Chapter 208: คำเตือนครั้งสุดท้าย
Chapter 208: คำเตือนครั้งสุดท้าย
เมื่อฟังเสียงของหลันซิหยู่แล้ว จางจิงและฉู่ซงหมิงนั้นมึนงงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง พวกเขานั้นเป็นทหารและพวกเขานั้นสั่งการให้คนอื่นนั้นวางปืนลงมาเสมอๆ อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้มันเป็นตาของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขานั้นได้ยั่วยุ สไนเปอร์ไรเฟิลรุ่น AMR-2 ของเจียงลู่ฉี จางจิงเชื่อว่าเจียงลู่ฉีจะยิงในทันทีถ้าพวกเขาไม่ยอมหยุด
ฉู่ซงหมิงนั้นก็หันไปมองจางจิงอย่างฉับพลันพร้อมกับดวงตาที่แดงฉานของเขา หลังจากที่เจียงลู่ฉีให้คำเตือนแบบนี้ ฉู่ซงหมิงก็เหมือนกับสัตว์ที่จนตรอก เขาปฏิเสธที่จะหยุดและวางอาวุธของเขาลง! เจียงลู่ฉีนั้นไม่เคยยอมปล่อยคนที่เลวร้ายแบบนี้ไปซักครั้ง!
“ฉู่ซงหมิง!”จางจิงนั้นจับไปที่ข้อมือของเขาในทันที เขาต้องการที่จะดึงปืนของเขาออก ฉู่ซงหมิงก็ยกระเบิดออกมาอย่างเงียบๆ เขามองไปที่จางจิงอย่างเย็นชา และมืออีกข้างหนึ่งของเขานั้นก็ถือปืนพกและเล็งไปที่จางจิง และหลังจากนั้นเขาก็กระซิบออกมาทีละคำ ทีละคำ “ขับต่อไป”จางจิงมองไปที่ฉู่ซงหมิงอย่างไม่น่าเชื่อ ใครที่กล้าที่จะเล่นระเบิดจริงๆ! ใครบางคนบนรถนั้นเริ่มที่จะต่อรอง! หลังจากนั้นฉู่ซงหมิงก็ตอบในความคิดของเขา “พวกเราสามารถที่จะพูดคุยกันอย่างมีอารยธรรม ฉันสามารถที่จะให้อาวุธกับพวกนายได้ พวกนายสนใจมันไหม?”ฉู่ซงหมิงคิด ตั้งแต่ที่หลันซิหยู่สามารถที่จะส่งความคิดของเธอได้ นั่นก็หมายความเธอก็สามารถที่จะได้ยินกับสิ่งที่เขาคิด
อาวุธนั้นเป็นของสำคัญสำหรับผู้รอดชีวิต ฉู่ซงหมิงนั้นเชื่อว่าจางจิงนั้นจะสนใจกับเรื่องนี้ ตราบเท่าที่เจียงลู่ฉีนั้นสนใจ เขาก็จะลังเล! ในเวลาเดียวกัน ฉู่ซงหมิงก็พูดกับจางจิง “ผู้บังคับบัญชาจาง ได้โปรดออกคำสั่งกับรถของกองทัพด้านหลังพวกเราให้โจมตีพวกเขาและขัดขวางพวกเขาซะ”ที่จริงแล้ว ฉู่ซงหมิงไม่ต้องการที่จะทำการแลกเปลี่ยน เขาเพียงแค่ต้องการให้พวกเขาลังเล และหลังจากนั้นเขาก็จะสามารถมีชีวิตรอดได้!
จางจิงนั้นกราดเกรี้ยว สุดท้ายแล้วเขก็เห็นความแข็งแกร่งของทีมฉี่หยิง ถ้าเขาออกคำสั่งแบบนั้นละก็ ใครจะอดทนกับความสูญเสียอันมากมายของกองทัพได้กัน?
“ผู้บังคับบัญชาจาง!”ฉู่ซงหมิงวางนิ้วมือของเขาไว้ตรงที่ลั่นไกของปืนพก ในขณะที่เขานั้นก็ถือระเบิดในอีกข้างหนึ่ง ถ้าเวลาผ่านไปละก็ มันก็จะอันตรายมากยิ่งขึ้น
“ฉันจะให้นายได้พิจารณามันห้าวินาที ห้า!”ฉู่ซงหมิงพูดอย่างเงียบงัน
ในเวลานั้นเอง ในรถบรรทุกขุดเหมืองนั้น หลันซิหยู่ก็พูดคำพูดของฉู่ซงหมิงให้เจียงลู่ฉีฟัง หลังจากที่ได้ยินดังนั้นแล้ว เจียงลู่ฉีก็หัวเราะเยาะ ไม่สำคัญหรอกว่าฉู่ซงหมิงนั้นจริงใจหรือไม่ เขาก็ไม่สนใจในคำพูดของเขา ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ฉู่ซงหมิงทำนั้นหมายถึงการปฏิเสธคำเตือนของเขา
[ตั้งแต่ที่พวกเขาไม่ต้องการหยุด ถ้าอย่างงั้นละก็….] เจียงลู่พูดกับตัวเองในขณะที่มองผ่านกล้องสไนเปอร์
การกระทำทุกคนในรถติดเกราะนั้นช้าลง แต่เจียงลู่ฉีนั้นก็จดจ่อความสนใจของเขาไปทั้งหมดที่ล้อของรถติดเกราะ มันมีล้อหกล้อ อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ถ้ายิงเพียงแค่ล้อด้านข้างซักข้างหนึ่ง ดังนั้นเจียงลู่ฉีตัดสินใจที่จะยิงล้อด้านหน้า แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากสำหรับใครก็ตามที่จะยิงล้อที่กำลังวิ่งด้วยความเร็ว 85กิโลเมตรต่อชั่วโมงผ่านรูเล็กๆ เจียงลู่ฉีก็ลั่นไกออกมาโดยปราศจากความลังเลใดๆอย่างฉับพลัน
“ปัง!”ล้อข้างหนึ่งก็ระเบิดควันสีดำออกมา และหลังจากนั้นรถทั้งคันก็สั่น
“สี่….”ในรถติดเกราะ ร่างกายของฉู่ซงหมิงก็สั่นอย่างรุนแรง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ล้อข้างหนึ่งของเราโดนยิง!”ทหารที่นั่งขับรถนั้นตะโกนออกมา
สุดท้ายแล้ว ฉู่ซงหมิงก็ไม่สามารถที่จะควบคุมความใจเย็นของเขาไว้ได้! เขาไม่ได้คาดคิดว่าเจียงลู่ฉีจะยิงโดยไม่ได้ลังเลแบบนี้
“ปัง!”เจียงลู่ฉีก็ยิงอีกนัดหนึ่ง กระสุนที่รุนแรงที่ออกมาจาก AMR-2นั้นเจาะทะลุล้อ ถึงแม้ว่ารถติดเกราะของทหารราบรุ่น92นั้นจะเป็นล้อกันกระสุน มันก็ไม่สามารถที่จะทนทานหลังจากที่โดนปืนสไนเปอร์ไรเฟิล AMR-2ยิงไปสองนัดในรูเดียวกันได้!
ทั่วทั้งล้อเต็มไปด้วยควันหนาที่พวยพุ่งออกมา และวิสัยทัศน์ของพวกเขานั้นก็ถูกบดบังโดยควันด้านหน้า รถติดเกราะก็ไม่สามารถที่จะขับให้สมดุลได้ ล้อของมันก็เริ่มที่จะสร้างเสียงเสียดสีอันดังก้องขึ้น และก็ทิ้งร่องรอยสีดำสองรอยไว้ด้านหลัง
‘ครืดดด!’รถติดเกราะของทหารราบนั้นก็หยุดลง!
“นั่นคือคำเตือนครั้งสุดท้ายของฉัน! ส่งฉู่ซงหมิงออกมาภายในสองวินาที มิฉะนั้นละก็ นัดต่อไป...มันจะไม่ใช่ล้ออีกต่อไป!”เจียงลู่ฉีพูด
หลันซิหยู่พยักหน้าและหลังจากนั้นเธอก็ส่งคำพูดของเจียงลู่ฉีไป ในครั้งนี้ เธอก็ส่งเนื้อหานี้ในความคิดของทุกคนบนรถนั่น พวกเขานั้นก็ตกตะลึงกันอย่างมากและเหงื่อเย็นเฉียบก็ไหลออกมาจากหน้าผากของพวกเขา
สมองของฉู่ซงหมิงนั้นก็หยุดทำงานชั่วครู่หนึ่ง เขามั่นใจว่าเจียงลู่ฉีจะยิงเขาแน่นอน แต่เขาไม่ต้องการที่จะตาย!
จางจิงก็สังหรณ์ว่าเจียงลู่ฉีนั้นบังคับให้รถติดเกราะนั้นหยุด! เขาตัดสินใจที่จะไม่ต่อสู้กับเจียงลู่ฉี มิฉะนั้นละก็ กองทัพจะได้รับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแน่นอน! และทหารพวกนั้นก็มีการแสดงออกที่ซับซ้อน เนื่องจากฉู่ซงหมิงนั้นเป็นเหตุผลที่ทำไมเจียงลู่ฉีถึงโจมตีพวกเขา
หลังจากที่ฟังคำพูดของหลันซิหยู่แล้ว ทหารสองคนก็มองตากันและหลังจากนั้น พวกเขาก็เปิดประตูในทันที
“มึงกล้าดียังไง!?!”ฉู่ซงหมิงตื่นตระหนกมาก แต่ในเวลานั้นเอง จางจิงก็คำรามดังก้องและผลักปากกระบอกปืนของฉู่ซงหมิงไว้ด้านข้าง
“ปัง!”เสียงปืนก็ดังขึ้นและมันตกลงไปที่ด้านหลัง
จางจิงและทหารก็กระโดดลงมาจากรถติดเกราะ เจียงลู่ฉีนั้นให้เวลากับพวกเขาสองวินาที และภายในหนึ่งวินาที ทุกคนนั้นก็ละทิ้งรถไปแล้ว นอกจากฉู่ซงหมิง! ในรถติดเกราะนั้นมีเพียงฉู่ซงหมิงคนเดียวที่เหลืออยู่!
ฉู่ซงหมิงนั้นหน้าซีดขาวและไม่สามารถที่จะใจเย็นได้อีกต่อไป ล้อและอาวุธของพวกเขานั้นได้รับความเสียหายทั้งหมด เขาถือปืนพกและระเบิด ทำได้เพียงรู้สึกเหงื่อนั้นหยดมาจากหน้าผากของเขา เขาไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะทำได้เพียงรอคอยเทพเจ้าแห่งความตายได้แบบนี้
ความคิดนับไม่ถ้วนนั้นปรากฏในความคิดของฉู่ซงหมิง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่มีทางที่จะหนีได้
[ฉันยอมแพ้!]ฉู่ซงหมิงพูดในความคิด แม้กระทั่งเสียงของเขานั้นก็หายไปแล้ว เขายืนในรถโดยถือโน๊ตบุ๊ค ในขณะที่มืออีกข้างก็ถือระเบิด