ตอนที่แล้วตอนที่14 คะแนนเต็ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่16 คะแนนเต็ม100%

ตอนที่15 พวกอ้วนทำคะแนน


การให้คะแนนสำหรับการสอบสมรรถนะเข้าม.ปลายนั้น จะแตกต่างไปในแต่ละเขต ไต้หลี่รู้ว่านักเรียนของเขาจะได้2คะแนนทุกๆที่ดึงข้อได้1ครั้ง ก่อนครั้งที่6 ซึ้งก็คือ12คะแนน นั้นนับว่าสอบผ่าน แต่หลังจากนั้น จะเหลือคะแนนเพียง1คะแนต่อการดึงข้อ1ครั้ง นั้นหมายความว่า ถ้าผู้เข้าสอบอยากได้คะแนนเต็ม20คะแนน เขาต้องทำให้ได้14ครั้ง ระบบการให้คะแนนแบบนี้จึงทำให้ผู้เข้าสอบทำคะแนนเต็มได้ยากมากในกีฬาดึงข้อ

 

พูดถึงความยาก การดึงข้อ14ครั้งเนี่ย มันยากกว่าดึงข้อ6ครั้งเยอะมาก ผู้เข้าสอบต้องเก่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดเพื่อให้เปลี่ยนจาก6ครั้ง เป็น14ครั้ง แต่ถึงอย่างงั้น ไม่ว่าจะพยายามเก่งขึ้นแค่ไหน แต่ผลที่ได้มันได้เพิ่มมาแค่8คะแนน เพราะงั้น เด็กที่เก่งๆมักไม่ทำให้ได้ถึง14ครั้ง พวกนั้นมักจะพอใจกับคะแนน16หรือ17คะแนน ซึ่งมันแค่ดึงข้อ10ครั้งหรือมากกว่าหน่อยๆ เอาจริงๆเด็กส่วนมากต้องการแค่ผ่าน

 

อาจารย์ฉางกับอาจารย์อยากทำหน้าที่เป็นผู้คุมสอบมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังเห็นนักเรียนน้อยคนมากที่ดึงข้อจบสกอร์ที่14ครั้ง เอาจริงๆ แค่10ครั้งก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว เพราะเด็กหลายๆคนสอบไม่ผ่านด้วยซ้ำ ผู้เข้าสอบอ้วนเท่าเสี่ยวหมิงฮวงถูกเดาว่าต้องสอบตกอย่างแน่นอนในสายตาของผู้คุมสอบ แค่ดึงข้อ4ครั้งก็นับว่าเก่งแล้วสำหรับคนอย่างเขา แต่ถึงอย่างงั้น เขากลับทำได้มากกว่า10 แน่นอนว่ามันทำให้คนคุมสอบ2คนนั้นช๊อกกันไปตามๆกันที่ได้เห็นคะแนนเต็ม

 

มันก็จริงอยู่ที่โค้ชมืออาชีพเฉาเหลียงฮาว นั้นเก่งกว่าครูพละคนอื่นๆ เขาควรค่ากับคำว่า“โค้ชมืออาชีพ”อย่างปฏิเสธไม่ได้ ดูจากที่เขากล้ารับปากกับเสี่ยวหมิงฮวงว่าจะทำให้เขาดึงข้อได้6ครั้ง ขณะที่ผู้คุมสอบ2คนมองว่ายังไงก็ได้แค่4 แต่โชคไม่เข้าข้างมั้ง2ฝั่งเพราะ ดันไปเจอกับไต้หลี่ ไอ้คนที่มีระบบช่วย(โกง)ช่วยเขาอยู่ ยิ่งถ้าให้เขาไปแข่งกับครูพละม.ต้นคนอื่นนะ ผลที่ออกมา เขาชนะเห็นๆเลย

 

 

ระหว่างการสอบที่จัดขึ้นโดยโรงเรียนม.ต้นในเครือมหาวิทยาลัย การทดสอบกระโดดไกลก็กำลังดำเนินต่อไป บิ๊กแมค กงกงวู ตอนนี้อยู่ที่หน้าบังเกอร์เรียบร้อยแล้ว

 

“เด็กสมัยนี้มันกินเยอะไปแล้ว! ดูเขาสิ ทำอีท่าไหนถึงได้ตัวใหญ่ได้ขนาดนั้นละเนี่ย ต้องกินเนื้อเท่าไรถึงต้องหนาขนาดนั้น? พ่อแม่เขาต้องมีส่วนรับผิดชอบกับความอ้วนของเขา มันไม่ดีกับสุขภาพเขาเลย!”

 

ระหว่างที่ผู้คุมสอบกำลังติเตียนพ่อแม่ของของเขากันเองอยู่นั้น กงกงวูก็เริ่มเหวียงแขนเตรียมกระโดดแล้ว

 

ผมว่ามันเกณผ่านอาจจะยากเกินไปสำหรับเขา เพราะเขาต้องโดดไกลกว่า1.85เมตรเลยนะ ดูจากน้ำหนักตัวของเขาเเล้ว ผมคงได้เเต่หวังว่าให้เขาโชคดี ผมเดาว่าเขาน่าจะโดดได้ซัก1.80หรือ1.70เมตร หรือไม่ก็1.6เมตร เเต่นั้นมันเกณต่ำที่สุดเเล้วนะ ถ้าเขาได้น้อยกว่านั้นเขาจะได้0คะเเนน"

 

ผู้คุมสอบมองกงกงวูด้วยสายตาเป็นห่วง เขาเห็นอกเห็นใจสุดๆ กลัวว่ากงกงวูจะได้น้อยกว่าเกณที่กำหนดไว้คือ1.6 เเล้วก็ได้0คะเเนน กงกงวูจิกจมูกเท้าของเขาลงที่พื้น เเล้วดันสุดเเรง กระโดดทะยานขึ้นอากาศ

 

" หื้ม การเคลื่อนไหวของเขาดูดีนี้" ผู้คุมสอบคิด ความยืดหยุ่นของกงกงวูทำเอาผู้คุมตกใจถ้าเทียบกับขนาดตัวของเขา

 

กงกงวูงอเข่าเก็บเข้าช่องท้อง เเล้วยืดเเข้งเพื่อรักษาสมดุล ก่อนจะเเลนด์ดิ้งลงพื้นกะบะทรายที่ไล่ตัวเลขไปตั้งเเต่คะเเนนต่ำสุดคือ1.6ไล่ไปถึงคะเเนนสูงสุดคือ2.5อย่างสวยงาม ตัวเลขวัดหยุดที่2.5เพราะมันเต็มที่2.5

 

ส้นเท้าของกงกงวู ผ่านเส้น2.5เมตรพอดี

 

"เขาโดดข้ามเส้น2.5เมตร --เขาได้คะเเนนเต็ม!" หน้าผู้คุมสอบเต็มไปด้วยความตกใจ เเล้วดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง เขาไม่คิดมากก่อนว่าบิ๊คเเมคที่น้ำหนักเกือบ90กิโลนั้นจะโดดได้ไกลกว่า2.5เมตร ตามตารางคะเเนนของการสอบสมรรถภาพทางร่างกายเข้าม.ปลายที่เมืองโหยวฮาว คะเนนเต็มสำหรับการกระโดดไกลชาย จะอยู่ที่2.5เมตร ความเป็นจริงเเล้วมันก็เป็นเรื่องยากอยู่เเล้วที่เด็กม.3จะโดดได้เกิน2.5เมตร คะเเนนเฉลี่ยในเด็กอายุเท่าเขาจะอยู่ที่2.2เมตร มันยากอย่างเหลือเชื่อที่จะฝึกให้โดดได้ไกลกว่า2.35 เด็กส่วนมากโดดได้ไม่มีทางโดดได้เกิน2.4เมตรถ้าไม่ได้การฝึกจากโค้ชมืออาชีะ

