Chapter 65: ราชินีนรกแอนเดรีย
Chapter 65: ราชินีนรกแอนเดรีย
หลังจากที่พวกเขาแตะตัวบอสเสร็จแล้ว สมาชิกของนิกายซวนเฉินก็รีบดื่มโพชั่นบางขวดเพื่อที่จะกลับไปยังสภาพที่ดีที่สุด และเข้าไปในโบสถ์ เมื่อพวกเขานั้นกำลังจะเข้าไป รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ดึงจอบเล็กๆออกมาและขุดพืชด้านข้างของกำแพงออกมา
พร้อมกับเสียงหัวเราะนั้น หวังหยู่ก็แสดงออกเหมือนกับเป็นคนที่มีความรู้อย่างมาก และเขาก็พูดขึ้น “ผมไม่คิดเลยนะว่าพี่จะเป็นนักปรุงยา! พี่กำลังเก็บพวกนี้ไปสร้างยาน้ำงั้นเหรอ?”
เมื่อตามสิ่งที่มู่จี่เซียนได้พูดเกี่ยวกับวันก่อนหน้านี้ สมุนไพรที่สามารถค้นพบในดันเจี้ยนนั้นสามารถที่จะสร้างยาน้ำได้ เมื่อเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว หวังหยู่ก็พยายามที่จะเอาความรู้นี้มาอวด
“ยาน้ำ?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิมึนงงไปหลายชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะส่ายหัวรัวๆ “ไม่อย่างแน่นอน!”
“ถ้าอย่างงั้นทำไมพี่จะเก็บเกี่ยวพวกนี้ไปทำไมกัน?”หวังหยู่ถามอย่างสับสน
“สร้างยาพิษอยู่แล้ว! อีกอย่างหนึ่ง มันมีใครที่สามารถสร้างยาน้ำได้ด้วยเรอะในตอนนี้หน่ะ?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตอบกลับ
“โอ้วววว โอเค..”หวังหยู่พยักหน้าอย่างเข้าใจและหลังจากนั้นเขาก็นึกได้ถึงอะไรบางอย่าง “โอ้ ใช่ ผมมีเพื่อนบางคนที่ต้องการเข้าร่วมกิลด์ของพวกเรา”
“เพื่อน? เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยเช่นกันหรือเปล่า?”ไร้ความกลัว ตั้งแต่ที่นิกายซวนเฉินนั้นเล็ก ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือคุณภาพของสมาชิก ผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงกับระดับของหวังหยู่นั้นจะเป็นที่ยินดีต้อนรับอย่างแน่นอน
“ไม่…”หวังหยู่ส่ายหัว ทั้งสี่สาวนั้นก็ไม่ได้มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมอะไรเลย….พวกเธอนั้นก็พอๆกันกับผู้เล่นธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเอง….
คำพูดของหวังหยู่นั้นทำให้ไร้ความกลัวตกอยู่ในจุดที่ยุ่งยาก แต่สำหรับการเป็นหัวหน้ากิลด์แล้ว ไร้ความกลัวนั้นจะต้องพูดกับสิ่งที่ถูกต้องและพูดว่า “พี่ชายกระทิง มันไม่ใช่ว่าผมนั้นพยายามที่จะทำให้มันเป็นเรื่องยากกับพี่นะ แต่พี่ก็รู้ว่านิกายซวนเฉินของเรานั้นทำงานกันยังไง ถ้าพวกเขาไม่ได้มีความสามารถละก็ ถ้าอย่างงั้นพวกเราก็จะเตะพวกเขาออกไป..”
“ถ้าอย่างงั้นละก็ ผมเดาว่าผมจะต้องบอกเธอเกี่ยวกับข่าวร้าย”หวังหยู่นั้นคาดเดาถึงผลลัพธ์พวกนี้ไว้แล้ว เขานั้นไม่ได้ปิดบังเกี่ยวกับการคาดการณ์นี้และพูดเพราะว่าจะลองเสี่ยงโชคดูเฉยๆ
“เธอ? เพื่อนของพี่เป็นผู้หญิงงั้นเหรอ?”ไร้ความกลัวก็ตื่นเต้นอย่างฉับพลัน
“ใช่แล้ว!”
