TWO Chapter 231 การกวาดล้างสันเขาเอ้อซี ตอนที่ 1
TWO Chapter 231 การกวาดล้างสันเขาเอ้อซี ตอนที่ 1
ตอนค่ำ โอหยางโชวพาซ่งเจี๋ยไปที่ลานเพื่อพูดคุย
“นิกายเป็นอย่างไรบ้าง? มันราบรื่นดีหรือไม่?”
“อื้ม มันกำลังดำเนินไปในทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ท่านเพิ่งจะกลับมา แต่ท่านก็จะออกไปในวันพรุ่งนี้อีกแล้วหรือ”
“ข้าไม่มีทางเลือก ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ” ความทะเยอทะยานของเฮ่ยเส่อผีเฟิงและการแทรกแซงของซาโพจุ่น ส่งผลกระทบต่อแผนการของโอหยางโชวและโครงการเลี้ยงแมลงพิษของเขา
มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาเลย ที่จะทำให้ทุกอย่างสงบลง เขาจึงต้องเตรียมแผนสำหรับชดเชยความสูญเสียของเขา
ปฏิบัติการต่อจากนี้ ไม่เพียงจะเกี่ยวข้องกับสันเขาเอ้อซีเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงเกาะพระจันทร์ ที่เผ่ยตงหลายได้หมายตามานานแล้วด้วย กองทัพเรือเป่ยไห่เพิ่งจะขยายเป็นกรม แล้วยังมีกองพันที่ย้ายออกไป พวกเขาจึงต้องใช้เวลาในการสร้างกองพันใหม่เพิ่มเติมอีกครั้ง
“ท่านกำลังกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ผู้ชนะทั้ง 4 ทิศ คนโง่ ดูเหมือนว่าท่านจะคล้ายกับวีรบุรุษมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว” ซ่งเจี๋ยกล่าวอย่างสนุกสนาน
โอหยางโชวพยักหน้า หลังจากที่เขาคิดบางอย่างได้ “ท่านผู้นำนิกาย นิกายกระบี่ตงหลี่สามารถรับสมัครผู้เล่นบางส่วนได้ โดยเจ้าสามารถติดต่อกับน้าของข้า แล้วขอให้นางช่วยเจ้าได้โดยตรง”
“ข้ากำลังคิดเช่นนั้นอยู่เลย การที่นิกายเต็มไปด้วย NPC เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก” ซ่งเจี๋ยพยักหน้าตกลง “โอ้ใช่แล้ว ปิงเอ๋อได้มาขอร้องข้าหลายครั้งแล้ว นางต้องการให้ข้ารับนางเป็นศิษย์ของข้า เมื่อเด็กน้อยนี้เห็นชุดเครื่องแบบของพวกเรา นางก็รู้สึกอิจฉา”
ชุดที่ถูกเรียกว่า ชุดเครื่องแบบของนิกายกระบี่ตงหลี่นี้ ได้รับการออกแบบโดยมู่ฉิงซีเป็นการส่วนตัว การออกแบบเสื้อคลุมของชุด มีทั้งลายเมฆและมังกร ซึ่งทำให้ผู้ที่สวมใส่ มีท่าทางที่ดูสง่างามและไม่เหมือนใคร
“ท่านจะอนุญาติหรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่”
โอหยางโชวส่ายหัวด้วยความขบขัน เขาไม่ได้รำคาญและตอบสนองการล้อเล่นของเธอ “ปิงเอ๋อยังเด็ก จะดีกว่าหากให้นางมุ่งไปที่การศึกษาของนาง และเทคนิคลับคัมภีร์เก้าหยินก็ไม่เหมาะให้เด็กๆฝึกด้วย”
“ข้าจะฟังคำสั่งของท่าน”
ในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น กองกำลังทั้งหมดได้มารวมตัวกันที่เมืองฉิวซุ่ย
จากนั้น พวกเขาก็เดินทัพไปตามถนน จากเมืองฉิวซุ่ยไปยังเผ่าซวนเหนียว ซึ่งมันเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดของพวกเขาในการเดินทางเข้าไปในป่า กองกำลังนี้จะพักที่เผ่าซวนเหนียวในคืนนี้ ก่อนที่พวกเขาจะบุกลึกเข้าไปในป่าต่อไป
เมื่อเผ่าที่อยู่ตอนกลางพบว่า เมืองซานไห่ได้ส่งกองทัพมาช่วยพวกเขากวาดล้างพวกโจรภูเขา พวกเขาก็มีความสุขเป็นอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการแจ้งเตือนศัตรู โอหยางโชวได้ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเผ่าคนเถื่อนภูเขาอื่นๆทั้งหมด
นอกเหนือจากเผ่าซวนเหนียวแล้ว กองกำลังของเมืองซานไห่ไม่ได้เข้าไปในเผ่าใดอีก พวกเขาทำแบบนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ออกหากินของพวกโจรภูเขา และมุ่งไปยังสันเขาเอ้อซีโดยตรง
…………………………………………………………………………..
ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 9 วันที่ 21 ในช่วงบ่าย
กองกำลังได้เข้ามาใกล้สันเขาเอ้อซี เจ้าซีฮูทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการกองพันทหารโล่กระบี่ 2 กองพัน และกองพันทหารธนู 1 กองพัน โดยพวกเขาจะแสร้งทำเป็นจะโจมตีสันเขาจากทางด้านหน้า เพื่อดึงดูดความสนใจของพวกโจรภูเขา
ในทางกลับกัน กองกำลังหลักจะลอบเข้าไปที่ยอดเขาทางด้านหลังของสันเขา
ณ ฐานที่มั่นโจรภูเขา, ห้องโถงประชุม
“ท่านผู้นำ ขณะที่พวกเราได้ลงเขาเมื่อเร็วๆนี้ พี่น้องของเราได้พบกับกลุ่มคนจำนวนมากแอบเดินไปรอบๆ ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนวางแผนที่จะทำบางอย่างกับฐานที่มั่นบนภเขาของเรา” ที่ปรึกษาทางทหารโกวโถวกล่าว
ผู้นำของพวกเขาตัวสูงใหญ่และบึกบึน เขามีรูปลักษณ์ที่หยาบกร้าน มีคิ้วหนา และหนวดเครารกรุงรัง เขาดูคล้ายกับลิงชิมแปนซีเป็นอย่างมาก เขาเปลือยอก ซึ่งบนหน้าอกของเขาเต็มไปด้วยเส้นขน หญิงสาวชางเผ่าคนเถื่อนภูเขาที่ถูกจับมา 2 คน คุกเขาอยู่ข้างหลัง คอยนวดให้เขาอยู่
“ท่านที่ปรึกษาคิดมากไปแล้ว ใครจะสามารถโจมตีสันเขาเอ้อซีของเราได้?” แม้ว่าผู้นำของพวกเขาจะดูหยาบกร้าน เขาก็ยังพูดได้อย่างคล่องแคล่ว มันตรงกันข้ามกับรูกลักษณ์ของเขาอย่างมาก
สภาพแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์ของสันเขาเอ้อซี ช่วยให้พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบาย ถ้าพวกเขายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาจะกลายเป็นหนึ่งในผู้ปกครองเทือกเขา
ที่ปรึกษาทางทหารพยายามเตือนสติเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ เมื่อเขาเห็นว่าผู้นำของเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับมัน เขาก็ออกมาจากห้องโถงประชุม หลังจากที่เดินออกมาไม่กี่ก้าว เขาก็ได้ยินเสียงร้องของหญิงสาวจากด้านหลังของเขา
ในตอนเช้า หมอกหนาได้ปกคลุมไปทั่วพื้นป่า แม้ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว และแสงอาทิตย์สีส้มได้ส่องทะลุหมอกไป มันก็ไม่สามารถสร้างความอบอุ่นให้กับใครได้
เซว่เอ๋อยืนอยู่บนไหล่ของโอหยางโชว ความตื่นเต้นเต็มอยู่บนใบหน้าเล็กๆของเธอ เพื่อนตัวน้อยนี้มีความรู้สึกที่อบอุ่นเป็นพิเศษต่อปา
โอหยางโชวเอาเชือกโรยตัวออกมาจากถุงเก็บของของเขา แล้วส่งมันให้กับเซว่เอ๋อ “เด็กดีเซว่เอ๋อ เจ้าเห็นหน้าผาตรงนั้นหรือไม่?”
