บทที่ 38: รับรางวัลอย่างสมน้ำสมเนื้อ
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
====================
บทที่ 38: รับรางวัลอย่างสมน้ำสมเนื้อ
ทางด้านเจ้าอ้วนและเจ้าลิงก็ยังได้รับผลตอบแทนที่เป็นเลิศ สิ่งแรกคือหอคุมกฎให้ความสนใจพวกเขาอย่างมากพร้อมกับให้เข้าเป็นศิษย์ผู้พิทักษ์ทันทีพร้อมทำหน้าที่ดูแลเหล่าศิษย์นอก ตำแหน่งศิษย์ผู้พิทักษ์มักจะถูกเตรียมไว้สำหรับศิษย์ที่มีฝีมือยอดเยี่ยม มีสิทธิประโยชน์มากมายมาพร้อมตำแหน่งนี้และที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัย ศิษย์ผู้พิทักษ์เป็นตัวแทนแห่งอำนาจในนิกาย พวกเขาทั้งหมดจะถือครองหยกยันต์ลึกลับ หากมีใครที่กล้าหาญพอจะมาแตะต้องพวกเขา เรื่องราวจะใหญ่โตไปจนถึงหูของนิกายพร้อมกับสั่งการให้สืบสวนผู้นั้นทันที ดังนั้นเมื่อได้เข้าเป็นศิษย์ผู้พิทักษ์แล้วคงไม่มีใครหาญกล้ามากระตุกหนวดของเจ้าอ้วนและเจ้าลิง ในบรรดาของเหล่าศิษย์นอก เขาทั้งสองสามารถเดินออกไปได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด
นอกจากนั้นเขายังได้รับรางวัลพิเศษเป็นหินจิตวิญญาณและยาอายุวัฒนะจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังสามารถเลือกเคล็ดวิชาการฝึกตนแห่งเต๋าในหอพระคัมภีร์ได้สามเล่ม น่าเสียดายที่เจ้าอ้วนเข้าไปค้นหาสิ่งที่เขาต้องการแต่เขากลับไม่พบมัน เวทมนตร์สายฟ้านั้นมิได้อยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่าระดับของมันจะสูงกว่านี้และไม่ง่ายเลยที่จะค้นหา
แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดได้รับหินจิตวิญญาณพร้อมอุปกรณ์วิเศษมากมาย ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดโลภมากอีกแล้ว แต่ละคนได้รับหินจิตวิญญาณคนละหนึ่งหมื่นก้อนพร้อมกับอุปกรณ์วิเศษระดับสาม สี่ ห้าและดาบบิน เจ้าอ้วนทำการมอบดาบบินที่มีความเร็วถึงหนึ่งพันสองร้อยและเครื่องมือต่าง ๆ ให้กับเจ้าลิง นับตั้งแต่ที่เขาครอบครองเวทมนตร์สายฟ้าและระฆังยักษ์ เขามิได้เหลือความสนใจให้กับอุปกรณ์วิเศษเหล่านี้อีกเลย
หลังจากที่เจ้าลิงได้รับอุปกรณ์วิเศษทั้งห้าชิ้นแล้ว ปืนเล็กที่เคยมีก็เปลี่ยนเป็นปืนใหญ่ ทำให้เขารู้สึกยินดีกับมันอย่างยิ่ง เจ้าลิงและเจ้าอ้วนไม่ได้หลบซ่อนอีกต่อไป เขาเดินออกไปในทุกแห่งอย่างอิสระ เหล่าบรรดาศิษย์นอกที่เคยโอหังไว้เมื่อกาลก่อนในตอนนี้กลับต้องระวังตนเป็นพิเศษเพราะเกรงว่าเจ้าอ้วนจะนำเรื่องเก่าไปบอกกล่าวกับหอคุมกฎถึงปัญหา ซึ่งพวกเขายังไม่ต้องการความดูแลจากหอคุมกฎไม่ว่ากรณีใด
ตอนนี้ช่วงชีวิตของเจ้าอ้วนนั่นเปี่ยมไปด้วยความสุข แต่อย่างที่กล่าวไว้ว่า ที่ใดมีสุขที่นั่นมีทุกข์ วันเวลาอันหอมหวานอยู่กับเขาเพียงไม่นาน เขาได้รับสารจากหอคุมกฎถึงภารกิจบังคับ
เหตุผลง่าย ๆ คือภารกิจบังคับนั้นถูกส่งตรงมาจากนิกาย อีกทั้งในสามปีที่ผ่านเขาได้เข้าเป็นศิษย์นอกแต่กลับมิได้ทำภารกิจใดแม้แต่ครั้งเดียว เหตุผลที่นิกายรับศิษย์นอกจำนวนมากก็เพื่อมาช่วยภารกิจต่าง ๆ ภายใน เพื่อเป็นการช่วยเหล่าศิษย์ในจะได้มีเวลาฝึกฝนมากขึ้น
