ตอนที่14 ความชำนาญด้านศิลปะแห่งมังกร
ตอนที่14 ความชำนาญด้านศิลปะแห่งมังกร
หลินหยี่แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเขาโชคดีอะไรขนาดนี้!! ประตูที่อยู่ข้างหลังเขาก็ปิดทันที เขาต้องหิวตายก่อนจะได้ทำอะไรแน่ๆ
แสงแดดส่องลงมาบนภูเขา และประตูก็ได้ปิดทันทีโดยไม่มีการเตือนใดๆ
เขาลองเดินกลับไปเพื่อเปิดประตู แต่มันก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้นเลย
จารึกนั้นพูดจริง ทางเดียวที่จะออกไปได้คือการรอเวลาอีก5ปีที่พระจันทร์เต็มดวง
หลินหลี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็เลือกที่จะมาสนใจหีบในมือของเขา เขาคิดว่าเขาจะเปิดมันทั้งหมดออกหลังจากที่กลับถึงบ้าน
“หยี่ แกสบายดีมั้ย?” เสียงที่คุ้นเคยได้ดังมาจากข้างหลังของเขา หลินหยี่หันกลับไปมองและเห็นตาเฒ่าหลินที่กำลังพูดอยู่เหมือนกับว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้จะพยายามฆ่าหลินหยี่เลย
“ไอเหี... ตาเฒ่างี่เง่า!! แกเตะข้าลงมาจากยอดเขา!! แกพยายามจะฆ่าข้าใช่มั้ยย!!?” หลินหยี่ยังคงรู้สึกเจ็บจากการตกเขาอยู่
“ข้าก็ไม่รู้สิ แต่เจ้าก็ดูมีชีวิตชีวาดีนะ” การได้เห็นหลินหยี่ยังอยู่ครบ32นั้นก็ถือว่าดีมาก เพราะตาเฒ่าคิดว่าจะลงมาแล้วเห็นสภาพหลินหยี่แบบยับเยิน
“ตาเฒ่า เมื่อวานข้าได้เข้าไปยังถ้ำนั่น” หลินหยี่พูดขณะที่ชี้นิ้วไปทางด้านหลัง
“หึหึ...” ตาเฒ่ารู้อยู่แล้ว เพราะเห็นหลินหยี่ถือหีบอยู่ในมือ....
“แล้วไงต่อ?” หลินหยี่ไม่รู้ว่าตาเฒ่ากำลังคิดอะไรอยู่ “แล้วนี่คือหีบ..”
“เก็บมันไว้” ตาเฒ่าพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเบื่อหน่ายหลังจากที่เห็นหีบ
“คุณจะไม่ดูข้างในหน่อยหรอ?” หลินหยี่งงเพราะตาเฒ่าดูไม่สนใจของที่เขาถือเลย
“ไม่จำเป็น” ตาเฒ่าส่ายหัว
หลินหยี่มีคำถามมากมายที่อยากจะถาม แต่เห็นหน้าของตาเฒ่าแล้ว เขาจึงเลือกที่จะเงียบไว้ดีกว่า
นี่มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ทั้งสองพยายามจะไต่ขึ้นไปเพื่อกลับบ้าน ตาเฒ่าโดดใส่เตียงและหลับไป พร้อมกับทิ้งหลินหยี่ไว้กับหีบของเขา
ตั้งแต่ที่ตาเฒ่าไม่สนจะไรด้วย หลินหยี่จึงต้องเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตนเอง เขาได้วางกล่องลงบนโต๊ะ เพื่อที่จะเริ่มทดสอบมัน
กล่องนี้ดูเก่าแก่มาก ลักษณะมันเหมือนมีไว้บรรจุพวกยาหรือคัมภีต่างๆ และกล่องนี้ก็ไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้ทำให้หลินหยี่สามารถเปิดมันได้ง่ายดาย
หลินหยี่หายใจอย่างลึกเพื่อที่จะเปิดกล่อง และเขาก็พบคัมภีที่ทำจากผ้าไหม
เขานำคัมภีออกจากกล่องและสังเกตเห็นหยกชิ้นเล็กๆที่อยู่ด้านล่าง หลินหยี่หยิบมันขึ้นมาพร้อมกับส่องไปที่แสงไฟ
มันเป็นหยกคุณภาพดี พร้อมกับอักษรโบราณที่หลินหยี่อ่านไม่ออก
หลินหยี่งงมากเพราะทั้งจารึกและคัมภีนั้นเขียนด้วยอักษรเดียวกัน แต่สำหรับหยกแล้วมันไม่ใช่
หลินหยี่จึงนำหยกไปหาตาเฒ่า แต่ตาเฒ่าก็ไม่รู้ สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คืองงต่อไป
เขาจึงสรุปว่าหยกนี้ต้องเกี่ยวข้องกับคัมภีที่เขาได้มา
หลินหยี่ได้ตัดสินใจนำคัมภีมาเปิดออก
มีคำพูดนึงที่ทำให้หลินหยี่สนใจมากก็คือ ความชำนาญด้านศิลปะแห่งมังกร มันเป็นตัวอักษรเหมือนกับที่จารึกและคัมภี
ภายใต้หัวข้อนั้นยังมีตัวอักษรเล็กๆที่เขียนไว้ว่า ข้อความแรก : มนุษย์ไม่ต่างกับพวกมด ความโลภจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของพวกเขาได้
หลินหยี่อ่านข้อความอย่างรวดเร็วทั้งข้อความแรก กลาง และสุดท้าย
หลินหยี่มั่นใจได้ว่าข้อความแรกนี้หมายถึงความชำนาญด้านศิลปะมังกร สำหรับส่วนที่กลางและสุดท้ายนั้นอาจจะหมายถึงอย่างอื่น
บทนำสำหรับความเชี่ยวชาญศิลปะมังกรนั้นยากมากที่จะเข้าใจ แต่กระบวรการต่างๆนั้นเข้าใจง่ายมาก
หลินหยี่ทำตามคำแนะนำแรกทันที ในตอนนี้หลินหยี่ยังเด็กมาก และสิ่งที่เขาคิดมีอย่างเดียวก็คือทำอะไรก็ได้เพื่อให้ชนะตาเฒ่านั่น
แต่สำหรับกังฟูหรือสิ่งที่เขาได้เรียนมาในก่อนหน้านี้มันต่างกับสิ่งนี้โดยสิ้นเชิง
แม้ว่าหลินหยี่จะลองมองย้อนไปดูว่าทำไมเขาถึงสนใจเรียน ความชำนาญด้านศิลปะมังกร ก็คงเป็นเพราะชื่อมันเท่ดี วิชากังฟูที่สามารถจัดการมังกรได้? ใครจะไม่อยากเรียนมันหล่ะ?
แต่ไม่นานหลังจากนั้น หลินหยี่ก็เข้าใจดีว่านี่มันไม่ใช่วิชาการต่อสู้เลย...