ตอนที่แล้วChapter 69: ฉันไม่มีเวลาให้กับขยะหรอกนะ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 71: เส้นทางมรดก

Chapter 70: ถ้านายต้องการที่จะทำตัวแบบนั้น ถ้าอย่างงั้นนายก็ควรที่จะเป็นลูกผู้ชายพอที่จะจัดการกับกระทำของตัวเอง!


Chapter 70: ถ้านายต้องการที่จะทำตัวแบบนั้น ถ้าอย่างงั้นนายก็ควรที่จะเป็นลูกผู้ชายพอที่จะจัดการกับกระทำของตัวเอง!

“ขยะงั้นเหรอ?!?!”อสุราอันนองเลือดนั้นตกอยู่ในความคลุ้มคลั่ง เมื่อเขาได้ยินคำพูดของไร้ความกลัว “ใครกันที่มึงเรียกว่าเป็นขยะ?”

นักเล่นเกม….พวกเขาจะไม่รังเกียจ ถ้านายเรียกพวกเขาว่าเป็นคนหน้าตาน่ารังเกียจ ขี้เกียจ ปัญญาอ่อน แต่ในทันทีที่คุณกำลังตั้งข้อสงสัยกับความสามารถในการเล่นเกมของเขา คุณก็จะก้าวข้ามเส้นแบ่งไป

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อศัตรูของคุณนั้นได้สบประสาทความสามารถของเขาต่อหน้า

แม้กระทั่งหวังหยู่นั้นก็ค่อนข้างสับสนกับสถานการณ์นี้ด้วยเช่นกัน แม้ว่าไร้ความกลัวนั้นปกติแล้วจะไม่ใช่คนเลว แต่เขานั้นดูเหมือนชอบในการยั่วยุคนอื่นให้โกรธจริงๆ

“มันมีประโยชน์อะไรให้ถามอีกครั้งหนึ่งกัน? ไม่ใช่ว่าฉันพึ่งจะพูดไปว่าพวกนายเป็นขยะงั้นเหรอ? อย่าบอกฉันนะว่านายเป็นพวกปัญญาอ่อนด้วย?”ไร้ความกลัวตอบกลับอย่างขี้เกียจ

“เหี้..! ไปฆ่าไอเหี้..นี่กัน!”

กลุ่มคนจากพันธมิตรอันนองเลือดนั้นตะโกนอย่างโกรธแค้นแล้วพวกเขาก็พุ่งเข้าใส่ แม้กระทั่งอสุราอันนองเลือดนั้นก็ไม่มีพลังในการหยุดพวกเขา

“จัดการพวกมันซะ!”ไร้ความกลัวพูดอย่างไม่พอใจแล้วก็มองไปยังหวังหยู่และโบซอน

“ชิ!”

มันแตกต่างไปจากความคิดของเขา หวังหยู่และโบซอนหันหน้าหนีและเมินคำสั่งของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ

“พวกเราไม่ใช่ลูกน้องของนาย! ถ้าพวกเรานั้นทำตามคำสั่งไร้สาระของนายแบบนี้จริงๆละก็ พวกเราจะเหลือใบหน้าไว้ได้อย่างไรกัน?”หวังหยู่และโบซอนคิด

“เหี้....! พวกนายกำลังเมินฉันงั้นเรอะ?”

ความคิดของไร้ความเริ่มที่จะสั่นไหว เหตุผลเดียวที่เขากล้าที่จะยั่วยุพันธมิตรอันนองเลือด เนื่องจากเขามีหวังหยู่และโบซอนอยู่ข้างเขา และมันก็ทำให้เขามีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก

แต่ในตอนนี้หวังหยู่และโบซอนนั้นไม่สนใจที่จะช่วยเขา ไม่สำคัญหรอกว่าเขานั้นดื้อรั้นมากแค่ไหนกันหรอเขามีความสามารถแค่ไหน เขาก็ยังคงเป็นนักบวชที่ยังอ่อนแอ ที่ไม่มีพลังในการต่อสู้

“ถ้านายต้องการที่จะทำตัวแบบนั้น ถ้าอย่างงั้นนายก็ควรที่จะเป็นลูกผู้ชายพอที่จะจัดการกับกระทำของตัวเอง!”โบซอนหัวเราะ

