เล่ม 3 ตอนที่ 2 : สู่ปราสาทแจ๊คสัน (3)
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
==========
เล่ม 3 ตอนที่ 2 : สู่ปราสาทแจ๊คสัน (3)
ขณะที่อาร์คออกค้นหาในพื้นที่ เขาก็มักจะมองหัวหน้าลูกเรือด้วยหางตาเป็นประจำด้วยความพึงพอใจ ท้ายที่สุดแล้ว อาร์คก็หลอกใช้งานเอ็นพีซีมาเป็นแรงงานฟรีได้คนหนึ่ง
เดดริคที่มองจากอีกด้านถึงกับอุทานออกมา “โห สมเป็นเจ้านาย ต่ำช้ายิ่งนัก”
“เงียบน่า ก็อย่างที่บอกเสมอไง ต่างฝ่ายต่างได้รับน่ะ”
หลังการค้นหาผ่านไปครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็ได้กู้ชีพลูกเรืออกมาทั้งสิ้นสิบคนจากซากเรือเหาะ
แน่นอน สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่อาจวางใจ หากเฉลี่ยแล้ว ทุกครั้งที่ช่วยเหลือลูกเรือได้สามคนเขาก็ต้องสู้กับมอนสเตอร์เงาสามหรือสี่ตัวด้วยกัน ทว่า การต่อสู้เช่นนี้เขายินดีเสมออยู่แล้ว นอกจากนี้ ในบรรดาลูกเรือต่างก็สามารถช่วยต่อสู้หรือว่าใช้ทักษะฟื้นพลังให้ได้ แม้ว่าพวกเขาจะเลเวลไม่สูงนัก แต่ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้การต่อสู้กับมอนสเตอร์เงาง่ายขึ้นเยอะพอสมควร
“อาร์คนิม ผมเจอนี่อยู่ภายในซากเรือครับ”
“อา ทำได้ดีมาก ไว้หลังกลับไปแล้ว ผมจะตามหาคนรู้จักของเจ้าของสิ่งนี้และคืนให้พวกเขาครับ”
ด้วยการชี้นำของอาร์ค เหล่าลูกเรือต่างนำเอาสิ่งของจากผู้เล่นที่พบเจอเข้ามาส่งมอบให้กับอาร์ค นี่ออกจะน่าเสียดายไปบ้าง พวกมอนสเตอร์ที่โดนหอกแห่งธอร์กำจัดไม่ดร็อปไอเทมอะไรออกมาเลยแม้สักชิ้น
แต่ไอเทมที่พวกผู้เล่นดร็อปออกมามันเหนือกว่าที่อาร์คคาดคิดเอาไว้เสียอีก
‘โพชั่นฟื้นฟูระดับกลางห้าขวด กล่องเครื่องมือวิเศษหนึ่งกล่อง กับอุปกรณ์สวมใส่อีกสองชิ้น!’
“หน้าต่างข้อมูล!”
=====
ถุงมือโลหะแห่งพละกำลัง (วิเศษ)
ประเภท : ถุงมือโลหะ
พลังป้องกัน : 50
ความทนทาน : 3/60
น้ำหนัก : 50
ข้อจำกัดใช้งาน : นักรบ เลเวล 60 ขึ้นไป
ถุงมือโลหะคุณภาพสูงที่มีขายในเมืองแห่งการค้ากิรัน มีขายในร้านค้าเฉพาะทาง แม้ว่ามันจะเป็นผลิตภัณฑ์แบบผลิตจำนวนมาก แต่มันก็ยังมีความอ่อนนุ่มและมีพลังป้องกันสูง ดังนั้นแล้วเหล่านักผจญภัยจึงต่างชื่นชอบมัน ระหว่างขั้นตอนการหลอมโลหะ โลหิตของออร์คจะถูกหยดลงไปเพื่อสร้างผลลัพธ์เสริมพละกำลังให้ผู้สวมใส่
ออพชั่น : พละกำลัง +10
=====
รองเท้านอแรต (วิเศษ)
ประเภท : รองเท้าหนัง
พลังป้องกัน : 35
ความทนทาน : 4/40
น้ำหนัก : 20
ข้อจำกัดใช้งาน : เลเวล 65 ขึ้นไป
รองเท้าที่ทำขึ้นจากหนังของม้าในตำนานที่สามารถพบได้เพียงแค่ในพื้นที่ทางเหนือ มันคือหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของเซ็ตชุดเกราะที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้สร้างเลื่องชื่อ “นอแรต” ผู้ที่หายตัวไปเป็นเวลานานยิ่งแล้ว ด้วยความรวดเร็วประดุจสายลมของม้าในตำนาน มันยังคงมีผลอยู่จนถึงวันนี้ มันจะเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ให้ผู้ที่สวมใส่
ออพชั่น : ความเร็วเคลื่อนที่ +10%, หลบหลีก +5%
=====
