Chapter 68: ให้พวกเขานั้นได้รู้
Chapter 68: ให้พวกเขานั้นได้รู้
การที่ฆ่าเป็นบอสตัวแรกนั้นจะให้รางวัลที่ใจกว้าง
แอนเดรียก็ไม่มีข้อยกเว้นในกฎนี้ ไม่เพียงแต่เธอดรอปสกิลที่หาไม่ได้ทั่วไป [กำแพงแห่งนรกไฟ] เธอก็ยังคงให้อาวุธระดับอีกด้วย
{ประตูแห่งนรก (โล่) (เงิน)}
พลังป้องกันกายภาพ : 30-50
การต้านทานเวทย์มนต์ : 30-50
+7 พละกำลัง
+5 ความแข็งแกร่ง
-2 ความคล่องแคล่ว
ผลกระทบ
[การแก้แค้นของนรก](ติดตัว) : สะท้อนความเสียหายที่ได้รับไป 10%
[สระน้ำแห่งพลังชีวิต] (ติดตัว) : เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด 220 หน่วย
ความต้องการของอาชีพ : นักรบ , อัศวิน
ความต้องการของระดับ : 15
พลังป้องกันกายภาพและการต้านทานเวทย์มนต์ของโล่นี้นั้นไม่ได้เลวร้ายเลยและมันมีแม้กระทั่งการสะท้อนความเสียหายอีกด้วย ตั้งแต่ที่ขุนนางครอทนั้นมีอุปกรณ์เซตแล้ว โล่นี้จึงตกไปอยู่กับโบซอน
[กำแพงแห่งนรกไฟ] : สกิลที่หาไม่ได้ทั่วไป เรียกเปลวเพลิงมาเผาไหม้พื้นดิน และทำความเสียหายทางเวทย์ 170% และทำให้ติดสถานะเผาไหม้
แม้ว่าเวทย์มนต์ประเภทไฟนั้นไม่ใช่บางสิ่งสำหรับนักเวทย์สายฟ้าหรือนักเวทย์น้ำแข็งที่เป็นเลิศกับมันก็ตามที แต่ความเสียหายจากเวทย์ไฟนั้นเป็นบางสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งช่วงท้ายของเกมก็ตามที ยิ่งไปกว่านั้น [กำแพงนรกไฟ]นั้นเป็นสกิลหมู่ ดังนั้นมันจึงมีค่าในการฟาร์มเป็นอย่างมาก
เมื่อมันมีนักเวทย์เพียงคนเดียวในนิกายซวนเฉิน หนังสือสกิลเล่มนี้ก็ตกไปที่หมิงตู่ที่หน้าด้านและเลวร้าย
หมิงตู่นั้นยิมจนถึงไปหู เมื่อเขาได้หนังสือสกิลเล่มนี้และทำให้หวังหยู่รู้สึกผิดหวัง ทำไมชายคนนี้มันถึงโชคดีในวันนี้จริงๆ…
หลังจากที่หัวหน้าปาร์ตี้นั้นยื่นส่งเควส แสงสีทองสว่างก็ปกคลุมไปทั่วทุกคน และก็ทำให้พวกเขาออกมาจากดันเจี้ยน
{แจ้งเตือนระบบ : ปาร์ตี้ของคุณได้ทำเควส “โบสถ์อันโชกเลือก(อีลิท)”ได้สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 100000หน่วยและค่าคุณธรรมเมืองรัตติกาล 1 หน่วย}
{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้ทำดันเจี้ยนเควส “ต้นกำเนิดของความโกลาหล” ได้สำเร็จโดยการผ่าน ‘โบสถ์อันโชกเลือด’ ที่สูงกว่าความยากระดับปกติได้สำเร็จ 1/1 ได้โปรดไปรับรางวัลของคุณ}
“มันเหมือนว่าดันเจี้ยนนี้นั้นให้ค่าประสบการณ์จำนวนมากจริงๆ”หวังหยู่คิดกับตัวเอง เมื่อเขาจ้องไปที่ค่าประสบการณ์ของเขาที่ยังคงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อมองไปที่เวลา มันก็เป็นเวลาประมาณสองชั่วโมงหลังจากที่เควสนั้นเริ่มต้นขึ้น
“มันยังเช้าอยู่เลย ใครต้องการที่จะไปดื่มกันบ้าง?”ไร้ความกลัวแนะนำ
“ใครจะดื่มกับคนที่หน้าด้านแบบนายกัน? ท่านลอร์ดคนนี้จะไปเก็บระดับ เรียกฉันเมื่อมีอีเวนต์ละกัน!”หมิงตู่ก็ออกจากปาร์ตี้ในทันที เมื่อพวกเขาออกมาจากดันเจี้ยน หมิงตู่นั้นกระตือรือร้นอย่างมากในการทดลองสกิลใหม่ของเขา
“ชายแก่คนนี้มีสมุนไพรเพียงพอแล้ว ฉันจะไปฝึกฝนการทำยาพิษของฉัน”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตอบกลับ
“ฉันจะไปเดินเล่นในตลาด ฉันต้องการดูสกิลใหม่และอุปกรณ์ที่กำลังขายอยู่หน่ะ”
…
นอกจากโบซอนแล้ว คนที่เหลือนั้นก็มีสิ่งที่ต้องทำ ไร้ความกลัวนั้นรู้จักดีว่ามีนิสัยการดื่มที่แย่ ไม่เพียงแต่เขาจะเมา เขานั้นจะติดหนี้คนอื่นทุกครั้งที่ดื่มกัน มันมีหลายครั้งที่สมาชิกของกิลด์นั้นจะต้องแบกเขาออกมาจากโรงเตี๊ยม นี่คือเหตุว่าทำไมถึงไม่มีใครต้องการดื่มกับเขา
“ไร้ความกลัว!”หวังหยู่ตะโกนใส่เมื่อทุกคนนั้นจากไป
“พี่กระทิง! พี่จะต้องเลี้ยงเบียร์ผมนะ...ไม่....หรือว่าพี่ต้องการไปดื่มกับผมงั้นเหรอ?”ไร้ความกลัวถามเต็มไปด้วยอารมณ์
ตั้งแต่ที่หวังหยู่นั้นร่ำรวยมาก เขานั้นจะไม่รังเกียจในการใช้เงินไม่กี่เหรียญในการดื่ม….ไร้ความกลัวคิดอย่างหน้าด้าน
“ผมไม่ได้ชอบดื่มบ่อยๆ ยังไงก็ตาม ทำไมนายยังไม่ให้สิทธิ์กับผมละ และผมจะได้เชิญพวกเด็กสาวเข้ามา”หวังหยู่ตอบกลับ
“เด็กสาว!!!”
ความคิดเกี่ยวกับการดื่มนั้นหายไปจากความคิดของไร้ความกลัวในทันที เมื่อเขาได้ยินคำพูดพวกนี้ การได้พบกับเด็กสาวที่สง่างามนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าความต้องการในการดื่มเหล้าอย่างเห็นได้ชัด
“อื้ม ไม่ใช่ว่าพวกเราตกลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ในดันเจี้ยนกันแล้วเหรอ?”หวังหยู่ถาม
“ทำไมผมจะต้องให้พี่ชายกระทิงจัดการกับปัญหาแบบนี้ด้วยตัวเองละ? สำหรับการเป็นหัวหน้ากิลด์ ผมจะต้องไปทำหน้าที่นี้แทน!”ไร้ความกลัวตอบกลับอย่างเที่ยงธรรม
“แต่พวกเธอจะจดจำนายไม่ได้…”
“เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ผมจะต้องไปนั้นก็คือผมเป็นหัวหน้ากิลด์ ผมจำเป็นที่จะต้องพบเจอกับลูกน้อง…”
“ถ้าอย่างงั้นก็โอเค”หวังหยู่พยักหน้าอย่างไม่รีรอในการตกลง
“ฉันก็ต้องการที่จะไปด้วยกัน!”โบซอนหัวเราะ
“นายก็ชอบผู้หญิงด้วยเช่นกันงั้นเหรอ?”หวังหยู่ถามอย่างสงสัย
“เฮ้! มันไม่ใช่ว่าฉันเป็นเกย์ซะหน่อย...ยังไงก็ตามเหตุผลเดียวที่ฉันต้องการจะไปก็คือ ฉันไม่ไว้ใจไอ้นี่!”โบซอนตอบอย่างกราดเกรี้ยวแล้วเขาก็ชี้ไปที่ไร้ความกลัว
“ฮ่าๆ…”หวังหยูส่ายหัว สุดท้ายแล้วมันจำเป็นที่จะต้องพูดว่าเขาไม่ใช่เกย์ด้วยเหรอ?
