HK ตอนที่ : 41
ในธนาคาร อาชญากรติดอาวุธทั้งสามที่ทางตำรวจกำลังต้องการตัวได้จะตัวประกันไว้ ในขณะนี้ทางตำรวจได้ส่งคนไปเจรจาต่อเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายใดๆขึ้นมา แม้ว่าเย่เฟิงกับพวกจะฆ่าคนที่มาเจรจา ตำรวจชวนฮูก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะมีตัวประกันมากเกินไป
เหล่ยเหลียงหลินมองโอวหยางชางตำรวจหญิงที่นาสนใจนี้ ในใจเขาลึกๆ กำลังชื่นชมความงามของเธอ อย่างไรก็ตามโอวหยางชางเป็นสมาชิกของแผนกอาชญากรรมที่อยู่ในสถานีตำรวจชวนฮู แต่อำนาจการสั่งการสูงสุดสุดท้ายก็เป็นของผู้กำกับ กล่าวได้ว่าเหล่ยเหลียงหลินสามารถสั่งการแผนกอาชญากรรมได้ แต่แผนกอาชญากรรมจะฟังคำสั่งหรือไม่นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง
นอกจากนี้เมื่อสองวันก่อน เหล่ยเหลียงหลินได้มอบหมายงานลับให้กับคนที่อยู่ในแผนกอาชญากรรม ให้เอาคดีของเย่เฟิงไปบอกกับหนังสือพิมพ์และจะทำให้คดีของเย่เฟิงมีความลำบากมากขึ้น แม้ว่าสำนักงานเมืองได้ออกคำสั่งให้เหล่ยเหลียงหลินจับตาย แต่ในที่สุดคดีดังกล่าวก็ถูกมอบหมายให้กับแผนกอาชญากรรม ถ้าเฉินกวงเหลียงทำคดีนี้ล้มเหลว เหล่ยเหลียงหลินก็สามารถลงโทษตามวินัยได้ในฐานะที่เฉินกวงเหลียงเป็นหัวหน้าแผนกอาชญากรรม และเขาจะสามารถปลดเฉินกวงเหลียงออกแล้วให้เหล่ยหย่าคุณที่เป็นลูกน้องเขารับตำแหน่งแทน!
มองดูโอวหยางชางจากแผนกอาชญากรรมที่เสนอตัวออกมาด้วยตัวเอง แม้ว่าเหล่ยเหลียงหลินจะชื่นชอบความงามของโอวหยางชาง แต่ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้เหล่ยเหลียงหลินก็รู้ดีว่าควรทำอย่างไร
"โอวหยางชางเธอแน่ใจนะ! ฝ่ายตรงข้ามเป็นอาชญากรระดับ A เย่เฟิง กับระดับ B เจิ้งซานเปาและหม่าเหลียง พวกมันทั้งหมดเป็นทหารจากหน่วยรบพิเศษ ไม่ใช่นักเลงหัวไม้งทั่วไปที่จะเอามาเทียบกันได้ อย่าคิดว่าตัวเองมีทักษะต่อสู้นิดหน่อยติด 1 ใน 3 ของสถานนีตำรวจ แล้วจะมาทำตัวเป็นฮีโร่ ฉันจะบอกอะไรให้ทักษะการต่อสู้ของเธอ มันไม่มีค่าอะไรเลยที่จะพูดถึง!"
โอวหยางชางพูดเสียงแข็งว่า "ผู้กำกับเหล่ย รถหุ้มเกราะมาไม่ทันเวลาใช่ไหมคะ? ถ้าเกิดหมดเวลาขึ้นมาแล้วฝ่ายตรงข้ามเริ่มฆ่าตัวประกันขึ้นมาเราจะทำกันอย่างไร? อีกอย่างฉันไม่เอาอาวุธเข้าไปได้และฉันก็เป็นผู้หญิงอีกด้วย พวกมันคงไม่ทำอะไรฉันว่าไหม? ฉันเพียงแค่ไปโน้มน้าวไม่ให้พวกเขาโมโห เพียงแค่ให้ทางเรามีเวลาเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยก็ยังดี จากท่าทางการปฏิบัติตัวของเย่เฟิง เขาไม่ใช่คนหยาบคาย ฉันมีความมั่นใจมาก ว่าฉันสามารถโน้วน้าวเขาได้แน่นอน!"
เหล่ยเหลียงหลินมองไปที่เฉินกวงเหลียงอย่างลังเล "กัปตันเฉิน คุณคิดว่าไง?"
เฉินกวงเหลียงหันไปมองโอวหยางชางอย่างจริงจัง "โอวหยางชาง เธอคิดดูให้ดี ถ้าเธอก้าวผิดไปก้าวเดียว เธอคงรู้ผลลัพธ์ที่ตามมาใช่ไหม?"