ไอเทมทั้งสองชิ้นสมควรมีค่าทัดเทียมได้หกหมื่นหรือเจ็ดหมื่นวอนถ้านำไปเปิดประมูล
‘เก็บถุงมือไว้เปิดประมูลแล้วกัน รองเท้านี่เอามาใช้ก่อน’
ตอนนี้เขาไม่มีรองเท้าอะไรที่มีค่าทัดเทียมได้กับตรวนมนุษย์ฉลาม โดยทันทีอาร์คจึงใช้กล่องเครื่องมือหรูหราทำการซ่อมรองเท้าและสวมใส่มัน แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะพูดกล่าวกับจาเบลที่กำลังจ้องมองเขาอย่างไม่ยินดียินร้าย
“ผมแค่คิดจะใช้มันจนกว่าจะหาผู้คนที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาได้น่ะครับ พวกเราต้องการความช่วยเหลือจึงจะสามารถนำทุกคนไปถึงปราสาทแจ๊คสันโดยปลอดภัยได้ เหล่าผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วย่อมต้องคิดแบบนี้เช่นเดียวกันครับ”
“อา ใช่แล้ว... นั่นสินะ” จาเบลตอบกลับมาด้วยสีหน้าไร้ซึ่งความสงสัยอีกต่อไป อย่างไรเสียคนที่จะปกป้องพวกเขาย่อมต้องเป็นอาร์ค บางทีอาจเป็นเพราะเขาเองก็โมโหเหล่าผู้เล่นกว่าสี่สิบคนที่เผ่นหนีไปยังปราสาทแจ๊คสัน โดยไม่มีแม้เพียงสักนิดที่คิดจะออกค้นหาลูกเรือที่รอดชีวิต จาเบลจึงไม่คิดกล่าวท้วงติงอะไรกับการกระทำของอาร์ค
“เอาล่ะ ในเมื่อพวกเราออกค้นหาได้ทั่วพื้นที่แล้ว ออกมุ่งหน้าไปยังปราสาทแจ๊คสันกันเถอะ” หลังเผยท่าทีใสซื่อ อาร์คจึงเริ่มออกนำเหล่าลูกเรือตัดผ่านหมอกมืดไป
เมื่อพวกเขาออกมาห่างจากซากเรือเหาะได้ระยะหนึ่งแล้ว จำนวนของมอนสเตอร์ก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น ด้วยจำนวนของมอนสเตอร์เงาสามถึงสี่ตัวกับลูกสมุนของมันเกือบสามสิบตัว พวกมันเป็นลูกสมุนที่ขนาดใกล้เคียงกับที่เคยเห็นครั้งอยู่บนเรือเหาะ ในบรรดาพวกมันยังมีที่รูปลักษณ์คล้ายกับมอนสเตอร์เงา มอนสเตอร์เหล่านี้มีชื่อว่าฮิปตัน ตัวใหญ่กว่าราวห้าเท่าอีกทั้งยังมีผิวที่แข็งเหมือนหิน พวกมันมีเลเวลมากถึง 90! ทว่า พวกมันก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กับอาร์คมากมายนัก
‘อืม ดูเหมือนว่ากลุ่มจู่โจมที่ออกเดินทางไปก่อนคงจะได้รับความเสียหายไปไม่น้อยเลยทีเดียว’
อาร์คตามเส้นทางที่พวกกลุ่มแรกหลงเหลือเอาไว้ ต้องขอบคุณกลุ่มแรกที่ออกเดินทางไปก่อนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ซากของมอนสเตอร์จึงกองสูงแทบเป็นภูเขาให้เห็นได้สะดุดตา พวกมันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเคยเกิดการต่อสู้ขึ้นกับกลุ่มจู่โจมจนบังเกิดผลลัพธ์ออกมาเป็นเช่นนี้
โชคดีเสียจริง ต้องขอบคุณที่พวกเขาลงทุนลงแรง อาร์คจึงสามารถผ่านทางไปได้โดยไม่ต้องสู้แม้กับมอนสเตอร์สักกลุ่ม อาร์คเพียงแค่ฮัมเพลงเดินผ่านซากศพของพวกมันไปเท่านั้นเอง
“เจ้างู ถ้าเห็นไอเทมอะไรที่ฉันไม่เห็น กลืนพวกมันมาให้หมด”
บางทีอาจเป็นเพราะกลุ่มจู่โจมจำเป็นต้องเดินทางอย่างต่อเนื่อง พวกเขายังไม่ได้คว้าหยิบเอาสิ่งของที่ดร็อปไว้ไปทั้งหมด ทว่า เจ้างูเพียงพยักหน้ารับขณะพุ่งตัวไปคว้าไอเทมและกลืนกินมันเข้าไป แต่แล้วมันกลับคายออกมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด ศีรษะของมันก็เริ่มซวนเซ
‘อ๋า ลืมไปเลย นี่ยังอยู่ช่วงการเปลี่ยนสัณฐานสินะ?’
