Chapter 216: นายพลเฒ่า
Chapter 216: นายพลเฒ่า
ถึงแม้ว่าเจียงลู่ฉีนั้นจะยืนยันแล้วว่ามันไม่ใช่กับดัก เขาก็ยังคงคิดว่าเขาควรที่จะระมัดระวัง ดังนั้นเขาจึงพา หยิง หลันซิหยู่และน้องสาวของเขาไปด้วย นอกจากคนพวกนี้ เจียงลู่ฉีก็ถามถึงการขับรถของตัวเอง เจ้าหน้าที่พยักหน้า ตามคำสั่งที่ว่า “ไม่มีรถใดได้รับอนุญาตขับบนถนนของเขตแรกของเกาะเชนไฮ่”นั้นหมายถึงคนธรรมดาทั่วไป รถของกองทัพนั้นได้รับอนุญาตที่จะขับไปที่ไหนก็ได้
ผ่านไปสักพักหนึ่ง พวกเขาก็ไปถึงคฤหาสน์อันเก่าแก่ ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเพลิดเพลินไปกับชา คฤหาสน์นี้ทั้งกว้างใหญ่และสะอาด ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในคฤหาสน์ เจียงลู่ฉีก็เห็นโต๊ะไม้ และมีชากงฟู่ถูกวางไว้ และก็มีชายผมขาวกำลังเด็ดใบชาโดยใช้ปากคีบอยู่ “คุณเจียง ยินดีที่ได้รู้จัก ผมได้รอที่จะทำการพบกับคุณมานานแล้ว”เมื่อเห็นเจียงลู่ฉี นายพลเฒ่าก็ยืนขึ้นและยืดมือของเขาออกมา
“นี่คือผู้นำของพวกเรา”เจ้าหน้าที่อธิบายให้กับเจียงลู่ฉี
“นามสกุลของผมคือจาง และคุณสามารถที่จะเรียกผมว่าเฒ่าจางได้”ชายหัวหงอกนั้นพูดอย่างใจเย็น ที่จริงแล้วชายแก่คนนี้นั้นเป็นนายพลที่น่านับถืออย่างมาก ดังนั้นเจียงลู่ฉีนั้นตกตะลึงกับการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความสุภาพของเขา และหลังจากนั้นเขาก็ยืดมือออกไปเชคแฮนด์ด้วย การเชคแฮนด์ของชายเฒ่านั้นทั้งอ่อนโยนและทรงพลัง มือของเขาทั้งหนาและด้าน น่าจะเป็นเพราะว่าการจับปืนบ่อยครั้งของเขา
“สวัสดีครับ ผมชื่อเจียงลู่ฉี ผมเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นคุณน่าจะพึ่งเคยได้ยินชื่อของผม”เจียงลู่ฉีพูด
“ฮ่าๆๆๆ!”เมื่อฟังการตอบกลับของเจียงลู่ฉี ชายหัวหงอกก็หัวเราะออกมาในทันที “ใช่ ใช่ นายพูดถูก ฉันพึ่งจะได้ยินชื่อของนายวันนี้นี่เอง ที่จริงแล้ว ฉันต้องการที่จะหยุดการพูดโอ้อวด สำหรับวันของฉันนั้นกับการเป็นนายพล สิ่งเดียวที่ฉันดีก็คือการต่อสู้อย่างดุเดือดกับศัตรูในกองทัพ ความสามารถในการเข้าสังคมของฉันไม่ใช่จุดเด่น”
เจียงลู่ฉีตกตะลึงกับคำพูดของเขานั้นเนื่องจากชายแก่นั้นแตกต่างไปกับผู้นำของกองทัพคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด พูดตามความจริงแล้ว นายพลนั้นเปลี่ยนมุมมองของเจียงลู่ฉีไป
สงครามที่นายพลนั้นพูดถึงเป็นเรื่องราวในอดีตสำหรับเจียงลู่ฉี เขาไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะได้พบกับใครบางคนที่ได้ต่อสู้ในสงคราม เจียงลู่ฉีชื่นชมท่านนายพลมากยิ่งขึ้นไปอีก
“มา และมาดื่มชากันเถอะ นอกจากการเล่นกับปืนแล้ว ฉันก็ยังคงชอบดื่มชาด้วย”นายพลเฒ่าพูดในขณะที่เขาวางถ้วยลงไปตรงตำแหน่งของพวกเขา และเติมชาหลงจิงลงไป ชาสีเขียวมรกตนั้นเหมือนกับคริสตัลหยก อย่างไรก็ตาม ใครก็ตามที่จะเพลิดเพลินไปกับชาได้นั้นจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชาในการเทมันลงไปเท่านั้น
เจียงลู่ฉีพูด “ขอโทษนะครับท่าน ท่านนายพลจาง ผมนั้นไม่รู้วิธีในการดื่มอย่างถูกหลักมารยาทนะครับ”
“ฮ่าๆ เพียงแค่ลอง และนายจะเข้าใจถึงกระบวนการได้อย่างรวดเร็ว ฉันก็ไม่รู้เช่นกันกับวิธีการของมันที่จะต้องเตรียมการและเพลิดเพลินไปกับมัน แต่ฉันก็เรียนรู้มา ถึงแม้ว่าฉันจะค่อนข้างดีเยี่ยมในการยิง ฉันคิดว่าชีวิตของฉันควรที่จะมีสีสันมากกว่านี้ สุดท้ายแล้วฉันก็พบว่าฉันชอบในการดื่มชา อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างแท้จริงที่หลังจากวันโลกาวินาศนั้นชากลายเป็นของหรูหรา”
เจียงลู่ฉีเริ่มที่จะเรียนรู้วิธีการของนายพลในการได้ลิ้มรสอย่างถูกหลักกับชาที่มีกลิ่นอันหอมหวาน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีไอเดียกับชานี้ เจียงลู่ฉีก็สามารถที่จะรับรสได้ถึงชาที่มีกลิ่นหอมที่แสนพิเศษ และหลังจากนั้นเจียงลู่ฉีก็รู้สึกใจเย็น มันเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างล้ำค่าอย่างมากในช่วงเวลาที่โลกโกลาหลแบบนี้
“ท่านนายพลจาง….เหตุผลอันใดที่คุณต้องการที่จะพบกับผม?”เจียงลู่ฉีพูดถึงประเด็นตรงๆ
“ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อขัดแย้งระหว่างนายและฉู่ซงฉาน”
“ใช่”เจียงลู่ฉีพูดตรงๆและเขาก็มองไปที่นายพลเฒ่า และคิดว่าเขาอาจจะเป็นศัตรูของฉู่ซงฉาน
นายพลเฒ่าหัวหงอกนั้นเดาถึงความคิดของเจียงลู่ฉีได้ และหลังจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “ฉันนั้นไม่ยอมรับฉู่ซงฉานจริงๆ ไม่เพียงแต่พวกเรานั้นไม่ตกลงกันระหว่างความคิดเห็นกับข้อขัดแย้งของกองทัพ แต่สถานะของพวกเรานั้นก็แตกต่างออกไปก่อนวันโลกาวินาศ ฉันก็ยังคงไม่ชอบลูกชายของเขาอีกด้วย”นายพลเฒ่าตอบกลับอย่างซื่อสัตย์โดยปราศจากความลังเลใดๆ “อย่างไรก็ตาม เจียงน้อย พวกเราควรที่จะเอาสถานการณ์ทั้งหมดนั้นมาอยู่ในการพิจารณา สุดท้ายแล้ว เขตแรกของเกาะเชนไฮ่นั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย วันนี้ ฉันชวนนายมาสำหรับปัญหาอีกหนึ่งเรื่อง…”
“มันเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์…”คำพูดของนายพลเฒ่าทำให้เจียงลู่ฉีตกตะลึง
“หื้อ? โรงไฟฟ้านิวเคลียร์”
“ก็ดี เจียงน้อย นายอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่อยู่ทิศใต้ของเกาะเชนไฮ่ ที่ห่างออกไปประมาณสิบกิโลเมตร แน่นอนว่ามันอยู่ห่างไกลจากพวกเรา อย่างไรก็ตาม เมื่อนิวเคลียร์นั้นหลุดรอดออกมาละก็ มันจะกลายเป็นปัญหากับพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้น อันตรายของนิวเคลียร์ที่หลุดออกมาจากวันโลกาวินาศนั้นไม่ได้ธรรมดาเหมือนกับแค่รังสีของมัน แต่พวกมันยังทำให้สัตว์ป่ากลายพันธุ์อีกด้วย”
“หลังจากไวรัสระบาดออกมา ทุกคนในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฉินชานนั้นตายลง แต่มันก็ยังคงทำงานต่อ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพลังงานนั้นหมดลง น้ำเย็นก็ไม่สามารถที่จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ ดังนั้นเครื่องยนต์ของมันก็ยังคงร้อนยิ่งขึ้น ฉันไม่เข้าใจเกี่ยวกับหลักการของผู้เชี่ยวชาญ แต่พวกฝ่ายเทคนิคนั้นพูดว่ามันจะทำให้เกิดการระเบิดที่เลวร้ายยิ่งกว่าเชอร์โนบิลและการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุคุชิม่าซะอีก ซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคำนวณได้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์บางแห่งนั้นได้ชำรุดลง...หลายวันก่อน ทางกองทัพนั้นได้ทำภารกิจพิเศษ ที่ปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์…”
เมื่อฟังคำพูดของนายพลเฒ่า เจียงลู่ฉีก็เปิดของเขา
ประเทศนี้นั้นมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มากกว่าหนึ่งแห่ง....ไม่ต้องพูดถึง โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วโลกนั้นไม่ได้รับการควบคุม เมื่อเกิดการระเบิดขนาดใหญ่โตเกิดขึ้น ผลลัพธ์ของมันจะไม่สามารถจินตนาการออกมาได้เลยจริงๆ
“ก็ดี.... ดังนั้นไม่ใช่เพียงแค่พวกเรา แต่ผู้รอดชีวิตของประเทศอื่นนั้นก็จะปิดการทำงานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วยในอนาคต ถ้านักวิทยาศาสตร์และทางรัฐบาลเกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตาม ฉันกังวลว่าพื้นที่บางแห่งจะยังคงไม่ขยับไปไหนโดยปราศจากคนที่จะนำไปปิดโรงงาน ที่จริงแล้ว มันเป็นเพราะว่าพวกเรานั้นประเมินการระบาดไวรัสนั้นผิดพลาด....พวกเรานั้นไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการระบาดออกมาเลย”นายพลเฒ่าอธิบาย
“ในตอนแรก โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นกำลังจะปิดลงหลังจากสิบวันก่อนวันกาวินาศ สุดท้ายแล้วการก่อสร้างของเกาะเชนไฮ่นั้นก็ไม่สามารถสำเร็จได้โดยปราศจากการขนส่งวัตถุดิบที่ต้องใช้การสนับสนุนของไฟฟ้า ถึงแม้ว่าวัตถุดิบพวกเราที่ต้องการนั้นจะถูกรวบรวมมาครบก็ตาม การระบาดของไวรัสที่เกิดขึ้นนั้นมันออกมาอย่างไม่ได้คาดคิดและพวกเราก็ไม่สามารถทำตามแผนดั้งเดิมของพวกเราได้”นายพลเฒ่าพูด
เมื่อฟังคำพูดของเขา เจียงลู่ฉีก็จมอยู่ในความคิดของเขา
“เอ๋? พวกเรานั้นไม่มีความคิดเกี่ยวกับสัตว์กลายพันธุ์บริเวณนี้เลย....ภารกิจของพวกเรานั้นตึงเครียดมาก…”เจียงลู่ฉีพูด
“ใช่ นายพูดถูก พวกเราส่งกองทัพที่จัดตั้งขึ้นมาอย่างดีเพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จพร้อมกับรถถังรุ่น99 สองคัน รถของทหารราบรุ่น92 สี่คัน รวมไปทั้งเฮลิคอปเตอร์ติดเกราะสองลำ อย่างไรก็ตาม...ก็มีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น”