แต่พันธมิตรอันนองเลือดนั้นเริ่มจู่โจมแล้วในขณะที่ไร้ความกลัวและโบซอนกำลังโต้เถียงกันอยู่ มันเหมือนกับไร้ความกลัวนั้นมีความสามารถในการทำให้ผู้คนนั้นโกรธ แม้กระทั่งนักเวทย์และนักธนูของฝ่ายศัตรูก็ยังคงพุ่งไปด้านหน้าและหวังไว้ว่าที่จะจัดการเขาได้โดยอาวุธของพวกเขา

ไร้ความกลัวนั้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้เช่นหวังหยู่ หรือเขาจะมีอาชีพต่อสู้เหมือนกับโบซอน

ไร้ความกลัวนั้นหลบอยู่ด้านหลังโบซอนและให้เขาเป็นโล่กำบังป้องกันการโจมตีของพันธมิตรอันนองเลือด

อสุราอันนองเลือดนั้นรู้สึกมีความสุขมากเมื่อเขาเห็นหวังหยู่นั้นเมินไร้ความกลัว สุดท้ายแล้ว ใครกันที่จะยอมยกโอกาสในการฆ่าชายที่ปากมากขี้อวดแบบไร้ความกลัวกัน?

อสุราอันนองเลือดรู้สึกว่าเลือดของเขานั้นเย็นเฉียบ เมื่อเขาเห็นสมาชิกคนอื่นของพันธมิตรอันนองเลือดนั้นฟันดาบของพวกเขาใส่หวังหยู่

“เหี้...”

หัวใจของอสุราอันนองเลือดนั้นแทบจะจมมิดลง แล้วเขาก็หันกลับและเตรียมตัวที่จะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด

“อย่าสร้างปัญหาให้กับพวกนายเอง ผมจะไว้หน้าหัวหน้าพวกนายไว้บ้างและปล่อยปัญหานี้ไป ดังนั้นอย่าทำร้ายตัวเอง! มิฉะนั้นละก็ ผมก็จะไม่ไว้หน้าแล้ว!”หวังหยู่นั้นเตือนอย่างเคร่งเครียด เมื่อเขานั้นหลบการโจมตีที่เข้าใกล้มาหา

ทำไมหวังหยู่ถึงรวยมากกันในตอนนี้? เหตุผลมันง่ายมาก เนื่องจากธงสงครามอันนองเลือดนั้นให้เงินสองร้อยเหรียญทอง…. ดังนั้นแม้ว่าหวังหยู่จะไม่ชอบชายคนนั้นก็ตาม เขาก็ไม่ต้องการที่จะสร้างปัญหาให้กับกิลด์เขาด้วยเช่นกัน

ในช่วงเวลาที่พวกเขาพบกันครั้งสุดท้าย หวังหยู่และอสุราอันนองเลือดนั้นได้ตกลงกันแล้วว่าเขาจะไม่สร้างปัญหาให้กับพันธมิตรอันนองเลือด ดังนั้นตราบเท่าที่พวกเขาไม่สร้างปัญหาให้กับหวังหยู่ เขาก็จะไม่สร้างปัญหาให้กับพันธมิตรอันนองเลือดด้วยเช่นกัน...

“เหี้... ชายคนนี้แม่งบ้ากว่าคนนั้นอีก! พวกเราไม่สามารถที่จะโจมตีโดนเขาเลยสักการโจมตี!”

นักบวชนั้นพึ่งจะเรียกพวกเขาว่าเป็นขยะ แต่นักต่อสู้พูดกับเหมือนว่าเขาสามารถกวาดล้างพวกเขาตอนไหนก็ได้ตามที่เขาต้องการ!

มันยอมรับไม่ได้! การสบประมาทนี้ไม่มีใครในพวกเขาสามารถอดทนไว้ได้!

พันธมิตรอันนองเลือดพยายามอีกครั้งหนึ่ง

“อ๊า…”หวังหยู่ถอนหายใจแล้วเขาก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างฉับพลัน เมื่อเขานั้นทำลายแถวแรกของพวกนักโจมตี เขาจับไปที่มือด้านซ้ายของนักรบและบีบคอไปที่อัศวินที่อยู่ด้านขวาของเขา เขาดึงและผลัก เมื่อเขานั้นจับพวกมันมากระแทกกันอย่างรุนแรง

หวังหยู่ก็เหยียบไปที่ใบหน้าของผู้เล่นที่ล่วงหล่นกับพื้นอย่างไร้เมตตา ก่อนที่จะหันกลับไปได้อย่างลงตัว แล้วก็จับไปที่ข้อมือของผู้เล่นอีกคนหนึ่งแล้วก็ทุ่มลงพื้นแล้วหวังหยู่ก็ส่งลูกเตะไปอีกครั้งหนึ่ง

...

สไตล์การต่อสู้ของศิลปะการต่อสู้นี้เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ สิบแปดที่ล่วงหล่น....สไตล์ของศิลปะการต่อสู้นี้นั้นมุ่งเน้นไปที่ทำให้คู่ต่อสู้นั้นล้มลงกระแทกกับพื้น หวังหยู่นั้นได้นำสไตล์การต่อสู้นี้แสดงออกมาตั้งแต่วัยเด็ก ไม่ต้องพูดถึงกับคนธรรมดาทั่วไปเลย แม้กระทั่งผู้ที่เชี่ยวชาญกับการฝึกศิลปะการต่อสู้ก็ไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้ถึงสามรอบกับเขา

การโจมตีของหวังหยู่นั้นทั้งรวดเร็วและคาดการณ์ไม่ได้ ในขณะที่การเคลื่อนที่ของเขานั้นง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกการโจมตีของเขานั้นทำให้คู่ต่อสู้สองหรือสามคนล่วงหล่นลงกับพื้นก่อนที่พวกเขาจะล้มลงเข้าด้วยกัน

ในชั่วพริบตานั้น หวังหยู่นั้นก็มีผู้เล่นกองอยู่ด้านข้างเขาเหมือนกับภูเขาเอเวอเรสต์ ทุกคนนอกจากอสุราอันนองเลือดนั้นก็ถูกทุ่มลงกับพื้นแล้ว

“นายจะมาหรือไม่?”หวังหยู่วางมือของเขาไว้บนกองมนุษย์อย่างสบายๆเมื่อเขานั้นยั่วยุอสุราอันนองเลือด

“ไม่....ฉันไม่ไป…”อสุราอันนองเลือดนั้นส่ายหัวรัวๆ ใบหน้าของเขานั้นซีดขาว

“ดูเหมือนนายเป็นคนเดียวที่เข้าใจนะ! ฉันจะปล่อยเหตุการณ์นี้ไว้ด้านหลัง เนื่องจากเงินสองร้อยเหรียญทองที่ธงสงครามอันนองเลือดให้กับฉันมา แต่มันจะไม่มีครั้งต่อไป เข้าใจไหม?”

“ครับ….ครับ…”อสุราอันนองเลือดพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เขานั้นหวาดกลัวเกินอย่างมาก เมื่อเขาเห็นกองภูเขามนุษย์ที่หวังหยู่สร้างขึ้น

“พาเพื่อนพวกนายไป!”หวังหยู่เตะนักธนูที่อยู่ด้านบนยอดเขา และก็ทำให้สมาชิกที่เหลือของพันธมิตรอันนองเลือดล้มลงกับพื้น

ผู้เล่นทั้งหมดนั้นมีใบหน้าที่สับสน เมื่อพวกเขานั้นเหมือนกับตกอยู่ในฝันร้าย คุณสามารถที่จะพูดได้ว่าคนพวกนี้นั้นเข้าใจแล้วกับความเลวร้ายที่นกสวรรค์นั้นได้พบเจอมาก่อหน้านี้

สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมนิกายซวนเฉินถึงยังคงสามารถเดินเล่นไปทั่วทั้งเมืองได้อย่างสบายๆ แม้กระทั่งธงสงครามอันนองเลือดนั้นจะประณามพวกเขาว่าเป็นขยะไร้ประโยชน์ตลอดๆก็ตามที

เพียงแค่หลังจากหวังหยู่เดินออกไปซักระยะหนึ่ง สมาชิกของพันธมิตรอันนองเลือดนั้นก็ฟื้นสติได้

“พวกเราไม่พ่ายแพ้ ถ้าพวกเราไม่ปล่อยให้เขามาใกล้กับพวกเรา”นักธนูร้องโหยหวน

“ถ้าพวกเราร่ายสกิลแทนที่จะตีเขาโดยคทาของพวกเรานั้นละก็”นักเวทย์บ่น

“นั่นคือทำไมที่ฉันได้เคยบอกไว้ว่านิกายซวนเฉินนั้นไม่ได้เป็นคู่มือกับเรายังไงละ!”อสุราอันนองเลือดหัวเราะ