หากว่าเหล่าศิษย์นอกมิได้เข้ารับภารกิจจากนิกาย แต่กลับได้รับของจากนิกายทุกเดือนนั่นแปลว่านิกายกำลังเสียเปรียบ ดังนั้นนิกายจึงออกกฎมาเพื่อกำจัดเหล่าสาวกพวกนั้น กฎมีอยู่ว่าศิษย์นอกผู้ใดไม่รับภารกิจจากนิกายเป็นระยะเวลานานเกินสามปี นิกายจะส่งภารกิจบังคับให้แก่พวกเขา ซึ่งเป็นปกติที่เบื้องบนจะส่งภารกิจที่ไม่มีใครต้องการหรือว่าไม่มีผู้ใดทำสำเร็จมาให้
แม้ว่าเจ้าอ้วนจะได้เข้าเป็นศิษย์ผู้พิทักษ์แต่ความจริงที่เขาเป็นศิษย์นอกยังไม่เปลี่ยน และการที่เขามีส่วนร่วมกับหอคุมกฎก็ไม่อาจขัดคำสั่งของนิกายได้ ดังนั้นเขาจึงต้องยอมรับภารกิจนั้นอย่างไม่มีทางเลือก ภารกิจที่เขาได้รับก็คือการเฝ้าระวังวัดในสำนักเสวียนเทียนซึ่งมันตั้งอยู่ใกล้กับเมืองหลานเย่ว์ ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นหลานเย่ว์
แคว้นหลานเย่ว์เป็นเมืองขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับเทือกเขาอันกว้างใหญ่ไพศาล มีประชากรอาศัยอยู่นับล้านทั้งยังมีอาณาเขตกว้างกว่าหนึ่งหมื่นลี้ ว่ากันว่าราชาของแคว้นหลานเย่ว์นั้นมีพันธะทางสายเลือดกับผู้อาวุโสสูงสุดในสำนักเสวียนเทียน ดังนั้นราชวงศ์หลานเย่ว์จึงให้เกียรติกับสำนักเสวียนเทียนอย่างมาก พร้อมทั้งสร้างวัดของสำนักเสวียนเทียนไว้ในพื้นที่รอบนอกของเมืองหลวง ซึ่งมีตำนานสร้างการเล่าขานมานับพันปี อาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่ทำให้แคว้นหลานเย่ว์เจริญรุ่งเรืองได้เป็นเพราะว่าสำนักเสวียนเทียนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
เหตุผลที่สำนักเสวียนเทียนออกไปสนับสนุนโลกภายนอกเป็นเพราะต้องการเสริมกำลังขุมอำนาจใหม่ เหล่าพลังของผู้คนในแคว้นใหญ่เป็นดั่งทะเล จึงสามารถรวบรวมเหล่าผู้มีพรสวรรค์ได้ไม่ยากเย็นนัก นอกจากนี้ผู้คนในสำนักเสวียนเทียนเป็นนักบุญที่ไม่ต้องแสวงหาเครื่องดื่มหรืออาหารเพื่อประทังชีวิตอีกด้วย แต่เหล่าศิษย์ระดับต่ำยังคงต้องการกินอาหาร สวมเสื้อผ้า และของใช้ในชีวิตประจำวันอื่น ๆ นี่คือเหตุผลที่ทำไมจึงไม่สามารถแยกตัวออกจากแคว้นใหญ่ได้ แน่นอนว่าสำนักเสวียนเทียนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในหลายแคว้น แต่ทว่าแคว้นหลานเย่ว์คือแคว้นที่ใหญ่ที่สุด
ในแคว้นหลานเย่ว์ มีวัดของสำนักเสวียนเทียนตั้งอยู่พร้อมกับผู้มีพลังระดับปฐมภูมิคอยตรวจตราเฝ้าระวังตลอดปี แต่ว่าเป้าหมายหลักของพวกเขาคือฝึกตนอยู่ที่แห่งนั้นมิได้สนใจเหล่าปุถุชนธรรมดานัก ดังนั้นวัดจึงต้องการศิษย์ระดับเซียนเทียนเพื่อจัดการงานฌาปนกิจของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ นอกจากนั้นยังมีเหล่านิกายจากพื้นที่อื่นเข้ามาก่อกวนอยู่เสมอ หากต้องการจัดการพวกเขา มีเพียงผู้ฝึกตนเท่านั้นจึงจะรับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าแคว้นหลานเย่ว์จะดูโอ่อ่าและหรูหรามากในสายตาของปุถุชน แต่สถานที่แห่งนั้นไม่อยู่ในสายตาของผู้ฝึกตน ความหนาแน่นของปราณจิตวิญญาณอยู่ในระดับที่ต่ำ อีกทั้งยังไกลจากภูเขามาก นอกจากนี้ยังถูกรบกวนจากเหล่ามนุษย์ธรรมดาจนส่งผลต่อการฝึกตนอีกด้วย นิกายจึงต้องสร้างภารกิจนี้ขึ้นมาอย่างอับจนหนทาง
ในตอนนี้ภารกิจที่ไม่มีใครต้องการถูกโยนใส่ศีรษะของเจ้าอ้วน ในการเดินทางไปยังวัดของสำนักเสวียนเทียน เจ้าอ้วนรู้สึกว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ อย่างไรก็ตามเขาสามารถฝึกตนภายในมิติลึกลับอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของปราณจิตวิญญาณที่มีอยู่น้อยนิดในอากาศภายนอก นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงปัญหาภายในนิกายออกไปอยู่ในสถานที่ที่มันรื่นเริงอาจจะดีอยู่ไม่น้อย ฉะนั้นเขาจึงยอมรับภารกิจพร้อมจัดกระเป๋าอย่างมีความสุข
ประการแรกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการฝึกฝน คือ ยาอายุวัฒนะของทั้งห้าองค์ประกอบและอื่น ๆ สิ่งของเหล่านี้ไม่สามารถพบได้ในดินแดนของมนุษย์ การเดินทางไปอาศัยในพื้นที่นั้นเพียงไม่กี่ปี แน่นอนว่าเขาต้องเตรียมทุกอย่างให้รอบคอบ แรกเริ่มเขาจึงหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วมุ่งหน้าสู่นครเวหา สถานที่ที่เขาสามารถซื้อหาทุกอย่างได้
เจ้าอ้วนเดินผ่านประตูเคลื่อนย้ายไปยังนครเวหา เขาถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ นึกถึงเมื่อก่อนที่เขาใช้งานเจ้าประตูเคลื่อนย้ายนี้ ในตอนนี้เขาไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป เขาสามารถเดินเข้าออกได้อย่างอิสระ ผู้ดูแลของหอคอยลอยฟ้ามิได้ส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยมาที่เขาอีกแล้ว แต่กลับกลายเป็นความริษยาแทน แต่การปฏิบัติเช่นนั้นก็ไม่ได้ทำให้เจ้าอ้วนสนใจอะไรมากนัก
เจ้าอ้วนได้แต่ส่ายหัวหลังจากก้าวผ่านความรู้สึกนั้นได้ เขาสะบัดความคิดไร้สาระออกจากหัวของตน จากนั้นเขาจึงเริ่มจับจ่ายใช้สอยในนครเวหาอันวุ่นวายนี้ เขาเดินมาหยุดตรงหน้าร้านขายยาพร้อมกับมองเข้าไปอย่างโง่เขลา
ลักษณะที่คุ้นเคยของพนักงานขายคนเดิมที่พูดจาลื่นไหลดั่งนักขายมือทอง เจ้าอ้วนพลันนึกถึงเรื่องราวบางอย่างได้ ความโกรธที่บีบอัดอยู่ในลำไส้ของเขาได้ประทุขึ้นมา จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปในร้านขายยาพร้อมหัวเราะในขณะที่กล่าวออกไปว่า “เจ้าเด็กสารเลว เจ้าจำได้หรือไม่ว่าข้าคือใคร?”
“เรื่องนั้น” พนักงานเหลือบตามองเจ้าอ้วน ในสายตาของเขาแอบแฝงไปด้วยความรู้สึกผิดแต่มันมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ประจบสอพลอ “ข้าจะไม่รู้จักท่านได้อย่างไรนายท่าน? ท่านคือผู้มีพระคุณของข้า!”
“ผู้มีพระคุณงั้นหรือ? ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าเจ้าจะจำมันได้อยู่!” เจ้าอ้วนกัดฟันพูดอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้ามันคนเนรคุณ ไม่รู้จักบุญคุณคน!”
อย่างที่เห็น เจ้าอ้วนจับจ่ายใช้สอยหินจิตวิญญาณมากมายที่ร้านแห่งนี้ ตามข่าวที่หานหลิงเฟิงได้รับจากกู่หลงผู้ซึ่งติดสินบนกับพนักงานขาย ทำให้ข่าวความร่ำรวยของเจ้าอ้วนถูกแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง ก่อให้เกิดความโลภของกู่หลงและซวนอวี๋ที่ร่วมมือกันกระทำภายในเทือกเขาอีกาโลหิต!