ตอนที่แล้วTWO Chapter 220 ฟิวส์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 222 มือในถุงมือ

TWO Chapter 221 เชิญหมาป่าเข้าบ้าน


TWO Chapter 221 เชิญหมาป่าเข้าบ้าน

หลังจากการอภิปราย สมาชิกในพันธมิตรดาบนภาต่างก็ไม่มีวิธีแก้ และพวกเขาทั้งหมดก็นำกองกำลังของพวกเขากลับดินแดนของตน

มันเหมือนกับเป็นการผลักเฮ่ยเส่อผีเฟิงไปที่ขอบผา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเขียนจดหมายส่งถึงตี่เฉินโดยตรง เขาสัญญาว่า ตราบเท่าที่ตี่เฉินยินดีจะช่วยเหลือเมืองหยงเย่ของเขา เขาและเมืองหยงเย่ของเขาจะยอมเป็นเมืองขึ้นของหานตาน

ณ เมืองหานตาน, คฤหาสน์ของลอร์ด

ตี่เฉินส่งจดหมายของเฮ่ยเส่อผีเฟิงให้กับจวู่ไต๋เฟิงฮัว แล้วถามว่า “เจ้าคิดเช่นไร?”

จวู่ไต๋เฟิงหัวรับจดหมายมา แล้วอ่านอย่างรวดเร็ว “เจตนารมณ์ของลอร์ดผู้นี้ชัดเจน เขาต้องการให้เราปกป้องเมืองของเขา”

“ถูกต้อง แต่นี่ก็เป็นโอกาสของเราที่จะหยุดเมืองซานไห่ ตราบเท่าที่เราลดเขี้ยวเล็บของเขาได้ เราก็ควบคุมเหตุการณ์ในอนาคตได้” ตี่เฉินกล่าว ราวกับว่าเขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง

“สถานการณ์ยังไม่แน่ชัด และมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเคลื่อนไหว ถ้าเราจะไปกระตุ้นสิงโต เราต้องมั่นใจว่าเราฆ่ามันได้ ถ้าไม่เช่นนั้น มันอาจจะตอบโต้ และกัดเรา หรือแม้กระทั่งกินเราได้”

ตี่เฉินขมวดคิ้ว “ความหมายของเจ้าคือ ให้ข้าร่วมมือกับสมาชิกของพันธมิตรหยานหวงคนอื่นๆ เพื่อจัดการเรื่องนี้หรือ?” อำนาจทางทหารของเมืองหานตานคงไม่สามารถต่อต้านเมืองซานไห่ได้ หากเขาต้องทำเพื่อเมืองหยงเย่เพียงคนเดียว มันคงจะไม่คุ้มค่านัก

จวู่ไต๋เฟิงฮัวส่ายหัว แล้วกล่าวว่า “ถ้าเราใช้ความแข็งแกร่งของพันธมิตรหยานหวง มันก็จะกลายเป็นสงครามขนาดใหญ่ ระหว่างพันธมิตรของพวกเขาและพวกเรา ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม ที่เราจะเผชิญหน้ากับพันธมิตรซานไห่อย่างเต็มรูปแบบ เราควรจะต่อสู้กับพวกเขาเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น เพราะถ้าเราต่อสู้กับพวกเขาในตอนนี้ ก็จะมีเพียงดินแดนขนาดเล็กเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์”

“แล้วเจ้าคิดว่าเราควรจะทำเช่นไร?” ตี่เฉินไม่เข้าใจ

“ง่ายมาก เราไม่ควรแสดงตัวตนในเรื่องนี้ เราควรปล่อยให้ใครบางคนจัดการแทนเรา”

“ซาโพจุ่น?”

