ตอนที่แล้วบทที่ 11 ผู้กล้า สต้อล์กเกอร์ ยมทูต (0)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 13 ผู้กล้า สต้อล์กเกอร์ ยมทูต (2)

บทที่ 12 ผู้กล้า สต้อล์กเกอร์ ยมทูต (1)


บทที่ 12 ผู้กล้า สต้อล์กเกอร์ ยมทูต (1)

 

「นั่นหมายความว่า มันน่าจะไม่เป็นไรนะ ถ้าเขาได้รับบาดแผลนิดๆหน่อยๆ…」

 

ชายคนนั้นบ่นพึมพำกับตัวเองบนถนนสายหลัก เขาเห็นพวกอันธพาลมากันหลายคนและเข้าไปล้อมผู้บุกรุก เกรงว่าเด็กผู้ชายคนนั้นจะได้รับอันตราย จนถึงขั้นบาดเจ็บ และก็ได้รับการช่วยเหลือจากชายคนนั้นเหมือนปกติทุกครั้งไป

 

อันธพาลพวกนี้กับผู้ชายคนนั้น พวกเขาอยู่ภายใต้ข้อตกลงร่วมกัน กล่าวคือมันเป็นการจับคู่กันที่ลงตัวมาก

 

ด้วยการให้เงินพวกเขาเป็นครั้งคราว ในกรณีที่ชายคนนั้นตัดสินว่าผู้บุกรุกควรปล่อยให้มีชีวิตรอด พวกอันธพาลก็จะแกล้งทำเป็นต่อสู้กับสายลับและพอถึงจุดๆหนึ่ง พวกเขาก็จะปล่อยตัวประกัน บังคับให้ผู้บุกรุกเป็นหนี้บุญคุณสายลับคนนั้น

 

โดยการกระทำเช่นนี้ สายลับก็จะขอให้ผู้บุกรุกออกไปจากสลัม ในขณะที่ผู้เคราะห์ร้ายยังไม่เป็นปรปักษ์กับสลัม

 

“ก็แค่ปล่อยให้พวกมันหักกระดูกเขาสัก 2-3 ชิ้น ก็คงได้เวลาไปช่วยเขาแล้วหล่ะ”  นี่คือสิ่งที่เขาคิดเตรียมการเอาไว้ก่อนจะเข้าต่อสู้ การรอคอยโอกาสที่ดีที่สุดเพื่อขัดขวางพวกอันธพาลทำร้ายเด็กผู้ชาย แต่เขาถึงกับยืนนิ่ง พูดไม่ออก เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้า

 

「ห๊ะ? อ้ากกกกก!?」

 

เสียงร้องดังลั่น ชั่วขณะหนึ่ง สายลับคนนั้นไม่เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า

 

พวกอันธพาลที่กำลังพยายามทำร้ายเด็กผู้ชาย พวกมันล้มลงและทิ้งตัวไปตามพื้น แม้กระทั่งสายลับคนนั้นที่ได้รับการฝึกมาตลอดชีวิต ก็ไม่อาจเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด

 

เขาสร้างฉากเหตุการณ์นี้ด้วยความง่ายดาย แต่ดูเหมือนว่าตัวการที่อยู่เบื้องหลัง แลดูไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ ก่อนหน้าที่จะมีใครรู้ตัว มีบางอย่างปรากฏออกมาจากมือของเขา มันเป็นอุปกรณ์ปลายแหลมที่มีความละม้ายคล้ายคลึงกับมีดโยน เขาใช้ใบดาบแทงไปที่แขนของหัวหน้าแก๊งอันธพาลที่กำลังนอนดิ้นอยู่บนพื้นเพื่อป้องกันการหลบหนี และสุดท้าย เด็กผู้ชายคนนั้นก็ลงมือปลิดชีพเขา เป็นเวลาเดียวกับตอนที่สายลับเริ่มออกวิ่ง

 

ไม่จำเป็นต้องมีคำบรรยายๆใด

 

เขารับรู้ได้ว่าตัวเขานั้นไม่มีความสามารถพอที่จะจัดการกับเด็กผู้ชายคนนี้

 

ความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าอัศวินผู้คุมกฎของอาณาจักร

จิตวิญญาณอันแข็งกร้าวที่สามารถเอาชีวิตได้ ปราศจากซึ่งความลังเล เลยจุดที่เกิดกว่าจะเรียกว่าเป็นมนุษย์ได้แล้ว คนนอกที่ปรากฏตัวในสลัม

 

เงานั่นราวกับเทพแห่งความตาย คอยช่วงชิงดวงวิญญาณของคนที่มันเลือก

 