“ที่จริงแล้ว....นิกายซวนเฉินของเรานั้นเล็กเกินไป เพิ่มสมาชิกอีกไม่กี่คนมันไม่เป็นอะไรไรหรอก!”ไร้ความกลัวประกาศ
“นายจะไม่สิ้นหวังแบบนั้นได้ไหม?”ใบหน้าของหวังหยู่นั้นดำมืด
“ก็ดี ตั้งแต่ที่พวกเรานั้นเป็นเพื่อนของพี่ชายกระทิ่ง ฉันก็มั่นใจว่าพวกเธอนั้นจะต้องมีเส้นทางที่สุดยอดของพวกเธออยู่!”โบซอนตกลง
“เธอสามารถสร้างยาน้ำได้!”หวังหยู่พยักหน้า
“ยาน้ำ?! มันมีอาชีพรองแบบนั้นด้วยเรอะ?”ทุกคนร้องออกมาด้วยความตกตะลึง
“มันเป็นอาชีพลับ นักเล่นแร่แปรธาตุ ผมพึ่งไปช่วยเธอทำเควสมาเมื่อวาน! เธอสามารถที่จะสร้างยาฟื้นฟูพลังระดับกลางได้อีกด้วย!”หวังหยู่ตอบกลับ
“เย็....เหี้.... นายจริงจังดิ??? เธอนั้นแม้กระทั่งที่จะสามารถสร้างยาฟื้นฟูระดับกลางได้อีกด้วยงั้นเหรอ?”
ตั้งแต่ที่ทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นผู้เชี่ยวชาญ พวกเขานั้นก็รับรู้ถึงคุณค่าของยาฟื้นฟูระดับกลางในช่วงเวลานี้เป็นอย่างดีและก็รีบพูด “รีบเพิ่มพวกเธอเข้ามาเลย! พวกเราจำเป็นที่จะต้องมีคนแบบพวกเธอ!”
เมื่อเห็นทุกคนนั้นตกลงกับคำขอของหวังหยู่ หวังหยู่ก็รีบพูด “แน่นอน! หลังจากที่พวกเราเคลียร์ดันเจี้ยนนี้เสร็จละกัน!”
ในช่วงสเตจสองของดันเจี้ยนนั้นเป็นห้องโถงกลางของโบสถ์ มอนสเตอร์ในระดับนี้นั้นเป็นค้างคาวดำและการ์กอย
{การ์กอย (ระดับ 22) (อีลิท)}
พลังชีวิต : 20000
มานา : 2000
สกิล : [บิน] [ผิวหนังที่เป็นหิน]
{ค้างคาวดำ (ระดับ 22) (อีลิท)}
พลังชีวิต : 5000
มานา : 2000
สกิล : [บิน] [ดูดเลือด]
สำหรับมอนสเตอร์ที่เกิดในสเตจนี้นั้นเป็นมอนสเตอร์ประเภทบิน สกิลการ์กอยที่เป็น [ผิวหนังที่เป็นหิน] นั้นทำให้สามารถป้องกันการโจมตีเวทย์มนต์ได้สมบูรณ์แบบ และทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับนิกายซวนเฉินในการรับมือกับมัน ค้างคาวดำเร็วอย่างไม่น่าเชื่อและมันก็สามารถที่จะใช้ [ดูดเลือด] เพื่อดูดพลังชีวิตของผู้เล่นได้อีกด้วย
โชคดีที่ จำนวนของมอนสเตอร์ในพื้นที่นี้ไม่ได้มีเป็นจำนวนมาก หลังจากที่หวังหยู่และที่เหลือเคลียร์มอนสเตอร์ บอสของสเตจสองก็เริ่มที่จะเกิดขึ้น
{นักบวชที่ล่วงหล่น เดวิด (ระดับ 27) (บอส)}
พลังชีวิต : 100000
มานา : 50000
สกิล : [ซัมมอน] [ต้นกำเนิดของความมืด] [รีเบิร์ท]
นักบวชที่ล่วงหล่นเดวิดนั้นที่จริงแล้วนั้นคล้ายกันกับหมอผีกันอย่างมาก นอกจากพลังโจมตีที่ต่ำแล้ว เขาก็สามารถที่จะเรียกมอนสเตอร์ตัวอื่นและฮีลตัวของเขาเองได้ (ความสามารถในการฮีลของหมอผีนั้นจะเปลี่ยนเป็น [ต้นกำเนิดของความมืด] หลังจากที่เปลี่ยนคลาสแล้ว และพวกเขาสามารถฮีลได้เพียงตัวของพวกเขาเองอีกด้วย)
มันก็เหมือนกับเดวิดในดันเจี้ยนระดับปกติ มันนั้นร่ายสกิลสายควบคุมฝูงชนไปเรื่อยๆ ทีละเวทย์ ทีละเวทย์ มันก็ทำให้นิกายซวนเฉินต้องการที่จะสาปแช่งแม่ของนักออกแบบ เขานั้นเป็นเวอร์ชั่นที่แข็งแกร่งกว่าของรัศมีฤดูใบไม้ผลิ