“อื้อ ข้าเห็นแล้ว”
“ตอนนี้ ข้าจะมอบภารกิจให้เจ้า นำปลายเชือกนี้ไปผูกติดกับหน้าผานั้น เจ้าทำได้หรือไม่?”
เซว่เอ๋อเอียงหัวของเธอ แล้วกล่าวว่า “ข้าจะพยายาม”
“ดี โชคดีน่ะ”
เซว่เอ๋อหยิบปลายเชือกขึ้นมา แล้วบินตรงไปที่หน้าผาฝั่งตรงข้าม
หลังจากที่เธอบินไปไกล ร่างเล็กๆของเธอก็กลายเป็นจุดสีดำ ถ้ามีใครเห็นเชือกบินอยู่บนท้องฟ้า พวกเขาคงคิดว่ามัรเป็นปรากฎการณ์เหมือธรรมชาติบางอย่าง
เชือกนี้ยาวถึง 1,000 เมตร นอกจากนี้ มันยังมีน้ำมันที่ช่วยลดแรงเสียดทาน มันจึงหนักมาก การแบกมันไปตามอากาศจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
แม้ว่าเซว่เอ๋อจะพิเศษ เธอก็รู้สึกเหนื่อยและเม็ดเหงื่อก็เริ่มปรากฎขึ้นบนหน้าผากของเธอ
เพื่อนคนนี้เป็นเหมือนกับเจ้านายของเธอ ทั้ง 2 ต่าง ก็มีความดื้อรั้นฝั่งเข้าไปในกระดูก เธอยังคงพยายามบินต่อไป แม้ว่าจะเริ่มเหนื่อยอ่อน ในช่วงท้าย ก่อนที่จะถึงหน้าผา ร่างของเธอส่ายไปทางซ้ายบ้างทางขวาบ้าง เห็นได้ชัดว่าเธอเจ็บปวดและเหนื่อยล้า
เมื่อโอหยางโชวที่ยืนอยู่ที่หน้าผาอีกด้านหนึ่ง เห็นเชือกไปแกว่งไปมา เขาก็รู้สึกเจ็บปวดภายในใจ แต่เขาก็ยังคงรักษาความสงบของเขาอยู่
ในที่สุดเซว่เอ๋อก็มาถึงหน้าผาอีกด้านหนึ่ง เธอรู้สึกเหนื่อยล้าและล้มฟุบลง
เซว่เอ๋อต้องหยุดอยู่บนพื้นชั่วคราวเพื่อฟื้นฟู่พลัง หลังจากนั้น เธอก็ทำตามคำสั่งของโอหยางโชว โดยมองหาต้นไม้ขนาดใหญ่ แล้วผูกเชือกไว้รอบๆมัน เชือกได้รับการผูกอย่างแน่นหนา แม้จะถูกดึงจากปลายอีกด้านหนึ่ง ก็ยากที่มันจะหลุดออก
หลังจากนั้น เซว่ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจกับผลงานของตัวเอง แล้วเธอก็หันหลังกลับ และบินกลับไปหาโอหยางโชว
เมื่อเธอบินกลับมา โอหยางโชวก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาช่วยซับเหงื่อให้เธอ
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คุ้นเคยกับการทำเช่นนี้ แต่เธอก็ยังคงหัวเราะคิกคัก เมื่อเห็นว่าเธออารมณ์ดี โอหยางโชวก็เลิกกังวล
