ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 193 การเคลื่อนไหวสุดท้ายของเทพนักสืบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที 195 เจตนารมณ์ของไป่หนิงปิง

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 194 ม่านเลือดบุปผาสวรรค์


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 194 ม่านเลือดบุปผาสวรรค์

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกกัดฟันแน่นจนแทบปริแตก แต่เขาก็ยังไม่สามารถขยับเขยื้อน

ทันใดนั้นวิญญาณอีกดวงก็ถูกแสงสีทองจับออกมาวางอยู่บนพื้น วิญญาณดวงนี้มีรูปลักษณ์คล้ายโม่หินหยินหยางสีดำขาวที่หมุนวนอย่างต่อเนื่อง

"มันคือสิ่งใด?" ไป่หนิงปิงกับคนอื่นๆงุนงง

'มันคือวิญญาณระดับห้า...' ดวงตาของฟางหยวนจ้องมองไปที่มันอย่างล้ำลึก

"วิญญาณกงล้อหยินหยาง!" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ เขาตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา "พี่ชายที่ดีของข้า ข้าต้องขอบคุณท่านที่หาวิญญาณดีๆเช่นนี้มาให้ ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านต้องการกลับเป็นมนุษย์ แต่น่าเสียดาย แผนการของท่านต้องพังทลายเพราะข้า"

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกกรีดร้อง เขาสูญเสียความเยือกเย็นไปอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ว่าจะเป็นวิญญาณกะโหลกเลือด หรือวิญญาณกงล้อหยินหยาง พวกมันล้วนเป็นสิ่งสำคัญในแผนการของเขา แต่ตอนนี้พวกมันกลับถูกผนึก มันจึงดูเหมือนทุกความพยายามนับพันปีของเขากลายเป็นเพียงหมอกควันที่เลือนหายไป

ใบหน้าของจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ถูกเติมเต็มไปด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน เขารู้สึกพึงพอใจที่ได้เห็นการแสดงออกของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก

อย่างไรก็ตามวิญญาณดวงที่สามยังถูกนำออกมาจากร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง วิญญาณดวงนี้ดูเหมือนบอลวารีสีเลือดที่โปร่งแสง

เห็นวิญญาณดวงนี้ปรากฎขึ้น ผู้นำตระกูลแสงจันทร์กัดฟันแน่นก่อนจะตะโกนเสียงดัง "เร็วเข้า! ทำลายวิญญาณดวงนี้!"

ได้ยินเสียงของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก ผู้ใช้วิญญาณหลายคนเร่งโจมตีวิญญาณดวงนั้นโดยไม่ลังเล

วิญญาณดวงนี้ถูกปิดผนึกโดยยันต์สะกดมารเป็นเหตุให้ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกไม่สามารถควบคุมมันได้ด้วยความคิดของเขา ด้วยชั้นแสงสีทองที่ห่มคลุมวิญญาณดวงนี้ อาจมีเพียงไท่เซี่ยเล้งที่สามารถปลดผนึก

อย่างไรก็ตามวิญญาณดวงนี้มีความพิเศษบางอย่าง เพราะเมื่อมันถูกทำลาย มันจะปลดปล่อยความสามารถออกมาทันที

ผนึกแสงสีทองสามารถจับกุมแต่มันไม่มีพลังป้องกัน ดังนั้นหลังจากการโจมตีหลายครั้ง ทั้งผนึกแสงและวิญญาณที่อยู่ภายในจึงถูกทำลายลงอย่างพร้อมเพรียง

"บึม!"

ของเหลวสีเลือดระเบิดออกมาอย่างรุนแรงก่อนจะกลายเป็นกำแพงทรงกลมสีแดงเลือดที่โปร่งแสงครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่เอาไว้ภายใน ขณะที่จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์อยู่ด้านนอกกำแพงป้องกันชนิดนี้

ฟางหยวน ไป่หนิงปิง และผู้ใช้วิญญาณกลุ่มใหญ่อยู่ด้านในกำแพงเลือด แต่ยังมีผู้ใช้วิญญาณอีกมากมายอยู่ภายนอก

ด้วยการปรากฎขึ้นของกำแพงเลือด มันตัดคิ้วสีขาวให้ขาดสะบั้นลงและอนุญาตให้ผู้ใช้วิญญาณที่ถูกจับกุมหลุดออกจากพันธนาการของคิ้วดูดวิญญาณ

