ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 190 การต่อสู้ครั้งที่สามกับไป่หนิงปิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 192 แฝดกระเรียนแห่งความเที่ยงธรรม

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 191 ภัยพิบัติหมื่นปักษา


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 191 ภัยพิบัติหมื่นปักษา

บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยก้อนเมฆ

ผู้ใช้วิญญาณชราที่มีคิ้วสีขาวและแหลมคมราวกับดาบนั่งอยู่บนแผ่นหลังนกกระเรียนขณะที่ดวงตาเผยให้เห็นเจตนาฆ่าฟันอันเข้มข้น

"ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าจะเริ่มต้นปลดปล่อยความโกรธกับลูกหลานของท่านเป็นอันดับแรก" เขาหัวเราะก่อนจะชี้นิ้วลงไปยังสนามรบ

ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องของบางสิ่งพลันดังลงมาจากท้องฟ้าอย่างกะทันกัน

"เสียงนี้?" ด้วยหญ้าใบหูปฐพี ฟางหยวนได้ยินเสียงกรีดร้องที่น่าสยดสยองเป็นคนแรกและมันก็ทำให้เขารู้สึกตกใจ

มันเป็นเสียงกรีดร้องของกระเรียน อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เพียงหนึ่งหรือสองตัว แต่เป็นหนึ่งหมื่นตัว

"มีฝูงกระเรียนเคลื่อนไหวอยู่บริเวณนี้งั้นหรือ?" ฟางหยวนรู้สึกถึงอันตรายแต่ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นสิ่งใด

"เกิดสิ่งใดขึ้นบนท้องฟ้า?"

"จากเสียงที่ได้ยิน ข้าบอกได้ว่ามันเป็นฝูงปักษาขนาดใหญ่ ผู้ใช้วิญญาณทั้งหมดระวังตัวและอย่าโจมตีโดยประมาท!" ผู้นำตระกูลไป่ตะโกนเสียงดัง แต่ในวินาทีนี้เขากลับต้องหยุดชะงักอย่างกะทันหัน

ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆเมื่อเริ่มมองเห็นฝูงกระเรียนนับหมื่นบนท้องฟ้า

"นี่เป็นไปได้อย่างไร?"

"ปกป้องตนเอง!"

"มีฝูงกระเรียนนับหมื่นอยู่ที่นี่ มันมีกระทั่งราชาหมื่นอสูร!"

"คลื่นหมาป่าพึ่งผ่านไป แล้วพวกเรายังต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติหมื่นปักษาอีกงั้นหรือ? โอ้ สวรรค์ ภูเขาชิงเหมาเต็มไปด้วยภัยพิบัติจริงๆ"

ผู้ใช้วิญญาณเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความตื่นตระหนก

หลังจากภัยพิบัติคลื่นหมาป่ายังมีภัยพิบัติหมื่นปักษา สามตระกูลบนภูเขาชิงเหมาพึ่งได้รับความเสียหายครั้งใหญ่ แล้วพวกเขาจะสามารถเผชิญหน้ากับภัยพิบัติครั้งนี้ได้อย่างไร?

ฝูงกระเรียนสีเลือดบินลงมาจากท้องฟ้าราวกับสายฝน

ภายใต้ภัยพิบัติครั้งนี้ เสียงกรีดร้องแห่งความทุกข์ทรมานดังขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น ขณะที่ดาบแสงจันทร์ บอลวารี และกำปั้นเหล็กถูกส่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง

เพียงชั่วครู่ ผู้ใช้วิญญาณมากกว่าครึ่งก็ถูกสังหารไปแล้ว

ปีกกระเรียนมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าได้กับหมู่ป่าหนึ่งตัว ขณะที่กรงเล็บของมันสามารถแยกภูเขาหิน กระเรียนสีเลือดเพียงหนึ่งตัวยังเป็นเรื่องยากที่จะรับมือ โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงกระเรียนหนึ่งหมื่นตัว

ตระกูลมีประสบการณ์ในการรับมือภัยพิบัติคลื่นหมาป่ามาหลายร้อยปี กำแพงหมู่บ้านที่แข็งแกร่งสามารถปกป้องพวกเขา แต่กับฝูงนกเหล่านี้ พวกเขาจะหาป้อมปราการหินมาจากที่ใด?

ดังนั้นผู้ใช้วิญญาณของทั้งสามตระกูลจึงได้ตกตายไปอย่างรวดเร็ว

ฟางหยวนถูกทำร้ายเช่นกัน ดวงตาของเขายังไม่สามารถมองเห็นและทำได้เพียงพึ่งพาหญ้าใบหูปฐพีเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากพวกมันเท่านั้น

"ฟางหยวน อดทนอยู่ที่นั่นก่อน!" เสียงของอวี๋โป้ดังมาจากด้านหลัง

ฟางหยวนรู้สึกสับสน

มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับอวี๋โป้? เหตุใดเสียงของคนผู้นี้จึงดูเหมือนกับต้องการปกป้องเขา? ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจแต่ยังไม่หยุดวิ่ง

อย่างไรก็ตามฟางหยวนเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ ดังนั้นเพียงชั่วครู่เขาจึงคาดเดาได้ว่าไท่รั่วหนานต้องคิดว่าเขาครอบครองหนึ่งในสุดยอดกายาทั้งสิบ

อวี๋โป้เป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่และเมื่อกระเรียนสีเลือดที่โจมตีฟางหยวนเป็นสัตว์อสูรทั่วไปไม่ใช่ราชาหมื่นอสูร อวี๋โป้จึงสามารถกำจัดพวกมันได้อย่างง่ายดาย

"ฟางหยวน ใช่เจ้าหรือไม่?" อวี๋โป้บรรลุถึงกลุ่มหมอกควันสีขาว

สมองของฟางหยวนหมุนอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ในตอนนี้ชัดเจนว่าอันตรายมาก ดังนั้นการอยู่ใกล้กับอวี๋โป้ย่อมปลอดภัยมากกว่า คิดได้เช่นนี้ฟางหยวนจึงเร่งส่งเสียงตอบกลับไป "ถูกต้อง เป็นข้า"

ได้ยินเสียงของฟางหยวน อวี๋โป้จึงสามารถถอนหายใจ "ดีมาก ฟางหยวน อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องในอดีต ตอนนี้ตระกูลจะปกป้องเจ้า ดังนั้นกลับไปที่หมู่บ้านเป็นอันดับแรก"

สิ่งที่อวี๋โป้ไม่รู้ก็คือหมู่บ้านถือเป็นสถานที่อันตรายที่สุดสำหรับฟางหยวน

อย่างไรก็ตามตอนนี้ภัยพิบัติหมื่นปักษากลับเป็นภัยคุกคามที่อันตรายยิ่งกว่า อย่างน้อยหากเขาย้อนกลับไปที่หมู่บ้าน เขาก็ยังไม่ตายทันทีเมื่อเปรียบเทียบกับการอยู่เผชิญหน้ากับฝูงกระเรียนเหล่านี้

ฟางหยวนถอนหายใจก่อนกล่าว "ท่านผู้นำโปรดนำทาง ข้าจะติดตามไปด้านหลัง"

แต่ในจังหวะนี้เสียงของชายชรากลับดังลงมาจากบนท้องฟ้า "ไม่มีผู้ใดสามารถหลบหนี พวกเจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่ทั้งหมด"

ฟางหยวนไม่สามารถมองเห็นแต่ได้ยินเสียงตะโกนของอวี๋โป้ "ผู้ใช้วิญญาณระดับห้า!"

เห็นได้ชัดว่าอวี๋โป้มีวิธีการบางอย่างที่สามารถบอกระดับการบ่มเพาะของคนแปลกหน้าได้ทันที

ฟางหยวนตะลึง มีผู้ใช้วิญญาณระดับห้าอีกคนอยู่ที่นี่งั้นหรือ? ภูเขาชิงเหมาเป็นสถานที่ห่างไกลความเจริญและมีทรัพยากรอยู่เพียงเล็กน้อย แล้วเหตุใดผู้ใช้วิญญาณระดับห้าจึงได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่?

'อย่าบอกว่ามันเกี่ยวข้องกับผู้นำตระกูลรุ่นแรก' ฟางหยวนคิดและมันก็ทำให้หัวใจของเขาเกิดระลอกคลื่นขึ้นอย่างรุนแรง

ตอนนี้บนภูเขาชิงเหมามีผู้ใช้วิญญาณระดับห้าสามคน สำหรับคนอื่นๆ พวกเขาไม่มีนัยสำคัญในหมากกระดานนี้

มีเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับห้าที่สามารถต่อสู้กับผู้ใช้วิญญาณระดับห้า

มันเป็นเวลาที่เขาจะต้องตัดสินใจ!

