TWO Chapter 219 นักเล่นหมากรุกและตัวหมากของเขา
TWO Chapter 219 นักเล่นหมากรุกและตัวหมากของเขา
หลังจากที่เทียนเหวินรายงานเสร็จสิ้น และถอยกลับไปแล้ว หัวหน้าฝ่ายก่อสร้าง เจ้าเต๋อหวังก็เดินออกมา คำนับเขา แล้วกล่าวว่า “เรียนท่านลอร์ด เกี่ยวกับการสำรวจถ้ำ ฝ่ายก่อสร้างได้สำรวจเสร็จสิ้นแล้วขอรับ”
“โอ้ บอกข้าซิ!”
“ขอรับท่านลอร์ด” เจ้าเต๋อหวังรายงานว่า “ตั้งแต่ทางใต้ของเมืองซานไห่ ไปจนถึงชายแดนริมป่าหยงเย่ คิดเป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร ฝ่ายก่อสร้างได้ทำการสำรวจ และได้พบถ้ำแห้ง 8 แห่ง ถ้ำแห้งเหล่านี้ 3 แห่ง ใช้สำหรับโรงผลิตเหล้า, โรงผลิตทางทหาร และจัดเก็บน้ำมันติดไฟ สำหรับถ้ำแห้งที่เหลืออีก 5 แห่ง, 3 แห่ง กว้างเพียง 10 เมตร และลึกเพียง 2 เมตร ส่วนอีก 2 แห่ง เป็นถ้ำขนาดใหญ่”
หลังจากที่เขาได้ยินรายงานของเจ้าเต๋อหวัง ในที่สุดโอหยางโชวก็ได้ตระหนักถึงสิ่งหนึ่ง ผ่านไปไม่ถึง 1 ปี พวกเขาได้ตัดไม้ลึกเข้าไปในป่าหยงเย่ ด้วยอัตราการตัดไม้นี้ พวกเขาจะตัดไม้ทั้งหมดของป่าภายในไม่กี่ปี
หากพวกเขาตัดไม้ในป่าหยงเย่ทั้งหมด แน่นอนว่ามันจะก่อให้เกิดผลกระทบอันใหญ่หลวงกับดินและน้ำ อาจจะเกิดน้ำท้วมใหญ่จากแม่น้ำมิตรภาพ และมันจะเป้นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อเมืองซานไห่ นอกจากนี้ ถ้าดินแดนไม่ได้รับการปกป้องจากป่า ภัยพิบัตทางธรรมชาติอื่นๆเช่นพายุทราย อาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน
สภาพอากาศของ Earth Online สมจริงมาก ถ้าไม่มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น การคาดเดาของโอหยางโชวจะเป็นจริง
หลังจากที่เจ้าเต๋อหวังถอยไป โอหยางโชวก็เรียกเจ้ากรมคลังวัสดุ “เจ้ากรมเซิ่นจุ้ย ฝ่ายทรัพยากรจะต้องวางแผน พวกเขาไม่สามารถตัดไม้ทั้งหมดลงได้ พวกเขาจะต้องพยายามตัดเพียงไม้ใหญ่ และปล่อยต้นไม้ขนาดเล็กไว้ทั้งหมด แล้วก็อย่าได้ทำลายรากฐานของป่านี้ นอกจากนี้ เราต้องไม่ปล่อยให้คนงานจากลานไม่จัดการด้วยตัวเอง ในขณะเดียวกัน ปรับการใช้ไม้ โดยใช้ประโยชน์จากเมืองฉิวซุ่ยให้มากขึ้น เนื่องจากทรัพยากรไม้ที่นั่นมีจำนวนมหาศาล”
แม้ว่าเซิ่นจุ้ยจะยืดหยุ่น เขาก็เป็นคนสมัยโบราณ แล้วเขาจะเข้าใจความคิดสมัยใหม่ของโอหยางโชวเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างไร? เขาทำได้เพียงตอบรับและทำตามแผนเท่านั้น
หลังจากนั้น โอหยางโชวก็หันไปมองขุ่ยหยิงหยู “เจ้ากรมขุ่ย กรมการเงินจะต้องทำงานร่วมกับฝ่ายตรวจสอบบัญชี เพื่อเสริมสร้างการตรวจสอบธนาคาร 4 สมุทรสาขาต่างๆ และการทำธุรกรรมต่างๆทั้งหมดของพวกเขา จะดีที่สุดถ้าเจ้าสามารถทำรายงานมาได้ในทุกเดือน ในเวลาเดียวกัน ก็ทำงานร่วมกับฝ่ายตรวจสอบพิเศษ เพื่อประเมินผู้จัดการและพนักงานจากธนาคาร 4 สมุทรสาขาต่างๆด้วย”
ธนาคาร 4 สมุทร เป็นเครื่องมือหลักสำหรับความฝันของโอหยางโชว จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะระมัดระวังในเรื่องนี้มากกว่าปกติ สาขาเมืองมู่หลานยังคงโอเค ผู้จัดการหยางหยุนเป็ยชาวเมืองดั้งเดิมของเมืองซานไห่ ดังนั้น เขาจึงได้รับความไว้วางใจจากโอหยางโชว สำหรับคนอื่นๆ กรมการเงินเป็นผู้ส่งพวกเขาไปยังเมืองสิงโตทมิฬ, เมืองซุ่นหลง และเมืองหงส์สาบสูญ โอหยางโชวยังไม่รู้จักพวกเขาดีมากนัก ดังนั้น เขาจึงใช้การประชุมในครั้งนี้ เตือนขุ่ยหยิงหยูถึงความสำคัญของคนที่ถูกส่งไป
“ค่ะท่านลอร์ด!” ขุ่ยหยิงหยูดูแลเกี่ยวกับธนาคาร 4 สมุทรสาขาต่างๆ มากกว่าโอหยางโชว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับธนาคาร 4 สมุทร เธอจะเป็คนแรกที่จะต้องรับผิดชอบในฐานะเจ้ากรมการเงิน
หลังจากนั้น โอหยางโชวก็จบการประชุม
……………………………………………………………………………..
ในช่วงบ่าย
น้าของเขา หลินชิง ได้ช่วยโอหยางโชวซื้อแบบแปลนสิ่งก่อสร้าง และเดินทางมาที่เมืองซานไห่อีกครั้ง เธอยังได้นำกลุ่มคนเล็กๆกลุ่มหนึ่งประมาณ 30 คน มากับเธอด้วย พวกเขาเป็นสมาชิกหลักของกลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบสงคราม-หิมะ
แบบแปลนเป็นเพียงเหตุผลรองในการมาเดินทางมาเยือนครั้งนี้ของหลินชิง เหตุผลหลักของเธอคือการมาพบหลานชายและหลานสาวที่น่ารักของเธอ รวมถึงมาเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างกิลด์ของเธอและเมืองซานไห่เพิ่มเติม
เมื่อฝ่ายธนูและหน้าไม้ และฝ่ายคลังอาวุธเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้อง กองทัพเมืองซานไห่ก็ได้รับการเปลี่ยนอาวุธและอุปกรณ์ใหม่ และคลังแสงของพวกเขาก็มีอาวุธและอุปกรณ์ระดับเงินหรือต่ำกว่านั้นอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมันมีทั้ง ธนู, หอก, กระบี่, เกราะหนัง และอื่นๆ ไอเท็มเหล่านี้เกือบจะล้นคลังแสงแล้ว กรมกิจการทหารยังคงส่งคนมาคอยดูแลอาวุธและอุปกรณ์เหล่านี้เป็นอย่างดี
อาวุธและอุปกรณ์เหล่านี้ พวกเขายึดมาจากพวกโจร, บางส่วนก็มาจากผู้บุกรุกที่เข้ามาโจมตีเมือง, บางส่วนมาจากการเปลี่ยนขั้นทหาร ดังนั้น พวกมันจึงมีเป็นำจำนวนมาก
โอหยางโชวได้ขบคิดบางอย่าง แทนที่จะปล่อยให้อาวุธเหล่านี้อยู่ในกองฝุ่น ทำไมเขาไม่ขอให้กลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบสงคราม-หิมะ ขายพวกมันให้กับผู้เล่นใหม่ล่ะ? ผู้เล่นเหล่านี้เพิ่งจะเข้าเกมส์มาได้เพียง 3 เดือน และพอจะมีเงินซื้ออาวุธและอุปกรณ์ดังกล่าวได้ สำหรับเมืองซานไห่ อุปกรณ์ล้าหลังเหล่านี้ไร้ประโยชน์ไปแล้ว แต่สำหรับผู้เล่นใหม่ พวกมันยังคงเป็นอาวุธและอุปกรณ์ชั้นสูง
โอหยางโชวบอกแผนการของเขาให้น้าของเขาทราบ เพื่อขอความร่วมมือจากเธอและไซสีหยุน และทั้งคู่ก็เห็นด้วยในทันที นี่ก็คือเหตุผลหลักที่น้าของเขาเดินทางมาที่เมืองซานไห่ เนื่องจากจำนวนของอาวุธและอุปกรณ์มีมากเกินไป น้าของเขาจึงต้องนำสมาชิกหลัก 30 คน ซึ่งมีพื้นที่ของถุงเก็บของขนาดใหญ่มาด้วย เพื่อช่วยเธอลักลอบขนอาวุธและอุปกรณ์เหล่านี้
โดยโอหยางโชวจะแบ่งกำไรจากการขายอาวุธและอุปกรณ์เหล่านี้ ให้กลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบสงคราม-หิมะ 20% ซึ่งก็หมายความว่า ยิ่งพวกเขาขายมันได้ในราคาสูง พวกเขาก็ยิ่งได้รับกำไรสูงมากขึ้น ซึ่งมันก็เปรียบเหมือนกับร้านค้าปลีกในโลกจริง นอกจากนี้ มันยังไม่ใช่การค้าขายเพียงครั้งเดียว กลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบสงคราม-หิมะ จะเป็นผู้ขายอาวุธและอุปกรณ์ที่ล้าหลังของเมืองซานไห่ทั้งหมด