'กลิ่นอายของวิญญาณดวงนี้เทียบเท่ากับวิญญาณระดับห้า แต่เหตุใดมันจึงคล้ายกับวิญญาณม่านน้ำบุปผาสวรรค์?' ฟางหยวนสับสน เขาไม่เคยเห็นวิญญาณชนิดนี้

เผชิญหน้ากับกำแพงเลือด จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์หัวเราะเสียงเย็น "พี่ใหญ่ เป็นการตอบโต้ที่ดี ท่านสามารถตัดคิ้วดูดวิญญาณของข้า แต่น่าเสียดายที่เกราะป้องกันชนิดนี้ยังไม่สามารถหยุดยั้งข้าได้"

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์หัวเราะเสียงดัง "น้องเล็ก เช่นนั้นเจ้าก็จงทดลองด้วยตัวของเจ้าเอง"

"แน่นอน มันคือความตั้งใจของข้าอยู่แล้ว" ดวงตาของจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ส่องประกายก่อนจะปลดปล่อยลำแสงสีขาวออกไปจากดวงตาพร้อมกับฝนลูกศร

อย่างไรก็ตามกำแพงเลือดกลับไม่สะทกสะท้าน มันยังตั้งมั่นอยู่อย่างมั่นคงโดยไม่แม้แต่จะเกิดการสั่นสะเทือน

ใบหน้าของจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์กลายเป็นมืดครึ้ม "วิญญาณดวงนี้คือสิ่งใด?"

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์ส่ายศีรษะและเผยรอยยิ้มบาง "ให้ข้าสั่งสอนเจ้า นี่เป็นวิญญาณที่ข้าหลอมสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง มันคือวิญญาณม่านเลือดบุปผาสวรรค์ วิญญาณระดับห้าที่กำเนิดมาจากวิญญาณม่านน้ำบุปผาสวรรค์ มันมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งกว่า นอกจากนั้นผู้ใช้วิญญาณดวงนี้ยังสามารถออกจากกำแพงป้องกันของตนเองได้อีกด้วย น้องเล็ก อย่าพึ่งหมดความอดทน เจ้าสามารถโจมตีมันต่อไป ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเจ้าจนกว่าข้าจะสามารถกู้คืนพลังวิญญาณ จากนั้นข้าจะออกไปตัดศีรษะสุนัขของเจ้าออกมา ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า"

"เจ้าหัวขโมย อย่ามาเล่นตลกกับข้า!" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์คำรามเสียงดัง เดิมทีเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงเริ่มโจมตีอย่างบ้าคลั่งด้วยความโกรธเกรี้ยว เขากระทั่งสังหารผู้ใช้วิญญาณจำนวนมากที่อยู่ด้านนอกกำแพงเลือด

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ภายในกำแพงเลือดกลับสงบสุขราวกับมีภูเขาทั้งลูกปกป้องอยู่ด้านหน้า มันจึงช่วยไม่ได้ที่ผู้ใช้วิญญาณด้านในจะรู้สึกโล่งใจ

"บรรพชนรุ่นแรกคือวีรบุรุษที่แท้จริง!"

"บรรพชนรุ่นแรกคือเทพเจ้า ท่านย่อมไม่สามารถพ่ายแพ้"

"นี่คือความแข็งแกร่งของผู้ใช้วิญญาณระดับห้า ในชีวิตนี้ข้าสามารถพบเห็นกับตาตนเองได้จริงๆ"

ผู้ใช้วิญญาณที่อยู่ด้านในเริ่มส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี

ในทางตรงข้าม ไป่หนิงปิงกลับก่นเสียงเย็นเย้ยหยัน ความตายของเขาเป็นเรื่องแน่นอน แต่สถานการณ์ที่กลายเป็นหยุดชะงักทำให้ความงดงามของมันลดลง มันจึงช่วยไม่ได้ที่ไป่หนิงปิงจะรู้สึกไม่มีความสุข

จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์โจมตีอย่างไม่หยุดยั้งแต่ยังไม่สามารถทำสิ่งใด สุดท้ายเขาจึงตื่นขึ้นจากสภาวะบ้าคลั่ง

ถ้อยคำของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเป็นการยั่วยุให้เขาใช้พลังวิญญาณโจมตีอย่างไร้ประโยชน์ แต่จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ก็คิดได้ในที่สุดว่ามันควรจะเป็นวิญญาณที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว แม้มันจะมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่มันย่อมมีข้อจำกัดในด้านเวลา ดังนั้นอีกไม่นานมันจะสูญสลายไปด้วยตัวของมันเอง

