บทที่ 7 ผู้กล้าเขียนจดหมาย
บทที่ 7 ผู้กล้าเขียนจดหมาย
แม้กระทั่งตอนนี้ ผมอยากบดขยี้คนพวกนั้น พวกมันทุกตัว
ใต้ตีนผม มีหนึ่งในพวกมัน เป้าหมายแห่งการล้างแค้น
ปากของเธอกำลังไหม้จากผลของบอลเพลิง และผมยังเหยียบย่ำเธออยู่อีกหลายครั้ง ชุดกระโปรงยาวที่เธอสวมใส่อยู่ มันทั้งขาด สกปรกและยับเยิน
ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่ามันเปล่าประโยชน์ที่จะต่อต้านผมหรือทำตัวเชื่องกับผม เธอจึงได้แต่จ้องมองด้วยสายตาอันเกลียดชัง
ใช่แล้ว นี่แหละ สิ่งที่ผมต้องการ การแก้แค้นยังไงล่ะ
ถ้าผมปล่อยให้อารมณ์มันพลุ่งพล่านและเป็นฝ่ายควบคุมผม ผมคงสามารถปลิดชีวิตของพวกมันได้ง่ายๆ
ถ้าเลเวลของผมลดลง พวกมันก็คงเป็นเหมือนกันสินะ?
ผมมีความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากโหมดฝึกสอน
ถึงแม้ว่าจะสูญเสียทั้งทักษะและความสามารถ แต่ผมก็ไม่ได้สูญเสียวิธีการควบคุมพวกมันด้วยร่างกายของผม
มีดาบแห่งดวงวิญญาณอยู่หลายเล่มที่ผมสามารถใช้งานผลของมันได้ ซึ่งผลของมันนั้นเหนือกว่าค่าสเตตัสที่เลเวล 50 อีกอย่างรอบกายผม ยังมีพวกอัศวินไร้ซึ่งประสบการณ์การต่อสู้ ถ้ามีอัศวินสัก 10 คนหรือน้อยกว่า ผมก็สามารถเล่นสนุกกับพวกมันได้แบบไม่มีปัญหา
ถ้าผมซ่อนตัวระหว่างที่เพิ่มเลเวลไปด้วย จากนั้นผมก็สามารถออกไปตระเวนฆ่าไอ้พวกชาติชั่วสารเลว และค่อยอัพพลังให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น แล้วก็ออกเดินทาง
「มันไม่ดีแน่ นั่นไม่ใช่หนทางที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะว่า…」
ผมทุกข์ทรมานมาตลอดหนึ่งปี
หัวใจของผมกรีดร้องและแตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่มีชิ้นดี ชิ้นส่วนที่แตกสลายไปนั้น ตอนนี้มันค่อยๆฟื้นด้วยตัวเองตามความปรารถนาในการแก้แค้นของผม
เมื่อเวลาผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็เติบโตขึ้น มันเหมือนกับว่ามรอะไรมาเกาะติดตามร่างกายของผม มันเหมือนกับโคลนเหนียวๆ เหนอะหนะ ก้อนอะไรสักอย่างร้อนๆ คอยบอกผมว่ามันไม่มีทางพอใจกับการฆ่าเพียงแค่นี้ มันตะโกนเรียกร้องว่า ‘ไม่มีวันให้ยกโทษให้หรอกโว้ย’
แม้ว่ามันจะไม่ค่อยยินดีที่ได้เห็นใบหน้าของเธอ แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ผมจะยังไม่ฆ่าเธอ
มันยังไม่จบหรอก
ค่อยๆคิดดีกว่า ผมมีเวลาอีกตั้งเยอะเลย ผมไม่จำเป็นต้องรีบฆ่าเธอ
ผมควรปล่อยให้เธอได้ลิ้มรสความเจ็บปวด ความทรงจำอันโหดร้าย ผมจะทำให้เธอจมไปพร้อมกับความพินาศ
มากกว่า มากกว่านี้อีก มันจำเป็นต้องให้เธอทรมานยิ่งๆขึ้นไป
เพราะว่าการแก้แค้นครั้งแรกของผม มันถึงจะสำเร็จ