“ถูกต้อง เขามีความเกลียดชังต่อฉีเยว่หวู่ยี่อย่างมาก ถ้าเราปล่อยให้เฮ่ยเส่อผีเฟิงพบกับซาโพจุ่น พวกเขาก็จะเข้าใจกันในทันที ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือล้มเหลว มันก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อเมืองหานตานของเรา ถ้ามันสำเร็จ แน่นอนว่าเราก็มีความสุข แต่ถ้ามันล้มเหลว เราก็อาจจะได้เรียนรู้จุดอ่อนของเขา” กลยุทธ์ของจวู่ไต๋เฟิงฮัวคือ การใช้คนอื่นไปฆ่าเป้าหมายของเธอ มันเป็นแผนการที่น่าเหลือเชื่อ

“ยอดเยี่ยม!” ตี่เฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “เรายังต้องวางแผนรายละเอียดปลีกย่อยอีก เพื่อให้ฉีเยว่หวู่ยี่บอบช้ำมากที่สุด”

จวู่ไต๋เฟิงฮัวเงียบ และไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก

……………………………………………………………………………

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 8 วันที่ 30

เมืองซานไห่ได้รับกำไรจากครึ่งเดือนหลังของเดือนที่ 8 จำนวน 8,500 เหรียญทอง นอกจากนี้ ยังได้รับอีก 4,500 เหรียญทอง ที่กรมทหารที่ 1 ยึดได้จากการกวาดล้างค่ายโจร เมื่อหักค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนขั้นทหารทั้งหมดแล้ว เมืองซานไห่จะยังเหลือเงิน 11,500 เหรียญทอง กรมการเงินได้ส่งเจ้าหน้าที่ นำเงิน 4,000 เหรียญทอง ไปที่เมืองเทียนซวง เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับธนาคาร 4 สมุทรสาขาเมืองเทียนซวง

โอหยางโชวเก็บเงินไว้ 1,000 เหรียญทอง แล้วมองเงินที่เหลืออีก 6,500 เหรียญทอง ให้กับกรมการเงิน เนื่องจากโครงการต่างๆได้สิ้นสุดลงแล้ว ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างจึงต้องจ่ายตามกำหนดเวลา เงินที่เขามอบให้กับกรมการเงินก็ยังคงไม่เพียงพอ โอหยางโชวมองไปข้างหน้า แล้วเริ่มปฏิบัติการกวาดล้างค่ายโจรฝั่งตะวันออกของดินแดน เพื่อนำเงินที่ได้ส่งต่อไปยังกรมการเงิน

จากการคำนวณครั้งล่าสุด ยังเหลือค่าใช้จ่ายในการสร้างมหาวิทยาลัยสีหนานอีก 2,000 เหรียญทอง, สะพาน 5 แห่ง รวม 500 เหรียญทอง และถนนภายในเมืองก็ยังคงมีค่าใช้จ่ายอีกเป็นจำนวนมาก แม้ว่าถนนเหล่านี้จะยังไม่เสร็จ แต่ค่าใช้จ่ายในการสร้างย่อมไม่น้อยไปกว่า 5,000 เหรียญทอง ยังมีสพานขนาดใหญ่ ที่เชื่อมเมืองซานไห่, เมืองฉิวซุ่ย และเมืองมิตรภาพ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมถึง 1,500 เหรียญทอง

ในตอนนี้ กำไรจากโรงผลิตเหล้าและผ้าไหมหลากสีเพิ่มสูงขึ้น มันเติบโตไปในทิศทางที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆเดือน พวกมันทำกำไรได้มากกว่า 500 เหรียญทองแล้ว อัตรากำไรของดอกเบื้ยของธนาคาร 4 สมุทรก็เพิ่มสูงขึ้นและความช่วยเหลือทางการเงินที่พวกเขาต้องการก็ลดลง ถ้าไม่อย่างนั้นเพียงแค่กำไรจากเหมืองทองและนาเกลือเพียงอย่างเดียว ก็คงจะไม่มากพอที่จะรักษาการขยายตัวและการเติบโตของดินแดนได้

ในครั้งนี้ เมืองซานไห่มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างมากกว่า 10,000 เหรียญทอง โอหยางโชวยังคงต้องการจะเริ่มโครงการถนนนอกเมือง หลังจากที่โครงการถนนในเมืองเสร็จสิ้นแล้ว การสร้างถนนนั้นไร้ขีดจำกัด ดังนั้น มันจึงไม่ใช่สิ่งที่ดินแดนทั่วไปจะสามารถจ่ายได้

…………………………………………………………………………….

