บทที่ 40: ค่ำคืนแห่งการอำลา
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
====================
บทที่ 40: ค่ำคืนแห่งการอำลา
ในการเดินทางไปยังเมืองนครเวหา เจ้าอ้วนใช้จ่ายหินจิตวิญญาณไปมากกว่าสองแสนก้อน เขารู้สึกว่าตนเองนั้นยากจนทันทีและพยายามจะขายวัตถุบางอย่างออกไปเพื่อเติมเต็มกระเป๋าเงิน อย่างไรก็ตามหลังจากการซื้อของเสร็จสิ้นแล้วนั่นแปลว่าเขาจะไม่ต้องซื้อยาอายุวัฒนะไปอีกสามปี
บ่ายวันรุ่งขึ้นเขาเดินทางกลับจากนครเวหา เจ้าอ้วนเดินหลบเลี่ยงสายตาที่แสดงความเกลียดชังส่งมาถึงเขาเพื่อลอบเข้าไปยังหุบเหวเทียนโก่ว เขาเริ่มเก็บอุปกรณ์วิเศษต่าง ๆ ที่ถูกทิ้งไว้จนกระทั่งมิติลึกลับของเขาไม่เหลือพื้นที่ให้เก็บอีกต่อไป ในมิติคล้ายมีภูเขาขนาดย่อมอยู่ภายใน มันยังคงย่อยสลายอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยไม่มีวันพักผ่อน แน่นอนว่าเจ้าอ้วนไม่เคยที่จะหยุดเติมเต็มช่องว่างภายในมิติเลย เขาคิดว่าอุปกรณ์มากมายที่เก็บมาในวันนี้คงไม่สามารถย่อยสลายหมดในเวลาไม่กี่ปีนี้อย่างแน่นอน
การจัดเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามิตินั้นทำได้เพียงแค่คิด เขาจึงมิได้เสียเวลามากเท่าไหร่นัก แต่อย่างไรก็ตาม เขายังพอมีเวลาเหลืออีกมากมาย เมื่อไหร่ที่พระจันทร์ปรากฏบนท้องฟ้านั่นถือว่างานในวันนี้จบลงแล้ว
ขณะที่เขากำลังชื่นชมความงามของพระจันทร์เต็มดวงอยู่ เขานึกขึ้นมาได้ว่าคืนนี้เขามีนัดกับหานหลิงเฟิง ไฟราคะในใจของเขาลุกโชนขึ้นมา เขายังไม่ได้ลองใช้ดาบบินระดับห้าที่นิกายได้มอบให้ ดาบอินทรีย์ทอง ดังนั้นจึงหยิบมันออกมาพร้อมกับบินออกไปทิ้งไว้เพียงประกายแสงสีทอง
ผ่านไปสองชั่วโมง ในกระท่อมเล็ก ๆ เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความรัก ร่างกายของเจ้าอ้วนกับหานหลิงเฟิงกำลังกอดรัดกันอย่างยุ่งเหยิง
“เจ้าอ้วนโง่เง่า เหตุใดเจ้าจึงต้องไป?” หานหลิงเฟิงกอดคอเจ้าอ้วนพร้อมกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ที่จริงแล้วเพียงแค่ข้ากล่าวออกไป ภาระนี้จะไม่ถูกแบกไว้โดยเจ้า!”
“หืม? หากทำเช่นนั้น ข้าจะไม่ถูกมองเป็นบุรุษผู้เกาะชายกระโปรงหญิงสาวงั้นหรือ?” เจ้าอ้วนแสร้งแปลกใจขณะที่กล่าวเช่นนั้น
“เหอะ เจ้าน่ะหรือแมงดา? เจ้าคือหมูอ้วนที่สามารถกระแทกข้าให้ตายตกไปได้เท่านั้น!” หานหลิงเฟิงหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร จึงทำได้เพียงแค่ดุด่าประชดประชัน
“ฮ่าฮ่า ข้ายังต้องการกระแทกเจ้าอีก!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างร่าเริง
“เลิกแกล้งข้าเสียที!” หานหลิงเฟิงบ่นเขาพร้อมกับหัวเราะออกมา “ข้ากำลังจริงจังอยู่!”