โชคดีที่เดวิดนั้นสวมใส่เกราะผ้า ซึ่งมันทำให้พลังป้องกันกายภาพของเขานั้นต่ำมาก หลังจากที่เขานั้นถูกฆ่าเป็นรอบที่สอง สุดท้ายแล้วบอสตัวที่สองก็ตายลง
คนที่ไปแตะศพในรอบนี้นั้นก็คือดาบน้ำแข็ง
เดวิชนั้นใจกว้างมาก และก็ดรอปสกิลที่หาไม่ได้ทั่วไปของหมอผี [ส่งเสริมพละกำลัง]
สกิลนี้หมายถึงการบัฟพวกผีจาก [เรียกวอยด์] ตั้งแต่ที่มันเป็นหนึ่งในก็อปปี้ของ [เรียกวอยด์] มันเป็นสกิลส่งเสริมที่เป็นเอกลักษณ์
เมื่อเขาเห็นหนังสือสกิลเล่มนี้ รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ไม่สามารถที่จะหยุดตัวของเขาเองไม่ให้ตื่นเต้นได้ เขานั้นมองหาสกิลส่งเสริมนี้มาเป็นเวลานานแล้ว และในตอนนี้มันก็ตกลงมาหาเขา! มันมีคุณค่ามากกับโบนัสการฆ่าตัวแรกจริงๆ
เมื่อเห็นนักบวชที่ล่วงหล่นเดวิดนั้นดรอปสกิลที่หาไม่ได้ทั่วไป ตาของหมิงตู่นั้นก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความอิจฉาและเขาก็จับไปที่คทาของเขาอย่างตื่นเต้น
บอสตัวต่อไป แอนเดรียนั้นเป็นบอสประเภทนักเวทย์ ดังนั้นการฆ่าครั้งแรกนั้นจะให้รางวัลที่เกี่ยวข้องกับไอเทมเวทย์มนต์อย่างแน่นอน
การฆ่าพวกมันตลอดทางในโบสถ์นั้น นิกายซวนเฉินก็สามารถที่จะกวาดล้างมอนสเตอร์ในเส้นทางได้อย่างง่ายดาย และก็ทำให้เกิดกระแสน้ำวนบนพื้นดิน
“ไอ้พวกนอกศาสนา! นายกล้าที่จะรบกวนการนอนหลับของราชินีแอนเดรียอย่างงั้นเหรอ???”
เมื่อกระแสน้ำวนนั้นจางหายไป มันก็เปิดเผยให้เห็นถึงผู้หญิงที่มีผมอันยุ่งเหยิงและมีดวงตาที่บ้าคลั่ง
{แม่ชีที่ล่วงหล่น แอนเดรีย (ระดับ 30) (บอส)}
พลังชีวิต : 200000
มานา : 100000
สกิล : [เฮล อินเฟอโน] [เฟลมมิ่ง บาเรจ] [ อารมณ์ของราชีนีแห่งนรก]
เมื่อแม่ชีนั้นเลือกที่จะใช้พลังงานความมืด แอนเดรียนั้นก็สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่เสื้อผ้าของเธอนั้นแปลกประหลาด
ปัญหาก็คือเสื้อผ้าของเธอนั้นน่าเกลียด มันไม่มีเสื้อผ้าแบบนี้อยู่จริง! เธอมีเพียงเสื้อผ้าแค่สามชิ้นปกป้องส่วนลับของเธอ!
ไม่สงสัยเลยที่เด็กน้อยความทระนงตัวนั้นเกือบที่จะทำให้ทั้งปาร์ตี้ถูกกวาดล้าง ฉากประเภทนี้นั้นมากเกินไปสำหรับเด็ก
เมื่อมองไปที่แอนเดรีย หวังหยู่ก็พึมพำอย่างช่วยไม่ได้ “คุณไม่สามารถที่จะทำแบบนี้ได้.... ไม่ใช่ว่ามันเปิดเผยมากเกินไปอย่างงั้นเหรอ?”
“มันเล็กน้อยหน่า….ฉันชอบมันนะ!”ไร้ความกลัวยิ้มกว้าง
คนที่เหลือนั้นก็ยังคงจ้องไปที่ร่างกายของเธอต่อไปในขณะที่ก็พยักหน้าตกลงกับคำพูดของไร้ความกลัว คนที่ตื่นเต้นมากที่สุดก็ยังคงเป็นความทระนงตัวที่ดูเหมือนเขานั้นกำลังจะเลือดกำเดาไหล
พวกเขานั้นเป็นฝูงหมาป่าที่หิวกระหาย….. หวังหยู่นั้นสามารถทำได้เพียงถอนหายใจออกมา
“ลิ้มรสไฟนรกของฉันซะ!”