 

2.35เมตรได้17คะเเนน 2.4เมตรได้18คะเเนน 2.45เมตรได้19คะเเนน นักเรียนส่วนมากคะเเนนจะอยู่ที่16-18ในการกระโดดไกล สำหรับคนที่ได้20เต็มนั้นจะเป็นพวกมีพรสวรรค์ทางร่างกายดีเยี่ยม หรือไม่ก็มีความสามารถทางกีฬา มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้คนอย่างกงกงวูได้คะเเนนเต็ม เเต่เขาก็ทำมันไปเเล้ว10นาทีต่อมากงกงวูไปโผล่อยู่ที่ฐานทดสอบการวิ่ง1000เมตรเเล้ว

 

...

 

ตรงเส้นชัยมีผู้คุมสอบจำนวนกนึ่งกำลังนั่งอยู่ใต้ร่มเงา คนวัยกลางคนอายุ40ถือกระติกน้ำเทน้ำชาให้พวกเขา

 

"อาจารย์ฮวง ดื่มน้ำชาหน่อยซิครับ เเล้วก็อาจารย์ซุน ดูซิครับ ใบชาของคุณเริ่มไม่มีสีเเล้วนะ มา ให้ผมเทให้อีกเเก้วซิ! อาจารย์ไค ให้ผมเติมน้ำชาให้นะครับ..."

 

คนวัยกลางคนที่กำลังรินน้ำชาคืออาจารยฟืพละชื่อช่วนฟู๋ เหลียว จากโรงเรียนม.ต้นในเครือมหาลัยทั่วไป

 

ด้วยความที่ผู้คุมสอบนั้นจะถูกส่งมากจากเมืองที่ไม่ได้เห็นข้อสอบก่อนก็จริง เเต่ถึงอย่างพวกเขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจไม่ทำอะไรเลย พวกเขามีหน้าที่เป็นสวัสดิการ เช่นดูเเลเรื่องอาหารการกิน น้ำดื่มของผู้คุมคนอื่นๆ

 

การพักผ่อน เเละอื่นๆ พวกนี้ต้องทำโดยอาจารย์ในโรงเรียนนั้นๆเอง นั้นทำให้ช่วนฟู๋ เหลียวมาในพื้นที่การสอบ พร้อมกับทำตัวเป็นคนใจดีเเล้วรินน้ำชาให้ผู้คุมคนอื่น

 

เขามีเเรงจูงใจในการเป็นคนใจดีเเบบนี้ด้วย เขาหวังว่าผู้คุมคนอื่น จะให้เด็กนักเรียนพวกนี้ผ่านไปง่ายๆบ้าง เพราะยิ่งคะเเนนเด็กพวกนี้มากเท่าไร ภาพลักษณ์ของเขาในการสอน ก็จะดีขึ้นเท่านั้น เเล้วเขาก็ยังจะมีโอกาศเลื่อนตำเเหน่งเเล้วก็ได้คำนำหน้าเท่เท่ด้วย

 

การคำนวนเวลาของกีฬาวิ่ง1000เมตรนั้นขึ้นอยู่กับนาฬิกาในมือของผู้คุม เมื่อคำนวนโดยใช้มือเเบบคล่าวเเล้วส่วนมาก มันจะมีค่าคาดเคลื่อนเล็กน้อยอยู่เเล้ว ถ้าผู้คุมหยุดเวลาก่อนหน้าซัก1-2วิละก็ ผลการสอบของนักเรียนก็จะดีขึ้น การคาดเคลื่อนเเบบนี้ได้รับการอนุญาติโดยไม่นับว่าเป็นการโกง ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้คุมสอบเเสดงความเมตตาเเล้วกดปุ่มก่อนซัก1วิ เวลาที่นักเรียนทำได้ ก็จะเปลี่ยนเเปลงจาก3นาที42วิกลายเป็น3นาที40วิ 50มิลลิวิ เเละเพราะว่าผู้คุมสอบมักจะตัดเอาทศนิยมที่น้อยกว่าวินาทีลงไป ทำให้ผลที่ออกมา เป็น3นาที40วิ หมายความว่านักเรียนได้คะเเนนเพิ่ม1คะเเนน