ทุกคนนั้นตกอยู่ในความเงียบงัน…คนพวกนี้นั้นเข้าใจแล้ว ไม่ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ใช่สำหรับการแก้ตัวกับความพ่ายแพ้ของพวกเขา พวกเขาก็พยายามที่จะรักษาใบหน้าของพวกเขา พวกเขาจะสามารถอดทนกับการที่ทำให้พวกเขานั้นดูเลวร้ายได้ยังไงกัน?

...

หวังหยู่เดินไปยังสถานที่ที่ว่างเปล่าที่ไม่มีมอนสเตอร์และหยุดแนะนำหลี่ซัวกับไร้ความกลัว

“หญิงสาวพวกนี้นั้นเป็นคนหาเงิน ผมจะแนะนำเธอให้...เธอถูกเรียกว่า หิมะกำมะหยี่”

“สวัสดี! ฉันชื่อว่าไร้ความกลัว เป็นหัวหน้ากิลด์นิกายซวนเฉิน!”ไร้ความกลัวพูดขึ้น

“พวกเรารู้จักคุณ! แน่นอนว่าพวกเรานั้นเคยได้ยินชื่อเสียงของนิกายซวนเฉินและชื่อเสียงของคุณมาก่อน!”เด็กสาวทั้งหลายหัวเราะคิกคัก

“ได้โปรดอย่าพูดเกินจริงไปเลย!”ไร้ความกลัวหัวเราะแล้วเขาก็ยังคงโอ้อวดเกี่ยวกับ ‘การผจญภัย’ ของเขาต่อไป

“เขาพูดเรื่องเหี้...อะไรอยู่?”หวังหยู่กระซิบกับโบซอน

“ใครจะไปรู้กัน...เขาเพียงแค่กำลังโม้เรื่องราวของเขาอีกครั้งหนึ่ง…”โบซอนตอบกลับ

“เหี้...”ความประทับใจของไร้ความกลัวกับหวังหยู่นั้นถึงจุดใหม่ที่อยู่ในระดับต่ำมาก เมื่อเขาเห็นไร้ความกลัวยังคงโอ้อวดเกี่ยวกับตัวเองอย่างหน้าด้านอีกครั้ง

“อ๊า…”โบซอนถอนหายใจแล้วเขาก็ส่ายหัว ชายคนนี้นี่มันไม่ไหวเลย

“พวกเธอยังคงคุยกันต่อไปได้ ผมจะกลับไปก่อนละกัน”หวังหยู่พูด เมื่อมองไปที่ใบหน้าของไร้ความกลัวที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ เมื่อเขาคุยกับหญิงสาว

“ทำไมละ? ทำไมพวกเราไม่เล่นด้วยกันก่อนละ?”ไร้ความกลัวพึมพำบ่นแล้วเขาก็ส่งข้อความส่วนตัวกับหวังหยู่ “นายนี่มันตาดีจริงๆ ฉันจะจะจ่ายค่าจ้างให้นายสองเท่าในเดือนหน้า!”เด็กสาวทั้งหลายนั้นคุ้นเคยกับหวังหยู่ ถ้าหวังหยู่จากไป พวกเธอก็จะจากไปด้วยเช่นกัน ไร้ความกลัวนั้นไม่มีความมั่นใจในการพูดคุยสนทนากันยาวนาน

“ผมจะต้องทำเควสให้สำเร็จ!”หวังหยู่หัวเราะแล้วเขาก็หันตัวกลับเตรียมที่จะจากไป

“จ่ายค่าจ้างสองเท่า? ตั้งแต่เมือไหร่กันที่กิลด์นั้นจ่ายเงินเดือนให้ผมกัน? ไม่สำคัญหรอกว่านายจะคูณมากเท่าไหร่กับศูนย์ มันก็ยังคงเป็นศูนย์อยู่ดี.... ไร้ความกลัวนี่หน้าด้านอย่างสุดซึ้งจริงๆ!”หวังหยู่หัวเราะกับตัวเอง เมื่อเขากลับไปยังเมือง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด