เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 192 แฝดกระเรียนแห่งความเที่ยงธรรม
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 192 แฝดกระเรียนแห่งความเที่ยงธรรม
"ข้าพบที่นี่ได้อย่างไรงั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า" ชายชราคิ้วขาวหัวเราะเสียงดังอย่างตลกขบขันก่อนจะแบมือแสดงวิญญาณดวงหนึ่งออกมา
มันคือวิญญาณสายโลหิต!
วิญญาณสายโลหิตอยู่ในรูปลักษณ์ของกระเรียนสีแดงสดใสที่ไม่ต่างจากคริสตัลและมันก็หันหน้าไปทางผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกตลอดเวลา
"แม้พี่ใหญ่จะหักหลังและขโมยโอกาสของข้า แต่มันก็ทำให้ข้าได้เรียนรู้บางสิ่งและทำให้ข้าสามารถหลอมสร้างวิญญาณสายโลหิต ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าสร้างมันขึ้นมาอย่างไร ฮ่าฮ่า ด้วยการใช้เลือดจากหัวใจของบุตรชายสองคนของท่าน ในเวลานั้นพวกเขาอายุเพียงห้าหรือหกขวบ ช่างเยาว์วัยนัก ดังนั้นข้าจึงต้องค่อยๆนำเลือดจากหัวใจที่ทุกข์ทรมานของพวกเขาออกมาทีละเล็กทีละน้อยจนครบสิบปีข้าจึงสามารถหลอมสร้างวิญญาณดวงนี้ได้ในที่สุด" ชายชราคิ้วขาวกล่าว
"โอ้ บุตรชายทั้งสองของท่านเสียชีวิตทันทีหลังจากนั้น ฮ่าฮ่าฮ่า แต่กระทั่งวิญญาณสายโลหิตก็ยังต้องใช้เวลาหลายปีในการตามหาท่านเพราะโลกใบนี้กว้างใหญ่เกินไป ข้าต้องใช้วิญญาณผนึกความตายเพื่อมาพบท่านในเวลานี้ พี่ใหญ่ ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้ามีความสุขและตื่นเต้นมากเพียงใด?"
"สำหรับไท่เซี่ยเล้ง ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเป็นคนส่งจดหมายชักนำเขามาที่นี่ แต่เมื่อเห็นเขา มันทำให้ข้าคิดไปถึงความสัมพันธ์ของเราในอดีต เวลานั้นพวกเราเป็นศิษย์ของนิกายฝ่ายธรรมะและไล่ล่าผู้ใช้วิญญาณปีศาจไปพร้อมกัน พวกเราถูกเรียกว่า แฝดกระเรียนแห่งความเที่ยงธรรม ชีวิตของพวกเราเต็มไปด้วยความรุ่งโรจน์และความภาคภูมิใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด" ชายชราคิ้วขาวกล่าวและแสดงออกให้เห็นว่ากำลังหวนคิดถึงอดีต
การแสดงออกของเขาสงบนิ่ง น้ำเสียงอ่อนโยน แต่ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าใด จิตสังหารในดวงตาของเขาก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น
ชายชราคิ้วขาวมาจากดินแดนภาคกลางและเป็นที่รู้จักกันในนามของ จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์
เขาใช้วิญญาณผู้พิทักษ์กระเรียนควบคุมราชันกระเรียนเพื่อหยิบยืมพลังอำนาจของฝูงกระเรียนปีกเหล็กเป็นกองกำลังส่วนตัว
ด้วยพลังอำนาจชนิดนี้ เขาสามารถทำลายล้างหมู่บ้านใหญ่น้อยได้อย่างง่ายดาย
จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์และผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกมาจากนิกายกระเรียนอมตะของดินแดนทางภาคกลาง หลายร้อยปีก่อน พวกเขาเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องที่ใกล้ชิดยิ่งกว่าพี่น้องร่วมสายเลือด พวกเขาร่วมมือกันสังหารผู้ใช้วิญญาณปีศาจไปมากมายและสามารถทำงานประสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในความพยายามไล่ล่าสังหารผู้ใช้วิญญาณปีศาจผู้หนึ่ง พวกเขาบังเอิญพบด่านทดสอบรับสืบทอดมรดกเลือดและมันยังเป็นมรดกชิ้นสำคัญของบรรพชนบ่อเลือดอีกด้วย มันอาจทำให้คนผู้หนึ่งกลายเป็นผู้อมตะและสามารถก้าวเข้าสู่โลกเบื้องสูง ดังนั้นความสัมพันธ์พี่น้องจึงเริ่มแตกหัก
ตำนานกล่าวว่าบรรพชนบ่อเลือดทิ้งด่านรับสืบทอดมรดกเอาไว้มากมาย แต่มีเพียงไม่กี่แห่งที่เป็นมรดกที่แท้จริงและคู่พี่น้องก็พบมรดกชิ้นนี้
แต่เป็นจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ที่สามารถครอบครองมรดกเลือด อย่างไรก็ตามผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกกลับหักหลังโดยการใช้วิญญาณหัวขโมยดึงวิญญาณของเขาไปก่อนจะพยายามสังหาร สุดท้ายแผนสังหารของเขากลับไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นเขาจึงได้หลบหนีมา
หลังจากเรื่องทั้งหมดถูกเปิดเผย ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกจึงได้ปิดบังตัวตนเพื่อป้องกันการไล่ล่าจากนิกายของเขา หลายสิบปีผ่านไป เมื่อเขาไม่สามารถตามหาวิญญาณอายุยืน เขาจึงเดินทางมายังภูเขาชิงเหมาและก่อตั้งตระกูลแสงจันทร์ขึ้นในที่สุด
จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ไม่สามารถปลดปล่อยความโกรธแค้น เขาจึงต้องใช้วิญญาณผนึกความตายเพื่อให้ตนเองสามารถมีชีวิตและตามหาผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกมาจนถึงวันนี้
วิญญาณผนึกความตายเป็นวิญญาณชนิดพิเศษที่มีความสามารถคล้ายกับวิญญาณผีดิบดูดเลือดของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก มันเป็นวิญญาณนอกรีตและเป็นมาตรการสำหรับคนสิ้นหวังเท่านั้น
วิญญาณผีดิบดูดเลือดจะเปลี่ยนผู้ใช้วิญญาณให้เป็นผีดิบ ขณะที่วิญญาณผนึกความตายจะทำให้ชีวิตของผู้ใช้วิญญาณหยุดอยู่หน้าประตูแห่งความตายโดยที่อายุของเขาจะไม่เพิ่มขึ้น
มีเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้คนผู้หนึ่งสามารถเพิ่มอายุขัยของพวกเขา นั่นก็คือวิญญาณอายุยืนที่ฟางหยวนเคยใช้ในชีวิตก่อนหน้า นี่เป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด สำหรับวิธีการอื่น มันล้วนมีข้อเสียและไม่ได้รับการยอมรับจากสวรรค์พิภพ
"พี่ใหญ่ ท่านเป็นศิษย์ที่สร้างความเสื่อมเสียและต้องได้รับการลงโทษ! ในช่วงเวลาที่ท่านหักหลังข้า ท่านเคยคิดถึงผลกรรมในวันนี้บ้างหรือไม่? ฮ่าฮ่าฮ่า แต่สวรรค์ยังไม่ทอดทิ้งข้าและทำให้ข้าได้พบท่านอีกครั้ง วันนี้ไม่เพียงข้าจะกำจัดสายเลือดและทำลายรากฐานนับพันปีของท่าน ข้ายังจะนำโอกาสของข้ากลับคืนมาอีกด้วย ข้ารอคอยวันนี้มานานแล้ว...นานเกินไปแล้ว!"
หลังจากกล่าวจบคำ ชายชราคิ้วขาวจึงถอนหายใจยาวก่อนจะระเบิดจิตสังหารอันเข้มข้นออกมา
แต่ก่อนที่เขาจะเริ่มโจมตี เป็นผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกที่รวดเร็วกว่า
น้ำพุเลือดส่งกลิ่นอายที่น่าสยดสยองไปทั่ว ขณะที่ฝูงมัจจุราชสีเลือดนับหมื่นบินออกมาอย่างกะทันหัน
เสียงกระพือปีกดังขึ้นเมื่อค้างคาวโลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนทะยานขึ้สู่ท้องฟ้าเพื่อกำจัดฝูงกระเรียน
กระเรียนร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าราวกับสายฝน
มัจจุราชสีเลือดและค้างคาวโลหิตมีร่างกายขนาดเล็กกว่ากระเรียนปีกเหล็ก ดังนั้นพวกมันจึงเป็นฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้
จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์คำรามเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยวและบังคับราชันกระเรียนพุ่งเข้าโจมตีผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกอย่างบ้าคลั่ง
"หลบเร็วเข้า!" กลุ่มผู้ใช้วิญญาณเริ่มกรีดร้อง
เสียงคำรามของสายลมที่เกิดจากราชาหมื่นอสูรทำให้ทุกคนตกใจกลัว
ทันใดนั้น อสรพิษบ่อเลือดกลับทะยานร่างขึ้นมาจากบ่อเลือด มันใช้เขี้ยวกัดลำคอของราชันกระเรียนและพยายามดึงราชาหมื่นอสูรให้ตกลงไปในบ่อเลือด
จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ก่นเสียงเย็นเย้ยหยัน เขารู้จักอสรพิษบ่อเลือดและรู้ว่าเลือดจะทำให้มันฟื้นตัว ดังนั้นเขาจึงต้องทำให้มันออกห่างจากบ่อเลือดให้มากที่สุด
เพียงหนึ่งความคิด ราชันกระเรียนใช้กรงเล็บของมันคว้าร่างของอสรพิษบ่อเลือดขณะเดียวกันก็กระพือปีกขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างบ้าคลั่ง หลังจากต่อสู้กับไท่เซี่ยเล้ง อาการบาดเจ็บที่สะสมอยู่ในร่างกายของอสรพิษบ่อเลือดทำให้พลังของมันลดลงอย่างมาก ดังนั้นมันจึงถูกดึงขึ้นสู่อากาศและออกห่างจากหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลมากขึ้นเรื่อยๆ
"มอบชีวิตของเจ้ามา!" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์คำรามเสียงดังพร้อมกับเปลี่ยนตนเองเป็นลำแสงสีขาวพุ่งตรงไปยังผีดิบที่อยู่ในโลง
ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกก้าวเท้าออกมาพร้อมกับสะบัดปีกสีดำขึ้นบนแผ่นหลัง
วิญญาณประเภทผีดิบเป็นวิญญาณที่ได้รับความนิยมในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณระดับสอง ผีดิบเร่ร่อน วิญญาณระดับสาม ผีดิบอำพราง วิญญาณระดับสี่ ผีดิบกระโดด และวิญญาณระดับห้า ผีดิบดูดเลือด อย่างไรก็ตามวิญญาณผีดิบดูดเลือดมีความสามารถพิเศษคือการบิน
เปลวไฟสีแดงลุกไหม้ขึ้นในเบ้าตาสีดำของผีดิบขณะที่เขาทะยานร่างขึ้นสู่ท้องฟ้าและปะทะกับจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์
ทั้งสองมีพลังอำนาจที่เท่าเทียม ดังนั้นหลังการต่อสูุ้ทุกช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาจะล่าถอยออกมาเพื่อฟื้นพลังก่อนจะพุ่งเข้าปะทะกันอีกครั้ง
"บึม บึม บึม บึม..."
ร่างของทั้งสองพุ่งชนกันกลางอากาศอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบจากการต่อสู้ระหว่างผู้ใช้วิญญาณระดับห้าทำให้บ้านเรือนพังพินาศลงอย่างไม่หยุดหย่อน
หลังจากชั่วครู่ ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกกลับคำรามเสียงดังพร้อมกับระเบิดแสงสีแดงขึ้นบนร่างกายราวกับชุดเกราะเลือดและมันก็ทำให้เขากลายเป็นดุร้ายมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ดวงตาของจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ส่องประกายก่อนจะส่งกระบี่บินพุ่งเข้าทำลายเกราะแสงของฝ่ายตรงข้ามลงทันที
ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกพ่นหมอกสีเลือดออกมาจากปาก ขณะที่จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์กระตุ้นใช้งานวิญญาณสร้างเกราะแสงเพื่อปิดกั้นการล่วงล้ำของหมอกสีเลือด
อย่างไรก็ตามด้วยร่างกายที่ชราภาพของจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ มันทำให้ความแข็งแกร่งของเขาลดลงเรื่อยๆและทำให้เขาเริ่มตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก
"หลายร้อยปีผ่านมา เจ้ากลับไม่พัฒนาขึ้นแม้แต่น้อย!" ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเย้ยหยัน
"ปีศาจสารเลว!" จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์กลายเป็นโกรธจัด เขาไม่คาดคิดว่าผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
ในความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นมัจจุราชสีเลือดหรือค้างคาวโลหิต พวกมันควรเป็นของเขา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้มันก็ยิ่งทำให้จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์โกรธแค้นมากขึ้นไปอีก
'ฮืม ดูเหมือนจะถึงเวลาที่ข้าต้องใช้ไพ่ตายแล้ว' จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ลอบเย้ยหยันอยู่ในใจก่อนที่คิ้วสีขาวของเขาจะเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง
มันยืดยาวออกไปมากกว่าสิบเมตร หนึ่งซ้ายและหนึ่งขวาที่เคลื่อนไหวราวกับอสรพิษ จากนั้นพวกมันจึงพุ่งเข้ารัดพันร่างกายของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเอาไว้อย่างแน่นหนา
ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกพยายามให้กรงเล็บฉีกกระชากมันแต่คิ้วสองเส้นของฝ่ายตรงข้ามกลับทั้งแข็งและอ่อนในเวลาเดียวกัน เขาจึงไม่สามารถหลุดรอดไปจากการจับกุม
"มันคือวิญญาณคิ้วดูดวิญญาณ!" เสียงของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเต็มไปด้วยความตกใจและขุ่นเคือง
วิญญาณคิ้วดูดวิญญาณไม่ใช่วิญญาณทั่วไป เพราะมันจะดูดกลืนพลังวิญญาณจากผู้กระตุ้นใช้งานและเป้าหมายไปพร้อมกัน มันเป็นวิญญาณที่ผู้ใช้วิญญาณระดับสูงมักจะใช้ข่มขู่ผู้ที่อ่อนแอกว่า กล่าวได้ว่ามันเป็นการนับถอยหลังสู่ความตายของผู้ที่มีพลังวิญญาณน้อยกว่านั่นเอง
แต่สถานการณ์นี้แตกต่างออกไปเล็กน้อย
แม้จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์และผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกจะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าขั้นสุดยอดเช่นเดียวกัน แต่ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกเป็นผีดิบที่ทะเลวิญญาณได้ตายไปแล้ว เขาไม่สามารถกู้คืนพลังวิญญาณได้ตามธรรมชาติ ตรงข้ามกับจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ แม้เขาจะแก่ แต่ทะเลวิญญาณของเขายังเต็มไปด้วยชีวิตและสามารถกู้คืนพลังวิญญาณได้ด้วยตัวมันเอง นี่คือจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรก
ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกพยายามล่าถอยออกไปอย่างเต็มกำลัง แต่คิ้วสีขาวกลับสามารถยืดยาวออกไปได้ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ขณะเดียวกันจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ก็พยายามไล่ล่าเขาตลอดเวลา
ผู้นำตระกูลแสงจันทร์คำรามเสียงดังและเรียกมัจจุราชสีเลือดกับค้างคาวโลหิตให้กลับมาช่วยทำลายคิ้วสีขาว อย่างไรก็ตามมันยังไร้ประโยชน์ คิ้วสีขาวแข็งแกร่งมาก กระทั่งมันจะขาดไปบ้าง แต่มันก็ยังฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
พลังวิญญาณของเขาลดลงอย่างต่อเนื่อง หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ด้วยความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ มันบีบคั้นให้เขาคิดหาทางออก ดังนั้นเวลานี้เขาจึงออกคำสั่งให้มัจจุราชสีเลือดกับค้างคาวโลหิตพุ่งเข้าโจมตีจักรพรรดิกระเรียนสวรรค์โดยตรง
ในสถานการณ์ดังกล่าว จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์จึงทำได้เพียงกระตุ้นใช้งานเกราะแสงเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น
อย่างไรก็ตามด้วยการโจมตีอย่างต่อเนื่องทำให้สถานการณ์ของเขาไม่ดีนัก
สุดท้ายก่อนที่พลังวิญญาณของผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกจะหมดลง เกราะแสงกลับแตกสลาย ขณะที่จักรพรรดิกระเรียนสวรรค์ถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงโดยผู้นำตระกูลแสงจันทร์