เมื่อคิดได้เช่นนี้ จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์จึงนั่งลงบนหินก้อนใหญ่ก่อนจะเริ่มทำการกู้คืนพลังวิญญาณของตน

"ให้ข้ายืมพลังของพวกเจ้า โยนหินวิญญาณมาให้ข้า ข้าต้องการหินวิญญาณจำนวนมาก!" ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกตะโกนเสียงดังไปยังผู้ใช้วิญญาณที่อยู่รอบๆ

ได้ยินเรื่องนี้ ผู้ใช้วิญญาณเหล่านั้นจึงเร่งวางหินวิญญาณกองไว้รอบตัวผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกอย่างไม่ตระหนี่

ด้วยการอ้าปากกว้าง ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกดึงดูดหินวิญญาณเข้าไปในช่องปากก่อนจะเคี้ยวและส่งลงสู่ทะเลวิญญาณของเขาโดยตรง

เห็นเหตุการณ์นี้ จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ทำได้เพียงตะโกนเสียงดังด้วยความขุ่นเคือง "อย่าส่งหินวิญญาณให้เขา หลังจากฟื้นตัว เขาจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมดและใช้เลือดของพวกเจ้ายกระดับพรสวรรค์ของตัวเขาเอง มันเป็นการฆ่าตัวตายเท่านั้น!"

"ฮืม กลยุทธ์ชั้นต่ำ น่ารังเกียจ!"

"เร็วเข้า! ยิ่งโจรเฒ่าผู้นี้บอกไม่ให้ทำ พวกเรายิ่งต้องทำ ส่งหินวิญญาณให้ท่านบรรพชน!"

"ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับท่านบรรพชนของพวกเราเท่านั้น!"

ผู้ใช้วิญญาณรอบๆส่งหินวิญญาณให้กับผู้นำตระกูลรุ่นแรกอย่างไม่เห็นแก่ตัว ขณะที่ฟางหยวนกับไป่หนิงปิงยืนดูอยู่ด้านข้างเท่านั้น

หากเป็นคนทั่วไป พวกเขาจะไม่สามารถทนต่อการดูดกลืนพลังวิญญาณจำนวนมากได้ในครั้งเดียว แต่ร่างผีดิบสามารถทำได้ ดังนั้นพลังวิญญาณของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

โซ่ผนึกปีศาจและยันต์สะกดมารอ่อนแอลงและกลายเป็นบ่อเลือดไปในที่สุด

หลังจากพันธนาการหายไป ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเปิดปากคำรามเสียงดังและใช้ร่างผีดิบดูดเลือดรอบๆบริเวณเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเอง ภายในเวลาไม่นานแขนที่ถูกตัดจึงสามารถงอกออกมาอีกครั้ง

"ดูเหมือนสวรรค์ยังไม่ต้องการให้ข้าตาย" เขาหัวเราะด้วยความพึงพอใจ

"ท่านบรรพชนโปรดกำจัดโจรเฒ่าผู้นั้นด้วย"

"เมื่อท่านบรรพชนของเราสามารถเคลื่อนไหวอีกครั้ง ท่านจะต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน"

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณรู้สึกมีความสุข

เสียงหัวเราะของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกค่อยๆหยุดลงขณะที่เปลวไฟในดวงตาของเขาลุกโชน "แน่นอน ข้าจะต้องกำจัดศัตรูของข้า แต่ก่อนที่ข้าจะฆ่าเขา ข้ามีบางสิ่งต้องทำ"

'ไม่ดีแล้ว' ฟางหยวนตระหนักถึงอันตรายอย่างรวดเร็วและเริ่มแทรกตัวออกไปอยู่วงนอกสุดของกลุ่มผู้ใช้วิญญาณ

คนรอบข้างรู้สึกงุนงงกับการเคลื่อนไหวของฟางหยวน แต่เวลานี้พวกเขายังเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจเขามากนัก "พวกเราไม่รู้ว่าท่านบรรพชนต้องการทำสิ่งใด แต่พวกเราต้องสนับสนุนท่านอย่างดีที่สุด"

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกส่ายศีรษะและหัวเราะ "สิ่งที่ข้าต้องการก็คือ ชีวิตของพวกเจ้า!"

"อา!?" ใบหน้าของกลุ่มผู้ใช้วิญญาณกลายเป็นซีดเผือดด้วยความตกใจ

แต่ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกไม่ลังเลที่จะเคลื่อนไหวและส่งกรงเล็บกวาดผ่านลำคอของผู้ใช้วิญญาณระดับสามที่อยู่ใกล้ที่สุด

ผู้ใช้วิญญาณผู้นี้เป็นผู้อาวุโสของตระกูลแสงจันทร์ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อขณะที่ศีรษะของเขาหลุดจากลำคอพร้อมกับเลือดที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับน้ำพุธรรมชาติ

"เป็นเลือดที่ดี ไม่เสียแรงจริงๆ" ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกกล่าวก่อนจะออกคำสั่งให้วิญญาณกะโหลกเลือดลอยเข้าไปหาผู้ใช้วิญญาณเคราะห์ร้ายผู้นั้นและเริ่มดูดเลือดของเขาอย่างตะกละตะกลาม

หลังจากกะโหลกเลือดดูดเลือดเข้าไป กะโหลกคริสตัลสีเลือดจึงยิ่งส่องประกายสว่างไสวมากขึ้น

"ท่านบรรพชนรุ่นแรก! ท่าน!?" กลุ่มผู้ใช้วิญญาณเริ่มล่าถอยออกไป บางคนเริ่มกรีดร้อง

"เสียงดังน่ารำคาญ" หลังจากกล่าวจบคำ ร่างของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกพลันอันตรธานหายไปจากจุดเดิมก่อนจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งด้านหน้าผู้ใช้วิญญาณที่กำลังกรีดร้องและฉีกกระชากร่างกายของเขาอย่างไร้ปรานี สำหรับเลือดที่พุ่งออกมา พวกมันถูกดูดกลืนโดยกะโหลกเลือดทั้งหมด

"เดรัจฉาน! เนรคุณ! หากไม่ได้หินวิญญาณของพวกเรา เจ้าจะสามารถกู้คืนพลังวิญญาณได้อย่างไร?"

"บรรพชนรุ่นแรกไม่ใช่คนดีจริงๆ ทุกคนโจมตีเขา!"

"ถูกต้อง ใช้คนจำนวนมาก...อา..."

โดยไม่แยแสผู้ใด การสังหารหมู่เริ่มต้นขึ้นในที่สุด ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้า แล้วผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง ระดับสอง หรือแม้แต่ระดับสาม จะสามารถรับมือเขาได้อย่างไร?

ม่านเลือดบุปผาสวรรค์ปิดกั้นภายในจากภายนอกอย่างสมบูรณ์ มีเพียงเจ้านายของมันที่สามารถออกไป แต่หากเขาออกไป เขาจะไม่สามารถเข้ามาได้อีกนอกจากทำลายมันหรือรอให้มันหายไปด้วยตัวมันเอง

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณด้านในไม่สามารถหลบหนีและทำได้เพียงต่อสู้เท่านั้น แต่พวกเขายังถูกสังหารอย่างต่อเนื่องโดยไม่สามารถขัดขืน

อย่างไรก็ตามมีเพียงผู้ใช้วิญญาณของตระกูลแสงจันทร์เท่านั้นที่ถูกสังหารและถูกดูดเลือด หลังจากดูดเลือดผู้ใช้วิญญาณหลายร้อยคน กะโหลกเลือดจึงส่องประกายขึ้นอย่างเต็มที่ราวกับมันถึงขีดจำกัด

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกหัวเราะและเรียกมันกลับมา

"แผนการที่ยากลำบากนับพันปีของข้าในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ" เขาสูดหายใจขณะที่กะโหลกเลือดพ่นเลือดออกมาจากปากของมันและเทลงบนร่างของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก

อย่างไรก็ตามเลือดที่ถูกเทลงมากลับไม่เปรอะเปื้อนพื้นดิน ตรงข้าม มันห่มคลุมร่างกายของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเอาไว้ก่อนจะไหลเข้าไปในทะเลวิญญาณของเขา

ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกยืนอยู่อย่างสงบก่อนจะเริ่มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า พรสวรรค์ของข้าสูงขึ้น พรสวรรค์ของข้าสูงขึ้นจริงๆ"

เวลานี้ร่างกายของผู้ใช้วิญญาณที่เหลือรอดต่างสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

ด้านนอกกำแพงเลือด จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ชี้นิ้วไปยังผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกและตะโกนด้วยความโกรธ "กะโหลกเลือดของข้า เอากะโหลกเลือดของข้าคืนมา!!"