ตอนที่ 148 ความโกรธของจู เหนียน
มอนสเตอระดับหลุดพ้นมักจะผ่านการกลายพันธ์ครั้งเดียวและหลังจากการเปลี่ยนแปลง สติปัญญาของพวกมันจะไปไกลเกินกว่ามนุษย์
แน่นอน มีข้อยกเว้นบางประการ มันมีมอนสเตอร์ระดับหลุดพ้นที่ไม่เคยกลายพันธ์มาก่อนและมอนสเตอร์เหล่านี้จะมีความสามารถการต่อสู้ที่ปกติอย่างไม่น่าเชื่อ
และก็ยังมีพวกมันบางตัวที่ผ่านการกลายพันธ์2หรือ3ครั้ง มอนสเตอร์เหล่านี้จะน่ากลัวอย่างมาก นอกจากจะมีความสามารถที่เทียบได้กับอัจฉริยะของมนุษย์แล้ว พวกมันยังวิวัฒนาการจนมีสติปัญญาที่สูงส่งอีกด้วย
ในระหว่างการต่อสู้ จู เหนียนสามารถยืนยันได้ว่าปีศาจตัวตลกจะต้องผ่านการกลายพันธ์มาอย่างน้อย2ครั้ง ตั้งแต่เริ่ม มันก็ควบคุมกระดานนี้จนสมบูรณ์ บังคับให้ทุกคนต้องเล่นตามเกมส์ของมัน
จู เหนียน กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ไม่เพียงแต่มันจะเป็น1ต่อ3 ฝ่ายตรงข้ามยังมีเหลียง ซ่งเป็นตัวประกันอีกด้วย
“บอกกฏของแกมา”จู เหนียน สังเกตเห็นสถานการณ์และสะกดข่มตัวเองลง เขารู้ดีว่าเขากำลังเสียเปรียบและจะต้องหาวิธีเพื่อชิงความได้เปรียบ
“ฮี่ๆๆๆ...ระดับเพลิงสวรรค์ มันยากที่จะหาอาหารรสเลิศกว่าเจ้า ข้าจะให้โอกาสเจ้า หากเจ้าสามารถเอาชนะมอนสเตอร์ทั้งสองตนนี้ได้ ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้สู้กับข้า แต่หากเจ้าแพ้ ไม่เพียงแต่ข้าจะฆ่าลูกน้องเจ้า แต่ทุกคนในเมืองนี้จะต้องตาย!”เสียงของปีศาจตัวตลกดังสะท้อนในอากาศ ทุกคนสามารถได้ยินมันอย่างชัดเจนรวมทั้งคนในเมือง
ทุกคนหันมาจ้องมองจู เหนียน พวกเขาต่างก็หวังที่จะให้จู เหนียนสามารถพลิกสถานการณ์ได้
จู เหนียนมองอย่างเคียดแค้นและพยักหน้า“ได้ ฉันตกลง”
“ฮี่ๆๆๆ....ดีมาก!เริ่มเกมส์ได้!”ตัวตลกประกาศอย่างมีความสุข
ในเวลาเดียวกันกับที่เขาพูดจบ ยักษ์ลาวาและอสูรดาบ4ปีกก็วิ่งมาทางจู เหนียน
ความเร็วของอสูรดาบ4ปีกเร็วมาก ในชั่วพริบตา มันก็มาปรากฏตรงหน้าจู เหนียน
แขนและปีกทั้ง6ของมันพุ่งมาทางจู เหนียนด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงและพวกมันก็อยู่ในรูปร่างของดาบแหลมคม มันคล้ายกับปรมาจารย์ดาบ6คนกำลังรุมโจมตีเขาด้วยดาบระดับสมบัติ ลำแสงสีดำ6สายปรากฏขึ้นและพุ่งทะยานด้วยความเร็วส่งผลให้อากาศแตกร้าว
จู เหนียนยังสงบนิ่ง จากนั้นเขาก็ขยับมือขึ้นเล็กน้อยและหอกสีทองในมือเขาก็กลายเป็นสายฟ้าที่ปะทะกับลำแสง6สาย
มีเพียงเสียงของโลหะที่กระทบกันเท่านั้นที่สามารถได้ยิน
“หายไปซะ!”
ด้วยการคำรามเสียดัง จู่ๆสายฟ้าสีทองก็เปลี่ยนเป็นเงาของแส้ที่ฟาดใส่ท้องฟ้าเอวของอสูรดาบ4ปีก ร่างของมันถูกซัดกระเด็นและรอยแตกก็ปรากฏทั่วเกราะแข็งของมัน
อึดใจต่อมา ยักษ์ลาวาก็ได้โจมตีใส่ร่างของจู เหนียนจากด้านซ้าย การโจมตีมาพร้อมกับพละกำลังอันมหาศาลและความร้อนสูงจนน่ากลัว
จู เหนียนผู้ที่ลอยอยู่กลางอากาศรีบตวัดหอกขึ้นทันที เขาไม่ได้ล่าถอยและป้องกันการโจมตี
หอกได้กลายเป็นมังกรสายฟ้าสีทองที่ทะยานใส่ยักษ์ลาวา
“ปึงงง!”
เกิดเสียงดังราวกับระเบิด พื้นเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
จู เหนียนดูราวกับหมดต่อหน้ายักษ์ลาว่า อย่างไรก็ตาม ร่างที่ราวกับมดของเขายังคงหยุดนิ่ง เขายืนนิ่งอยู่กลางอากาศราวกับฝังรากแน่นลึก
หลังจากนั้นไม่นาน บางสิ่งที่น่าตกใจก็บังเกิดขึ้น
รอยแตกที่ราวกับใยแมงมุมเริ่มปรากฏบนแขนขวาของยักษ์ลาวาที่ถูกหอกฟาดเข้าใส่
ยักษ์ลาวามักจะภูมิใจในพละกำลังและพลังป้องกันของมัน ดังนั้นมันจึงคำรามด้วยความโกรธ
เปลวไฟสีแดงพวยพุ่งออกจากดวงตาและปากมัน ลาวาสีแดงเริ่มไหลออกจากร่างของมันและดูราวกับรอยสักที่วิ่งเลื้อยไปทั่วร่างและท้ายที่สุดก็ปกคลุมทั่วร่างมัน
จู เหนียนรู้ว่ายักษ์ลาวาได้คลั่งแล้ว พลัง ความเร็ว และการป้องกันของยักษ์ลาวาจะทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว
“โฮกกกก!”
หลังจากเสียงคำรามที่ดังสนั่น มันก็พุ่งเข้าใส่จู เหนียนอีกครั้ง
“ต่อให้แกจะคลั่งมันก็ไร้ประโยชน์ มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างทักษะต่อสู้ของเรา”จู เหนียนกล่าวอย่างเย็นชา เขาไม่ได้กลัวยักษ์ลาวาแม้แต่น้อย
จากนั้นเขาก็ยกหอกขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้โจมตีเช่นก่อนหน้า ในไม่ช้า การโจมตีของยักษ์ลาวาก็โดนหอกเขาแต่กลับไม่มีเสียงดัง
มันเป็นเพียงการโจมตีที่เรียบง่ายและแขนของยักษ์ลาวาก็ได้ปะทะกับหอกเขา อย่างไรก็ตาม ร่างของยักษ์ลาวากลับแข็งทื่อและแขนของมันก็เริ่มบิดเบี้ยวทันทีที่บดขยี้เข้ากับหอก
ภายในเวลาอันสั้น แขนที่บิดเบี้ยวของมันก็ถึงจุดสูงสุดและแขนของมันก็แตกหัก
มันเงียบ ไม่มีเสียงและแขนขวาของมันก็บิดเบี้ยวราวกับกองหินบด
ยักษ์ลาวาคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด เมื่อมันจะโจมตีอีกครั้งด้วยแขนซ้าย หอกในมือจู เหนียนก็เปลี่ยนเป็นแส้สีทองและตวัดใส่แขนซ้ายมัน
ภายในไม่กี่วินาทีต่อมา จู เหนียนก็ตัดแขนซ้ายของมันทำให้มันรีบพุ่งหนี
ในขณะนั้นเอง จูเหนียนก็คว้าหอกเขาและจับตรงด้ามหอก เขาเล็งไปที่หัวของยักษ์ลาวาและหอกสีทองก็พุ่งออกไปราวกับลูกศรที่ยิงออกจากคันศร
เมื่อยักษ์ลาวากำลังคิดที่จะหลบการโจมตีด้วยแขนที่หักของมัน หอกก็พุ่งทะยานด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม มันราวกับอัสนีบาตที่พุ่งผ่านตาซ้ายและทะลวงหลังหัวมัน
ยักษ์ลาวาร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ลาวาและเปลวไฟในร่างมันค่อยๆไหลออกมา ท้ายที่สุด มันก็กลายเป็นกองหินที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น
จากนั้น อสูรดาบ4ปีกที่เงียบไปนานก็ปรากฏตัวด้านหลังจู เหนียน
ลำแสง6สายจากดาบ6เล่มได้ตวัดไปยังจุดสำคัญทั้ง6จุดของจู เหนียน
อย่างไรก็ตาม อึดใจต่อมา หอกสีทองก็ทะลวงผ่านหัวของอสูรดาบ4ปีกจากด้านบนและหอกครึ่งหนึ่งก็ทะลุผ่านกรามด้านล่างของมันออกมา
“ฉันกำลังรอแกอยู่พอดี....”
จุ เหนียนแสยะยิ้มและบิดหอก พลังมหาศาลได้ปลดปล่อยออกจากหอกและหัวของมันก็ระเบิดในทันที เลือดสาดกระจายไปทั่วพื้นที่
จากนั้น ลำแสงที่เกือบจะถึงตัวจู เหนียนก็มืดสลัวลง
หลังจากที่ฆ่ามอนสเตอร์ระดับหลุดพ้นทั้งสองตัวไป จู เหนียนก็เก็บหอกเขาและมองปีศาจตัวตลก“มันถึงเวลาที่แกต้องทำตามสัญญาแล้ว…..”