บทที่ 39: ภารกิจที่ไม่อาจขัดขืน
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
====================
บทที่ 39: ภารกิจที่ไม่อาจขัดขืน
แม้ว่าฉากความเลวร้ายทั้งหมดจะจบลงดั่งสวรรค์เมตตา แต่อันตรายที่มาพร้อมกับปัญหาเหล่านั้นทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมากมาย หากไม่มีระฆังทองแดงและไข่มุกอสนีวารีขั้วลบ หากมีปัจจัยใดขาดหายไป ความตายเท่านั้นที่เฝ้ารอเจ้าอ้วนอยู่ข้างหน้า ถึงแม้ว่าจะเอาชีวิตรอดมาได้ แต่ความรู้สึกในขณะอยู่ใต้น้ำก็มิได้สร้างความรื่นรมย์ใด ๆ แก่เจ้าอ้วน และเมื่อเขารู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดจากคนสารเลวผู้นี้ยิ่งทำให้เจ้าอ้วนรู้สึกผิดหวังซ้ำอีก
“นายท่านกำลังพูดเรื่องอันใดหรือ? เหตุใดข้าจึงไม่เข้าใจมัน?” พนักงานขายพยายามถามออกมาอย่างหวั่นเกรง
“หยุดกล่าวไร้สาระ! ในใจของเจ้ารู้ดีว่าข้าพูดถึงสิ่งใด!” เจ้าอ้วนตวาดออกมาอย่างรุนแรง
การตะโกนของเจ้าอ้วนทำให้ผู้คนที่สัญจรไปมาเริ่มสนใจ เมื่อพวกเขามองเห็นความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดจึงเกิดปรากฏการที่เรียกว่ามุงทันที เมื่อเจ้าของร้านขายยาเห็นดังนั้นเขารีบวิ่งออกมาทันที เขาไล่พนักงานขายออกไปก่อน พร้อมหยิบเงินส่วนตัวออกมาเพื่อจ่ายให้กับเจ้าอ้วนแล้วกล่าวว่า “ฮ่าฮ่า ท่านคือพี่ชายนักบวชลัทธิเต๋านั่นเอง บอกข้าถึงความผิดพลาดได้หรือไม่? หรือว่าพนักงานของข้ากระทำการสิ่งใดผิดหรือ?”
“เขาไม่เพียงแต่ทำให้ข้าถูกคุกคาม แต่เขายังทำให้ข้าผิดหวังอย่างมาก!” เจ้าอ้วนกัดฟันในขณะกล่าวออกไป
“อา” เขารู้ในทันทีว่ามีบางอย่างผิดพลาด แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขาก็เดาได้ในทันทีว่ามันต้องไม่ดีแน่ สำหรับเรื่องนั้น อาจกล่าวในที่สาธารณะไม่ได้เพราะจะทำให้ร้านค้านี่มีเสื่อมเสียชื่อเสียง และนั่นอาจนำพาไปถึงจุดจบ
เขารีบกล่าวออกมาด้วยความสุภาพทั้งหมดที่มี “พี่ชายลัทธิเต๋า สถานที่นี้ไม่เหมาะที่จะพูดคุย เหตุใดเราจึงไม่สนทนากันที่ห้องรับรองด้านในล่ะ?”
“ย่อมได้! ขอให้เราพูดคุยกันได้ด้วยดี ข้าไม่ต้องการสิ่งใดเพียงแค่ต้องการคำอธิบายเท่านั้น!” หลังจากพูดจบ เจ้าอ้วนได้เดินตามเจ้าของร้านเข้าไปด้านใน เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดน่าสนใจฝูงชนทั้งหลายก็เริ่มสลายตัว
ภายในห้องรับรองด้านใน ทั้งสองนั่งลงบนเก้าอี้รับแขก เจ้าของร้านชงชาเพื่อเอาใจเจ้าอ้วนพร้อมกล่าวว่า “พี่ชายลัทธิเต๋า ก่อนอื่นดื่มชานี่ก่อน อาจจะทำให้ท่านใจเย็นลงบ้าง ถ้าหากเกิดสิ่งใดผิดพลาดแน่นอนว่าข้าจะอธิบายมันอย่างเหมาะสม!”
“เป็นการดี ที่เจ้านั้นพูดจาตรงไปตรงมา งั้นข้าจะขอถามถึงเหตุผลของการกระทำ!” เจ้าอ้วนมิได้ดื่มด่ำกับชาที่เจ้าของร้านชงมาแต่อย่างใด เขาเริ่มซักถามทันที “ข้าขอถามได้หรือไม่ ว่าการซื้อขายที่ร้านค้าแห่งนี้คือเรื่องส่วนตัวของลูกค้า?”
“แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้น! ตามกฎแล้วเราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของลูกค้าอย่างมาก!” เจ้าของร้านตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา
“ฮ่า!” หลังจากได้ยินเช่นนั้น เจ้าอ้วนเผยยิ้มเย็นเยือกพร้อมกล่าวต่อ “เจ้าบอกว่ากระทำเช่นนั้นอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าร้านของเจ้าจะมิได้ปฏิบัติเช่นนั้น ใช่หรือไม่?”
“อา?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าของร้านเข้าสู่อาการสงบอย่างรวดเร็ว พร้อมถามต่อว่า “พี่ชายลัทธิเต๋าหมายถึงสิ่งใดหรือ?”
“ข้าหมายความว่าอะไรงั้นหรือ” เจ้าอ้วนหัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมกล่าวว่า “ร้านค้าของเจ้าเผยแพร่ทุกสิ่งที่ข้าซื้อ รวมทั้งจำนวนเงินที่ข้าจ่าย!”
“เป็นไปได้อย่างไร?” ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วพร้อมถามออกมาด้วยความรีบร้อน “พี่น้องลัทธิเต๋า ได้โปรดอย่าทำลายร้านของเราและแน่นอนว่าเราก็จะไม่ทำเช่นนั้น ความขุ่นเคืองกับลูกค้ารายใหญ่เช่นท่านนั้นไม่เป็นการดีเลย การเผยแพร่เรื่องดังกล่าวนั้นเป็นการทำลายชื่อเสียงของร้านเราอย่างแน่นอน ถ้าหากร้านของข้ากระทำการเช่นนั้น ในอนาคตจะมีผู้ใดเข้ามาใช้จ่ายล่ะ ท่านคิดเห็นเช่นกันหรือไม่ใช่?”
ประการแรกคือเหล่าผู้ฝึกตนนั้นต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างมาก เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ากำลังใช้ยาอายุวัฒนะตัวไหนอยู่ มันคือความลับของผู้ฝึกตน อีกอย่างคือกลัวว่าผู้คนจะมองการกินยาอายุวัฒนะที่มากขนาดนั้นมันน่าสมเพชมากเกินไปจนทำให้รับความเหยียดหยามจากผู้อื่น ดังนั้นถ้าผู้ใดรู้ว่าร้านค้าแห่งนี้ไม่เก็บความลับของลูกค้า แน่นอนว่ามันต้องส่งผลกระทบมหาศาล
ดั่งคำกล่าวที่ว่า ‘ไร้ซึ่งจรรยาบรรณในวิชาชีพ มันเหล่านั้นย่อมต้องฉิบหายด้วยตนเองในสักวัน’ ถ้าหากเจ้าอ้วนประกาศเรื่องเช่นนี้ออกไป แน่นอนว่ามันจะกระจายอย่างรวดเร็วภายในนครเวหา จุดจบของร้านนี้คงมาถึงโดยเร็ว นี่คือสิ่งที่เจ้าของร้านเป็นกังวล
“เหอะ เจ้ายังมีหน้ามาพูดเช่นนี้อีกหรือ!” เจ้าอ้วนแผดเสียงลั่น “ไปถามพนักงานขายของเจ้า ในตอนที่ข้าก้าวขาออกจากร้านนี้ มันรับสินบนและขายข้อมูลของข้าทันที! เจ้ารู้หรือไม่ว่าปัญหาที่ลูกน้องของเจ้าสร้างมันมหาศาลแค่ไหน? ข้าเกือบถูกพรากชีวิตไปจากบุคคลที่เรียกข้าว่า ‘ลูกค้ารายใหญ่’?”