「อ่า ฉันจะยังไม่ฆ่าเธอตอนนี้หรอกนะ ในเมื่อฉันอุตส่าห์รักษาเธอด้วยความยากลำบาก ถูกมั้ย? กระนั้นฉันก็ยังคิดหาวิธีที่จะฆ่าเธอได้ตั้งเยอะเลยนะ」
ผมเผลอถอนหายใจ มันช่างน่าเสียดาย
ผมคิดหาวิธีได้ตั้งหลายอย่าง เช่น ปล่อยให้แมลงกินเนื้อตัวเล็กๆ ไต่ไปตามร่างกายของเธอ ชอนไชเข้าไปกัดกินเนื้อจากข้างใน ต้องให้แน่ใจด้วยว่าเธอยังมีสติอยู่ตลอดเวลา, ไม่ก็หาเมล็ดกาฝากฝังเข้าไปในตัวเธอ ค่อยให้พวกมันโตไปกับเจ้าของร่าง จนกลายเป็นต้นไม้, หรืออาจจะเป็นวิธีนี้ดี ทำลายประสาทสัมผัสทั้งหมด ปล่อยให้เหลือแต่ความสามารถในการคิด
ไม่ว่าจะวิธีไหน ดูเหมือนว่าความสามารถเหล่านี้ยังคงถูกปิดผนึกเอาไว้ในดาบแห่งดวงวิญญาณ มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
สำหรับตอนนี้ ผมต้องการเวลา
ค่อยๆ ช้าๆ มีสติอยู่เสมอ ผมต้องเริ่มวางแผนเตรียมการแก้แค้นของผมซะก่อน
แน่นอน ผมต้องสนุกไปกับการวางแผนนั้นด้วย
「ก่อนอื่น…」
ผมรักษาภายในปากของเธอให้มันพอใช้งานได้ด้วย 【ดาบคริสตัลมรกต】 เพื่อให้เธอยังคงสามารถพูดได้
「เฮ้ย ฉันมีบางอย่าง อยากจะขอร้องเธอสักหน่อย」
「…… ใครจะไปฟังคำของร้องจากสัตว์ประหลาดแบบแกวะ? 」
จริงๆเร้ย เธอเป็นเป้าหมายชั้นดีในการแก้แค้นของผม ยัยเจ้าหญิงอะลีเซีย
「อุฟ ฮ่ะ ฮ่า ฮ๋า ฮ๋า」
「มะ- มันตลกนึกรึไง!?」
「รู้อะไรมั้ย เธอตอบสนองได้ดี เหมือนอย่างที่ฉันคิดเอาไว้เลย อย่าสูญเสียความรู้สึกนั้นไปก่อนซะล่ะ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว การแก้แค้นของฉัน มันคงน่าเบื่อแย่เลย」
ในขณะที่ผมมองลงไปพร้อมกับรอยยิ้ม เจ้าหญิงอะลีเซียก็มองมาที่ผมอีกครั้ง เธอมองได้สายตาอาฆาต
「แกมันบ้าไปแล้ว!! ทำไม! ฉันไปทำอะไรให้แกวะ…」
「อะไรบ้างน่ะเหรอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ แต่ฉันรู้ ฉันรู้ว่าความเจ็บปวดจากการโดนทรยศ มันเป็นยังไง ความเจ็บปวดจากการถูกหลอก ทำเหมือนฉันเป็นคนโง่ ฉันจำได้ทุกความเจ็บปวดที่ฉันรู้สึกจากการไว้ใจพวกแกทุกคนเหมือนคนปัญญาอ่อน ฉันจำได้ทุกอย่าง เจ้าหญิง อะลีเซีย ออร์เรเลีย」
「อุก, กุ…」
สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังราวกับแม็กม่าที่กำลังปะทุ และเสียงอันเย็นชาราวกับใบมีดอันคมกริบ
อาจจะเป็นเพราะว่ายัยเจ้าหญิงนี่ไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของผม แต่เธอกลับเข้าใจ ซึ่งนั่นทำให้ผมเกลียดเธอมาก
「เอาล่ะ เรามาคุยกันอีกครั้ง ฉันมีเรื่อวจะขอร้อง」
แป๊ะ-, ผมเอามือไปจับที่หน้าของเจ้าหญิง
ไม่มีท่าทีเมื่อตะกี้นี้ เธอยิ้ม
「ถ้าเธอจะไม่ฟังก็ไม่เป็นไร มันก็ช่วยไม่ได้นะ ว่ามั้ย? มันทำให้ฉันเสียใจนะ อุตส่าห์ช่วยรักษาปากให้เธอทั้งที แต่ถ้าเธอไม่ต้องการ ก็ไม่เป็นไรสินะ?」
อย่างที่คิด? ผมไม่รู้อะไรเลย ผมไม่ได้คิดอยากจะทำอะไรเธอเลยนะ?
