ... "
เย่วซิงเฝ้าดูขณะที่เขานับถอยหลังอย่างไม่หยุด ขณะที่เด็กวิ่งไปที่ปลายตรอก เมื่อนับถึงสาม ตรงหน้าเด็ก มีบางอย่างเดินไปเข้ามาในซอย เมื่อมันโผล่หน้าออกมา ทำให้เขาเกิดหวาดกลัว
ที่ท้ายซอยสุนัขสกปรกยิ้มยิงฟันไปหาเขา, ซากหางหนูยังเหลืออยู่บนในซอกฟันของมันซีกหนึ่ง เมื่อฟิลปิดกั้นทางออก ไม่มีใครสามารถออกไปได้เลย!
"คุณน้องตัวน้อยทำไมรีบร้อนนักล่ะ?"
เย่วซิงดึงเชือกออกจากกระเป๋าเดินทางของเขา และฟาดมันลงบนไหล่ของเด็ก "กลับมาคุยกันก่อน"
"ฉันผิดไปแล้วพี่ชาย โปรดปล่อยฉันไปเถอะ ... "
ห้านาทีต่อมาเด็กถูกมัดจนหนีไม่ได้ เขาขดตัวอยู่ที่มุมซอย เขากระพริบตาราวกับกำลังจะร้องไห้ เขาดูน่าสงสารมาก เย่วซิงมองเขาร้องไห้อย่างเงียบ ๆ รอจนกว่าเขาจะหยุด
"ร้องไห้เสร็จแล้วหรือ?" เย่วซิงยิ้มและถาม "หิวไหม ฉันจะได้ทำก๋วยเตี๋ยวให้กิน"
เด็กทำหน้าเหมือนเขากินแมลงวันเข้าไป "เฮ้! คุณไม่สงสารผมบ้างหรอ?"
"น้องตัวน้อย ทำไมฉันต้องสงสาร คิดว่าที่แกทำวันนี้มันถูกต้องหรอ" เขาเอื้อมมือออกไปและหยิกใบหน้าเด็ก "ตั้งแต่แกเรียกฉันว่าลูกพี่ลูกน้อง งั้นพี่ชายคนนี้จะสอนวิธีทำสิ่งที่ถูกต้องให้เอง"
เขาเริ่มขยับข้อนิ้วหัวแม่มือของเขาแรงขึ้นและเยาะเย้ย
"เฮ้ย! จะทำอะไร?" เด็กกลัวจนตัวงอ เขาพยายามพูดตะโกนออกมาว่า "ฉันขอเตือนไว้เลย ถ้าฉันโตขึ้นเมื่อไหร่ รับรองได้เลยฉันจะเป็นคนที่สอนบทเรียนให้คุณ!"
"ฮ่าฮ่า" เย่วซิงหัวเราะ "ฟิล" ฟิลเดินยิ้มเข้ามาทันที
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสุนัขใหญ่นี้ กินอะไรมาก่อนเมื่อมันอ้าปากขึ้น ลิ้นของมันยังคงเลียเลือดบนฟันและพยายามเคี้ยวหางหนูที่เหลืออยู่
"โอเค ๆ ฉันยอมๆๆ!" ใบหน้าของเด็กซีดลง เขาชี้ไปที่เหรียญเงินด้วยคางของเขา "นี่กฎของพี่น้อง ฉันจะแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง" เย่วซิงไม่ได้เอามันไปแต่กลับมองไปที่เขา
ใบหน้าของเด็กบิดเบี้ยว "เฮ้, พวกเราก็มาจากข้างถนนเหมือนกันนะ, แบ่งกันห้าสิบ-ห้าสิบเป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเลยว่าไหม, งั้นเอาเป็นสี่สิบหกสิบ! ... หรือพี่ชายต้องการสามสิบเจ็ดสิบ?
"ขอโทษที แต่ฉันไม่ต้องการเงินที่ถูกขโมยหรือโกงมา"
"แล้วต้องการอะไร?" การแสดงออกของเด็กก็กลายเป็นโกรธ "ฉันไม่มีอะไรจะให้แล้ว!"
เย่วซิงถอนหายใจ "แค่ขอโทษฉัน"
"อะไรนะ?"
เย่วซิงมองไปที่เขาโดยไม่แสดงออกและย้ำอีกครั้ง "ขอโทษฉัน"
“ไม่มีทาง!” เด็กหันหน้าไปด้านข้าง
"ขอโทษฉัน" เย่วซิงซ้ำอีกครั้ง
"อย่าแม้แต่จะคิดว่า ฉันไม่มีวันพูด ... " เด็กน้อยหยุดพูดเพราะสายตาของเย่วซิงได้จ้องมองมาที่เขา อย่างจริงจัง
เย่วซิงไม่ได้พูดอะไร เขาเงียบและมองโดยไม่มีคำพูดใดๆ ด้วยเหตุผลบางอย่างเด็กรู้สึกผิดภายใต้การจ้องมองนั้น หลังจากนั้นเป็นเวลานานหัวของเขาหันกลับไปและโค้งศีรษะ
"... ขอ...โทษ" เขาพึมพำ
เย่วซิงถอนหายใจและเอื้อมมือออกไปเพื่อคลายเชือกของเขา เมื่อเห็นเด็กขดตัวอยู่ที่มุมเขาก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน "ดีมาก อันที่จริงฉันตั้งใจจะสอนบทเรียนให้สักหน่อย แต่ฉันเปลี่ยนใจแล้วตั้งแต่แกขอโทษฉัน."
"คุณยังต้องการอะไรอีก?" เด็กจ้องมองเขา "คนนิสัยไม่ดี."
"ฉันรู้ว่ามันเป็นเพราะความหิว แต่การขโมยหรือโกงมันไม่ใช่สิ่งที่ดี." เย่วซิงเอื้อมมือออกไปและตบเบา ๆ บนหมวกเด็ก "แต่เมื่อคุณเคยขโมยมาแล้ว วันหนึ่งคุณจะรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ควรขโมยหรือโกง เพราะฉะนั้นอย่าทำมันอีก" เขาบ่นขึ้น
เด็กมองเขาตาของเขาและกระซิบอะไรบางอย่างเบา ๆ เย่วซิงเอียงไปฟังสิ่งที่เด็กพูด เขาหายใจเข้าลึกคว้าหูและกรีดร้องว่า "ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณ!"
ดั่งสายฟ้าที่ฟาดลงสู่พื้นดิน จิตใจของเย่วซิงว่างเปล่าอยู่สักครู่ เด็กกระโดดขึ้นจากพื้น อย่างขมขื่นและก้าวไปที่ด้านหลังของเย่วซิง และหนีเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เย่วซิงรู้สึกราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง มองที่หมวกถักในมือของเขา เด็กหายตัวไปแล้ว ฟิลยืนแลบลิ้นอยู่ข้างๆ มันไม่ได้ไล่ตามเด็กไป
เย่วซิงยังคงตะลึง เขาจ้องมองไปที่ตรอกว่างเปล่า จดจำเสียงสะท้อนของเด็กขณะที่เธอหนีออกไป เขาคว้าหมวกของเธอผมยาวสีเงินขาวของเธอหลุดออกจากมันเหมือนดวงดาวสีเงิน
"เด็กคนนั้นเป็นผู้หญิง?"
เย่วซิงมองไปที่หมวก หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถอนหายใจเบา ๆ และยัดหมวกเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ "โชคไม่ดีจริงๆ ในที่สุดฉันก็พบใครบางคนที่มาจากบ้านเกิดของฉัน แต่มันไม่ควรเป็นเช่นนี้"
ครึ่งชั่วโมงต่อมาผับเดิมก็วุ่นวายอีกครั้ง
ชายตัวใหญ่สองคนยืนเฝ้าที่ด้านหน้าและด้านหลังของผับ ยืนกอดอกและจ้องมองทุกคนที่เข้าไปใกล้ แต่ละคนมีกริชที่มีตราสัญลักษณ์สีเงินโผล่ออกมาจากเข็มขัดของพวกเขา คนเดินผ่านทางเร่งฝีเท้าของพวกเขา พยายามที่จะหลีกเลี่ยงพวกเขา
ในผับทุกคนนอนอยู่บนพื้นดิน ทุกคน... ถูกทุบตีลงไปกองกับพื้นดิน
มีเพียงชายชราที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และสูบบุหรี่อย่างเงียบ ๆ
บาร์เทนเดอร์ที่มักจะอยู่หลังบาร์ถูกผูกติดกับเสา ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด เขาร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ด้านหน้าของเขามีชายคนหนึ่งยืนอยู่ เขาตบหน้าแรงอย่างกับฟาดด้วยค้อน
กำปั้นถูกปกคลุมไปด้วยเลือด
"มาร์วินพอได้แล้ว"
ชายชราโบกไปป์ในมือ เขามองไปที่บาร์เทนเดอร์ที่กำลังจะไม่หายใจ "เจสันฉันรู้ว่าคุณเป็นคนที่เก่งและเป็นคนดีทุกเดือนคุณจ่ายให้ The Shaman ตรงเวลาเสมอไป ดังนั้นฉันจึงไม่อยากหักคอของคุณเหมือนกับคนอื่น ๆ ทั้งหมด แต่คุณต้องบอกความจริงมา เด็กที่เล่นโกงนั่นไปหลบอยู่ที่ไหน? "
"เขาหนีไปแล้ว ฉันสาบาน ฉันไม่รู้จักเขา" บาร์เทนเดอร์แทบจะไม่สามารถอ้าปากพูดได้; ฟันของเขาล่วงลงมาจากปากของเขา
"ฉันรู้ว่า คุณไม่รู้จักเขา" ชายชราสูบบุหรี่ถอนหายใจ "บอกสิ่งที่ฉันยังไม่รู้ ฉันต้องเอาไปรายงานเบื้องบน"
"ฉันไม่รู้จริงๆ แต่มีคนเห็นเขาวิ่งหนีไปกับเด็กคนอื่น ๆ ไม่มีใครเห็นพวกเขาตั้งแต่นั้นมา"
"เด็ก! Avalon เต็มไปด้วยเด็ก ๆ ! คนสูบบุหรี่ขมวดคิ้ว "แกต้องการให้ฉันไปไล่ถามทีละคนหรือไง?"
"คนที่เห็นเขา บอกว่าเขาเป็นคนตะวันออกที่มาพร้อมกับสุนัข!"
คนที่ดูเหมือนขอทานพยายามขอร้อง "คุณโกสต์แฮนนี่เป็นสิ่งเดียวที่ฉันรู้ ในนามของ The Shaman ฉันไม่กล้าโกหกหรอกคับ ได้โปรดปล่อยฉันไป ... "
"เด็กตะวันออกอีกแล้ว นี่มันวันบ้าอะไรกัน น่ารำคาญจริงๆ"
ชายชราโบกมือให้มาร์วินเดินออกไป เขาลุกขึ้นและตบไหล่ของเจสัน "ขอบคุณสำหรับความซื่อสัตย์สุจริตของคุณ The Shaman จะจ่ายเงินให้คุณสำหรับการสูญเสียของคุณในวันนี้."
เขาเตะจนโต๊ะหักกระจายและเดินไปที่มุม "อย่างที่เห็นคุณฉาง เด็กที่คุณกำลังมองหาอยู่ไม่ได้อยู่ที่นี่"
ในมุมที่แสงสองไม่ถึง ในความมืดร่างผอมบางได้เดินออกมา
เป็นชายชราคนหนึ่งจากตะวันออกสวมเสื้อคลุมที่ดูหรูหรามีผมสีขาว ดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ดวงตาของเขาแหลมคม ไม่มีใครรู้สึกถึงตัวเขาได้จนเอาออกมาจากมุม
ฉางทำทางสุภาพ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอย " The Shamanจะต้องหาเขาพบแน่นอน"
"แน่นอน The Shaman จะหาเขาจนพบ เมื่อพบเขาเราจะส่งเขากลับมาให้คุณโดยไม่แตะต้องเส้นผมสักเส้น บางทีเราอาจจะแถมเด็กที่มีผมขาวไปให้คุณเพิ่มอีกสักคน เพียงแต่ คุณต้องให้เวลากับเราสักหน่อย "
"คุณควรทำให้ดีที่สุด" ฉางกล่าวอย่างอ่อนล้า ชายคนนั้นถอยกลับไปและหายตัวไปในความมืด
โกสต์แฮนด์ เฝ้าดูเขาหายตัวไป เขาถอนหายใจหลังจากผ่านไปเนิ่นนาน "บ้าเอ๊ย เป็นปัญหาจนได้ บอกทุกคนให้ทำงานอย่างหนัก และหาเด็กนั่นให้เจอ"
ด้านนอกประตู คนที่ทำงานให้เขา เดินเข้ามาและกระซิบ "คุณโกสต์แฮนด์ The Shaman ฝากคำพูดมาให้คุณ"
"ว่ามา?"
"เขายังต้องการให้คุณหาคนอีกคน มันเป็นคำขอจากอีกกลุ่มเราไม่สามารถปฏิเสธได้"
" แม่งเอ้ย" โกสต์แฮนด์ขยี้ผมสีขาวของเขา: "บ้าชิบ, พวกเราเป็นพวกอันธพาล ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก แล้วจะให้หาใคร?"
"เด็กจากตะวันออกที่อยู่กับสุนัข."
โกสต์แฮนด์รู้สึกกดดันจนเลือดแทบจะพุ่ง เขาพูดต่อ "ให้ฉันเดา ไม่นานคงมีคนให้เราตามหาหมาหายแน่นอน?"
หลังจากเสียเวลาไปมาจนเลยมาถึงช่วงบ่าย เย่วซิงก็พบเส้นทางที่จะนำเขาไปด้านทิศเหนือของเมือง เมื่อเขาได้ยินระฆังดังขึ้นจากโบสถ์ ก็รู้ว่าเวลาล่วงเลยมาจนเย็นแล้ว
ในจัตุรัสของเมืองคนเดินผ่านไปมา เย่วซิงนั่งอยู่บนม้านั่งข้างน้ำพุเอย่างเหนื่อยล้า เขามองไปที่ตึกสูงที่อยู่ไม่ไกล เกิดความรู้สึกพึงพอใจบนใบหน้าของเขา
" สถาบันดนตรีแห่งราชอาณาจักร“ในที่สุดฉันก็หาจนพบ”
เขายิ้มขึ้นมา.