โอวหยางชางยิ้มและหัวเราะ "ไม่มีอะไรก็แค่ความตาย! ฉันยินดีที่จะจ่ายด้วยชีวิตของฉันสำหรับโชคชะตาของอาชีพตำรวจ!"
มันยังมีคำพูดในใจของเธอที่เธอบอกออกมาไม่หมด
'เหมือนกับคุณพ่อ ที่เสี่ยงชีวิตต่อสู้กับพวกอาชญากร เพื่อปกป้องประชาชน'
พ่อของโอวหยางชาง ชื่อว่า โอวหยางฟู เหมือนกับชื่อของเขา หยกที่ยังไม่เจียระไน ที่ซ่อนความเจิดจรัสไว้ ขยันทำงานกว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาในฐานะหัวหน้าหน่วยต่อต้านยาเสพติด
สิบปีก่อน โอวหยางฟูนำทีมเฉพาะกิจของเขา ไปพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเหลืองเพื่อจัดการกับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ มีการเหตุยิงกันเกิดขึ้นที่เขตชานเมืองของเมืองชวนกิ่ง ในตอนสุดท้ายพ่อค้ายาอาศัยอำนาจของจำนวนตัวเลขติดสินบนให้กับทีมของโอวหยางฟู ทำให้ลูกน้องของเขาบีบโอวหยางฟูให้เสียสละชีวิตของตนเอง
ปีนั้นโอวหยางชาง เพิ่งอายุ 15 ปี ผ่านการร้องไห้นับครั้งไม่ถ้วน ด้วยความพยายามอย่างหนักทำให้เธอประสบผลสำเร็จที่สอบแอดมิดเข้ามหาลัยตำรวจได้ และกลายมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มตัว!
โอวหยางชางกลับจากลำลึกถึงความทรงจำของเธอ ปลดซองปืนที่เอวออกอย่างช้าๆ วางซอปืนไว้บนฝากระโปรงรถตำรวจของเหล่ยเหลียงหลิน จากนั้นหยิบโทรโข่งขึ้นมา
"สวัสดีเย่เฟิง ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชวนฮูชื่อ โอวหยางชาง จะเข้าไปเพื่อเจรจากับคุณ ฉันไม่มีอาวุธ ฉันแค่ต้องการคุยกับคุณเท่านั้น!"
หลังจากพูดเสร็จโอวหยางชางวางโทรโข่งลง และชูทั้งสองมือขึ้นเหนือหัวและเดินไปที่ประตูหน้าของธนาคารอย่างช้าๆ
ในธนาคาร ชิเล่ยที่หมอบอยู่ในมุมของล็อบบี้ ที่หน้าผากของเขามีรอยย่นลึกขึ้น ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อทั้งร่างกายของเขาเริ่มสูบฉีด
'โอวหยาง หน๋อ โอวหยาง เธอเข้ามาแส่หาเรื่องทำไมเนี่ย!'
โชคดีที่ชิเล่ยได้มีการกินข้าวและพุดคุยแลกเปลี่ยนกัน ทำให้เขารู้ว่าธรรมชาติของเย่เฟิงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เขาจะไม่เปิดฉากยิงโอวหยางชางแน่นอน นี่ทำให้ในใจของชิเล่ยค่อยๆสงบลง
โอวหยางชางที่กำลังยกมือทั้งสองข้างเดินเข้าผ่านประตูหน้าของธนาคารเข้ามาอย่างช้าๆ
เย่เฟิงกำลังประเมินโอวหยางชาง เนื่องจากความงามของโอวหยางชาง ไม่ได้แสดงแปลกใจอะไรและไม่แสดงความผิดปกติใดๆออกมา แต่พูดอย่างใจเย็นว่า "คุณตำรวจ คุณจะเล่นลูกเล่นอะไรอีก? เราไม่เจรจา ออกไปซะ!"
โอวหยางชางพูดอย่างสงบว่า "เย่เฟิง ฉันรู้ว่าคุณไม่ต้องการเจรจา แต่รถหุ้มเกราะที่คุณต้องการ อย่างเร็วที่สุดต้องใช้เวลา 7-8 นาที ดังนั้นเราหวังว่าคุณจะไม่ทำร้ายตัวประกัน!"
เย่เฟิงพูดเสียงเย็นชาว่า "คุณวางแผนจะหน่วงเวลาไว้ เพื่อวางตาข่ายที่ทำให้เราหนีไม่พ้น? ตำรวจอย่างพวกแก ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย!"
โอวหยางชางรีบส่ายหัวปฏิเสธอย่างรวดเร็ว "ไม่ใช่! ในเขตชวนฮูของเราไม่มีรถหุ้มเกราะ เราต้องไปเอามาจากที่อื่นไม่ใช่ว่ามันจะมาไม่ทันเวลา ฉันหวังว่าคุณจะควบคุมตัวเอง อย่าทำร้ายตัวประกัน คุณแค่จากไปก็พอ!"
โอวหยางชางพูดอย่างเป็นธรรมชาติ เต็มไปด้วยเหตุผล แต่ไม่มีมูลความจริงอยู่และจุดประสงค์เพื่อเอาใจเย่เฟิงไม่ให้เขาทำร้ายตัวประกันได้ ในเวลาเดียวกันเพื่อให้เย่เฟิงคลายความระมัดระวังลง ทำให้เขาเชื่อตำรวจได้ทำตามทุกอย่างที่เขาขอ แต่ก็เตรียมกันทางหนีของพวกเขาไว้
เวลาหนึ่งนาทีหนึ่งวินาทีผ่านไป ชิเล่ยเตรียมกล้ามเนื้อทั้งร่างกายของเขาไว้เพื่อจะได้ช่วยโอวหยางชางได้ตลอดเวลา
หลังจาก 7-8 นาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถและเสียงบีบแตะ รถหุ้มเกราะได้ขับมาจอดที่หน้าธนาคารอย่างช้าๆ
"เหลียงซิ ทดสอบมันหน่อย!" เย่เฟิงบอกหม่าเหลียง
หม่าเหลียงหยิบปืนพกด้วยมือขวาของเขาออกมาแล้วหันหน้าไปยิงที่กระจกรถหุ้มเกราะด้านนอก
"ปัง~ ~"
ตัวประกันในล็อบบี้ของธนาคารก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมาแต่ก็ถูกยับยั้งโดยเย่เฟิง
ด้านนอกธนาคาร บนกระจกของรถหุ้มเกราะมีร่องรอยของกระสุนที่ถูกยิงมา แต่ก็ไม่ได้แตกกระจายไปเห็นได้ชัดเลยว่านี่คือรถหุ้มเพราะจริงๆ!
เย่เฟิงพยักหน้าด้วยความพอใจและมองไปที่โอวหยางชาง เขาตะโกนว่า "ซานเปา ถึงไหนแล้ว?"
ในห้องทำงานของพนักงานธาคาร เจิ้งซานเปาลุกขึ้นยืนและมองผลงานชิ้นเอกด้านของเขาเผยรอยยิ้มออกมา
"บอส เสร็จแล้ว!"
เย่เฟิงหันไปมองตัวประกันที่หมอบอยู่บนพื้น ทันใดนั้นโอวหยางชางก็วิ่งเข้าใส่เย่เฟิง
ชิเล่ยที่อยู่ในมุม หัวใจของเขาตื่นตัว พร้อมกับยกตัวขึ้นและเตรียมตัวจะเข้าไปช่วยทันที
เจิ้งซานเปาและหม่าเหลียง ที่เฝ้าดูโอวหยางชางที่วิ่งเข้าใส่เย่เฟิง ไม่เพียงพวกเขาจะไม่ช่วยแต่กลับแสดงท่าทีเยาะเย้ยออกมา
ในตอนที่เย่เฟิงอยู่ในหน่วบรบพิเศษ ถูกขนานนามว่าราชาของทหาร ฉายาของเขาคือไบจ้าว! [อันนี้หาความหมายไม่เจอ]
เย่เฟิงไม่ได้วางแผนจะจัดการโอวหยางชางด้วยปืน เขาหมัดของโอวหยางชางที่พุ่งเข้ามาใส่หน้าเขาด้วยมือซ้าย ในเวลาเดียวกันเย่เฟิงยกขาขวาขึ้นมาเตะไปที่โอวหยางชาง
เขาเตะออกไปและชนะด้วยปัญหาด้านการทรงตัว!
โอวหยางชางถูกเอาชนะด้วยกระบวนท่าเดียว เย่เฟิงชักปืนออกมาด้วยมือขวาและพูดว่า "เอามือสองข้างวางไว้บนหัวและหมอบลงไป อย่าบังคับให้ผมลงมือ!"
ชิเล่ยกำลังเฝ้าดูในเวลาเดียวกันตราบเท่าที่โอวหยางชางไม่มีอันตรายถึงชีวิต ชิเล่ยก็จะไม่วิ่งออกไปช่วย
แม้ว่าโอวหยางชางกำลังจะเตรียมอุทิศชีวิตของเธอให้หน้าที่ของตำรวจ แต่เธอก็จะไม่ตายแบบไร้สาระ เธอเอามือทั้งสอข้างจับไว้ที่หัวแล้วก็นั่งคุกเข่า
"เหลียงซิ ซานเปา เอาตัวประกันไปใส่ไว้ในห้องทำงาน สร้างอุปสรรคที่ประตูทางเข้าซะเพื่อไม่ให้ตำรวจเข้าไปง่ายๆ!"
หม่าเหลียงและเจิ้งซานเปาไปทำหน้าที่ของตัวเองทันที
เย่เฟิงหันกลับไปมองโอวหยางชาง พูดเยาะเย้ยว่า "คุณตำรวจ โชคไม่ดีเลยนะที่คำนวณผิดพลาด เราจะพาตัวประกันไปกับเราด้วย แต่ไม่ต้องแปลกใจไป เราจะพาเธอไปด้วย!"
ชิเล่ยที่อัดอั้นตันใจยืนขึ้นทันทีและตะโกนออกมา "เย่เฟิง!"
เย่เฟิงมองไปที่ชิเล่ยและตาของเขาดูตกใจ
หม่าเหลียงและเจิ้งซานเปารู้สึกถึงภัยคุกคาม จึงเตรียมตัวเข้าไปจู่โจมชิเล่ย แต่เย่เฟิงหยุดทั้งสองคนไว้และพูดว่า "เหลียงซิ ซานเปา จัดการต่อไป ฉันจัดการกับตัวประกันเอง มานี่!"
ชิเล่ยเดินมาถึงด้านข้างของโอวหยางชาง และพูดเสียงอย่างช่วยไม่ได้ว่า "โอวหยางทำไมเธอถึงโง่ขนาดนี้!"
โอวหยางชางมองไปที่ชิเล่ยด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด "นาย....ชิเลย ทำไม...นายมาอยู่ที่นี่?"
ในใจของเธอเกิดความคิดนับไม่ถ้วนผุดคิดมาและแม้กระทั่งสงสัยว่าชิเล่ยเป็นพวกเดียวกับเย่เฟิง อย่างไรก็ตามคำพูดต่อมาของชิเล่ยทำให้เธอหยุดคิดไปต่างๆนา
"เย่เฟิง นายต้องการตัวประกันคนสุดท้าย ปล่อยเธอไปซะ ฉันจะเป็นตัวประกันคนสุดท้ายให้นายเอง ฉันเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชวนกิ่ง เนื่องจากชวนกิ่งTV อยู่ด้านนอก รายงานว่าทางตำรวจไม่กล้าที่จะสละตัวประกันแน่นอนและหวังว่านายจะช่วยฉันได้"
โอวหยางชางพูดออกมาเสียงดังว่า ชิเล่ยฉันไม่ต้องการ! คุณรู้ไหมว่าในกรณีแบบนี้แล้วส่วนใหญ่เป็นไปได้ว่าการรอดชีวิตของตัวประกันคนสุดท้ายมีโอกาสไม่เกิน 10%! ถ้านายไปกับพวกเขานายอาจจะตายได้!"
โอวหยางชางที่อยู่อ้อมแขนของเขา มือขวาของเขาลูบไล้ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของโอวหยางชางดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม
"โอวหยางในเมื่อเธอรู้ว่าการจะต้องเป็นตัวประกันคนสุดท้าย มันจะอันตรายเหมือนกัน? โอวหยาง ถึงแม้ว่าเราจะรู้จักกันไม่นานและความสัมพันธ์ของเราก็ไม่ค่อยดีกันสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามฉันเป็นผู้ชายนี่คือสื่งที่ผู้ชายต้องทำ! ฉันจะทนเห็นเธอตายทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ได้ ฉันจะถูกลงโทษจากจิตสำนึกและจะทำให้ฉันเจ็บปวดไปทั้งชีวิต!"
อีกเหตุผลก็คือ หลังจากได้พูดคุยกันในตอนเช้าแล้ว พูดได้ว่าธรรมชาติของเย่เฟิงไม่ใช่คนไม่ดี ชิเล่ยรู้ว่าเย่เฟิงจะไม่ฆ่าเขาอย่างแน่นอนและพาเขาหลบหนีไปด้วยกัน หลังจากหนีพ้นแล้ว เย่เฟิงจะปล่อยเขาไปเอง
และสำหรับเย่เฟิง ชิเล่ยมีแผนอยู่ในใจของเขาแล้ว
"โอวหยาง ฟังฉัน ฉันยังอยากจะกินข้าวเย็นที่เธอทำให้ฉันกินต่อไปอีก! โอวหยางพูดตามตรงฝืมือการทำอาหารของเธอสุดยอดมาก ใครก็ตามที่ได้แต่งงานกับเธอนี่โชคดีจริงๆเลย!" ด้วยการแสดงออกของชิเล่ยที่สมจริง ทำให้โอวหยางชางต้องร้องไห้ออกมา
"เอาละ เย่เฟิงช่วยปล่อยเธอไปที?" ชิเล่ยมองเย่เฟิงอย่างจริงจัง