 

มันไม่มีโอกาศเเบบนี้เกิดขึ้นเลยถ้ามันเป็นพวก ดึงข้อหรือกระโดดไกล ดังนั้น ช่วนฟู๊เหลียวเลยตัดสินใจที่จะอยู่เเถวลานวิ่ง1000เมตร เเล้วก็ทำตัวเป็นเด็กเสริฟ ทำตัวเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟชา เเถมยังเตรียมขนมกับผลไม้มาช่วงพักเบรก เเล้วก็หวังว่าพวกผู้คุมจะเเสดงความเมตตาให้กับเด็กๆ

 

เเน่นอนว่าการกระทำเเบบนี้ มันชัดเจนสำหรับทุกคนว่ากำลังสื่อถึงอะไร หัวหน้าผู้คุมเลยพูดอย่างสุภาพ "อาจารย์เหลียว หยุดเเจกน้ำเเจกท่าเเล้วให้ไปพักเถอะครับ! คุณยังไม่ได้พักกินน้ำมาตั้งเเต่เที่ยงเเล้ว"

 

"ผมไม่ได้เหนื่อยซักหน่อย หัวหน้าฮู หน้าที่ของผมคือจัดหาบริการที่ดีที่สุดสำหรับพวกอาจารย์ทุกคน"

 

ช่วนฟู๊เหลียว ยิ้มเเล้วกล่าว

 

"อาจารย์เหลียวพยายามหนักมากเลยซินะครับ ผมดูได้จากคะเเนนของผู้สอบ คุณต้องมีความสามารถในการสอนสูงมาก"

 

หัวหน้าฮูพูดต่อ "ดูกลุ่มนั้นซิ ได้คะเเนนตั้ง3คนจาก12คน ถือว่าทำได้ดีทีเดียว"

 

"คะเเนนเต็ม3คน?" รอยยิ้มเริ่มปรากฏบนใบหน้าของเหลียว

 

การที่จะได้คะเเนนเต็มในการวิ่ง1กิโลนั้น ต้องเข้าเส้นชัยภายใน3นาที40วิ ซึ่งเอาจริงๆมันเกินความสามารถของเด็กม.ต้นส่วนมากรวมถึงผู้ใหญ่ สำหรับเด็กม.ต้นที่ยังโตไม่เต็มวัย การที่วิ่งได้ถึง3นาที40วิ ถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ ปรกติเเล้วจะมีเเค่คนเดียวในกลุ่มที่จะได้คะเเนนเต็ม ฉะนั้นการที่ได้คะเเนนเต็มกันถึง3คนในทีมเดียวกัน ถือว่าเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ

 

ช่วนฟู๊เหลียวทำได้แต่มองผลคะแนนของนักเรียนบนแลปท๊อป อาจารย์ฮูไม่ได้พยายามจะปกปิดมัน แถมยังให้เขาดูคะแนนอีก มันไม่มีความจำเป็นต้องปิดคะแนนนักเรียนของอาจารย์เองหรอก

 

“นักเรียน3คนที่ได้คะแนนเต็มคือ มันซอง ต้าไฮเชิน แล้วก็กงกงวู! กงกงวูเนี่ยนะ ใช่เด็กนักเรียนห้อง3ที่อ้วนที่สุดในโรงเรียนรึเปล่า ไม่มีทางที่เขาจะได้คะแนนเต็มนี้ มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ!”

 

ติดตามเพจได้ที่ almighty coach

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด