ตอนที่ 149 หนึ่งกระบวนท่า!
“แปะ แปะ แปะ....”
ปีศาจตัวตลกตบมือและแสยะยิ้ม
“ฮี่ๆๆๆ....ทำได้ดี เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจะให้ไอหนูนี่คืน”
ทันทีที่มันพูดจบ หน้ากากของเหลียง ซ่งก็หายไป เผยให้เห็นใบหน้าของปีศาจตัวตลก
เหลียง ซ่งกลายเป็นหมดแรงและสิ้นสติ
จู เหนียนรีบวิ่งไปหาเขา จับแขนเขาและให้ยา จากนั้นเขาก็ทิ้งเขาไว้ที่ทางเข้าเมือง
จากนั้นเขาก็ค่อยๆลอยไปบนฟ้าขณะที่จ้องมองตัวตลก
“ทำไมเจ้าจึงดูจริงจังนัก?เจ้ากังวลว่าข้าจะใช้ทักษะควบคุมของข้าเพื่อบังคับร่างเจ้า?”ปีศาจตัวตลกหัวเราะ ปากสีแดงขนาดใหญ่ของมันขยับเมื่อจู เหนียนไม่ได้ตอบกลับ
มันมีหน้ากากสีขาวบนริมฝีปากสีแดงและดวงตาสีดำ มันดูราวกับสิ่งมีชีวิตที่เกินจริง โดยเฉพาะริมฝีปากสีแดงของมันที่กินพื้นที่ถึงครึ่งหนึ่งของหน้ามัน ซึ่งสร้างความผวาให้ทุกคนที่เห็นมันยิ้ม
“อย่ากังวลไป ข้าจะไม่ใช่มันกับเจ้า”ปีศาจตัวตลกโบกมือ
“ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถทำอะไรได้!”จู เหนียนรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยิน“เจ้าเคยเล่นหมากรุกไหม?เมื่อราชาถูกจัดการ เกมส์ก็จะจบลงโดยไม่คำนึงว่าเจ้าจะมีหมากเหลือแค่ไหน ตอนนี้เจ้าคือราชา หากเจ้าถูกควบคุม เกมส์ก็จะน่าเบื่อเกินไป”
“ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังจะได้พิสูจน์ตัวเองเพื่อทำให้ข้าเพลิดเพลิน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมข้าจึงให้โอกาสแก่เจ้า”
ปีศาจตัวตลกมั่นใจในตัวมันมากและทุกคนก็ดูราวกับหมากบนกระดานสำหรับมัน
“แกดูมั่นใจ?แกไม่กลัวว่าความสุขที่แกอยากได้จะพาแก่ไปสู่ความตายงั้นหรอ?”กลิ่นอายของจู เหนียนแข็งแกร่งขึ้น
“มาดูกันว่าเจ้าจะมีความสามารถดั่งปากหรือไม่!ฮี่ๆๆๆ.....”