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 9 วันที่ 1 มันเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดภาคเรียน

“ประกาศระดับโลก : วันหยุดพักผ่อนได้สิ้นสุดลงแล้ว และการเปิดการเรียนการสอนได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เด็กๆสามารถเลือกได้ว่า จะไปโรงเรียนหรือไม่ก็ได้ พวกเขาสามารถเลือกหลักสูตรได้อย่างอิสระในโรงเรียน ซึ่งรวมถึงวิชาที่พวกเขาจะเรียนด้วยเช่นกัน แต่ละวิชาจะมีการสอบและจะได้รับคะแนน ซ่งมันจะส่งผลต่อคะแนนความสำเร็จของพวกเขา สำหรับรายละเอียดเฉพาะ ผู้เล่นจำเป็นต้องสำรวจด้วยตนเอง”

ในความเป็นจริง ร่างกายของพวกเขาถูกแช่แข็งไว้ ซึ่งมันก็คล้ายกับการถูกหยุดเวลา แม้ว่าผู้เล่นไม่ต้องการจะไปโรงเรียน มันก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการศึกษาเรียนรู้ของพวกเขา ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่ได้บังคับให้นักเรียนต้องไปโรงเรียนในเกมส์ และจากโรงเรียนประถมจนถึงมหาวิทยาลัย พวกเขาจะถูกแยกตามชั้นเรียน ดังนั้น พวกเขาจึงมีอิสระในการเลือกอย่างมาก

ห้องเรียนเสมือนคล้ายกับฉากของเควส ยกเว้นเพียงแต่ว่า เวลามันไหลไปพร้อมกับแผนที่หลัก

โอหยางโชวได้วางแผนการศึกษาเรียนรู้ให้ปิงเอ๋อแล้ว ในช่วงเช้า เธอจะเรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเรียนเกี่ยวกับวัฒนธรรม ในช่วงบ่าย จะมีอาจารย์มาสอนเธอเกี่ยวกับอารยธรรมของจีนอยู่ภายในคฤหาสน์ของลอร์ด เขาตระหนักว่าเด็กน้อยนี้ต่อต้านเล็กน้อย ดังนั้น เขาจึงต้องคอยเช็คเธออยู่ตลอด ถ้าเธอไม่ยอมโต มันจะกลายเป็นผลลัพธ์ที่แย่ที่สุด

โอหยางโชวไม่ได้คาดหวังว่า ปิงเอ๋อจะประสบความสำเร็จอย่างมากเมื่อเธอโตขึ้น เขาปล่อยให้เธอเรียนรู้เกี่ยวกับอารนธรรมจีน เพื่อช่วยให้เธอพัฒนาตนเอง, มีคุณธรรมที่ดี และเพื่อให้เธอเติบโตขึ้นเป็นคนที่ซื่อตรง

ในขณะเดียวกันนี้ ซ่งเจี๋ยได้เลือกศิษย์ 500 คน จากผู้สมัครทั้งสิ้น 1,000 คน การออกแบบฐานของนิกายกระบี่ตงหลี่เสร็จสิ้นแล้ว และฝ่ายก่อสร้างก็ส่งคนออกไปทำงานแล้ว ถนนที่ขึ้นไปยังภูเขานั้นขรุขระและคับแคบ มันจึงเพิ่มความยากลำบากให้กับโครงการอย่างมาก เจ้าเต๋อหวังคาดว่า จะต้องใช้เวลาราว 1 เดือน ถึงจะสร้างเสร็จสมบูรณ์