โอหยางโชวยังอนุญาติให้พวกเขาเป็นผู้จัดการกับกำไร และขอให้พวกเขาตั้งอาคารขนาดเล็กในเมืองหลวงทั้ง 9 เพื่อทำหน้าที่เป็นสำนักงานของเมืองซานไห่ สำนักงานเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขาสรรหาผู้มีความสามารถพิเศษได้ นอกจากผู้เล่นอาชีพสายการทำงานแล้ว พวกเขายังรับผิดชอบในการสรรหา NPC ที่มีความสามารถพิเศษ ที่ไม่ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีนักในเมืองหลวง มาเข้าร่วมกับเมืองซานไห่ด้วย
ชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของเมืองซานไห่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม NPC และมันยังไม่ไกลเกินกว่าจะกล่าวว่ากว้างขวาง ดังนั้น จึงมีโอกาสที่พวกเขาจะรับสมัคร NPC ดังกล่าวได้
นอกเหนือจากนั้น เมื่อมีสมรภูมิมากขึ้น บุคคลทางประวัติศาสตร์ก็จะเข้าสู่เกมส์มากขึ้น ยิ่งกว่านั้น บุคคลทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ ก็มักจะเข้าสู่เกมส์ผ่านเมืองหลวงต่างๆ ดังนั้น เพื่อที่จะรับสมัครพวกเขา เขาต้องเปิกเผยสัญลักษณ์ของเขา ถ้าไม่ทำเช่นนั้น แม้ว่าพวกเขาต้องการจะเข้าร่วม พวกเขาก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
พันธมิตรหยานหวงมีความเป็นปฏิปักษ์ต่อพันธมิตรซานไห่ตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มก่อตั้ง ดังนั้น โอหยางโชวจึงตัดสินใจเปลี่ยนจากโปรไฟล์ที่ต่ำของเขา และเริ่มใช้ชื่อเสียงของเมืองซานไห่ในการรับสมัครผู้มีความสามารถพิเศษแทน
ชาวจีนมักให้ความสำคัญกับสมดุลเสมอ เมืองซานไห่ได้กระทำเหมือนเป็นพวกอนุรักษ์นิยม เช่นเดียวกับการปิดประเทศ ถึงแม้ว่าโอหยางโชวจะประสบความสำเร็จในการซ่อนภาพลักษณ์จนช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงปัญหาในโลกจริงได้ แต่มันก็ทำให้เขาสูญเสียโอกาสในการรับสมัครผู้มีความสามารถพิเศษจำนวนมากด้วยเช่นกัน
ระหว่างการอพยพในปัจจุบัน ทุกคนออนไลน์ ไม่เพียงแค่ทุกคนจะปลอดภัยจากอันตรายเท่านั้น แต่ทุกคนจะได้ยังลิ้มรสประสบการณ์ใหม่ของชีวิต หากโอหยางโชวต้องการจะบรรลุความทะเยอทะยานของเขา คือ เป็นผู้ปกครองในดาวเคราะห์โฮป เขาจะต้องดำเนินการดังกล่าวเท่านั้น เขาต้องเปิดเผยตัวเอง และแสดงความเชื่อมั่นในการติดต่อกับผู้เล่นคนอื่นๆ เพื่อรับการสนับสนุนจากพวกเขา
ในชีวิตที่แล้วของเขา โอหยางโชวถูกทรยศโดยคนอื่น อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถเติบโต ระมัดระวังผู้เล่นทุกคน และไม่ไว้ใจใครจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้
ลองนึกภาพนักเล่นหมากรุกที่ไม่กล้าสัมผัสกับตัวหมากของเขา ไม่ใช่ว่ามันน่าตกลกขบขันหรอกหรือ?
ถ้าเป็นเช่นนั้น แม้ว่าโอหยางโชวจะใช้ประโยชน์จากการกลับมาเกิดใหม่ของเขา และทำให้เมืองซานไห่เจริญรุ่งเรือง เขาก็ยังคงมีเพียงมุมมองของสามัญชนธรรมดาเท่านั้น เขาจะไม่ได้รับการฝึกฝนที่เพียงพอ และเมื่อกลับไปยังโลกจริง เขาก็จะเผชิญหน้ากับกำแพงและปัญหา
ดังนั้น โอหยางโชวจำเป็นต้องเรียนรู้บทเรียนจากชีวิตที่แล้วของเขา เขาจะไม่ไว้ใจคนอย่างง่ายดาย จะไม่เปิดเผยไพ่ตายทั้งหมดของเขากับใคร และจะไม่มีวันลืมว่า ผู้คนนั้นมีความโล�
ตัวหมากจะต้องเดินไปตามประสงค์ของนักเล่นหมากรุก
ตราบเท่าที่โอหยางโชวยังมีสติ เขาจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนครั้งนั้นอีก ความโลภไม่ได้น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวก็คือ ความโลภไม่สามารถควบคุมได้
ในเกมส์ ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมหลายคนอยากย้ายมาที่เมืองซานไห่ สำหรับดินแดนอื่นๆเช่นเมืองหานตาน สมาชิกหลักจะกีดกันพวกเขา ดังนั้น ผู้เล่นทั่วไปจึงสูญเสียโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจและใช้ประโยชน์ ในทางกลับกัน เมืองซานไห่เป็นกระดานที่เปิดโล่ง และเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับพวกเขา ที่จะแสดงความสามารถของตน
ส่วนที่เป็นอันตรายเกี่ยวกับการสรรหาผู้มีความสามารถพิเศษก็คือ โอกาสในการถูกแทรกซึมโดยสายลับ
โอหยางโชวไม่กลัวว่าพวกเขาจะเข้าร่วมและเปิดเผยสิ่งต่างๆเกี่ยวกับเมือง ไม่ว่าจะเป็นเขตตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่โรงผลิตทางทหาร, โรงผลิตทางทหารในถ้ำ, เหมืองทอง และนาเกลือ พวกมันทั้งหมดถูกพิจารณาว่าเป็นเขตต้องห้าม และคนที่จะเข้าไปได้จะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ดังนั้น ผู้เล่นทั่วไปจึงไม่สามารถเข้าไปใกล้มันได้
ผู้บริหารระดับสูงของเมืองซานไห่ยังคงเป็น NPC แม้แต่หวู่ชี่และจิวต้วนเสี้ยนก็ทำเฉพาะงานเท่านั้น พวกเขาไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของผู้บริหารที่มีอำนาจของดินแดน
ดังนั้น เมืองซานไห่จึงได้สร้างระบบที่สมบูรณ์แบบไว้แล้ว ซึ่งมันไม่ง่ายนักที่จะแทรกซึมพวกเขา
โอหยางโชวนำน้าของเขามาที่คลังแสงของเมืองซานไห่ เมื่อทหารองครักษ์เปิกประตู มันได้เผยให้เห็นคลังแสงที่เต็มไปด้วย ธนู, กระบี่, ชุดเกราะ และอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งมันทำให้เหล่าสมาชิกหลักของกลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบสงคราม-หิมะ รู้สึกตาลายเล็กน้อย
“โอ้พระเจ้า โชวน้อย เจ้าช่างสิ้นเปลืองจริงๆ ที่ทิ้งอาวุธและอุปกรณ์จำนวนมากเหล่านี้ไว้ให้ฝุ่นเกาะ หากพวกผู้เล่นรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะต้องตำหนิเจ้าแน่ๆ”
โอหยางโชวส่ายหัว เขาไม่สามรถกล่าวโต้แย้งเธอได้ เพราะเธอเป็นน้าของเขา
หลินชิงสั่งให้เหล่าสมาชิกหลักตรวจสอบอาวุธและอุปกรณ์ทั้งหมด และเช็ครายการเหล่านี้กับกรมกิจการทหาร หลังจากที่พวกเขามั่ยใจว่าถูกต้องแล้ว พวกเขาก็เก็บพวกมันลงในถุงเก็บของของพวกเขา ส่วนตัวเธอ เธอเดินไปยังพื้นที่ชั้นสูงของคลังแสง เพื่อมาเลือกอุปกรณ์ของตัวเอง โอหยางโชวบอกเธอว่า เขาจะมอบมันให้เธอฟรี 1 ชุด ดัวนั้น เธอจึงไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป
หลินชิงใช้เวลาทั้งวันในเมืองซานไห่ หลังจากที่ได้พูดคุยอย่างสบายๆกับซ่งเจี๋ย เธอก็กลับไปยังเชี่ยนเย่ พร้อมกับอาวุธและอุปกรณ์เกือบครึ่งหนึ่งของคลังแสง
แฟนเพจ : TWOแปลไทย