“ข้าก็จริงจังเช่นกัน!” เจ้าอ้วนกล่าวต่อ “ข้าคิดว่ามันจะดีที่สุดหากไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเรา ถ้าหากว่าเจ้าไปพูดเช่นนั้นเพื่อข้า มันจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับตัวเจ้าเอง!”
“น่าแปลก เหตุใดเราจึงไม่สามารถอยู่ด้วยกันแบบเปิดเผยได้?” หานหลิงเฟิงกล่าวอย่างขุ่นเคือง “ข้าเป็นถึงศิษย์ในและมีอาจารย์ระดับจินตันที่เก่งกาจ ยังมีสิ่งใดที่ต้องเกรงกลัวงั้นหรือ?”
“หึ สำหรับข้านั้นมิได้กลัวสิ่งใด แต่ข้าเพียงแค่ชอบการกระทำแบบลับ ๆ ล่อ ๆ!” เจ้าอ้วนยิ้มกริ่ม
“เจ้านั้นมีความคิดที่วิปลาสเสียจริง!” หานหลิงเฟิงหัวเราะออกมาทั้งที่ยังโกรธ
“ฮ่าฮ่า” เจ้าอ้วนได้แต่หัวเราะออกมา
“โอ้!” หานหลิงเฟิงอุทานออกมา “อย่าบอกนะว่าเจ้านั้นต้องการออกไปเยี่ยมชมสิ่งใหม่ที่ด้านนอกนั้นมากกว่า?”
“เจ้ากล่าวถึงสิ่งใด?” เจ้าอ้วนมองนางอย่างสงสัย
“เฮ้อ ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน บุรุษล้วนแล้วแต่โง่เขลาและเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น!” หานหลิงเฟิงกล่าวอย่างโกรธเคือง
“อา” เขาหันหน้าไปทางหานหลิงเฟิงที่กำลังหึงหวง เจ้าอ้วนได้แต่หัวเราะออกมาโดยไม่กล่าวสิ่งใดต่อ
เมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา มันยิ่งเพิ่มความโมโหให้กับนางมากขึ้นอีก นางทุบเจ้าอ้วนด้วยกำปั้นแห่งความเกรี้ยวกราดพร้อมพูดต่อว่า “เจ้าเซ่อ เหตุใดเจ้าจึงไม่กล่าวสิ่งใดออกมา?”
“มีสิ่งใดต้องกล่าวงั้นหรือ?” เจ้าอ้วนหัวเราะแบบขมขื่นพร้อมพูดออกไป “ข้าเพียงแค่ออกไปบรรเทาความเครียดจากที่แห่งนี้เท่านั้น ข้าได้ยินเรื่องราวในโลกมนุษย์มามากมายถึงความเร้นแค้นจากผู้อื่นมามากมาย อย่างเจ้าลิงก็บอกข้าว่ามันน่ารังเกียจ ส่วนเจ้าบอกว่าโลกมนุษย์นั้นอบอุ่น ในขณะที่ศิษย์พี่คนอื่น ๆ บอกว่ามันเต็มไปด้วยผู้คนใจเสาะ ทุกคนมีคำตอบที่แตกต่างกัน สิ่งที่ข้าต้องการจะทำก็คือออกไปดูโลกภายนอก”
“งั้นหรือ เพียงแค่ไปดูเท่านั้น?” หานหลิงเฟิงถามอย่างจับผิด
“แน่นอน อย่าบอกข้าว่าเจ้ามองข้าผู้นี้เป็นบุรุษผู้มากรัก?” เจ้าอ้วนหัวเราะออกมาพร้อมกล่าวต่อ “เจ้าจงดูสภาพร่างกายของข้าในตอนนี้ แข็งดุจเหล็กกล้า ต้องเป็นผู้ฝึกตนเท่านั้นจึงจะสามารถต้านทานได้ ถ้าหากวันใดข้าไปขยับสะโพกกับมนุษย์ ข้าเกรงว่านางจะตายตกไปเสียก่อนข้าเสร็จกิจ! เจ้าคิดว่าข้าชอบข่มขืนศพงั้นหรือ?”
“ฮ่าฮ่า เป็นเช่นนั้น!” หานหลิงเฟิงแสดงท่าทีผ่อนคลายออกมาทันทีขณะกล่าวต่อ “หากเป็นเช่นนั้น การไปของเจ้าสามปีถือว่ามิได้นานอันใด ข้าจะรอเจ้า!”
“ตามนั้น!” เจ้าอ้วนพยักหน้าพร้อมกับมองเข้าไปในตาของหานหลิงเฟิงพร้อมกล่าวต่อ “ข้ารู้ว่าบนเส้นทางที่เจ้าเดิน มีผู้คนมากมายเดินตามหลังเจ้าอยู่ รวมไปถึงเหล่าแมงดาด้วย เจ้าต้องมั่นคงต่อข้าเท่านั้น หากข้ารู้ว่าเจ้าไม่ซื่อสัตย์กับข้า เหอะเหอะ ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!”
“เจ้าอ้วนโง่งม! เจ้ากล่าวสิ่งใดออกมา! ข้าดูเป็นหญิงเช่นนั้นหรือ?” หานหลิงเฟิงหยิกเจ้าอ้วนทันที
“หึ หากเจ้ามิได้เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างพอใจ “สามปีหาได้นานนัก เพียงแค่อดทนและรอการกลับมาของข้า รอวันที่ข้าจะกลับมาปู้ยี่ปู้ยำเจ้าอย่างถูกต้อง!”
“ไปตายซะเจ้าโง่!” เมื่อหานหลิงเฟิงได้ยินที่เจ้าอ้วนกล่าว นางรู้สึกทั้งอายและโกรธพร้อมกัน นางทำได้เพียงบ่นต่ออย่างไม่มีคำพูดอื่น “ข้าจะไม่ยอมตาย หากไม่มีเจ้าอยู่เคียงข้าง!”
“หึหึ ผู้ใดจะรู้!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างหยอกเย้า
ใบหน้าของหานหลิงเฟิงแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงจนแทบจะระเบิดออกมา เจ้าอ้วนเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาอย่างรวดเร็ว “เอาล่ะ ข้ามีเรื่องจะขอร้องเจ้า!”
หลังจากที่ได้ยินเสียงอันเคร่งขรึมของเขา นางคิดว่าเขากำลังเคร่งเครียดอยู่จริง ๆ “เพียงเจ้ากล่าวออกมา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ข้าจะช่วยเหลือเจ้าอย่างสุดกำลัง!”
“เจ้าช่างดีกับข้าเหลือเกิน แม่นกน้อย!” เมื่อได้ยินคำพูดของหานหลิงเฟิงที่ดูให้ความสำคัญกับเขา เขาสัมผัสเบา ๆ ที่ใบหน้าของนางพร้อมกับจูบอย่างแผ่วเบาและหัวเราะออก “ที่จริงแล้วเรื่องราวมันก็ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก เมื่อข้าจากไปแล้ว ข้าขอร้องให้เจ้าดูแลเจ้าลิงอย่าให้ผู้ใดมารังแกเขาได้!”
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลพี่ชายของเจ้าเอง!” หานหลิงเฟิงให้คำมั่นสัญญา
“ต้องแบบนั้น ข้ามั่นใจในตัวเจ้า!” เจ้าอ้วนพยักหน้า
หลังจากคืนที่เร่าร้อนจบลง รุ่งเช้าวันถัดมา เจ้าอ้วนลุกขึ้นช้า ๆ พร้อมหันไปมองหานหลิงเฟิงที่หลับสนิท เขาบินออกไปด้วยดาบบินอย่างเงียบ ๆ แต่เพียงเมื่อเขาออกจากกระท่อมไปแล้ว สิ่งที่เขาไม่รู้คือหานหลิงเฟิงได้ตื่นอยู่ก่อนแล้ว มีน้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่สวย นางตกอยู่ในความเงียบพร้อมกล่าวออกมาแผ่วเบา “เจ้าอ้วนเอ๋ย ในโลกภายนอกนั้นเจ้าต้องดูแลตัวเองนะ ข้าจะรอวันที่เจ้ากลับมา!”
เจ้าอ้วนไม่ได้สังเกตว่าหานหลิงเฟิงนั้นตื่นแล้วจึงกระทำตามแผนเดิมของเขา เขามุ่งหน้าไปหาอาวุโสที่รับผิดชอบภารกิจนี้และหยิบสัญลักษณ์ประจำตนออกมาแสดงที่หอคอยลอยฟ้า