“หัวหน้าของเราเอาจริงแล้ว....”เหลียง ซ่งที่ฟื้นสติกลับมาได้หันหัวไปมองจ้าวเฉียน
จ้าว เฉียนผงกหัวและยิ้มเล็กน้อย“เมื่อเขาเอาจริง สิ่งที่เลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นกับใครบางคน”
“ใช่ พลังของเขาไปถึงระดับนิรันดร์แล้ว ไม่มีมอนสเตอร์ระดับบัญชาตัวไหนสามารถสู้กับเขาได้”เหลียง ซ่งเห็นด้วยกับจ้าว เฉียน
หลิน ฮวงที่กำลังซ่อนตัวอยู่ใต้ดินเองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของจู เหนียน กลิ่นอายที่ทรงพลังทำให้เขาก้าวข้ามมอนสเตอร์ระดับหลุดพ้นที่หลิน ฮวงเคยพบเจอมาทั้งหมด มันดูราวกับเขาอยู่ในอีกระดับหนึ่ง
“ผู้หลุดพ้นจะทรงพลังเช่นนั้นได้ยังไง?เขาสามารถกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของดาราศาสตร์ได้ด้วยกลิ่นอายของเขา…”หลิน ฮวงสังเกตเห็นกลิ่นอายของจู เหนียน หมอกที่เกิดจากตาเสมือนได้หายไป ทำให้ดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้น
จู เหนียนกำลังลอยอยู่กลางอากาศด้วยหอกสีทองในมือเขา และในไม่ช้า กลิ่นอายเขาก็ไปถึงจุดสูงสุดและในขณะนั้นเอง เขาก็หายตัวไปอย่างฉับพลัน
นักล่าระดับหลุดพ้นและระดับทองที่ได้เห็นภาพฉากนี้จะตกใจ แม้กระทั่งเหลียง ซ่งและจ้าว เฉียนที่อยู่ในระดับเพลิงสวรรค์ก็ไม่อาจมองตามการเคลื่อนไหวของจู เหนียนได้ทัน
“ดูเหมือนว่าเราจะต้องฝึกให้หนักกว่าเดิมซะแล้ว มันรู้สึกไม่ดีที่ต้องเป็นตัวถ่วง”เหลียง ซ่งถอนหายใจและผงกหัวเขา
หลังจากที่จู เหนียนหายตัวไปจากกลางอากาศ ลำแสงสีทองก็พุ่งมาทางปีศาจตัวตลก จู่ๆลำแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นและพุ่งมาหามันด้วยความเร็วที่น่าสะพรึง
อย่างไรก็ตาม ปีศาจตัวตลกกลับไม่แสดงท่าทีตื่นตระหนกและยังคงยิ้มกว้าง มันขยับร่างกายของมันเล็กน้อยเพื่อหลบแสงสีทอง
จู เหนียนไม่ได้หยุดโจมตี ทันทีที่ลำแสงสีทองสายแรกหายไป ลำแสงที่สองก็โจมตีมันจากทิศทางอื่น ในทำนองเดียวกัน มันก็ปรากฏขึ้นในฉับพลันและพุ่งด้วยวความเร็วสูงสุด.....และลำแสงสีทองที่สามก็ตามหลังลำแสงที่สองมาติดๆ ตามด้วยลำแสงที่4 ลำแสงที่5.......
ลำแสงสีทองถูกยิงใส่ปีศาจตัวตลกกว่า3000สายแต่ทั้งหมดล้วนพลาด ไม่มีแม้แต่ลำแสงเดียวที่กระทบโดนตัวมัน หลิน ฮวงและคนอื่นๆไม่รู้ว่าทักษะอะไรที่มันใช้
“เป็นไปได้ยังไง....”ใบหน้าของจ้าว เฉียนเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“มันหลบการโจมตีทั้ง3000ครั้งของหัวหน้าเราได้?!”เหลียง ซ่งกลัว
จู เหนียนกำลังลอยอยู่กลางอากาศแต่ก็หายไปอีก จากนั้นเขาก็ปรากฏตัว ใบหน้าแดงกล่ำของเขามองไปที่ปีศาจตัวตลก“แกเอาแต่หลอกเราตลอดเวลา แท้จริงแล้วแกคือมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าและแสร้งทำเป็นมอนสเตอร์ระดับบัญชา”
“ข้าไม่เคยบอกว่าข้าอยู่ในระดับบัญชา เจ้าคิดไปเอง”ปีศาจตัวตลกแผ่มือ
พลังของมอนสเตอร์ระดับบัญชาเทียบได้กับมนุษย์ผู้หลุดพ้นระดับเพลิงสวรรค์ ยักษ์ลาวาและอสูรดาบ4ปีกที่จู เหนียนฆ่าไปก่อนหน้าล้วนอยู่ในระดับบัญชา
ปีศาจตัวตลกคือมอนสเตอร์ระดับหัวหน้า พลังของมันเทียบได้กับมนุษย์ผู้หลุดพ้นระดับนิรันดร์
โลกมอนสเตอร์มีการแบ่งลำดับชั้นอย่างเข้มงวด
มอนสเตอร์ระดับหัวหน้าสามารถก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง หากมันมีเวลามากพอ มันสามารถรวบรวมมอนสเตอร์ระดับบัญชาได้อย่างน้อย10ตัวและฝูงมอนสเตอร์นับ10ล้าน ซึ่งจะก่อให้เกิดฝูงมอนสเตอร์ที่โหดร้ายยิ่งกว่าระดับภัยพิบัติ การทำลายเมืองขนาดใหญ่เกรดBจะไม่ใช่เรื่องยาก
พลังของมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าเพียงลำพังก็พอแล้ว ในสมาคมนักล่า มีเพียงนักล่าระดับนิรันดร์เท่านั้นที่สามารถต่อกรได้
จู เหนียนไม่คิดว่าจะต้องพบเจอกับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังเช่นนั้น
“เพียงเพราะข้าคือระดับหัวหน้า เจ้าเลยคิดที่จะหนี?”ตัวตลกหัวเราะเย้ยจู เหนียน“หากเจ้าคิดที่จะหนี ข้าจะไม่หยุดเจ้า แต่ทว่า ลูกน้องและทุกคนในเมืองนี้จะต้องกลายเป็นอาหารของข้า ข้าคิดว่ามันจะใช้เวลาน้อยกว่า5นาทีเพื่อกลืนกินทุกคนที่นี่”
ทุกคนที่เฝ้าดูการต่อสู้ล้วนได้ยิน
แม้ว่าพวกเขาหลายคนจะไม่เข้าใจถึงขอบเขตพลังที่แท้จริงของมอนสเตอร์ระดับหัวหน้า พวกเขาก็ร้ดีว่าจู เหนียนไม่มีพลังพอที่จะล้มปีศาจตัวตลก
“มอนสเตอร์ระดับหัวหน้า...”ใบหน้าของเหลียง ซ่งและจ้าว เฉียนเปลี่ยนไปในบัดดล
แน่นอน พวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ามอนสเตอร์ระดับนั้นสามารถทำอะไรได้
“มอนสเตอร์ระดับหัวหน้า?ดูเหมือนว่ามันจะแข็งแกร่งกว่าตาลุงนั่น....”หลิน ฮวงไม่แน่ใจถึงระดับพลังที่แท้จริงของมอนสเตอร์ระดับหัวหน้า อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าจู เหนียนนั้นทรงพลังมาก เขาแข็งแกร่งกว่าผู้หลุดพ้นคนอื่นที่เขาเคยพบเจอ“ฉันสงสัยว่าฉันสามารถใช้การ์ดผนึกกับมันได้ไหม...”
เมื่อหลิน ฮวงยังคงลังเล จู เหนียนก็ได้ตัดสินใจ
“ฉันคือสมาชิกของสมาคมนักล่า ฉันไม่สนว่าฉันจะพบเจอมอนสเตอร์ประเภทใดหรือจำนวนมากแค่ไหน การป้องกันประชาชนคือหน้าที่ของฉัน หากแกต้องการที่จะทำลายเมืองของฉัน แกก็จะต้องข้ามศพฉันไปก่อน”
“เมื่อประมาณ60ปีก่อน สิ่งแรกที่อาจารย์ของฉันได้สอนคือเมืองจะไม่มีวันล่มสลายหากนักล่ายังคงอยู่!60ปีได้ผ่านไปและฉันได้ลืมหลายสิ่งที่อาจารย์เคยสอนฉัน แต่ทว่า ฉันจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้ไปจนกว่าจะถึงวันตาย!”จู เหนียนกู่ร้องออกมา
ขณะที่เขากำลังพูด ร่างของเขาก็ค่อยๆปลดปล่อยออร่าสีทองที่คล้ายกับกำแพงไฟสีทองจางๆ เมื่อเวลาผ่านไป เปลวไฟก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นและแสงสีทองก็สว่างขึ้น เขามองดูราวกับดวงอาทิตย์ในรูปลักษณ์มนุษย์
“เจ้าควรจะรู้ว่าแม้เจ้าจะเผาผลาญไฟชีวิตของเจ้า เจ้าก็ไม่อาจเอาชนะข้าได้ ความแตกต่างระหว่างเพลิงสวรรค์และระดับนิรันดร์ไม่อาจเทียบกันได้โดยการเผาผลาญไฟชีวิต หากเจ้าเป็นอัจฉริยะ ข้าอาจจะกลัวเจ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่ใช่ มิฉะนั้น มันคงจะไม่ทำให้เจ้าต้องใช้เวลาถึง60ปีและยังไม่กลายเป็นระดับนิรันดร์”แม้ว่าคู่ต่อสู้มันจะอ่อนแอกว่า ปีศาจตัวตลกก็นับถือเขา
“ใช่ ฉันไม่ใช่อัจฉริยะ ฉันแทบจะไม่มีพรสวรรค์ ฉันรู้ว่าฉันไม่อาจเอาชนะแกได้แม้ว่าจะเผาผลาญไฟชีวิตก็ตาม อย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่มีทางเปลี่ยนความคิด ฉันมีชีวิตอยู่ด้วยคำ4คำนี้ – สู้เพื่อความตาย!”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็กลายเป็นมนุษย์ไฟที่ราวกับดาวหาง พุ่งทะยานไปทางปีศาจตัวตลก
ลำแสงสีทองได้ตัดผ่านท้องฟ้าในชั่วพริบตาและปรากฏตรงหน้าตัวตลก
“ฮี่ๆๆๆ....”ปีศาจตัวตลกยิ้มอีกครั้ง มันค่อยๆยื่นมือที่สวมถุงมือสีขาวออกไป
เปลวไฟสีทองถูกป้องกันโดยฝ่ามือจากระยะที่น้อยกว่า3เซนติเมตร เขาไม่อาจขยับตัวได้เลย
จู เหนียนพยายามจะดิ้นให้หลุดและหยิบหอกขึ้นมา อย่างไรก็ตาม หอกเขากลับถูกดึงดูดโดยพลังที่แข็งแกร่งราวกับแรงโน้มถ่วงทำให้มันหยุดนิ่ง
“ข้าบอกเจ้าแล้ว มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเรา ตอนนี้ข้าจะสอนให้เจ้ารู้ซึ้งถึงความหมายของมัน”เมื่อพูดจบ ปีศาจตัวตลกก็ขยุ้มนิ้วมือ รอยแตกเริ่มปรากฏบนหอกระดับสมบัติที่ลอยอยู่กลางอากาศ
“ได้ยังไงกัน?!”จู เหนียนตกใจเมื่อเห็นภาพนี้
เขากำลังถือสมบัติ3ดาว สมบัติที่ไม่อาจพังได้กลับถูกทำลายโดยนิ้วมือของมัน
ก่อนที่จู เหนียนจะสามารถตอบสนองได้ ส่วนของหอกที่เกือบจะแตกก็เริ่มสลาย....
ปีศาจตัวตลกยิ้ม ด้วยฝ่ามืออีกหนึ่งที่กดลงบนหน้าอกของจู เหนียนผ่านเปลวไฟ
อึดใจต่อมา ร่างของจู เหนียนถูกบดขยี้ลงกับพื้น
เขาพ่ายแพ้ในหนึ่งกระบวนท่า.....
“บ้าเอ้ย มันทรงพลังเกินไป!”หลิน ฮวงจ้องมองตัวตลกที่กำลังลอยอยู่ในอากาศ “เสี่ยว เฮย ใช้การ์ดผนึกกับมันเดี๋ยวนี้!”
ปล.ค้างนิดนึงนะ ฮ่าๆ