ใบหน้าเจ้าของร้านเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันทีเมื่อถูกดุด่าโดยเจ้าอ้วน เขาตอบกลับทันที “พี่ชายลัทธิเต๋า ก่อนอื่นท่านควรดื่มชานี่ก่อน มันจะทำให้ใจเย็นลง ข้าจะกลับมาที่นี่อย่างเร็วที่สุด!” หลังจากกล่าวจบ เขารีบร้อนออกไปสอบถามพนักงานขายทันที
ผ่านไปชั่วครู่ มีเสียงกรีดร้องพร้อมกับเสียงร้องไห้ดังออกมาเพื่อร้องขอความเมตตา จากนั้นเจ้าของร้านกลับมาพร้อมใบหน้าชุ่มเหงื่อ เขาโค้งคำนับให้เจ้าอ้วนพร้อมยอมรับความผิด “ข้าสั่งสอนลูกน้องของข้าไม่ดีเอง และไม่มีสิ่งใดจะแก้ตัวทั้งสิ้น! ข้าผิดเอง ในครั้งนี้เป็นความผิดของทางเราอย่างแท้จริง!”
“เพียงแค่เจ้ารู้สึกผิดมันเพียงพอแล้วหรือ?” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างเย็นชา
“แน่นอนว่ามันไม่เพียงพอ ท่านมิต้องกังวล ข้าทำให้มันกลายเป็นคนพิการไม่สามารถฝึกตนได้ตลอดชีวิตพร้อมไล่มันออกไปจากร้านนี้แล้ว มันได้กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาโดยสมบูรณ์เป็นบุคคลไร้พรสวรรค์ นอกจากนั้นเรื่องราวเหล่านี้ยังได้สอนบทเรียนให้แก่มันอย่างสาสม!” เจ้าของร้านกล่าวอย่างรวดเร็ว
“เหอะ!” เจ้าอ้วนแสดงใบหน้าเรียบเฉยและไม่กล่าวสิ่งใดต่อ เห็นได้ชัดว่าเขายังคงไม่พอใจเพราะสิ่งที่มันทำนั้นสร้างปัญหามากมายแก่เขา จะให้เขายินดีกับการลงโทษนี้เพียงแค่ร้านแห่งนี้ยอดขายคงลดลงเล็กน้อยเมื่อไล่มันออกไปใช่หรือไม่? ไม่มีทาง!
เจ้าของร้านที่ยืนมองเจ้าอ้วนอยู่นั้นคิดว่าเขาจะยอมแพ้และจากไป แต่ถ้าหากเขายังไม่พอใจอีก แน่นอนว่าเจ้าอ้วนคิดทำลายชื่อเสียงของร้านนี้อย่างแน่นอน ซึ่งหมายความว่าเขาก็คงทำสิ่งใดไม่ได้อีกแล้ว เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะยื่นข้อเสนอให้แก่เจ้าอ้วนอีกครั้ง เขากำมือแน่นพร้อมกล่าวขออภัยออกไปอีกครั้ง “พี่ชายลัทธิเต๋า หากเป็นเช่นนี้ท่านคิดเห็นอย่างไร ในอนาคตหากท่านมาซื้อยาอายุวัฒนะในร้านของข้า ข้าจะมอบส่วนลดให้ท่านสองในสิบ”
“ฮ่าฮ่า” เจ้าอ้วนหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้ความ เขาสับสนว่าควรจะทำหน้าเช่นไร “สถานการณ์ในตอนนี้เป็นเช่นไรงั้นหรือ เหตุใดท่านยังคิดมองหากำไรอยู่ล่ะ?”
“เอ่อ ข้าหวังว่าท่านจะใจกว้างและให้คำแนะนำว่าข้าควรทำเช่นไร” เจ้าของร้านยิ้มออกมาด้วยแววตาขออภัยพร้อมกล่าวต่อ “ข้าก็ถูกหลอกเช่นกัน ทั้งหมดนี้เกิดจากพนักงานที่โลภมากผู้นั้น ข้าต้องมารับเคราะห์ในครั้งนี้ด้วยกันกับมัน ท่านจะไม่เห็นอกเห็นใจข้าบ้างหรือ?”
“อืม ถูกของเจ้า!” เจ้าอ้วนคิดว่าเขาเข้าใจความรู้สึกนั้นดี จึงพยักหน้าออกไปพร้อมกล่าวต่อ “ตกลง ลดราคาให้ข้าสองในสิบใช่หรือไม่? เอาล่ะ เราตกลงกันเช่นนี้!”
“ขอบคุณมากพี่ชาย ขอบคุณ!” หลังจากเจ้าอ้วนตอบตกลง ชายเจ้าของร้านรีบกล่าวขอบคุณอย่างร่าเริง
เจ้าอ้วนโบกมืออย่างสบายๆให้กับเขาพร้อมกล่าวต่อว่า “พอเถิด พอแล้ว เลิกขอบคุณข้าเสียที ข้ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการต่อ ข้าต้องการยาอายุวัฒนะมากมาย รบกวนท่านเตรียมมันให้ข้า นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการ!” หลังจากพูดจบ เจ้าอ้วนยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งเขียนรายการต่าง ๆ ไว้
“เชื่อมือข้าได้เลย!” เจ้าของร้านกล่าวพร้อมกับตบหน้าอกตัวเองเป็นการสัญญา จากนั้นเขาจึงเอื้อมมือไปหยิบรายการต่าง ๆ พร้อมกับมองดูมันคร่าว ๆ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนทันทีพร้อมกล่าวออกมาอย่างโศกเศร้า “ท่านเอาจริงหรือ? พี่ชายลัทธิเต๋า เหตุใดท่านจึงต้องการมันจำนวนมากเช่นนี้? ราคาของมันทั้งหมดนี้คือหินจิตวิญญาณนับแสนก้อน!”
ในทุกวันที่เขาฝึกฝน เขาใช้ยาเป็นจำนวนมาก ราคาของมันทัดเทียมหินจิตวิญญาณหนึ่งร้อยก้อนต่อวัน เมื่อก่อนเจ้าอ้วนจะซื้อยาหนึ่งครั้งในรอบสองถึงสามเดือน ราคาที่เขาจ่ายออกไปอยู่ที่หินจิตวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อนต่อครั้ง แต่ในตอนนี้เขากำลังจะเดินทางไกลถึงสามปี แน่นอนว่าเขาต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ดังนั้นยาจำนวนมากเช่นนี้ ราคาก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว ถ้าเขาได้รับส่วนลดสองในสิบแปลว่าเจ้าอ้วนจะได้กำไรจากการซื้อขายครั้งนี้ ดังนั้นเจ้าอ้วนจึงยอมรับข้อเสนอจากเจ้าของร้านอย่างง่ายดาย
และแน่นอนว่าแม้จะมีส่วนลดถึงสองในสิบ เจ้าของร้านก็มิได้สูญเสียมากนักแต่ท่าทีที่เขาแสดงออกมาเหมือนกับว่าเขากำลังสูญเสียมากเท่านั้นเอง
“เฮ้ นี่เป็นเพราะความใจกว้างของเจ้าที่มอบส่วนลดสองในสิบให้กับข้า แน่นอนว่าข้าจะซื้อเพิ่มอีกนิดหน่อย!” เจ้าอ้วนหัวเราะพร้อมกล่าวต่อ “อย่าบอกข้าว่าท่านคิดปฏิเสธสิ่งที่เราได้ตกลงกันเมื่อครู่นี้?”
“ฮ่าฮ่า อย่าได้ล้อเล่นแล้ว!” เจ้าของร้านหัวเราะออกมาอย่างกล้ำกลืนพร้อมกล่าวต่อ “พี่ชาย ข้านั้นรักษาสัจจะยิ่งกว่าสิ่งใดจึงดูแลการค้ามาได้จวบทุกวันนี้ เอาล่ะ ข้าจะไปเตรียมของให้ท่าน” หลังจากกล่าวจบ เขาหันหลังพร้อมรีบเดินเข้าไปด้านในเพราะเกรงว่าหากเขาดำเนินการชักช้าไปกว่านี้ เขาจะจับเจ้าก้อนไขมันที่กำลังแสแสร้งว่าไร้เดียงสานี้โยนออกไปข้างนอก