จากนั้น เขาก็จัดให้ทหารองครักษ์ 2 นาย ทำการทดสอบความมั่นคงของเชือก พวกเขาไม่ลังเลและตรงไปที่เชือกโรยตัว เพื่อโรยตัวข้ามไปอีกด้านหนึ่งของหน้าผา การโรยตัวของพวกเขาราบรื่นมาก
หลังจากที่ไปถึงปลายอีกด้านหนึ่ง ทหารองครักษ์ก็ตรวจสอบเชือกที่มักอยู่รอบๆต้นไม้ เพื่อให่แน่ใจว่า มันหนาแน่นดีแล้ว จากนั้น พวกเขาก็หยิบธงสีแดงออกมา แล้วสะบัดไปมา
หลังจากที่พวกเขายืนยันว่ามันปลอดภัยแล้ว ทุกคนก็เริ่มโรยตัวข้ามไปอีกฝั่ง
สำหรับการสู้รบที่กำลังจะเกิดขึ้น โอหยางโชวไม่ต้องการให้เซว่เอ๋อติดตามพวกเขาไป ดังนั้น เขาจึงทิ้งทหารองครักษ์ 2 นาย คอยปกป้องเธออยู่บนยอดเขานี้ หลังจากปฏิบัติการเสร็จสิ้น พวกเขาถึงจะกลับไปรวมตัวกับเขา
หลังจากที่กองกำลังได้รวมตัวกันที่สันเขาเอ้อซีแล้ว ฝ่ายข่าวกรองก็ส่งข้อความไปแจ้งให้กองกำลังของเจ้าซีฮูที่ซ่อนตัวอยู่ด้านล่างภูเขาทราบ เพื่อให้พวกเขาเริ่มการแสร้งโจมตีในทันที
ทหาร 5,000 นาย อัดแน่นอยู่ที่ด้านหลังของสันเขา ช่วยไม่ได้ที่โอหยางโชวจะกังวลว่า จะมีกลุ่มโจรภูเขามาที่ด้านหลังสันเขาและพบกับพวกเขา
ในขณะนั้นเอง ได้มีเสียงพูดคุยของคนสองคนอยู่ตรงหน้าพวกเขา
“อา นี่เจ้าลิมชิมแปนซีนั่นข่มเหงเจ้าต่อจากเมื่อวานอีกหรือ?”
หลังจากนั้นหญิงสาวก็ร้องไห้ “ถ้าต้องมีชีวิตอยู่เช่นนี้ ข้าอยากตายมากกว่า”
“เชื่อข้าเถอะ ข้าจะต้องพาเจ้าออกไปจากขุมนรกนี้ให้ได้”
โอหยางโชวส่ายหัว เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่า จะได้พบกับคู่รักที่ด้านหน้าของพวกเขา โอหยางโชวส่งสัญญาณให้หวัง ให้เขาจับพวกเขาทั้งคู่ แต่ไม่ต้องสังหารพวกเขา
หวังเฟิงเข้าใจ และนำทหารองครักษ์ 2 นาย ลอบเข้าไปใกล้พวกเขา
“อ๊า เจ้าเป็นใคร?” หญิงสาวกรีดร้อง แต่ทหารองครักษ์รีบปิดปากของเธออย่างรวดเร็ว จากนั้น ก็ตีพวกเขาให้สลบ ใช้เชือกมัดแขนขาของพวกเขา และใช้ผ้าปิดปากของพวกเขาไว้ จากนั้น ก็ลากพวกเขาไปไว้ที่หลังก้อนหินขนาดใหญ่
หลังจากที่มีการแทรกแซงเล็กๆน้อยๆ ด้านหลังของสันเขาก็เงียบสงบอีกครั้ง
ที่ด้านหน้า หลังจากที่ฝ่ายข่าวกรองได้รับข้อความจากนกเฟิง พวกเขาก็แจ้งให้เจ้าซีฮูทราบในทันที
จากนั้น เจ้าซีอูก็ตะโกนออกไปว่า “ฟังคำสั่งข้า โจมตี!”
“ขอรับ!!!” กองกำลังได้ปรากฎตัวออกมาจากป่า และเก็บกวาดสิ่งกีดขวางบนเส้นทางที่จะขึ้นไปบนสันเขา
กลุ่มแรกที่พวกเขาพบก็คือ หน่วยลาดตระเวณบางส่วน ที่ถูกส่งลงมาจากฐานที่มั่นบนภูเขา
“พวกเจ้าเป็นใคร?” พวกหน่วยลาดตระเวณงงงวย พวกเขายังไม่เข้าใจสถานการณ์
“พวกเราคือผู้ที่จะมารับเอาชีวิตของพวกเจ้า” เจ้าซีฮูพุ่งไปข้างหน้า และแทงหอกของเขาออกไป การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วดุจสายฟ้า หอกของเขาแทกไปที่ท้องของโจรภูเขาที่อยู่ด้านหน้า ทำให้เขาล้มลงด้วยความเจ็บปวด
หลังจากที่พวกเขาจัดการหน่วยลาดตระเวณทั้งหมดแล้ว กองกำลังก็เคลื่อนไปข้างหน้า
สิ่งกีดขวางแรกของเส้นทางขึ้นสันเขา มียามเฝ้าอยู่ มันเป็นเพียงกำแพงไม้ที่ทรุดโทรม คล้ายกับกำแพงค่าย
เมื่อพวกโจรภูเขาบนกำแพงเห็นศัตรูโผล่ออกมา พวกเขาก็ตื่นตระหนก พวกเขารีบปลุกบางคนที่ยังนอนอยู่ แล้วจุดไฟสัญญาณ เพื่อแจ้งเหตุให้กับสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหลังในทันที
เจ้าซีฮูรู้ว่าหน้าที่หลักของเขาคือการโจมตีหลอกล่อ แต่ถ้าเขาสามารถดึงดูดโจรได้มาก มันก็จะสามารถลดแรงกดดันให้กับพวกที่แอบไปลอบโจมตีที่ด้านหลังสันเขาได้ ดังนั้น เป้าหมายแรกของเขาก็คือ อย่างน้อยต้องทำลายสิ่งกีดขวางให้ได้ซักแห่ง
หลังจากที่โอหยางโชวได้วิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายข่าวกรองอย่างรุนแรง หัวหน้าทั้ง 3 ก็ฝึกอบรมสายลับชั้นสูง ทำให้พวกเขาสามารถตรวจสอบรายละเอียดของสิ่งกีดขวางเหล่านี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
เพื่อที่จะทำลายมัน เจ้าซีฮูนำน้ำมันติดไฟออกมา จากนั้น เขาก็ส่งมอบมันให้กับกองพันทหารธนู ให้พวกเขาจุ่มปลายลูกศรลงไปในน้ำมันติดไฟ แล้วยิงลูกศรเพลิงไปที่สิ่งกีดขวางนั้น
ฝนลูกศรเพลิงทำให้สิ่งกีดขวางลุกไหม้ และเพลิงก็ลุกลามอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้า มันก็กลายเป็นทะเลเพลิง จนพวกเขาแทบจะมองไปเห็นสิ่งกีดขวางนั้นได้อีก
พวกโจรภูเขาที่อยู่บนกำแพงของสิ่งกีดขวางได้เคาะระฆัง 7 ครั้ง นี่เป็นสัญญาณการแจ้งเตือนการโจมตีของศัตรู สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาต้องการกำลังเสริม พวกเขาได้จุดไฟแจ้งเตือนต่อไปเรื่อยๆ จนข้อความถูกส่งต่อไปถึงผู้นำของพวกเขา
ผู้นำของพวกเขามีค่ำคืนที่ยาวนาน และยังไม่ได้ตื่นขึ้นมา เมื่อเขาถูกปลุกและได้ยินรายงาน เขาไม่สนใจเด็กสาวที่เขาเพิ่งจะเล่นสนุกด้วย เขารีบแต่งตัวและไปที่ห้องโถงประชุมในทันที
แฟนเพจ : TWOแปลไทย