ระหว่างการเปลี่ยนสัณฐาน เจ้างูจะไม่อาจกลืนกินหรือคายไอเทมออกมาได้ นอกจากนี้ เจ้างูยังจำเป็นต้องคอยรัดพันรอบเอวของอาร์คเอาไว้อย่างยากลำบาก นี่สมควรเป็นผลเสียจากกระบวนการเปลี่ยนสัณฐาน ได้เห็นเจ้างูที่น่ารักต้องอ่อนเปลี้ยแล้วก็ทำเอาเขาสงสารจับใจ
“เจ้างู จนกว่าฉันจะหาทางแก้ได้ อยากกลับไปอยู่โลกใต้พิภพก่อนไหม?”
ฟึ่บ ฟึ่บ!
แค่ได้ยินเจ้างูก็ส่ายหัวอย่างแรงขณะรัดเอวของเขาเอาไว้แน่น พร้อมกับใช้ศีรษะลูบไล้ด้วยความน่าเอ็นดู
อาร์คก็ไม่ต่างอะไรไปจากครอบครัวของเจ้างู ในเมื่อมันกำลังเจ็บปวด มันจึงไม่คิดที่จะแยกจากเขายิ่งขึ้นไปอีก
“ก็ได้ เข้าใจแล้ว อาจจะยากไปหน่อยแต่ก็รอหน่อยนะ ฉันต้องหาทางให้ได้ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม”
เมื่ออาร์คใช้ทักษะเยียวยาด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความเห็นใจ เจ้างูจึงพยักหน้ารับด้วยใบหน้าที่สดใสมากขึ้น
‘อย่างน้อยทักษะเยียวยาก็ยังใช้งานได้ แต่ยังไงก็รู้สึกผิดกับเจ้างูอยู่ดี เราไม่อาจออกจากสถานที่แห่งนี้ได้เป็นเวลาเก้าวันตราบเท่าที่ยังเข้าร่วมภารกิจอีเวนท์นี้ ก็ช่วยไม่ได้แหละนะ ยี่สิบวันในเกมก็แทบจะเทียบกับหนึ่งสัปดาห์ในโลกความเป็นจริง โชคยังดีที่ยังพอมีเวลาอยู่บ้าง เราต้องหาทางออกหลังจบภารกิจอีเวนท์นี้ให้จงได้’
อาร์คผ่อนลมหายใจออกมาขณะลูบศีรษะของเจ้างูน้อย เขาไม่อาจทำสิ่งอื่นใดให้กับมันได้อีก อีกทั้งนี่ยังไม่ใช่สถานการณ์ที่เขาจะคอยดูแลเอาใจใส่เจ้างูน้อยได้ด้วย
กระทั่งว่ากลุ่มจู่โจมได้ผ่านเส้นทางนี้ไปก่อนหน้า มันก็ยังคงมีมอนสเตอร์จำนวนหนึ่งหลงเหลืออยู่ ดังนั้นแล้ว อาร์คจึงต้องเคลื่อนที่ด้วยความระมัดระวัง และส่งเดดริคเข้าไปสำรวจพื้นที่ก่อน แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังต้องสู้อยู่บ่อยครั้ง แต่ที่ไม่เคยต้องสู้กับมอนสเตอร์เงาจำนวนเกินหกตัวก็ต้องขอบคุณการสอดแนมที่เกิดขึ้น ด้วยความช่วยเหลือของเหล่าลูกเรือ มอนสเตอร์เงาหกตัวไม่อาจนับว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากลำบากอะไร
“ข้าก็ช่วยด้วยนะ”
“ล้างแค้นให้กัปตัน!”
ถ้าหากการต่อสู้ปะทุขึ้น พวกลูกเรือจะนำเอากริชของตนหรือกระทั่งว่าเข้าไปสู้โดยไม่พูดกล่าวอันใด หน่วยพยาบาลเองก็วิ่งวุ่นไปทั่วระหว่างการต่อสู้ที่เกิดขึ้นกับพวกมอนสเตอร์เงา อีกทั้งยังคอยช่วยเหลืออาร์คเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บ พลังชีวิตที่ฟื้นฟูมาเพราะหน่วยพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือด้วยการปฐมพยาบาลไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่มันก็ช่วยได้เพราะมันเป็นผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
“นายได้รับบาดเจ็บนี่ ให้ฉันช่วยนะ”
“นิดหน่อยเอง ไม่เป็นไรหรอก...”
“ไม่ นายสู้เพื่อพวกเรานะ ดังนั้นแล้วฉันจะปล่อยให้บาดแผลเกิดขึ้นกับนายไม่ได้”
พวกเขาตอบแทนผู้ที่เข้าช่วยเหลืออย่างสุดตัว อาร์คก็อดไม่ได้ที่จะชอบเอ็นพีซีทั้งหลายเพราะพวกเขามักเป็นเช่นนี้
หลังผ่านการต่อสู้มาร่วมสิบห้าศึก ค่าประสบการณ์ของเขาก็เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าเขาจะร่วมสู้กับพวกลูกเรือ อาร์คก็ยังคงได้รับค่าประสบการณ์มากสุด เพราะความเสียหายส่วนใหญ่เป็นเขาที่ลงมือ ต้องขอบคุณสิ่งนี้จึงทำให้ค่าประสบการณ์ของเขาเพิ่มมา 50% จนได้รับการเลื่อนเลเวลขึ้น หน่วยจู่โจมที่มุ่งออกไปก่อนหน้าสมควรสังหารมอนสเตอร์ได้มากมาย แต่เป็นเพราะค่าประสบการณ์ต้องแบ่งออกเป็นสี่สิบส่วน ดังนั้นแล้วพวกเขาย่อมไม่มีทางได้มากเทียบเท่ากับอาร์คแน่
‘ฟ้าก็มืด! ค่าประสบการณ์กับไอเทมก็มีอยู่ทุกที่! นี่มันเวทีที่สร้างขึ้นเพื่อเราเลย!’
เขารู้สึกเสียใจกับเจ้างู แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกราวกับได้โบยบิน แต่แล้วการล่าอันน่ารื่นรมย์ของเขาก็ต้องจบสิ้นลงเมื่อเข้าใกล้ปราสาทแจ๊คสัน
เมื่อพวกเขาเข้ามาถึงหน้าประตูปราสาท จาเบลจึงคว้ามือของอาร์คเอาไว้ด้วยความทราบซึ้ง
“พวกเราขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง หากไม่ได้อาร์คนิม พวกเราคงได้สิ้นชีวิตไปอย่างน่าสังเวชแล้ว ข้าจะไม่ลืมความช่วยเหลือนี้แน่ แม้พวกเราจะตอบแทนนายได้เพียงแค่ความซาบซึ้ง แต่พวกเราจะแจ้งต่อสมาคมเวทมนตร์ถึงความดีความชอบนี้เพื่อให้นายได้รับซึ่งรางวัล”
“ผมเองก็ดีใจนะที่ได้ช่วยเหลือพวกคุณน่ะ และแน่นอน เรื่องจะรายงานต่อสมาคมเวทมนตร์นั่นผมก็ไม่คิดห้ามปรามอะไรหรอก...”
=====
ภารกิจย่อย ‘ช่วยเหลือลูกเรือของซิลเวอร์แอร์โรว์’ ประสบความสำเร็จ
ท่านได้นำพาเหล่าลูกเรือที่ยังรอดชีวิตมายังปราสาทแจ๊คสันได้โดยปลอดภัย พวกเขาจะไม่ลืมความช่วยเหลือของท่านในครั้งนี้ สมาคมเวทมนตร์ต่างก็มองท่านดียิ่งขึ้นเพราะท่านเข้าช่วยเหลือเหล่าลูกเรืออันแสนสำคัญของพวกเขา
รางวัล : 100 แต้มสะสมสำหรับลูกเรือแต่ละคน, ค่าชื่อเสียง +50, ความเป็นมิตรต่อสมาคมเวทมนตร์ +100
=====
แต้มสะสมที่ได้จากการฆ่ามอนสเตอร์เงาตัวหนึ่งคือ 10 ดังนั้นแล้วช่วยเหลือลูกเรือเอาไว้ได้สิบสองคน ก็คือได้แต้มสะสมมากถึง 1,200 แต้ม เขายังได้รับจำนวนแต้มเช่นเดียวกันนี้จากการที่สังหารเหล่ามอนสเตอร์เงาไปมากถึงหนึ่งร้อยยี่สิบตัว อีกทั้งเขายังได้รับไอเทมที่ดร็อปจากพวกผู้เล่นอีก
‘ไม่เลว ก้าวแรกของภารกิจก็ดีถึงขนาดนี้แล้ว’
หลังส่งสมุนปีศาจกลับ อาร์คจึงเดินเข้าประตูใหญ่ไป
ภารกิจอีเวนท์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
* * *
‘นี่ปราสาทแจ๊คสันจริงเหรอเนี่ย?’
ปราสาทแจ๊คสันดูแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากความทรงจำที่เขาเคยมีเมื่อหนึ่งเดือนครึ่งก่อน
เป็นเพราะเหล่ามอนสเตอร์เข้าโจมตี ทำให้กำแพงปราสาทต่างพังทลายลงหลายแห่ง อีกทั้งยังทำลายอาคารบ้านเรือนที่อยู่ภายใน คฤหาสน์ของท่านลอร์คก็ดูเหมือนจะผ่านศึกมา พื้นที่โดยรอบได้แปรเปลี่ยนเป็นความมืด มันเป็นสถานที่ที่ดูแล้วไม่ต่างไปจากซากปรักหักพัง
‘นี่แค่สองวันในเกมนับตั้งแต่ที่การโจมตีครั้งนี้เริ่มขึ้น มันเลวร้ายถึงขนาดนี้ได้ยังไง?’
อาร์คเคยสู้ร่วมกับเหล่าอัศวินซิลฟีดของปราสาทแจ๊คสันมาก่อน แม้พวกเขาจะไม่อาจโค่นล้มบอสในซากปรักหักพังโบราณอย่างเดบร้าได้ แต่พวกเขาก็เป็นเอ็นพีซีที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่อาร์คเคยพบเจอ ถ้าหากศัตรูถึงกับสามารถสร้างความเสียหายได้เพียงนี้แม้เหล่าอัศวินซิลฟีดจะตอบโต้กลับแล้ว นี่หมายความว่าศัตรูต้องมีทั้งจำนวนและความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา
‘อืม ดูเหมือนสามกิลด์ใหญ่จะส่งกำลังเสริมมาแล้ว เพราะงั้นภารกิจนี้ก็สมควรสำเร็จหรือไม่ก็... แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เราควรไปทำอะไรดีนะ? ร่วมมือกับสมาคมเวทมนตร์ดี? หรือว่า...’
อาร์คส่งลูกเรือเข้าไปด้านในก่อนเป็นสิ่งแรก จากนั้นจึงเริ่มสำรวจรอบประตูใหญ่
จากนั้น เขาได้สอดแนมผู้เล่นกลุ่มหนึ่งที่เดินผ่านจากประตูใหญ่ออกมา อาร์คเริ่มเข้าไปใกล้อย่างคาดหวังว่าจะได้รับข้อมูลอะไรมาบ้าง แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงัก เขาเร่งร้อนถอยกลับไปซ่อนที่ชิดกำแพง
‘ไอ้หมอนั่น...?’
หนึ่งในผู้เล่นที่เดินออกมา ท่ามกลางคนนับสิบ มีคนหนึ่งที่อาร์ครู้จัก
เป็นอันเดล!
ไอ้ตัวสารเลวที่หลอกใช้อาร์คเมื่อครั้งที่ยังเลเวล 1 จนทำให้เขาสูญเสียค่าสถานะไปทั้งสิ้น 84 หน่วย! แน่นอนว่าเขาได้ลงมือกับอีกฝ่ายไปแล้วหลังจากนั้น จนทำให้อีกฝ่ายต้องเสียค่าสถานะไปถึง 128 หน่วย หากเป็นคนทั่วไป โดนไปขนาดนั้นคงยอมแพ้กับเกมนี้ไปแล้ว ไม่สิ อีกฝ่ายสมควรที่จะยอมแพ้เกมนี้ไปแล้วต่างหาก
‘แล้วทำไมไอ้หมอนี่ถึงเข้าร่วมภารกิจอีเวนท์ได้?’
แม้จะเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายสามารถหาอุปกรณ์สวมใส่กลับคืนมาด้วยเงินได้ แต่นั่นก็หมายความว่าอีกฝ่ายเก็บเลเวลจนถึง 60 หลังเสียค่าสถานะไปถึง 128 หน่วย?
นอกจากนี้ ถ้าหากอันเดลเข้าร่วมภารกิจอีเวนท์ด้วยแล้ว นี่ก็หมายความว่าอีกฝ่ายหาทางปลดสถานะฆาตกรออกไปได้แล้ว หลังจากที่อันเดลโดนอาร์คเล่นงาน อีกฝ่ายก็ตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของบทลงโทษที่มีต่อผู้เล่นฆาตกร ถ้าหากยังเล่นเกมต่อมาได้ งั้นก็หมายความว่าเขาต้องปลดสถานะฆาตกรออกแล้ว
‘มันไม่น่าจะง่ายขนาดนั้น... เพราะที่เราทำให้สูญเสียไปมันก็ไม่ใช่น้อยเสียหน่อยนี่?’
อย่างไรเสีย ดวงตาของอาร์คก็ไม่ได้เผยออกซึ่งความเห็นอกเห็นใจ
กระทั่งว่าเขาจัดการอันเดลจนลดค่าสถานะไปถึง 128 หน่วยแล้วก็ตาม มันก็ยังไม่ใช่เหตุผลที่อาร์คจะยอมยกโทษให้ แต่มันเป็นเพราะเขาไม่อยากเสียเวลากับคนอย่างอันเดลมากจนเกินไป มันคงไม่นับเป็นอะไรถ้าอันเดลจะเลิกเล่นเกมไป แต่นี่อีกฝ่ายยังคงเล่นเกมอยู่ เช่นนั้นสถานะความเป็นศัตรูก็ย่อมยังคงอยู่
เขาลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะสังหารอันเดลจนค่าสถานะเหลือ 0 ถ้ากล้าโผล่หัวมาตรงหน้าอาร์คอีกครั้ง ถ้าหากพวกเขาได้พบกันอีกในสถานการณ์อื่น อาร์คคงจัดการลดค่าสถานะอีกฝ่ายจนเหลือ 0 ดังคำที่ลั่นเอาไว้แล้ว
‘แต่ตอนนี้ไอ้หมอนี่มันไม่ใช่ฆาตกรแล้ว’
อาร์คโมโหก็จริง แต่เขาไม่โง่พอที่จะกลายเป็นผู้เล่นฆาตกรระหว่างที่กำลังดำเนินภารกิจอีเวนท์อยู่
‘อีกทั้ง เรายังไม่อาจแตะต้องมันได้ ตอนนี้มันอยู่กับเพื่อนร่วมทีม อีกทั้งยังมีบูลม่า ไม่สิ ถ้าเราโดนพบเห็นเข้าคงไม่ดีแน่ ตอนนี้ภารกิจยังคงดำเนินอยู่ ทางที่ดีเลี่ยงออกมาให้ห่าง’
ขณะที่อาร์คกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ใครคนหนึ่งจากทางด้านหลังจึงโพล่งคำพูดขึ้นมา
“เฮ้ นี่เจ้าคือคนที่ช่วยพวกลูกเรือเอาไว้ใช่ไหม?”
“ครับ ผมเอง ท่านคือ?”
ขณะที่อาร์คหันศีรษะกลับไป ดวงตาของเขาต้องเบิกกว้างออกด้วยความประหลาดใจ