ในขณะที่พวกเขานั้นยังคงพูดคุยและสอดส่องแอนเดรียนั้น เธอก็พูดประโยคของเธอได้เสร็จลงแล้วและเริ่มที่จะโจมตี ไฟแล้วไฟเล่าปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าและถูกยิงมาใส่พวกเขาทั้งแปดคน
ขุนนางครอทรีบยกโล่ของเขาขึ้นบล็อก ในขณะที่ไร้ความกลัวนั้นเริ่มที่จะร่าย [ฮีล] และทำให้พลังชีวิตมีมากกว่า 80%
หลังจากสิบวินาทีผ่านไป ฝนแห่งเปลวไฟนั้นก็ยังคงไม่หยุดและทั้งแปดคนก็ถูกผลักดันไปด้านหลัง มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าสกิลของเธอนั้นไม่มีวันจบ!
“ไม่ใช่ว่ามันดุร้ายเกินไปงั้นเหรอ? สกิล [เฟลมมิ่ง บาเรจ] นั้นยิงลูกศรเพียงแค่ยี่สิบดอกในครั้งที่แล้ว แต่ในตอนนี้มันมากกว่าสี่สิบแล้วและเธอก็ยังไม่หยุด!”ขุนนางครอทร้องออกมา
“เลิกทำตัวเป็นนักสืบได้แล้ว! แน่นอนว่าระดับชั้นอีลิทนั้นมันจะต้องดุร้ายมากกว่าระดับปกติ! ไม่ต้องกังวลไป ขีดจำกัดของเธอก็คือลูกศรห้าสิบดอกเท่านั้น!”ไร้ความกลัวตอบกลับ
เพียงแค่ไร้ความกลัวนั้นพูดเสร็จ สกิลของแอนเดรีย [เฟลมมิ่ง บาเรจ] นั้นก็หยุดไปพร้อมๆกัน ก่อนที่พวกเขานั้นจะมีเวลาได้พักหายใจ พื้นดินก็เริ่มที่จะร้อนขึ้นก่อนที่จะระเบิดออกมาเป็นทะเลเพลิง!
“เหี้...!”เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีภาคพื้นดินแบบนี้ มันก็ไม่มีทางที่ขุนนางครอทจะบล็อกมันด้วยโล่ของเขาได้ หลังจากที่ด่าแล้วเขาก็วิ่งออกมาจากทะเลเพลิงในทันที
เมื่อทำตามเขาที่เป็นตัวอย่าง คนที่เหลือก็ใช้สกิลเคลื่อนที่ส่วนตัวหลบหนีออกมาจากแอนเดรีย [เฮล อินเฟอโน]
คนที่สบายมากที่สุดก็คือรัศมีฤดูใบไม้ผลิ [บิดเบือน] นั้นเป็นยิ่งกว่าสกิลหมู่ที่ทำให้เกิดสถานะผิดปติ มันยังคงมีผลกระทบที่ต่อต้านเวทย์มนต์ทุกอย่างในพื้นที่นั้นๆ! ในพื้นที่ไม่มีเปลวเพลิงไหนที่สามารถเห็นได้ พร้อมกับ [บิดเบือน] ที่อยู่ด้านใต้ของเขา รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็เดินออกมาจาก [เฮลอินเฟอโน] อย่างสบายๆ
โดยปราศจากการเคลื่อนที่ของพวกเขาเอง หมิงตู่และไร้ความกลัวนั้นก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีจากสกิลหมู่ของแอนเดรียได้ และพวกเขาก็โดนย่างจนแทบจะร้องไห้ออกมา
ต้องขอบคุณหวังหยู่ที่กระโดดไปด้านหลังไร้ความกลัวและเตะเขาออกมาจากพื้นที่นั้นและใช้ [ฝ่ามือพลังวอยด์] ดึงหมิงตู่ให้ปลอดภัย
“ไอ้คนน่ารังเกียจ! ไปตายในนรกซะ ไอ้พวกนอกศาสนา!”
เมื่อเห็นว่าพวกเขาหลบหนีออกมาจากทะเลเพลิงได้ เธอก็ร่าย [เฟลมมิ่งบาเรจ] อีกครั้ง
ไร้ความกลัวก็รีบร่าย [ฮีล] ใส่ปาร์ตี้และทำให้พวกเขานั้นมีพลังชีวิตเต็มอีกครั้งหนึ่งแล้วเขาก็ตะโกนขึ้น “เหี้...! สองสกิลนี้มีเวลานานมากและคูลดาวน์ของพวกมันก็ยังคงน้อย! ในอัตรานี้ พวกเราจะถูกย่างจนตาย! ถ้าพวกเราสามารถที่จะขัดขวางสกิลของเธอไม่ได้นะ!”
“ขัดขวางเธอ? โอ้นั่นมันสบายเลย!”ตาของหวังหยู่ก็สว่างขึ้นอย่างฉับพลัน