"ท่านผู้นำ ท่านบรรพชนรุ่นแรกได้ตื่นขึ้นแล้ว พวกเราจะปลอดภัยหากกลับไปที่หมู่บ้าน!" ฟางหยวนกล่าว

"กระไรนะ!?" อวี๋โป้ตกใจ

"ข้าไม่ได้โกหกเรื่องนี้ ตราบเท่าที่พวกเราสามารถกลับไปถึงหมู่บ้าน พวกเราจะปลอดภัย" ฟางหยวนกล่าวต่อ

อวี๋โป้ตัดสินใจพาฟางหยวนกลับไปยังหมู่บ้านขณะที่ฝูงกระเรียนยังปรากฏขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น

อวี๋โป้ปกป้องฟางหยวนด้วยชีวิต แต่ในที่สุดเขาก็เริ่มอ่อนแรงและตกอยู่ในวงล้อมของฝูงกระเรียน อย่างไรก็ตามภายใต้การคุ้มครองจากอวี๋โป้ ฟางหยวนยังปลอดภัยดี

เมื่อเวลาผ่านไป หมอกควันสีขาวก็เริ่มจางหาย

ฟางหยวนกวาดตามองสนามรบที่เต็มไปด้วยซากศพของผู้ใช้วิญญาณ ขณะที่ฝูงกระเรียนก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน

'ไม่ใช่ว่านี่คือกระเรียนปีกเหล็กหรอกหรือ?' ฟางหยวนรู้สึกสับสน

คนอื่นอาจไม่รู้เพราะนกชนิดนี้ไม่มีอยู่ในดินแดนทางภาคใต้ แต่มันมาจากภาคกลาง

'อา...ราชาหมื่นอสูร ผู้ใช้วิญญาณระดับห้า!' มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ฟางหยวนสามารถมองเห็นชายชราที่นั่งอยู่บนแผ่นหลังของกระเรียนยักษ์

ฟางหยวนหันหน้ากลับมาทางอวี๋โป้ ตอนนี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล เนื่องจากเขาต้องปกป้องฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของฝูงกระเรียนในหลายจังหวะ

"ท่านผู้นำ ตอนนี้สถานการณ์ไม่ดีนัก ผู้ใช้วิญญาณกระจัดกระจายกันไป มันจึงยากที่จะรับมือ พวกเราต้องรวบรวมความแข็งแกร่งของพวกเขาให้เป็นหนึ่งจึงจะมีโอกาสเปิดทางสู่หมู่บ้าน!" ฟางหยวนกล่าวกับอวี๋โป้

"เจ้าพูดถูก" อวี๋โป้กวาดตามองก่อนตะโกนเสียงดัง "ทุกคน หมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลของเรามีวิธีรับมือกับศัตรู มารวมตัวกับข้าและเปิดทางกลับสู่หมู่บ้าน!"

เสียงของอวี๋โป้ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที

"อันใด? หมู่บ้านของเจ้ายังมีไพ่ตายที่สามารถรับมือผู้ใช้วิญญาณระดับห้าอยู่อีกงั้นหรือ?"

"เชื่อมั่นในสิ่งนี้ยังดีกว่าไม่มีสิ่งใดเลย!"

"พี่น้องทุกคน ไปรวมตัวกับผู้นำตระกูลแสงจันทร์!"

เดิมทีพวกเขาตกอยู่ในความสิ้นหวัง ดังนั้นถ้อยคำของอวี๋โป้จึงเหมือนแสงแห่งความหวังเดียวของพวกเขาในเวลานี้

ภายใต้แรงกดดันของความตาย ศัตรูเก่ากลับสามารถรวมตัวและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"ตระกูลแสงจันทร์ ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าทั้งหมดล้วนเป็นทายาทของพี่ใหญ่่" ชายชราหัวเราะเสียงเย็น แต่ก่อนที่เขาจะออกคำสั่งฝูงกระเรียน เขากลับฉุกคิดถึงบางสิ่ง 'เหตุใดข้าต้องสังหารพวกเขาในเวลานี้ พวกเขาล้วนเป็นทายาทของพี่ใหญ่ ข้าสามารถใช้พวกเขาข่มขู่พี่ใหญ่ในการต่อสู้กับเขาหลังจากนี้ แต่ผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ทั้งสามสามารถแทรกแซงการต่อสู้ ข้าไม่อาจให้พวกเขาอยู่ต่อ! ต้องฆ่าพวกเขาเป็นอันดับแรก!'

คิดได้เช่นนี้ ชายชราจึงส่งดวงแสงสามลูกออกไปจากฝ่ามือ

"วิญญาณเหล่านี้คือสิ่งใด?" ผู้นำตระกูลซ่งเป็นคนแรกที่สัมผัสดวงแสงและมันก็ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงอย่างมาก

ต่อมาผู้นำตระกูลอีกสองคนก็อยู่ในสภาพเดียวกัน

"ฟางหยวน ไปเร็ว! สมาชิกตระกูลแสงจันทร์ทุกคนจงฟัง พวกเจ้าต้องปกป้องฟางหยวนด้วยทุกสิ่งที่มี เขาเป็นผู้เดียวที่รู้วิธีรับมือภัยพิบัตินี้!" อวี๋โป้พยายามทุกวิถีทางแต่ไม่สามารถกำจัดแสงสว่างที่ปกคลุมอยู่รอบตัว ดังนั้นเขาจึงตะโกนออกคำสั่งเสียงดังก่อนจะตัดสินใจเผชิญหน้ากับชายชราบนท้องฟ้า

ฟางหยวนหันหน้าไปทางอวี๋โป้และจ้องมองผู้อาวุโสผู้นี้อย่างลึกซึ้ง

"ผู้อาวุโสฟางหยวน ให้พวกเราปกป้องท่าน" สมาชิกตระกูลแสงจันทร์มารวมตัวกันรอบๆฟางหยวน

แสงรักษาส่องสว่างขึ้นบนร่างของฟางหยวน ขณะที่สมาชิกของสามตระกูลที่เคยเกลียดชังกลับทำงานร่วมกันได้อย่างสอดประสาน

อย่างไรตามการผลลัพธ์ของการต่อสู้ถูกตัดสินไว้แล้ว

ผู้นำตระกูลตกตายไปทีละคนทีละคน ผู้รอดชีวิตถูกบังคับให้มุ่งหน้ากลับสู่หมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล

หมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลตกอยู่ในสภาวะสับสนอลหม่าน เสียงร้องไห้ดังขึ้นทุกหนแห่ง

บ้านเรือนพังทลาย ในซากปรักหักพังยังเต็มไปด้วยซากศพ

คฤหาสน์ผู้นำตระกูลเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว ขณะที่หมู่บ้านทั้งหมดเจิ่งนองไปด้วยเลือด

การต่อสู้ที่รุนแรงของไท่เซี่ยเล้งกับผู้นำตระกูลรุ่นแรกเป็นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหว หมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลที่อยู่ด้านบนจึงได้รับผลกระทบมากที่สุด

เหยาจี้ไม่ได้ออกไปช่วยอวี๋โป้ แต่เธออยู่รักษาผู้คนในหมู่บ้าน

"เกิดสิ่งใดขึ้น?" เธอตะโกนเสียงดัง

ฟางหยวนไม่ตอบเพราะฝูงกระเรียนด้านหลังเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุด

"นี่..."

"โอ้ สวรรค์!"

"ตระกูลแสงจันทร์จะล่มสลายในวันนี้แล้วงั้นหรือ?"

หมู่บ้านตกอยู่ในความโกลาหลอีกครั้ง

"พี่ใหญ่ น้องเล็กของท่านมาหาแล้ว เหตุใดท่านยังไม่ออกมาต้อนรับข้าอีก?" ชายชรายืนอยู่บนแผ่นหลังของกระเรียนยักษ์บนท้องฟ้าขณะกล่าวเสียงเย็น

เป็นเพียงเวลานี้ที่น้ำพุเลือดพุ่งขึ้นจากลานกว้างกลางหมู่บ้านพร้อมกับโลงศพสีแดงเลือดที่ตั้งตะหง่านขึ้น

ผีดิบที่ซูบผอมยืนอยู่ในโลงศพและใช้ดวงตาคู่สีแดงจ้องมองไปยังชายชราคิ้วขาว

"เจ้ายังไม่ตายจริงๆ ตามคาด ผู้ใช้วิญญาณระดับห้าก่อนหน้าเป็นเจ้าที่ชักนำมา แต่เจ้าพบที่นี่ได้อย่างไร?" ผู้นำตระกูลแสงจันทร์รุ่นแรกกล่าวด้วยความเกลียดชัง