ตอนที่ 8 หาเรื่อง
พ่อเเม่บางคนได้เเลกเบอร์ไว้กับโค้ชเฉาเหลียงฮาวตอนที่ลงทะเบียนไว้ที่talent education ถึงเเม้ว่าเขาจะย้ายงานมาเเล้ว เเต่เขาก็ยังเก็บเบอร์เอาไว้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเเล้วโทรหา1ในผู้ปกครองนั้น
"สวัสดีครับ นั้นใช่พ่อเเม่ของเสี่ยวหมิงฮวงรึเปล่าครับ ครับ ผมเฉาเหลียงฮาวนะครับ โค้ชจากทีมกีฬาเทศบาลครับ ลูกชายคุณตัวค่อนข้างใหญ่ เเต่ว่าเขายังมีโอกาศที่จะผ่านการสอบสมรรถนะของโรงเรียนม.ปลายได้นะครับถ้าเขาฝึกหนักกว่านี้... เเล้วเราเหลือเเค่2อาทิตย์ก่อนสอบ ผมเกรงว่าถ้าเราไม่ทำการฝึกเเบบมืออาชีพกับเข้าตอนนี้ มันอาจจะไม่ทัน--"
"อะไรนะครับ? ในคลาสการฝึกของtalent educationหรือครับ โอเค ผมไม่ได้บอกอย่าชัดเจน ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่กับทางtalent edycationเเล้วนะครับ ผมสอนอยู่ที่SA Student Education--
--
"ว่าไงนะครับ? ลูกชายคุณดึงข้อได้7ครั้ง?"
เฉาเหลียงวางสายเเล้วดื่มน้ำชาอย่างเร็ว "เขาปั่นเราเเน่ๆ ทำไมเขาไม่บอกเราเเค่ว่าเขาไม่อยากมาเเล้วเเทนที่จะโกหกด้วยด้วยเเก้ตัวที่ไร้เดียงสาอย่างงั้นละ! ดูลูกอ้วนๆของเขาซิ! ดึงข้อเจ็ดครั้งเหรอ? ให้ตายเหอะ"
เฉาเหลียงฮางโทรหาเบอร์ใหม่
"เเล้ว คุณอยากจะเรียนต่อที่talent educationหรือครับ ไม่มีอะไรกรอกครับ เเต่การสอบสมรรถนะมันมีเเค่ครั้งเดียว นะครับ มีโอกาศเเค่ครั้งเดียวใน1ชีวิต เเถมคะเเนนยังตั้ง60คะเเนน ถ้าคุณเข้าคลาสผมเเล้วฝึกกับผม ผมสามารถสัญญาได้ว่าอย่างน้อยลูกคุณจะได้ซัก36หรืออาจจะ40คะเเนนถ้าเขาโชคดี"
"คะเเนนเต็ม? นั้นไม่มีวันเกิดขึ้นหรอกครับ ดูจากน้ำหนักตัวลูกชายคุณเเล้ว เขาต้องใช้เวลาฝึกอย่างน้อยปีนึงถึงจะเป็นไปได้"
"ไม่ครับ ผมไม่ได้ดูถูกลูกชายคุณ นั้นมาจากประสบการ์ณการเป็นโค้ชของผมตลอดที่ผ่านมา"
"ให้ลืมเรื่องประสบการ์ณเเล้วพูดถึงเรื่องวิทยาศาสตร์ทางการฝึกเหรอครับ? คุณบอกว่าผมไม่รู้เรื่องวิทยาศาสตร์การฝึกอะไรเลยงั้นหรอ คุณกล้าดียังไงมาพูดอย่างงี้"
ด้วยความก้าวร้าวเเละปากดีของเเม่เสี้ยนหยีซูทำให้เฉาเหลียงฮาวเกือบจะตบกับเธอในโทรศัพท์ เขาเริ่มหัวเสียหลังจากสายนั้น เขาโทรหาสายที่3 คนเราไม่ควรคาดหวังว่าคนโมโหจะพูดด้วยเสียงนุ่มได้ ตอนนี้เขาพูดเหมือนระเบิดจะลงได้ทุกเมื่อ รู้สึกได้ถึงความก้าวร้าวในทุกคำพูด
"โหล นั้นพ่อเเม่ชุนหลี่หรอ นี้เฉาเหลียงฮาวนะ.. อะไรคือการที่บอกว่า อย่ารับงานโดยที่ไร้ความสามารถ ฮะ มันหมายความว่าไง อธิบายมาให้ชัดเลยนะ อะไรนะ ฉันไม่เก่งเท่าคนใหม่หรอ?"
เฉาเหลียงฮาวได้เเต่คำตอบเดิมๆจากทุกคน หลังจากโทรหาหลายสาย พ่อเเม่ทุกคนอยากให้ลูกตัวเองเรียนต่อที่talent education บางคนยังดีที่สุภาพมาพอที่บอกขอบคุณก่อนวางสาย เเต่ส่วนมากก็จะด่าอัดโทรศัพท์ หรือกระทั้งมีบางคนบอกว่าเฉาเหลียงฮาวไม่มีความสามารถมากพอ
หลังจากโทรเสร็จเขารู้สึกไม่พอใจเอามากๆ หลังจากที่เขาใจเย็นลงแล้ว เขาก็นึกได้ว่ามันประหลาดที่ผู้ปกครองทุกคนปฏิเสธเขาแล้วเลือกที่จะอยู่กับTalent education มันต้องเป็นเพราะว่า Talent educationทำอะไรก็ตามแต่ให้พ่อแม่พวกนั้นพอใจ นั้นหมายความว่าโค้ชใหม่ที่พวกนั้นจ้างมา ต้องไม่ใช่หยิบใครก็ได้จากถนนมาแน่
หรือว่าโค้ชใหม่ที่พวกนั้นจ้างมาเป็นโค้ชชื่อดัง? เเต่ผมเเน่ใจได้ว่าไม่ได้ไปจากทีมกีฬาเทศบาลของเราเเน่ ไม่งั้นผมต้องรู้จักเขา บางทีเขาอาจจะมาจากโรงเรียนกีฬาเลย? หรือไม่ก็ใครซักคนที่ทำงานในมหาลัย? เเล้วมันจะเป็นใครละที่สามารถทำให้พ่อเเม่พวกนั้นพอใจที่จะอยู่ต่อได้? ฉันต้องถามใครซักคนให้ได้"
เฉาเหลี่ยงซูคิดเรื่องนี้ ก่อนจะติดต่อหาเส้นสายของเขา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้ว่าโค้ชที่talent educationจ้างมานั้น ไม่ใช่โค้ชชื่อดัง ไม่ใช่คนที่ทำงานในโรงเรียนกีฬาหรือมหาลัย เเต่เป็นเด็กที่ยังเรียนไม่จบมหาลัยที่เรียนอยู่คณะฝึกการกีฬา!!
"ทำไมเด็กที่ยังเรียนไม่จบถึงได้ชนะฉันได้วะเนี่ย คอยดูก่อนเถอะ ฉันจะเเสดงให้เห็นเองว่าฉันเป็นใคร เเล้วฉันจะเเย่งนักเรียนทุกคนมาจากเเก!" โค้ชเฉาพูด
สำหรับเฉาเหลียงฮาว มันเหมือนกับว่าพวกนั้นอยากที่จะขโมยเงินเเล้วก็เเข่งกันเเย่งนักเรียน เขาใช้ชีวิตอยู่บนค่านายหน้า นักเรียน1คนหมายถึงค่านายหน้า1หัว นักเรียนน้อยลงค่านายหน้าก็น้อยลงตาม สำหรับโค้ชมืออาชีพ ค่านายหน้าของเขา คือ1000หยวนต่อคน นักเรียน12คน หมายถึง12000หยวน นั้นคือ3เท่าของค่าจ้างใน1เดือน เขาคงไม่หาเรื่องเข้าตัวถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน12000หยวน
…
“กงกงวู ยันไปข้างหน้า กดน้ำหนักไปที่เท้าลงไปที่พื้นตอนที่กระโดด!” ไต้หลี่ตะโกน
นักเรียนถูกแบ่งเป็น2กลุ่มลงสนามซ้อม กลุ่มแรกซ้อมกระโดดไกล ส่วนอีกกลุ่ม ซ้อมวิ่ง1000เมตร
กงกงวู น่าจะเป็นที่ตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มนักเรียน เขาสูงแค่160เซนติเมตรแต่น้ำหนักเขาทะลุไปถึง90กิโลกรัม ถ้ามองไกลๆนี้นึกว่าลูกชิ้นยัก แถมเขายังเป็น1ในนักเรียนที่ไต้หลี่สอนยากที่สุด ไต้หลี่ใช้เวลาส่วนมากอยู่กับกงกงวู เพื่อให้เขาพัฒนาต่อไปได้
มีกลุ่มคนเล็กๆกำลังเดินเขามาหาเขา เฉาเหลียงฮาวนำพวกเขามา เฉาชี้ไปที่สิ่งต่างๆระหว่างที่เขาเดินมา ข้างหลังเขาเป็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ปกครอง
เขาพูดระหว่างที่เดินมา “มีคลาสเรียนจำนวนนับไม่ถ้วนในเมืองโหยวหาว การฝึกสำหรับสอบสมรรถภาพเพื่อเข้าเรียนม.ปลายก็เป็นส่วนใหญ่ในนั้น เท่าที่ผมรู้เนี่ย มีสถาบันการฝึกกีฬาเป็นโหลเลยที่เช่าที่อยู่ที่ศูนย์เยาวชนแห่งนี้ ทั้งต้นอ่อนแล้วก็”วัชพืช“เติมโตพร้อมกัน บางส่วนก็มาที่นี้แค่มาใช้พื้นที่ คนพวกนี้มักจะเรียกตัวเองว่าเป็น โค้ชกีฬาแต่ไม่มีแม้กระทั้งคุณสมบัติขั้นพื้นฐานที่สุด มันก็แน่ชัดละว่าสิ่งเดียวที่พวกนั้นแคร์คือเงินที่ได้มาจากการโกง!”
“เงินนั้นไม่ได้สำคัญเสมอไป ;แต่ที่สำคัญที่สุดคือการกอบโกยเงินของใครบางคนทำให้ลูกหลานของเราเสียเวลาไปด้วย การสอบเข้าม.ปลายมีโอกาศแค่ครั้งเดียวในชีวิต ถ้าคุณสอบตกเพราะคุณเข้ารับการฝึกกีฬากับสถาบันที่ไม่ได้มีคุณสมบัติ แถมยังต้องเจอกับโค้ชที่ห่วยแตก จินตนการดูซิครับว่ามันจะเศร้าแค่ไหน? คุณอาจจะถึงขั้นที่ว่าเสียโอกาสที่จะให้ลูกคุณเข้าโรงเรียนม.ปลายเลยก็ได้ พวกคุณเห็นด้วยไหมครับ?”
พวกผู้ปกครองผงกหัวรับคำพูดของเฉาเหลี่ยงฮาวเป็นการแสดงให้เห็นว่าตัวเองเห็นด้วยกับคำพูดของเขา
“คุณต้องเรียนรู้วิธีการเลือกคลาสฝึกให้ดี อย่างแรกเลยที่คุณควรทำ คือเช็คประวัติ และคุณสมบัติของโค้ช ยกตัวอย่างเช่น โค้ชที่อยู่ตรงหน้าพวกเราเนี่ย ดูเขาอายุน้อย ซักประมาณ20ต้นๆ เขาอายุยังน้อยกว่านักกีฬาบางคนที่ผมเคยฝึกให้เลย เอาจริงมันเป็นทางเลือกที่แย่นะที่ส่งลูกของคุณมาให้คนอย่างเขาฝึก เขามาที่นี้ เพียงเพื่อที่จะหลอกทุกคน ผมขอเหอะ อย่าไปเสียเวลาของลูกพวกคุณ ให้กับคนพรรค์นี้เลย” เฉาเหลียงฮาวชี้ไปที่ไต้หลี่ ที่อยู่ไม่ไกลไปจากเขา พร้อมทั้งตั้งใจพูดเสียงดัง
กลุ่มคนเหล่านั้นเรียกความสนใจของไต้หลี่ได้ตั้งแต่ที่เข้ามาในห้อง ไต้หลี่เลยไม่พลาดทุกคำพูดที่เฉาเหลียงฮาวพูด
“ฉันไม่รู้จักคนพวกนี้ เราไม่เคยเจอกันมาก่อน แล้วทำไมเขาถึงพูดว่าฉันทำให้เด็กพวกนี้เสียเวลาทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันเลยละ มีพ่อแม่จำนวนนึงตามเขามา พวกนั้นมาเพื่อหาเรื่อง!”
ไต้หลี่คิดแล้วหันกลับไปมองด้วยความโกรธและจริงจัง เขาจะทนต่อไปได้ยังไงในเมื่อพวกนั้นมาถึงขนาดนี้ มาถึงตรงหน้าเขา มาเพื่อหาเรื่อง? เขาเดินออกไปก้าวนึงแบบไม่มีการยั้งความโกรธแล้วพูด “กำลังพูดถึงใครกัน?”