เขาไม่รู้ว่าอันธพาลพวกนั้นได้พูดกับเด็กผู้ชายถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาหรือไม่ แต่เขามั่นใจว่าถ้าเด็กผู้ชายคนนั้นเห็นเขาอยู่ในสายตาแล้วล่ะก็ เขาคงหนีจากนรกไม่พ้นเป็นแน่

 

ไม่ว่าจะกรณีไหน สัญชาตญาณของเขาบอกว่าความตายนั้นกำลังจะมาเยือน

 

ในขณะที่สายลับพยายามจะข้ามสะพานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ไปถึงอีกฝั่งของสะพาน อดีตสายลับตัดสินว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือเด็กผู้ชายคนนั้นด้วยตัวคนเดียว เขาพยายามกดข่มความกลัวไม่ให้มันเตลิดมากไปกว่านี้ เขาต้องรีบแจ้งให้ชายที่ดูแลรับผิดชอบทุกอย่างในสลัมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

หลังจากผ่านไปได้ไม่นานตั้งแต่ที่เขาเริ่มออกวิ่ง สายลับคนนั้นได้มาถึงตลาดในย่านสลัม

 

เมื่อเตร็ดเตร่ไปตามถนน จะพบเห็นได้แต่ข้าวของเครื่องใช้ราคาถูก คุณภาพต่ำ ไม่อาจเทียบได้กับสินค้าปกติในเมืองหลวง เขาเข้าไปในตึกที่อยู่ตรงหัวมุม

 

การตกแต่งภายในอาคารดูหยาบๆ มีประตูเหล็กเสริมขึ้นมา ตรงประตูทั้งสองข้าง มีรูปปั้นกากอยล์อยู่สองตัวเหมือนทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์

 

เจ้ากากอยล์มองไปที่เขาด้วยสายตาเย็นชา เย็นยะเยือกราวกับผิวสีเทาของพวกมันที่ให้ความรู้สึกราวกับหิน

 

「「รหัสผ่าน?」」

 

「แห่ก แห่ก, 『กุญแจหลักแห่งที่ทิ้งขยะ』」

 

「「เจ้าสามารถผ่านเข้าไปได้」」

 

พวกมันตอบอย่างพร้อมเพรียงกันทันทีที่พวกมันได้ยินรหัสผ่าน เขาโล่งใจและก็ผลักประตูเหล็กเพื่อเข้าไปข้างใน

 

ภายในนั้น มีห้องที่ไม่เหมือนกับสลัม มันสะอาด เฟอร์นิเจอร์และข้าวของต่างๆมีมูลค่าสูง การตกแต่งภายในดูแล้วเจริญตา มันอาจจะเทียบเคียงได้กับคฤหาสน์ของพวกขุนนางระดับกลาง

 

ตรงกลางห้อง มีผู้คุ้มกันที่เป็นอดีตอัศวินหรืออดีตนักผจญภัย กำลังผ่อนคลายพร้อมกับเล่นพนันไปด้วย

 

「หืม? เกิดอะไรขึ้นแจ๊ค, นายดูร้อนรนนะ」

 

「เฮ้ย เฮ้ย สงสารเขาหน่อยเหอะ เขาอาจจะไปกินอะไรไม่ดีมาก็ได้ ดูเขาสิ ทำหน้าอย่างกับอยู่ตรงประตูแห่งความตาย?」

 

「เฮ้ย แก… อย่าโกงแบบนี้ดิวะ!!」

 

「เชอะ ตาแหลมจังนะพวกแก」

 

เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของเขาในขณะที่รายล้อมไปด้วยบรรดาเพื่อนร่วมงาน มันทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย มีเสียงหัวเราะแทรกเข้ามาบ้าง แจ๊ครู้สึกได้ถึงความกลัวที่ค่อยๆลดลง ที่นี่เขารู้สึกปลอดภัย ความตึงเครียดที่ถาโถมเข้ามากำลังหายไป

 

「ข้าต้องการพบเจ้านาย ข้ามีเรื่องสำคัญมาก」

 

แม้ว่าจะรู้สึกปลอดภัย มันไม่ใช่เรื่องผิดพลาดที่จะรายงานการค้นพบของเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

เขาไม่รู้วัตถุประสงค์ของเด็กผู้ชายคนนั้น แต่เขามั่นใจว่านั่นไม่ใช่เด็กหลงทางทั่วไปแน่นอน เขารู้ว่าผู้คนที่มีอิทธิพลไม่ทำอะไรแบบนี้ ในฐานะสายลับผู้มีประสบการณ์โชกโชน เขาไม่สามารถปล่อยให้เด็กคนนั้นอยู่ตามลำพังได้ เพราะเขาไม่รู้ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากผู้บุกรุกที่จะนำมาสู่สลัม

 

「อะไรกันล่ะ? ทางประเทศส่งอัศวินมาอย่างงั้นหรือ?」

 

「ข้าไม่คิดเช่นนั้น…พวกเราค่อยว่ากันอีกที」

 

เชื่อได้ว่าเขาคงไม่สามารถอธิบายสถานการณ์ได้อย่างรัดกุม ในฐานะที่เขาเป็นสายลับ เขาตัดสินใจว่ามันคงไม่มีความหมายที่จะพยายามรายงานแบบไม่ละเอียดรอบคอบ เขาจึงไม่พูดสิ่งที่เขาคิดออกมา

 

เดินขึ้นไปบนบันไดไม้ มาหยุดอยู่ที่ปลายทางห้องโถง เขายืนตรงนั้นและเคาะประตู

 

「『ใครน่ะ?』」

 

「เจ้านาย ข้าเอง แจ๊ค ข้ามีเรื่องด่วนมาแจ้งให้ท่านทราบ」

 

「『ประตูไม่ได้ล๊อค เจ้าช่วยตัวเองละกันนะ』」

 

「ถ้าอย่างนั้น ขออนุญาตนะครับ」

 

เขาผลักประตูและเดินเข้าไปอย่างสุภาพ เขาเห็นชายอายุ 30 ปี ผมเผ้าเรียบร้อย สไตล์พ่อบ้านในคฤหาสน์ขุนนาง และมีแว่นตาข้างเดียว ให้ความประทับใจว่าเขาเป็นคนฉลาด เขากำลังอ่านเอกสาร พลางกวาดสายตาไปมา

 

「ข้าจะฟังไปพร้อมกับตรวจสอบเอกสารไปด้วย คงไม่มีปัญหาหรอกนะ?」

 

「ไม่เลยครับ เจ้านาย」

 

เขาตอบสนองไปแบบนั้น ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่เชื่อในข้อมูลที่สายลับต้องการรายงานว่ามันสำคัญเล็กน้อยขนาดไหน แต่เพราะเขาเชื่อว่าสายลับคนนี้มีความสามารถและไหวพริบพอที่จะตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดในขณะที่ทำเช่นนั้น

 

「โห่ ดูเหมือนว่ามันคงจะใช้เวลาสินะ ข้าไม่ว่าอะไร ถ้าเจ้าจะทำตัวตามสบายไปกับโซฟาที่อยู่ตรงนั้น」

 

ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจความสำคัญของสถานการณ์จากเสียงสายลับหรือไม่ แต่เสียงของเจ้านายตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง

 

「ขอประทานอภัย… 」

 

ชายคนนั้นเอนหลังพิงโซฟา เขากำลังคิดว่าจะเรียบเรียงข้อมูลยังไงดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังแล่นอยู่ภายในหัวของเขาอีกครั้ง และเขากำลังจะเปิดปากพูดพอดี

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะเรียบเรียงเป็นคำพูดออกมา เจ้านายของเขาก็เปิดปากพูดก่อน

 

「อืมมม แจ๊ค นายทำพลาดแล้วล่ะ」

 

เขากำลังสับสนกับคำพูด 『นายทำพลาดแล้วล่ะ』ที่เจ้านายของเขาพูดขึ้นมา ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยปากเล่าถึงสถานการณ์ที่เขาประสบพบเจอ มันทำให้เขารู้สึกขนลุก ตัวแข็ง สีหน้าดูซีดเซียวราวกับเห็นผี

 

「จะ เจ้านายหมายความว่าอะ… 」

 

「สวัสดี คุณคงจะเป็นผู้ปกครองและดูแลสลัมแห่งนี้สินะ? 」

 

เขากำลังจะถามพอดี เสียงเตะประตูดังขึ้น

 

เมื่อประตูเปิด ชายเจ้าของเสียงดังกล่าวก็เดินเข้ามาพร้อมกับจิตสังหารที่ถูกดึงกลับเข้าไปในร่างกายของเขาตอนที่เขาพูด

 

ชายคนนั้นท่าทางตื่นเต้น ดูมีความสุขราวกับเพื่อนๆชวนเขามาเล่นที่บ้าน ในมือขวา มีกากอยล์ไร้ร่าง มืออีกข้าง เขาลากอดีตนักผจญภัยที่เป็นเพื่อนร่วมงานของสายลับคนนั้น …

 

「โอ้ ขอบใจนายมากเลย ที่นำทางให้ชั้น เหตุการณ์เมื่อกี้ทำฉันเกือบลืมเรื่องก่อนหน้านี้ไปเลยแน่ะ」

 

มีเด็กผู้ชายยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมกับรอยยิ้มของยมทูต

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด