บทที่ 67 ขันทีซ่ง (อ่านฟรี)
เฝิงหยู่ค่อนข้างงุนงง ประวัติศาสตร์ถูกเปลี่ยนไปแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีกัน?
ในทางที่ดี บางทีอันตพาลสามทั้งแก๊งจะถูกกำจัดให้หมดไปเร็วขึ้น แต่ในทางกลับกัน เฝิงหยู่รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก มันจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงเพราะเขาหรือเปล่า?
แต่หลังจากนั้นไม่นานเฝิงหยู่ก็เข้าใจ เฝิงหยู่ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ถึงแม้ว่าในชีวิตก่อนหน้านี้เขาจะไม่ใช่นักลงทุนที่มีชื่อเสียง แต่เขาก็ยังมีประสบการณ์ในการลงทุนถึง20ปี ในยุคสมัยนี้ เขาไม่กล้าพูดเต็มปากว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น แต่เขามั่นใจว่าเขาดีกว่าคนส่วนใหญ่
นอกจากนี้ หากแนวโน้มเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปเพราะเขา เขาคงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากความรู้ของเขาที่สั่งสมในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาพึ่งจะเก็บเงินได้ไม่กี่ล้านหยวน แม้ว่าเขาจะลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยงมากนัก เขาก็ยังสามารถใช้ชีวิตกินดีอยู่ดีมีความสุขไปทั้งชีวิต นอกจากนี้เขาตรวจสอบตลาดหุ้นในหลายวันที่ผ่านมาแล้ว มันไม่ต่างอะไรกับชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาเลย ปีนี้จีนเพิ่งเปิดต้นตลาดหุ้นและยังไม่มีตลาดหลักทรัพย์ พันธบัตรหุ้นยังคงเป็นเพียงแผ่นกระดาษเท่านั้น!
ถึงแม้ว่าซ่งเสี่ยวเฟิงยังไม่ตาย แต่นี่ก็น่าจะเป็นบทเรียนที่ร้ายแรงสำหรับเขา อีกอย่าง ผู้นำเมืองได้ออกคำสั่งมาแล้ว แม้แต่ซ่งเหล่าซื่อยังต้องหดหัวในกระดอง จึงไม่ต้องพูดถึงซ่งเสี่ยวเฟิงเลย
ไม่นานหลังจากนั้น เฝิงหยู่ก็ได้รับข่าวดีอีกเรื่องหนึ่ง จีหลี่เหลียนเคอได้แจ้งให้เขาทราบว่ารถยนต์มือสองลอตใหม่เตรียมพร้อมแล้ว เมื่อเฝิงหยู่จ่ายเงิน เขาก็จะส่งรถไป
ตามปกติต้องจ่ายเงินมัดจำ10% และยอดคงเหลือจะจ่ายหลังจากได้รับสินค้าแล้ว ต่อมา เฝิงหยู่เอากลับมาครุ่นคิด ว่าราคาที่จีหลี่เหลียนเคอเสนอมาค่อนข้างสูง
แต่เนื่องจากพวกเขาทำธุรกิจร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายยังต้องหารายได้ด้วยกันเป็นเวลานาน ราคานี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เฝิงหยู่รับได้ ที่สำคัญ รถทั้งหมดไม่ได้ถูกขายทั่วประเทศ แต่ถูกขายหมดแค่ในเมืองปิงเท่านั้น
เฝิงหยู่รู้สึกขอบคุณธนาคารอย่างมาก หากตอนนี้มีการปล่อยเงินกู้สำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่คงเลือกซื้อรถใหม่แทนที่จะมาซื้อรถมือสองตกแต่งใหม่
จีหลี่เลียนเคอยังสั่งซื้อสินค้าในประเทศกลุ่มสินค้าสิ่งทอและผลิตภัณฑ์อาหารจากประเทศจีน ส่วนเงินที่เหลืออีก 20,000 รูเบิ้ล เขาปล่อยให้เฝิงหยู่ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า
ตอนนี้จีหลี่เหลียนเคอเชื่อใจเฝิงหยู่แล้วจริงๆ ดูเหมือนว่าสินค้าใดก็ตามที่เฝิงหยู่เลือกให้ เขาจะเอาไปขายในสหภาพโซเวียตได้ในราคาสูง
หลังจากที่ได้พบเจอเฝิงหยู่ จีหลี่เหลียนเคอรู้สึกว่าโชคของเขาเปลี่ยนราวพลิกฟ้าพลิกดิน เขาทำเงินได้เร็วขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น ชื่อเสียงของเขายังดังกระฉ่อนทั่วทั้งกองทัพโซเวียตรุ่นที่สอง แม้แต่พ่อของเขาได้รับประโยชน์อีกด้วย
......
ซ่งเสี่ยวเฟิงลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ เพียงเปิดเปลือกตาก็รู้สึกว่าทั้งร่างกายของเขามีแต่ความเจ็บปวด เขาก้มหน้ามอง เห็นร่างของเขาปกคลุมด้วยผ้าพันแผล แม้ว่าจะไม่ถึงกับเป็นมัมมี่ แต่ก็ยังมีผ้าพันแผลอยู่เต็มตัว
"นายน้อยซ่ง ตื่นแล้วหรือครับ? รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหมครับ? "
"รู้สึกแย่ทั้งร่าง ลุงซื่อของข้าอยู่ไหน จับเจ้าคนขับรถที่ชนข้าได้ไหม?" ความคิดแรกของซ่งเสี่ยวเฟิง คือการฆ่าผู้ขับขี่รถบรรทุกทรายคันนั้น
"ยังจับไม่ได้ครับ รถบรรทุกคันนั้นเป็นรถที่ถูกขโมยมา ส่วนคนขับมีคนมาช่วยไว้ จึงหนีไปไวมาก "
ซ่งเสี่ยวเฟิงตกใจ: "เอ็งหมายความว่าพวกมันวางแผนจะฆ่าข้า?"
ผู้ติดตามคนนั้นพยักหน้า ถ้าหากไม่ได้วางแผนล่วงหน้าไว้ ทำไมคนขับจึงต้องขโมยรถบรรทุกมา แล้วทำไมคนขับต้องหนีออกจากที่เกิดเหตุ? แถมยังเทดินทรายถมรถแลนด์โรเวอร์ก่อนที่จะหลบหนี ชัดเจนแล้วว่าเขาต้องการฝังซ่งเสี่ยวเฟิงทั้งเป็น!
ผู้ติดตามคนนั้นออกไปตามซ่งเหล่าซื่อ ตอนนี้ซ่งเสี่ยวเฟิงพักฟื้นอยู่ที่คฤหาสน์ ซ่งเหล่าซื่อจัดแจงห้องห้องหนึ่ง แล้วได้เปลี่ยนให้เป็นห้องพยาบาล มีแพทย์และพยาบาลมาคอยดูแลรักษา
เมื่อเห็นซ่งเหล่าซื่อ ซ่งเสี่ยวเฟิงพยายามที่จะนั่งตรง เขาถามทันทีว่า: "ลุงซื่อครับ ฝีมือหวังขาเป๋หรือเปล่า?"
ซ่งเหล่าซื่อส่ายหัวแล้วกล่าวว่า "ลุงก็ไม่แน่ใจ ยังไม่มีหลักฐาน แต่มีข่าววงในพูดกันว่าเป็นฝีมือของหนมปังหยาง แต่พวกหนมปังหยางไม่มีเหตุผลที่จะฆ่าหลาน ยังไม่ต้องพูดอะไรมาก ให้หมอตรวจดูอาการของหลานเสียหน่อย"
แม้ว่าอาการบาดเจ็บของซ่งเสี่ยวเฟิงดูสาหัสสากัน แต่ในความเป็นจริงมันไม่รุนแรงมากสักเท่าไหร่ อาการบาดเจ็บของเขาส่วนใหญ่เป็นรอยถลอก กระดูกไม่หัก หัวไม่ได้รับการกระทบกระเทือน สติก็ยังชัดเจน น่าจะหายในเร็ววัน
"ป๋าซื่อ นายนายซ่งไม่เป็นอะไรแล้ว อีกเดี๋ยวพยาบาลจะเอายามาเปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องฉีดยาแล้ว เพียงแค่ทานยาก็พอ " แพทย์ถอนหายใจอย่างโล่งอก ซ่งเหล่าซื่อเคยกล่าวว่าถ้าซ่งเสี่ยวเฟิงเกิดเป็นอะไรไป เขาจะถูกฝังทั้งเป็น!
พวกของซ่งเหล่าซื่อต่างพากันออกไป มีเพียงพยาบาลสาวคนหนึ่งที่ยังคงอยู่ในห้องคอยปฐมพยาบาลให้ซ่งเสี่ยวเฟิง หลังจากที่ผ้าพันแผลถูกถอดออก ร่างกายของซ่งเสี่ยวเฟิงก็เปลือยเปล่า
เขาเพ่งมองพยาบาล เขารู้สึกว่าพยาบาลหน้าตาสะสวย มือของเขาจึงขยำสะโพกของพยาบาล ใบหน้าเผยรอยยิ้มที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
พยาบาลได้แต่ขุ่นเคืองแต่ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ฝืนทนเอาไว้ไม่กล้าต่อต้าน วันที่เธอถูกซ่งเหล่าซื่อบังคับให้มาที่คฤหาสน์เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในไม่ช้า
ซ่งเสี่ยวเฟิงที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข จู่ๆสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
เกิดอะไรขึ้น? เมื่อก่อนแค่เห็นผู้หญิงที่ตัวเองพึงพอใจ นกเขาจะตื่นตัวพร้อมออกล่า แต่วันนี้ทั้งลูบทั้งคลำ แต่แท่งทองกลับไม่มีปฏิกิริยา?
ยากที่จะเชื่อเรื่องเกิดขึ้น เขาเอามือล้วงเข้าไปใต้กระโปรงของพยาบาล ควักเข้าไปในชุดชั้นใน แต่น้องชายของเขากลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ
"ไปเรียกหมอมา!" ซ่งเสี่ยวเฟิงตะโกน
นางพยาบาลตกใจ กุลีกุจอวิ่งออกไปเรียกหมอ
"นายน้อยซ่ง เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรผิดปกติกับร่างกายหรือครับ? " หมอวิ่งเข้าไปในห้องพอเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของซ่งเหล่าซื่อที่เอนกายอยู่บนเตียง เขาจึงไม่แปลกใจกับท่าทางที่นางพยาบาลสาวแสดงออกมา เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่ซ่งเสี่ยวเฟิงกำลังดอมดมดอกไม้งามแต่ยังไม่ทันได้เด็ดมาเชยชม
“ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกอะไรเลย?”
"อะไรนะ" หมอไม่เข้าใจคำถามของซ่งเสี่ยวเฟิง
ซ่งเสี่ยวเฟิงกวักมือ พยาบาลสาวก้มหน้าลงแล้วเดินเข้าไปหาด้วยใจที่ไม่ยินยอม ซ่งเสี่ยวเฟิงยกกระโปรงของเธอขึ้นแล้วดึงกางเกงในลง
หมอตาเบิกกว้าง ความเป็นชายท่อนล่างตื่นตัวทันที แต่เมื่อเขาเห็นสายตาของซ่งเสี่ยวเฟิงที่จ้องมองเขาอย่างเย็นชา เขาก็เลื่อนสายตามองทันที ตอนนี้เขาเข้าใจคำพูดของซ่งเสี่ยวเฟิงแล้ว
“นายน้อยซ่ง ไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆหรือครับ?” หมอถาม
"เอ็งก็ดูเองสิ!" ซ่งเสี่ยวเฟิงตะโกนเสียงดัง ขณะที่นิ้วมือหยิกส่วนนั้นของนางพยาบาลเพื่อระบายความเดือดดาลของตัวเอง พยาบาลไม่กล้าส่งเสียงใดๆได้แต่แบกรับความเจ็บปวดเอาไว้
"เอ่อ ... อวัยวะไม่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โอ้ใช่ ตอนเกิดอุบัติเหตุ นายน้อยซ่งกำลังทำอะไรอยู่ในรถ? " พลัน หมอคิดอะไรขึ้นมาได้
ซ่งเสี่ยวเฟิงจำได้ว่าเขาเอาศีรษะซุกไว้ระหว่างเต้านมของหญิงสาวคนนั้น ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ อวัยวะเพศชายแข็งตัวโด่พร้อมยิง แต่เพราะความตกใจอย่างฉับพลันทำให้มันหดอ่อนยวบ
หรือนี่เป็นเหตุผลที่เขาไม่สามารถเป็นชายได้อีก?
หลังจากได้ยินคำพูดของซ่งเสี่ยวเฟิง หมอได้ข้อสรุปว่านี่เป็นปัญหาทางจิตวิทยา ต้องให้ซ่งเสี่ยวเฟิงมีสิ่งเร้ามากระตุ้น หากไม่สำเร็จ คงต้องใช้ยาปลุกกำหนัด
"ใสหัวไป ใสหัวไปให้หมด!"
ซ่งเหล่าซื่อผลักประตูเข้ามาเมื่อเขาได้ยินเสียงตะโกนของหลานชาย เขาจ้องมองหมออย่างเย็นชา ถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?" เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่านางพยาบาลใส่กางเกงในคาอยู่ตรงเข่า
"ป๋าซื่อ จิตใจของนายน้อยซ่งได้รับความกระทบกระเทือน ผมขอแนะนำให้ส่งเขาไปปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้เพื่อรับการรักษา ทางที่ดีควรส่งเขาไปรักษาที่ฮ่องกง อาการบาดเจ็บอื่นๆผมรักษาให้ได้ แต่ปัญหานี้ ผมจนปัญญา" หมอบอก
ซ่งเหล่าซื่อมองไปแท่งทองอ่อนยวบระหว่างขาของซ่งเสี่ยวเฟิง ก็เข้าใจสิ่งที่คุณหมอบอกกล่าวมา ซ่งเสี่ยวเฟิงเป็นลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่ของตระกูล แต่ตอนนี้เขากลายเป็นขันทีไปแล้ว?