เด็กผู้หญิงพวกนี้นั้นอยู่นอกเมืองและกำลังฆ่ากบพิษในทะเลสาบอันธกาลและกำลังเก็บเกี่ยวหญ้าคางคก(วัตถุดิบในการสร้างยา) พวกเธอนั้นกำลังรอคอยหวังหยู่ให้เรียกพวกเธอ เมื่อที่ตรงนี้นั้นเป็นพื้นที่เก็บระดับ20 ระหว่างทะเลสาปและโบสถ์อันโชกเลือด เมื่อพวกเธอได้รับข้อความจากหวังหยู่ว่ากำลังจะมา พวกเธอก็รีบจัดการเพื่อที่จะไปพบกับเขาด้านหน้าของทะเลสาป
กบพิษนั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับสิบห้า ความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันนั้นธรรมดาและพวกมันมีพลังโจมตีที่ไม่สูง มีเพียงสิ่งที่เดียวที่จะต้องกังวลก็คือการโจมตีพิษของมัน แต่ตั้งแต่ที่เด็กสาวทั้งสี่นั้นเลือกที่จะเล่นนักรบ โจร นักเวทย์ และนักบวช การฆ่ามอนสเตอร์พวกนี้มันก็ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับพวกเธอ
ในเวลานั้นเอง เด็กสาวทั้งหลายก็สังเกตเห็นคนกลุ่มใหญ่กำลังเดินมาหาพวกเธอ
คนกลุ่มนี้อย่างน้อยก็เป็นผู้ชายยี่สิบคนที่กำลังเดินมาหาพวกเธอและหลี่ซัวก็จดจำถึงชายที่นำหน้าได้ อสุราอันนองเลือด ที่เป็นหนึ่งในนักรบหลักของพันธมิตรอันนองเลือด แม้ว่าพวกเธอพึ่งจะเคยเจอ หลี่ซัวก็จำตราบนหน้าอกของพวกเขาได้
อสุราอันนองเลือดไม่ได้ดูประหลาดใจแม้แต่นิดเดียวเมื่อเขาเห็นกลุ่มของหลี่ซัว แล้วเขาก็เดินไปทักทายกับเธอ “หิมะสีแดง มันเป็นเวลาสักพักหนึ่งแล้วนะ…”
“ใครกันที่ต้องการที่จะเจอนาย!”แมรี่ตะโกนอย่างดูถูก
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองรัตติกาล เด็กสาวทั้งสี่คนนั้นก็เข้าใจเกี่ยวกับพันธมิตรอันนองเลือด ตามธรรมชาติแล้วหลี่ซัวนั้นจะไม่ไว้หน้าพวกเขาและตัดสินใจที่จะไม่สนใจกับพวกเขาด้วยซ้ำ
ในครั้งนี้ มันเหมือนกับว่าอสุราอันนองเลือดตั้งใจที่จะมาสร้างปัญหาให้กับพวกเธอ
“ฮึ่ม!”อสุราอันนองเลือดกวาดตาไปอย่างเกรี้ยวกราดใส่แมรี่ แล้วก็หันไปหาหลี่ซัวแล้วเขาก็พูด “ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่สามารถที่จะหากิลด์ได้ใช่ไหมในตอนนี้? เฮะเฮะ กระทิงเหล็กนี่มันโง่จริงๆ เขานั้นทำให้พวกเธอนั้นสูญเสียงานอีกด้วย!”
“มันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพี่กระทิงเหล็ก โลกนี้มันกว้างใหญ่ไพศาล ดังนั้นมีกิลด์มากมายอยู่ที่นี่ พวกเรานั้นเพียงแค่ยั่วยุพันธมิตรอันนองเลือด และไม่ได้ยั่วยุกับใครอื่นอีก!”หลี่ซัวตอกกลับ
“ฮ่าๆๆๆ แต่จากที่ฉันจำได้ว่าคนที่ออกมาจากพันธมิตรอันนองเลือดจะไม่สามารถหากิลด์อื่นที่จะยอมรับพวกเธอได้นะ!”
การแสดงออกของทั้งสี่สาวนั้นกลายเป็นดำมืดในทันทีเมื่อพวกเธอได้ยินคำพูดของอสุราอันนองเลือด
สิ่งที่อสุราอันนองเลือดพูดนั้นมันถูกต้อง ตั้งแต่ที่เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้น แม้ว่าผู้เล่นส่วนมากนั้นจะไม่รู้แน่ชัดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น กิดล์ทั้งหมดก็รู้อย่างแน่ชัดกับเรื่องนี้
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมหลี่ซัวและกลุ่มของเธอนั้นชนกันกับกำแพง หลังจากที่ถูกปฏิเสธโดยกิลด์หลายกิลด์ มันก็เป็นเรื่องที่เด่นชัดว่าอนาคตของพวกเธอนั้นมืดมัว สุดท้ายแล้วกิลด์ส่วนมากนั้นก็ปฏิเสธในทันทีที่พวกเขาเห็นไอดีของเหล่าเด็กสาว ไม่เพียงแต่ให้โอกาสพวกเธอได้พูดเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าหวังหยู่นั้นจะจัดการพันธมิตรอันนองเลือดอย่างเป็นฮีโร่แล้ว {REIBRTH} นั้นก็ไม่เคยขาดผู้เล่นเลือดร้อน มันเป็นเรื่องธรรมชาติว่าไม่กี่วันหลังจากนั้นก็ลืมเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นและทำมันเหมือนกับเป็นเพียงแค่ข่าวลือ
สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเพียงแค่เกม ผู้เล่นเพยีงคนเดียวจะจัดการกับกิลด์ทั้งกิลด์ได้อย่างไรกัน? ผู้คนส่วนมากนั้นสันนิษฐานว่าพันธมิตรอันนองเลือดนั้นขี้เกียจที่จะจัดการกับคนบ้าแบบเขา
พันธมิตรอันนองเลือดนั้นเป็นกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองรัตติกาล แม้กระทั่งกิลด์รองของพวกเขา กองทัพพริมโรสนั้นก็เป็นหนึ่งในกิลด์ระดับท็อปของประเทศ เพียงแค่ดูจำนวนคนที่พวกเขามีในกิลด์นั้นก็ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะไม่สามารถจัดการกับใครบางคน นิกายซวนเฉินที่มีจำนวนคนน้อยนั้นไม่ได้มีค่าอะไรเลย เมื่อเปรียบเทียบกัน
ตามธรรมชาติแล้ว กิลด์เล็กๆแบบนี้ในเมืองรัตติกาลนั้นไม่ต้องการที่จะยั่วยุพันธมิตรอันนองเลือดสำหรับพวกหาเงินเพียงไม่กี่คนหรอก
“ไม่ว่าพวกเราจะสามารถหากิลด์ใหม่ได้หรือไม่ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่นายจะต้องกังวลกับมัน ถ้านายยังคงไม่มีเรื่องที่ต้องการจะพูดก่อนจากไปละก็ อย่ารบกวนการฝึกฝนของพวกเรา!”หลี่ซัวตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว
“ฮ่าๆ ดูเหมือนพวกเธอไม่เข้าใจเกี่ยวกับมันนะ!”อสุราอันนองเลือดพูด “พวกเธอคิดจริงๆหรือว่าพวกเรามาที่นี่เพื่อคุยกับพวกเธอหน่ะ?”
“พวกนายต้องการทำอะไร?”เด็กสาวรีบถามแล้วก็พยายามที่จะหลบหนี
อสุราอันนองเลือดนั้นหันหัวแล้วเขาก็ส่งสัญญาณให้กับหนึ่งในคนของเขาแล้วเขาก็พูด “ดำน้อย ทำไมนายไม่ทำให้พวกเธอรู้ละ?”