ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที 195 เจตนารมณ์ของไป่หนิงปิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 197 เปลี่ยนแปลงโชคชะตา

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 196 เกิดใหม่อีกครั้ง


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 196 เกิดใหม่อีกครั้ง

ฟางหยวนพยายามใช้ตะขาบทองคำทำลายล้างกับดาบแสงจันทร์สีเลือดทำลายชั้นน้ำแข็ง แต่มันทั้งหนาและหนาวเย็นจนเกินไป ทุกครั้งที่เขาทำลายชั้นน้ำแข็งตรงหน้า คลื่นความเย็นจะแช่แข็งมันอีกครั้งอย่างรวดเร็ว นี่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกหมดหวังเพราะไม่สามารถคิดวิธีปลดปล่อยตนเอง

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้แสงสีแดงเลือดกลับส่องสว่างขึ้นอย่างกะทันหัน

"ฮ่าฮ่าฮ่า" ด้วยเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่ง ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกระเบิดทำลายชั้นน้ำแข็งและหลบหนี แม้เขาจะดูน่าสังเวชเล็กน้อยแต่น้ำเสียงของเขายังเต็มไปด้วยความยโส "สุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด หากเจ้าบรรลุระดับสี่ เจ้าอาจสามารถฆ่าข้า แต่น่าเศร้าที่เจ้าเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับสามขั้นสุดยอด..."

หลังจากกล่าวจบคำ เขาจึงหันหน้ามาทางฟางหยวน

"สุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดไม่สามารถฆ่าเจ้า เช่นนั้นให้ข้าทำมัน" สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์นั่งอยู่บนแผ่นหลังของราชันกระเรียนที่ย้อนกลับมาหลังจากสังหารอสรพิษบ่อเลือด

เมื่อถึงจุดนี้ ภูเขาชิงเหมาทั้งหมดจึงเหลือพวกเขาอยู่เพียงสามคน

ไป่หนิงปิงกลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งไปอย่างสมบูรณ์ ขณะที่ฟางหยวนราวกับถูกขังไว้ในคุกน้ำแข็ง

สำหรับผู้ใช้วิญญาณระดับห้าทั้งสอง ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกสามารถยกระดับพรสวรรค์และจัดเก็บพลังวิญญาณเอาไว้จำนวนมาก สำหรับจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ หลังจากการพักฟื้น พลังวิญญาณของเขาก็กลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามสายตาของคนทั้งสองกลับหยุดอยู่ที่ฟางหยวน

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกต้องการฆ่าฟางหยวนและใช้เลือดของเขา ด้านจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ เขาต้องการหยุดผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก ดังนั้นเขาจึงต้องชิงกำจัดฟางหยวนตัดหน้าฝ่ายตรงข้าม

เป็นธรรมชาติที่พวกเขาย่อมไม่ปล่อยให้ผู้ใดเหลือรอด ทั้งหมดก็คือพวกเขาต่างได้รับบาดเจ็บ แล้วพวกเขาจะสามารถทิ้งบุคคลที่สามเอาไว้เพื่อฉกฉวยผลประโยชน์จากสถานการณ์ได้อย่างไร?

ฟางหยวนถอนหายใจ เขารู้ว่าตนเองจบสิ้นแล้ว

เขาสูญเสียวิญญาณปีกสายฟ้าและแมงมุมปฐพี หรือแม้จะมีพวกมัน เขาก็ยังไม่สามารถหลบหนีจากผู้ใช้วิญญาณระดับห้า

เขาเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับสาม ต่อหน้าผู้ใช้วิญญาณระดับห้า เขาก็เหมือนปลาบนเขียงที่มีมีดของเล่มกำลังเล็งเป้ามาที่เขา

เขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้และไม่สามารถหลบหนี แต่ฟางหยวนยังมีไพ่ตายสุดท้าย

วิญญาณกาลเวลา!

ฟางหยวนเพ่งจิตเข้าไปในทะเลวิญญาณที่ถูกผนึกไว้ในกำแพงหิน พลังวิญญาณของเขาเหลือเพียงครึ่งเดียว แต่บัวสมบัติสวรรค์ยังมอบพลังวิญญาณให้เขาตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามฟางหยวนเพ่งความสนใจทั้งหมดไปยังวิญญาณที่อยู่ตรงกลางเท่านั้น

วิญญาณดวงแรกของเขา วิญญาณระดับหก วิญญาณกาลเวลา!

มีเพียงต้องอาศัยวิญญาณกาลเวลาเดินทางย้อนกระแสธารแห่งกาลเวลากลับไปเท่านั้นจึงจะทำให้ฟางหยวนสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตา

แต่วิธีนี้กลับมีความเสี่ยงสูงมาก

ประการแรก สายธารแห่งกาลเวลาเป็นพื้นที่หวงห้ามตามกฎของธรรมชาติ มนุษย์ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางข้ามไป หากเขาทำ มันจะเป็นการทำลายกฎแห่งสวรรค์พิภพและต้องเผชิญหน้ากับบทลงโทษของเทพเจ้า

ประการที่สอง วิญญาณกาลเวลาอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ มันเหมือนเรือที่มีรูรั่วและสามารถจมลงกลางทาง

ประการสุดท้าย ฟางหยวนเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม การใช้วิญญาณระดับหก มันก็เหมือนเด็กทารกที่พยายามใช้ดาบ เขาอาจได้รับบาดเจ็บจากดาบอย่างง่ายดาย

'การใช้วิญญาณกาลเวลา ข้าต้องระเบิดตัวเองเพื่อเป็นแรงผลักดันให้วิญญาณกาลเวลาสามารถเคลื่อนที่ เปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า แรงระเบิดครั้งนี้มีขนาดเล็กเกินไป มันมีโอกาสสูงที่ข้าจะตายอย่างไร้ประโยชน์ แต่เมื่อถึงจุดนี้ ข้าก็ไม่มีทางเลือกอีกต่อไป'

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนยินดีที่จะใช้วิญญาณกำแพงหินมากกว่าวิญญาณกาลเวลาเพราะความเสี่ยงของมันมากเกินไปนั่นเอง

กล่าวได้ว่าเขามีโอกาสประสบความสำเร็จเพียงสิบในร้อยส่วนเท่านั้น

หลายครั้งที่ผู้ใช้วิญญาณพยายามใช้วิญญาณระดับสูงกว่าตนเอง พวกเขามักจะได้รับผลกระทบย้อนกลับที่ไม่พึงปรารถนาเช่นเดียวกับฉิงซู แต่ตอนนี้ฟางหยวนสามารถทำได้เพียงเดิมพันกับวิญญาณกาลเวลาที่เป็นวิญญาณดวงแรกในชีวิตนี้ของเขาเท่านั้น

"คนพาลน้อยมอบชีวิตของเจ้าให้กับบรรพชนผู้นี้!"

"เจ้าสามารถตำหนิได้เพียงบรรพชนของเจ้าเท่านั้น มาให้ข้าปลดปล่อยเจ้าจากโชคชะตาที่เลวร้ายนี้ซะ!"

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกและจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์พุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนพร้อมกัน

ฟางหยวนถูกบังคับให้ก้าวไปยืนอยู่บนขอบหน้าผา ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกระโดดลงไป

"วิญญาณกาลเวลา! ไป!" ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายพร้อมกับแสงสีเหลืองเขียวที่ปะทุขึ้นบนร่างกายของเขา

"กลิ่นอายนี้?"

"นี่เป็นไปได้อย่างไร? มันคือวิญญาณระดับหก!?"

ผู้ใช้วิญญาณระดับห้าทั้งสองตกใจแต่ในไม่ช้าใบหน้าของพวกเขากลับถูกแทนที่ด้วยความโล�

"ฆ่าเขาและยึดวิญญาณระดับหก!"

"นี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ประทาน เด็กน้อยมอบมันให้ข้าแล้วข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า!"

ด้วยความโลภ พวกเขากลับสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วยิ่งกว่าก่อนหน้า

แต่ในจังหวะนี้เสียงระเบิดกลับดังขึ้น

"บึม"

ฟางหยวนระเบิดตนเอง!

"อันใด!" ก่อนที่สติของฟางหยวนจะเลือนหาย เขายังได้ยินเสียงตะโกนด้วยความตกใจของคนทั้งสองเป็นครั้งสุดท้าย

ตำนานกล่าวว่า โลกมีแม่น้ำอยู่สายหนึ่งที่เรียกว่า กาลเวลา มนุษย์ก็เหมือนปลาในแม่น้ำ ภายใต้กระแสน้ำ ปลาสามารถไหลไปพร้อมกับมันเท่านั้น บางครั้งปลาหนึ่งหรือสองตัวอาจกระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำและมองสิ่งที่เกิดขึ้นจากมุมสูง นี่คือการทำนายอนาคต

หากปราศจากแม่น้ำสายนี้ แม้โลกจะยังคงอยู่ แต่มันก็จะเป็นเพียงภาพวาดที่ไร้ชีวิต มีเพียงการเคลื่อนที่ของแม่น้ำจึงจะทำให้โลกใบนี้สามารถเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นความเจริญก้าวหน้าหรือถดถอยก็ตาม

สายธารแห่งกาลเวลาเต็มไปด้วยระลอกคลื่น ทุกระลอกคลื่นมีเรื่องราว แต่ท่ามกลางระลอกคลื่นที่สับสน กระเรียนไม้ตัวเล็กกางปีกของมันออกและบินทวนกระแสน้ำกลับไปด้วยความยากลำบาก มันแบกจิตสำนึกของฟางหยวนเอาไว้ ขณะที่แสงสีเหลืองเขียวพยายามปกป้องมันจากระลอกคลื่นที่ปั่นป่วน ทั้งหมดทำให้มันดูเหมือนแสงเทียนดวงเล็กๆที่พร้อมจะดับลงได้ทุกเมื่อจากแสงลมที่โหมกระหน่ำ

สุดท้ายมันก็เคลื่อนที่ไปได้เพียงเล็กน้อยก่อนจะร่วงหล่นลงเมื่อถึงขีดจำกัด มันส่องประกายขึ้นก่อนจะหายเข้าไปในระลอกคลื่นลูกหนึ่ง

ร่างของฟางหยวนสั่นสะท้านพร้อมกับดวงตาที่ส่องแสงสีเหลืองเขียวขึ้นอย่างกะทันหัน

มันเป็นเวลาเพียงเสี้ยวพริบตาก่อนที่จิตสำนึกของฟางหยวนจะผสานเข้าไปในสมองของเขา

เขาประสบความสำเร็จ!

เขาเกิดใหม่! เขาสามารถหวนคืนอีกครั้งได้จริงๆ!

หลังจากสังเกตสถานการณ์รอบตัว เขาพบว่าแขนของเขาถูกพันธนาการเอาไว้โดยคิ้วสีขาว

คิ้วสีขาวอีกครั้ง! เป็นช่วงเวลานี้!

แผนสำรองของไท่เซี่ยเล้งถูกเปิดใช้งานแล้ว ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกถูกมัดไว้ในโซ่ผนึกปีศาจกับยันต์สะกดมารและไม่สามารถเคลื่อนไหว

จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ยังยืนอยู่บนพื้นและพยายามใช้คิ้วสีขาวดูดพลังวิญญาณของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก

ภายใต้ผลกระทบของยันต์สะกดมาร แสงสีทองดึงวิญญาณดวงหนึ่งออกมาจากร่างของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก วิญญาณดวงนี้อยู่ในรูปลักษณ์ของกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่โปร่งใสราวกับคริสตัลสีแดงเลือดขนาดเท่ากับกำปั้นเด็ก

"วิญญาณกะโหลกเลือด! หลังจากหลายร้อยปีผ่านไป ข้าก็ได้พบมันอีกครั้ง!" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์กรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกกัดฟันแน่นจนแทบปริแตก แต่เขาก็ยังไม่สามารถขยับเขยื้อน

ทันใดนั้นวิญญาณอีกดวงก็ถูกแสงสีทองจับออกมาวางไว้บนพื้น วิญญาณดวงนี้มีรูปลักษณ์คล้ายโม่หินหยินหยางสีดำขาวที่หมุนวนอย่างต่อเนื่อง

เป็นไปตามความทรงจำของฟางหยวน จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ตะโกนออกมาอีกครั้งว่า "วิญญาณกงล้อหยินหยาง! พี่ชายที่ดีของข้า ข้าต้องขอบคุณท่านที่หาวิญญาณดีๆเช่นนี้มาให้ ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านต้องการกลับเป็นมนุษย์ แต่น่าเสียดาย แผนการของท่านต้องพังทลายเพราะข้า"

ฟางหยวนมองไปยังผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกที่กำลังกรีดร้องและสูญเสียความเยือกเย็นไปอย่างสมบูรณ์

'รออีกสักหน่อย โอกาสของข้ากำลังจะมาถึง' ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นและเลือกที่จะรอคอย

วิญญาณดวงที่สามยังถูกนำออกมาจากร่างของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกอย่างต่อเนื่อง วิญญาณดวงนี้ดูเหมือนบอลวารีสีเลือดที่โปร่งแสง

หัวใจของฟางหยวนกระตุกขึ้น 'ม่านเลือดบุปผาสวรรค์!'

มันเป็นวิญญาณดวงนี้ที่เปลี่ยนสถานการณ์และอนุญาตให้ผู้นำตระกูลแสงจันทร์พลิกคว่ำวิกฤตการณ์

ม่านเลือดบุปผาสวรรค์ถูกสร้างขึ้นโดยผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก เดิมทีฟางหยวนไม่รู้จักมัน แต่ตอนนี้เขาเข้าใจความสามารถของมันเรียบร้อยแล้ว

เห็นวิญญาณดวงนี้ปรากฎขึ้น ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกกัดฟันแน่นก่อนจะตะโกนเสียงดัง "เร็วเข้า! ทำลายวิญญาณดวงนี้!"

ได้ยินเสียงของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก ผู้ใช้วิญญาณหลายคนเร่งโจมตีวิญญาณดวงนั้นโดยไม่ลังเล

"บึม!"

ของเหลวสีเลือดระเบิดออกมาอย่างรุนแรงก่อนจะกลายเป็นกำแพงทรงกลมสีแดงเลือดที่โปร่งแสงครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่เอาไว้ภายใน ขณะที่จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์อยู่ด้านนอกกำแพงป้องกันชนิดนี้

ฟางหยวน ไป่หนิงปิง และผู้ใช้วิญญาณกลุ่มใหญ่อยู่ด้านในกำแพงเลือด แต่ยังมีผู้ใช้วิญญาณอีกมากมายอยู่ภายนอก

ด้วยการปรากฎขึ้นของกำแพงเลือด มันตัดคิ้วสีขาวให้ขาดสะบั้นลงและอนุญาตให้ผู้ใช้วิญญาณที่ถูกจับกุมหลุดออกจากพันธนาการของคิ้วดูดวิญญาณ

จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์พยายามโจมตีกำแพงเลือดอย่างบ้าคลั่ง

อย่างไรก็ตามกำแพงเลือดกลับไม่สะทกสะท้าน มันยังตั้งมั่นอยู่อย่างมั่นคงโดยไม่แม้แต่จะเกิดการสั่นสะเทือน

ใบหน้าของจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์กลายเป็นมืดครึ้ม "วิญญาณดวงนี้คือสิ่งใด?"

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์ส่ายศีรษะและเผยรอยยิ้มบาง "ให้ข้าสั่งสอนเจ้า นี่เป็นวิญญาณที่ข้าหลอมสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง มันคือวิญญาณม่านเลือดบุปผาสวรรค์ วิญญาณระดับห้าที่กำเนิดมาจากวิญญาณม่านน้ำบุปผาสวรรค์ มันมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งกว่า นอกจากนั้นผู้ใช้วิญญาณดวงนี้ยังสามารถออกจากกำแพงป้องกันของตนเองได้อีกด้วย น้องเล็ก อย่าพึ่งหมดความอดทน เจ้าสามารถโจมตีมันต่อไป ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเจ้าจนกว่าข้าจะสามารถกู้คืนพลังวิญญาณ จากนั้นข้าจะออกไปตัดศีรษะสุนัขของเจ้าออกมา ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า"

"เจ้าหัวขโมย อย่ามาเล่นตลกกับข้า!" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์คำรามเสียงดัง เดิมทีเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงเริ่มโจมตีอย่างบ้าคลั่งด้วยความโกรธเกรี้ยว เขากระทั่งสังหารผู้ใช้วิญญาณจำนวนมากที่อยู่ด้านนอกกำแพงเลือด

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ภายในกำแพงเลือดกลับสงบสุขราวกับมีภูเขาทั้งลูกปกป้องอยู่ด้านหน้า มันจึงช่วยไม่ได้ที่ผู้ใช้วิญญาณด้านในจะรู้สึกโล่งใจและเร่งประจบสอพลอผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก มีเพียงไป่หนิงปิงที่เย้ยหยัน

เมื่อผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกร้องขอหินวิญญาณ ผู้ใช้วิญญาณทั้งหมดก็ส่งมอบหินวิญญาณของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

เห็นเหตุการณ์นี้ จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ทำได้เพียงตะโกนเสียงดังด้วยความขุ่นเคือง "อย่าส่งหินวิญญาณให้เขา หลังจากฟื้นตัว เขาจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมดและใช้เลือดของพวกเจ้ายกระดับพรสวรรค์ของตัวเขาเอง มันเป็นการฆ่าตัวตายเท่านั้น!"

แต่แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดเชื่อ

"ฮืม กลยุทธ์ชั้นต่ำ น่ารังเกียจ!"

"เร็วเข้า! ยิ่งโจรเฒ่าผู้นี้บอกไม่ให้ทำ พวกเรายิ่งต้องทำ ส่งหินวิญญาณให้ท่านบรรพชน!"

"ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับท่านบรรพชนของพวกเราเท่านั้น!"