บทที่ 33 Galaxy
บทที่ 33 Galaxy
ในช่วงดึก หลิวกำ เดินเงียบๆจากระเบียงไปยังห้องนอนเพื่อปลูกพังฮั่ว ลูลู่ก็ตื่นขึ้นมาด้วยเช่นกันเมื่อเห็นว่า หลิวกำ กำลังเปลี่ยนกะกับพังฮั่ว ลูลู่กั้นลมหายใจจน หลิวกำ นอนลงที่จุดที่พังฮั่วนอนมาก่อน พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะไม่ให้เกิดเสียงใดๆและเพราะเธอเหนื่อยเธอจึงกลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
ขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ ลูลู่ฝันร้ายดังนั้นเธอจึงอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นจนกระทั่งพังฮั่วมาปลุกเธอขึ้นเพื่อบอกว่ามันเป็นเวลาของเธอแล้ว
เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอก็ลืมไปว่าเธอกำลังอยู่ที่ไหนเธอรู้สึกกลัวและตื่นตระหนกเธอรีบปรับตัวแล้วนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบันในที่สุดเธอก็ยอมยกเตียงให้กับพังฮั่วและเดินแผ่วเบาผ่าน หลิวกำ ขณะที่เธอเดินไปที่ข้างระเบียง
พังฮั่วเป็นสุภาพบุรุษแต่เดิมการปลูกลูลู่คือตี 5 เพื่อเปลี่ยนกะ แต่ทุกครั้งที่เขามองเข้าไปในห้องเขาเห็นว่าลูลู่ กำลังนอนหลับสนิทเมื่อเขาทนไม่ไหวจึงปลุกเธอขึ้นมา 6 โมงเช้าเขาไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไปเขาจึงต้องลุกไปปลูกลูลู่เพื่อให้ลูลู่ปฏิบัติหน้าที่ยามฟ้าสว่างแล้ว
ตอนกลางคืนฝนตกแต่ตอนนี้มันหยุดลงแล้วอย่างไรก็ตามมีแอ่งน้ำที่ไม่ได้ซึมผ่านพื้นดินน้ำมีกลิ่นเหม็นเน่าของเนื้อผสมกับบางอย่างทำให้ลูลู่รู้สึกไม่สบาย
ยามที่ลมยามเช้าพัดเข้ามาที่ใบหน้าเธอ เมื่อมองลงไปตรงตรอกซอกซอย ลูลู่ยังคงรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวไม่เป็นความจริงเมื่อวานตอนบ่ายเธอยังนอนสบายอยู่ในบ้านและหวังว่าจะได้ร่วมงานกับ [The Trembling World]พร้อมกับจดบันทึกในมุมมองของเธอเกี่ยวกับการโฆษณา จากนั้นในตอนกลางคืนเธอก็หวังว่าจะได้รับการบริจาคจากเป็นแฟนของเธอใครจะรู้ว่าเธอติดอยู่ในเกมนี้นะไม่สามารถกลับออกไปได้
ถ้าเธอรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้เธอคงไม่เข้าร่วมเกมนี้
ถ้าเธอไม่กลับไปเร็วๆนี้เธอกลัวว่าเป็นแฟนของเธอจะลืมเธอไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างชื่อเสียงกับผู้ค้นการเป็นนักโฆษณาต้องมีความพยายามอย่างมากและมีการแข่งขันที่รุนแรง ลูลู่ใช้เวลาอย่างมากกว่า 1 ปีเพื่อจะได้รับชื่อเสียงของเธอกว่าเธอจะได้ชื่อเสียงมีมาถ้าเธอต้องเสียมันไปเพราะแบบนี้เธอไม่สามารถยอมรับได้
…..
บนตึกสูงกว่า 100 ชั้น
“ฉันหิวมากๆ”ผู้หญิงคนหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วคุณทำเพราะไม่มีอะไรให้กินทำให้ตอนนี้เธออ่อนแอท้องฟ้าสว่างขึ้นตั้งแต่เช้ามืดแต่เห็นได้ชัดว่าเธอตื่นขึ้นมาเพราะความหิวกระหาย (ว้าว ตัวละครตัวใหม่)
ผู้หญิงคนนี้ชื่อซางยูและผู้ชายอีกคนหนึ่งชื่อหลี่หยูทั้งสองคนยังคงสวมเสื้อสีขาวจากห้องทดลองก่อนเกิดภัยพิบัติภายในตึกระฟ้าพวกเขาทำงานร่วมกันในห้องปฏิบัติงาน ในคืนที่เกิดภัยพิบัติพวกเขาต้องทำงานกะกลางคืนและทำงานล่วงเวลาในห้องแลปได้หลังจะทำงานทั้งวันทั้งคืนโลกรอบๆตัวของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
เพื่อนร่วมงานของพวกเขา ไม่ได้ตากฝนในวันที่ฝนตกเป็นเลือดสีแดงแต่เพื่อนร่วมงานของเขาก็ยังติดเชื้อและการเป็นซอมบี้เพียงสองคนนี้เท่านั้นที่ไม่มีการติดเชื้อ
ความสามารถในการอยู่รอดไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีเสมอไปเช่นเดียวกับทุกๆวันที่ผ่านมามันยิ่งยากขึ้นที่จะฟื้นตัวทันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขากินทุกอย่างในห้องปฏิบัติการและห้องทำงานหมดแล้ว
เช้านี้ตามเวลาซางยูตื่นขึ้นมาเมื่อหลี่หยู แฟนหนุ่มของเธอตื่นขึ้นมาแล้ว เขายืนอยู่ข้างหน้าต่างจ้องมองไปที่ลานจอดรถด้านล่างดูเหมือนว่าเขาจะหิวมากกว่าเธอ
“ผมเฝ้าดูเป็นเวลา 2 วันแล้ว ทุกวันเมื่อเริ่มเช้าการเคลื่อนไหวของซอมบี้ในช่วงกลางวันอ่อนแอที่สุด ไม่ว่าเสียงจะถูกสร้างขึ้นพวกมันก็จะไม่ค่อยมีความรู้สึกไวมากนัก”หลี่หยูกล่าวขณะที่เดินออกห่างจากหน้าต่างและอธิบายให้ซางยู ฟัง
“จริงหรอ?” ซางยูพูดแบบไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เขาบอก
“ถ้าคุณไม่เชื่อผมลองดูนี่สิ”หลี่หยูหยิบถ้วยและเดินไปที่หน้าต่างจากนั้นเรียกซางยูและเขาก็โยนถ้วยเข้าไปใกล้กับซอมบี้ มันหล่นลงมา 2-3 เมตรหลังซอมบี้และทำให้เกิดเสียงดังอย่างไรก็ตามซอมบี้หันมามองแล้วมันก็เริ่มสับสนในทิศทาง
“ถ้าเลยช่วงกลางวันไปแล้วเมื่อได้ยินเสียงมันจะตอบสนองเร็วมากมันจะบ้าคลั่งแล้ววิ่งไปข้างหน้าซึ่งแตกต่างกับตอนเช้า”หลี่หยูอธิบาย
“ฉันเห็นแล้ว”ซางยูพยักหน้า
“แต่ถ้าคุณโจมตีมันมันจะกลับสู่สภาพธรรมชาติในการตื่นตัวเต็มที่”หลี่หยูโยนถ้วยอื่นลงไปคราวนี้มันกระทบถูกร่างกายของซอมบี้และซอมบี้ก็เริ่มตื่นตัว มันมองซ้ายขวาด้านหน้าและหลังและปล่อยเสียงหอนออกมาชนิดของเสียงหอนเพียงพอที่จะปลุกคนที่นอนหลับให้ตื่นขึ้นได้
หลังจากซอมบี้ไม่พบเหยื่อที่เหมาะสมมันก็กลับสู่สภาพเดิมก่อนจะเดินช้าๆ
“ข้อสังเกตของคุณถูกต้องจริงๆ”ซางยูพยักหน้า หลังจากที่เธอตื่นเธอไม่แน่ใจว่าทำไมหลี่หยู จึงบอกเรื่องนี้กับเธอ
“จำนวนซอมบี้ที่จอดรถลดลงมากตั้งแต่เมื่อวาน ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่ของพวกมันถูกดึงดูดไปที่เสียงระเบิดเมื่อวาน ตอนนี้พวกมันไม่ค่อยมีความรู้สึกไวต่อสภาพแวดล้อมรอบตัวผมต้องใช้โอกาสนี้เพื่อลงไปชั้นล่างเพื่อค้นหาบางทีผมอาจจะโชคดีที่จะหาอาหารสำหรับเราได้”หลี่หยูบอกกล่าวแผนกับเธอ
“ไม่มีทาง!มันเป็นเรื่องอันตรายมาก!” ซางยูขัดแย้งกับข้อเสนอของหลี่หยู
“ผมรู้ว่ามันอันตรายเกินไป แต่นี่เป็นโอกาสที่ดี ไม่อย่างนั้นเราจะอดตายที่นี่”หลี่หยูส่ายศีรษะ ตอนนี้ในขณะที่เขาลูกยังพอมีพลังอยู่เขาต้องรีบหาอาหารถ้าเขารอนานกว่านี้ด้วยความหิวโหยเขาอาจจะไม่เหลือกำลังพอที่จะเดินได้
“เราควรคิดหาวิธีอื่น ‘Galaxy’ อาจจะสามารถออกไปข้างนอกและช่วยให้พวกเราหาอาหารได้แน่นอนว่ามันปลอดภัยกว่ามาก” ซางยู ขบคิดและดึงบัตรประชาชนออกมาขณะที่เธอแนะนำเรื่องนี้กับหลี่หยู
นี่คือการ์ดอำนาจที่มีความสำคัญระดับ 7 มันเป็นบัตรประจำตัวที่มีระดับสูงสุดในอาคารนี้
นอกเหนือจากบัตรผู้มีอำนาจที่มีระดับ 7 แล้ว ซางยู ยังใช้ทักษะในการฝ่าเพื่อหาตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของลูกตาและหัวแม่มือของผู้บริหาร เหล่านี้เพื่อใช้ในการเปิดประตูรักษาความปลอดภัยระบบไฟฟ้า ถ้าเก็บลูกตาและขวดหัวแม่มือไว้ในขวดเล็กๆวัสดุทางชีวภาพที่สามารถเก็บรักษาไว้ในสารละลายนี้อาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์ก่อนที่เนื้อจะเน่าเสีย นอกจากนี้ยังช่วยให้ทั้งสองคนสามารถเข้าถึงตึกระฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดแต่เธอก็สามารถเข้ามาได้
อย่างไรก็ตามข้อกำหนดเบื้องต้นทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสมมติฐานว่าตึกระฟ้าสามารถทำงานได้ด้วยไฟฟ้าและในอาคารไม่มีซอมบี้ใดๆ