「นะ นี่แกจะทำอะไรน่ะ…?」
จนกระทั่งตอนนี้ เธอดูกังวลมากกว่าปกติ เธอมีการหยั่งรู้ที่ดี
「ฟุฮุ หน้าอกของเธอจะเป็นอุปสรรคเวลาเขียนน่ะสิ」
「กรี๊ด!? หยะ-หยุดนะ!!」
เมื่อผมส่งลูกเตะไปหาเธอ ทำให้เธอนอนคว่ำand และผมก็จัดการฉีกชุดของเธอ เผยให้เห็นหลังสีขาว
「แต่เธอรู้อะไรมั้ย ตอนแรกที่ฉันเห็นเธอ ฉันคิดว่าฉันเห็นผู้หญิงที่สวยที่สุด, แต่ตอนนี้น่ะเหรอ ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย มันแปลกนะ ว่ามั้ย?」
ผมสีเงินของเธอปิดคลุมบริเวณไหล่ ดวงตาสีทองเป็นประกาย ใบหน้าอันได้รูป ทั้งหมดนี้ทำให้เธอดูเหมือนตุ๊กตา
เหมือนกับนางแบบ ออร์เรเลียผู้เลอโฉม ผู้หญิงที่งดงาม
เมื่อได้เห็นโลกนี้เป็นครั้งแรก, ผู้หญิงที่นี่สวยกว่าผู้หญิงญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันซะอีก ตอนที่ผมเผลอแอบดูพวกเธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า มันทำให้หัวใจของผมเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
แต่เมื่อได้มองดูพวกเธอใกล้ๆ มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกใจสั่นอีกเลย
「ขโมยความบริสุทธิ์ของหญิงสาวด้วยกำลังเนี่ยนะ… อย่างที่ฉันคิดเอาไว้เลย ไอ้พวกคนที่มาจากต่างโลก ทั้งป่าเถื่อน หยาบคายและก็หื่นกามที่สุด…」
「ห๊ะ? เธอพูดอะไรน่ะ? ด้วยนิสัยที่น่ารังเกียจของเธอ ฉันขอปฏิเสธ อย่าได้มั่นใจตัวเองไปหน่อยเลย ใครจะไปอยากมีอะไรกับเธอ แหว่ะ หยะแหยงจะตาย」
เมื่อคิดถึงสิ่งที่ผมเพิ่มพูดไป มันทำให้ผมอยากจะอ้วก
「อะ…!!」
「ถ้าเธอจะไม่ฟังคำขอร้องของฉันล่ะก็ ฉันจะเขียนจดหมายแทนการพูดละกัน」
「…ไม่ ไม่เด็ดขาด!」
「เห็นมะ พูดกันง่ายจะตาย ไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าเธอไม่อยากฟังคำขอร้องของฉัน มันก็ช่วยไม่ได้ ฉันคงต้องเขียนให้มันสวยๆซะหน่อย」
ผมส่งรอยยิ้มเพื่อให้กำลังใจเธอ เพื่อตอบแทนที่เธอเดาถูกว่าผมกำลังจะทำอะไร
「เอาล่ะ ช่วยกรุณาอยู่นิ่งๆด้วยนะคร้าบ ถ้าไม่ล่ะก็ มันอาจจะออกมาไม่สวย」
「ไม่ อิ๊ กิ๊ กรี๊ดดดดดดดดด!!!」
สิ่งที่ผมหยิบออกมาก็คือ 【ดาบขาแมงมุมเพลิง】
ดาบสั้นที่มีความยาว 20 เซนติเมตร ดาบแห่งดวงวิญญาณที่ย้อมด้วยสีแดงฉานดั่งโลหิต
นี่เป็นครั้งที่สองของผม ดาบเล่มนี้ปล่อยได้แค่เปลวไฟเล็กๆออกมาในตอนแรกที่ได้ลองใช้ สำหรับเวลาแบบนี้ มันถือว่าเหมาะสมมาก
「ได้เวลาสนุกแล้วล่ะ ด๊า ด๊า ดา♪」
「อุก กรี๊ดดด มันร้อนนนน!! หยุ หยุดดดดดด!!」
ในระหว่างนั้น ผมก็ฮัมเพลงไปด้วยและก็กรีดให้เป็นตัวอักษรบนหลังของเธอด้วยเปลวไฟ
「คะ ใครก็ได้ ช่วยฉันด้วย…」
「ฮ่ะ ฮ๋า ฮ่า ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก เหมือนที่แกวางแผนเอาไว้ทุกอย่าง และมันไม่ทางเกิดขึ้น ฉันจะบดขยี้และทำลายทุกคนที่นี่」
ถึงแม้ว่าอะลีเซียพยายามยื่นมือของเธอไปหาพวกอัศวินที่กำลังร้องโอดครวญ ทุกคนที่นี่ทุกหักแขน หักขา จนหันไปคนละด้าน พวกเขาจึงไม่สามารถขยับตัวได้ แม้พวกเขายังมีสติอยู่ มั่นใจได้เลยว่าเสียงของเจ้าหญิงไม่สามารถไปถึงพวกเขาได้ ต้องขอบคุณเสียงร้องอันเจ็บปวดทุกครั้งที่พวกมันพยายามพยุงตัวเองขึ้นมา
「เอาน่า มาสนุกกันต่อเถอะ ฉันยังเขียนได้ไม่ถึงครึ่งเลย ไหนจะต้องมาคิดคำพูดอีก ฉันคงต้องค่อยๆคิดว่าฉันจะทำอะไรต่อไปดี เฮ้ เธอช่วยอยู่นิ่งๆหน่อยสิ อย่าขยับมากจะได้มั้ย?」
ผมหัวเราะไปพร้อมกับรอยยิ้มในขณะที่พูด