อย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้ ซ่งเจี๋ยจึงทำได้เพียง ใช้ลานขนาดใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ที่อยู่อาศัย ในการสอนเทคนิคของนิกาย ให้กับเหล่าศิษย์ทั้ง 500 คน ของเธอ

ซ่งเจี๋ยกลายเป็นคนจริงจัง ตอนนี้เธอเป็นคนสำคัญ ผู้หญิงคนนี้ดูแลทุกเรื่องเกี่ยวกับนิกาย ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องผ่านเธอ

นอกเหนือจากฐานของนิกายแล้ว ยังมีปัญหาอื่นๆในการสร้างนิกายอีก ประการแรก ต้องมีการแข่งชั้นและมาตรฐานของนิกาย เครื่องแบบที่พวกเขาจะได้รับ จะมีการออกแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งมันจะขึ้นอยู่กับฐานะของพวกเขา, ประการที่สอง ต้องมีชุด อาวุธ และอุปกรณ์สำหรับเหล่าศิษย์ นอกกระปี่และมีดที่ใช้เป็นหลักแล้ว ยังต้องมีอาวุธลับด้วย

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ แหล่งรายได้ในอนาคตของนิกายจะต้องได้รับการแก้ไข ค่าใช้จ่ายประจำวัน, ค่าใช้จ่ายสำหรับอาวุธ และเครื่องแบบทั้งหมด ต้องใช้เงินจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธ กระบี่เหล็กประณีต มีราคาเล่มละ 3 เหรียญทอง เมื่อซ่งเจี๋ยมีศิษย์ 500 คน แต่ละคนจะต้องมีกระบี่เป็นอย่างน้อย นั่นหมายถึงค่าใช้จ่าย 1,500 เหรียญทอง

นิกายแบบดั้งเดิมมักจะมีพื้นที่เพาะปลูกประมาณมหาศาลที่ด้านล่างภูเขาของพวกเขา ซึ่งพวกเขาจะใช้มันเพื่อหารายได้จากการทำการเกษตร, อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ ศิษย์นอกของพวกเขาจะทำงานในโรงแรม, โรงเตี๊ยม หรือหอนางโลมในเมือง หรือพวกเขาอาจจะทำงานขนส่งเกลือ หรือทำธุรกิจที่ทำกำไรได้ทั้งหมด, หรือพวกเขาอาจจะเป็นนิกายที่ยากจน และจัดให้ศิษย์นอกออกมาขอเงินเพื่อหารายได้, กรณีที่แย่ที่สุดก็คือ พวกเขาปล้นเพื่อหารายได้

แล้วนิกายกระบี่ตงหลี่จะทำเช่นไร? ด้านล่างของภูเขาสามารถเตรียมเป็นพื้นที่เพาะปลูกได้ แต่เกษตรกรคงไม่ต้องการให้พวกเขาทำเช่นนั้น เมืองซานไห่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่รอให้ทำเป็นพื้นที่เพราปลูก เว้นแต่สมองของคนที่มีปัญหาเท่านั้น พวกเขาคงจะไม่ไปเช่าพื้นที่เพาะปลูกของนิกายกระบี่ตงหลี่แน่ สำหรับร้านค้า ร้านค้าส่วนใหญ่ของเมืองซานไห่มีเจ้าของแล้ว และมันยากที่จะแข่งขันกับพวกเขา นอกจากนี้ เพื่อที่จะทำการค้า พวกเขายังจะต้องมีเงินทุนอีกด้วย นิกายยังเหลืออีก 2 ทางเลือก คือ การขนส่งและขายเกลือ ข้าราชการจะเป็นผู้จัดการทั้ง 2 เรื่องนี้ และโอหยางโชวก็จะไม่ให้ข้อยกเว้นใดๆกับซ่งเจี๋ย

ต้องขอบคุณสถานการณ์ปัจจุบัน ในที่สุด ซ่งเจี๋ยก็ตระหนักว่า การสร้างนิกายเป็นเรื่องยากเพียงใด เธอสามารถทำได้เพียงรับเงินทุน 1,000 เหรียญทอง จากโอหยางโชวเท่านั้น

ซ่งเจี๋ยมาจากกลุ่มการเงินของตระกูลซ่ง ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจจะทำธุรกิจ

เธอรู้ว่าไม่สามารถใช้เงิน 1,000 เหรียญทองนี้ อย่างสุรุ่นสุร่ายได้ และเธอก็ไม่สามารถขอเงินจากโอหยางโชวได้ทุกครั้งที่เธอต้องการ เขาให้คู่มือเทคนิคลับกับเธอ และแม้แต่สรรหาศิษย์โดยใช้ชื่อคฤหาสน์ของลอร์ด ฝ่ายก่อสร้างของเมืองเขายังได้สร้างฐานนิกายให้กับเธอ โดยเขาออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่เธอจะไม่ช่วยเขา เธอเธอยังจะเป็นภาระให้เขาอีกด้วย

หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ซ่งเจี๋ยก็มีไอเดียดีๆ

ชาวจีนได้กล่าวไว้ว่า ‘ถ้าคุณเผชิญหน้ากับภูเขา คุณต้องพึ่งภูเขา ถ้าคุณเผชิญหน้ากับน้ำ คุณต้องพึ่งน้ำ’

เพื่อหารายได้ เธอต้องใช้ประโยชน์จากความคิดอื่นๆที่ไม่เหมือนใคร พื้นที่บนภูเขามีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูกสมุนไพร มันเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับสมุนไพรที่ชอบทั้งแสงแดดและที่มืด ถ้าพวกเขาสามารถสร้างสวนสมุนไพรได้ มันก็อาจจะทำเงินให้พวกเขาได้เป็นจำนวนมาก

สำหรับการขายสมุนไพร กรมการแพทย์ย่อมไม่ปฏิเสธพวกเขาแน่

หลังจากที่โอหยางโชวได้ยินไอเดียของเธอ เขาก็สนับสนุนเธอในทันที เขาพาซ่งเจี๋ยไปพบกับหมอซ่ง และผู้จัดการสวนสมุนไพร จากนั้น เขาก็ขอให้พวกเขาส่งคนไปแนะนำพวกเขา เกี่ยวกับวิธีการสร้างสวนสมุนไพรบนภูเขา

สวนสมุนไพรของดินแดน ถูกสร้างขึ้นในเขตชานเมืองทางตะวันออก เนื่องจากเป็นเพียงการสร้างพื้นฐาน สภาพแวดล้อมของมันจึงไม่ดีมากนัก และสมุนไพรก็เติบโตได้ไม่ดีนัก ดังนั้น มันจึงไม่สามารถผลิกสมุนไพรได้ทันกับความต้องการของกรมการแพทย์

ปัญหานี้สร้างความรำคาญให้กับหมอซ่งอย่างมาก ดังนั้น เขาจึงสนับสนุนข้อเสนอนี้ และช่วยแนะนำด้วยความเต็มใจ

นอกจากนี้ โอหยางโชวยังไปพบกับเทียนเหวินจิง โดยขอให้เขาติดต่อกับเผ่าคนเถื่อนภูเขา เพื่อขอเมล็ดพันธุ์และต้นกล้าของสมุนไพรจากพวกเขา จากนั้น เขาก็ส่งพวกมันไปให้กับซ่งเจี๋ย และบอกให้เธอปลูกพวกมันไว้บนภูเขา

โอหยางโชวได้จัดสรรทรัพยากรจำนวนมาก เพื่อช่วยซ่งเจี๋ยในการทำสวนสมุนไพรขนาด 1,000 หมู่ บนภูเขา

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด