บทที่ 2 การกลับมาของผู้กล้า
บทที่ 2 การกลับมาของผู้กล้า
[ยินดีต้อนรับสู่โลกของเรา ท่านผู้กล้า]
เมื่อผมลืมตา สิ่งที่ผมเห็นคือเป้าหมายที่ผมเกลียดชัง ผมต้องจัดการเธอ
ผมต่อยไปที่ท้องของเธอด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี เธอคือเจ้าหญิง อะลิเซีย ออร์ลีน เธอกระเด็นไปหลายก้าวพร้อมกับผมสีเงินที่ปลิวไสว จากนั้นเธอล้มลงไป เอามือกุมไปที่ท้อง
ความจริงแล้ว ผมกะจะเล็งไปที่หน้าของเธอซะหน่อย แต่กำปั้นของผมมันดันเอื้อมไปไม่ถึงเธอซะนี่ อาจจะเป็นเพราะน้ำหนักระหว่างเราสองคนก็เป็นได้ ผลที่ได้ก็คือ ท่าทางเหมือนจะไม่ค่อยเต็มแรงซะเท่าไหร่
「「อะ-องค์หญิง!!」」
เหล่าอัศวินตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรง พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์นี้ได้ยังไง พวกเขาจึงรีบเข้าไปหาเจ้าหญิง ท่ามกลางความตื่นตระหนก พวกเขาเริ่มร่ายเวทย์มนต์ระดับต่ำ ฮีล(รักษา) ลำแสงโอบล้อมไปที่เจ้าหญิง
ภาพเหตุการณ์นี้ มันทำให้ผมพอใจมาก
แม้ว่าผมจะไม่ได้ใช้อาวุธ และมันก็เป็นแค่หมัดที่ปล่อยออกไปแบบดาษๆ ผมไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเธอสามารถรับหมัดตรงที่ผมปล่อยออกไปได้ยังไง และดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีเวทย์เสริมความแข็งแกร่ง ได้รับคำอวยพร หรือมีอุปกรณ์สวมใส่แต่อย่างใด
ถึงผมจะงงๆกับเหตุการณ์ในตอนนี้ ผมก็ได้แต่ปล่อยมันไป
「ฮืมม? นี่มันอะไร ความฝันหรอ? หรือภาพเหตุการณ์ก่อนตาย?」
จะว่าไป ผมตายไปแล้วหนิ เมื่อผมมองดูร่างกายของตัวเอง ผมไม่เจออะไรที่ดูผิดปกติ
ผมไม่เห็น [ดาบศักดิ์สิทธิ์] ที่ปักอยู่บนหน้าอกของผม และก็เสื้อผ้าที่ผมใส่ก่อนหน้านั้นก็ด้วย
ผมใส่แค่ชุดตอนที่ผมมายังโลกนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรืออาจจะมากกว่านั้น
ผม อุเคย์ ไคโตะ กำลังใส่ชุดนักเรียนของผมอยู่
「แก แกรู้มั้ยว่าแกทำอะไรลงไป!!」
「ถึงแกจะเป็นผู้กล้า แต่ถึงกับทำร้ายองค์หญิง!!」
เหล่าอัศวินวิ่งเข้ามาพร้อมกับเอาดาบชี้มายังผม ถึงพวกเขาจะไม่ได้แสดงท่าทีมุ่งร้ายแต่อย่างใด สำหรับผมแล้ว ผู้ที่แต่ก่อนไม่เคยออกไปเผชิญหน้าในสนามรบ ไม่รู้จักอะไรทั้งนั้น ดูเหมือนว่าตอนนี้ มันคงไม่มีความหมายอะไรแล้วล่ะ
ผมจะปล่อยเรื่องพวกนั้นไปก่อน ผมต้องมีสมาธิกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อมองดูไปรอบๆสถานที่แห่งนี้ มันเหมือนกับห้องอัญเชิญในปราสาท
ก่อนหน้านั้น ผมอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดและยังไม่มีการค้นพบเรียวโดวเด็น มันเป็นห้องที่อยู่ในอาณาเขตซากศพของมังกร
ถ้าให้ผมคิดจากระยะทางแล้วล่ะก็ มันคงประมาณได้สัก 10,000 กิโลเมตรจากที่นี่ ต่อให้คุณใช้เวทย์มนต์เคลื่อนย้าย คุณต้องใช้มันมากกว่าสิบครั้ง และแม้ว่าจะเป็นจอมมาร ผู้ที่มีพลังเวทย์อันมากมายมหาศาล ก็ยังไม่สามารถทำได้ในครั้งเดียว
หรืออาจจะเป็นภาพเหตุการณ์ก่อนตายที่คุณจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อคุณตายไปแล้ว ไม่สิ ผมก็ยังไม่ค่อยเชื่อกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าสักเท่าไหร่ แต่ผมแน่ในว่านี่ไม่ใช้ภาพเหตุการณ์ก่อนตายอย่างแน่นอน
หากคิดว่านี่เป็นแค่ความฝัน ที่ต่อยไปเมื่อกี้และความอาฆาตมุ่งร้ายมายังผม ผมเข้าใจแล้ว
ถ้านี่ไม่ใช่ความฝันหรือภาพเหตุการณ์ก่อนตาย ผมก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ยังไงดี
「เฮ้ย แกได้ยินที่พูดมั้ย!!」
「ฉันไม่ได้ยิน」
「กะ-!? แก!!」
เหมือนกับตบหน้าพวกมัน ไอ้พวกอัศวินน่ารำคาญถูกทำให้เสื่อมเสียเกียรติอันน้อยนิดด้วยคำพูดครึ่งๆกลางๆ พวกเขาอาจจะถึงขีดจำกัดแล้วก็ได้? ความมุ่งร้ายเปลี่ยนไป พวกเขาหันดาบเข้าใส่ด้วยความกระหายเลือด
ตอนนั้นเอง พวกมันคิดว่าผมสูญเสียความแข็งแกร่งไปกับการกระทำอันกระหายเลือดของพวกมัน ร่างกายของผมตอบสนองและพุ่งเข้าหาพวกมัน
「เอ๊ะ? อะไรน่ะ!?」
ผมกระทืบไปที่เท้า ข้างที่เขาจะใช้เพื่อเคลื่อนไปข้างหน้า และกดทับด้วยน้ำหนักในร่างกายของผม ผมตีศอกไปที่กล่องเสียง ผมถูกอัญเชิญมาเป็นผู้กล้าได้สามปีแล้ว
หลังจากจัดการจอมมารได้แล้วและบรรลุเป้าหมายของผมทุกอย่าง ผมถูกไล่ล่ามาตลอดหนึ่งปี เพื่อเป็นเครื่องสังเวยให้กับการฟื้นฟูหลังสงคราม
ถ้าผมล่วงรู้ถึงจิตที่มุ่งร้ายเข้ามา โดยที่ไม่ลังเลเลยสักนิด, ผมจะอัดไปที่จุดตาย และถ้ามันไม่แรงพอ พวกเขาก็คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน
ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาอัศวินที่เห็นเหตุการณ์นี้อีกครั้ง พวกเขาหยุดการเคลื่อนไหว คนที่เข้ามาจะจัดการผม ตอนนี้ถูกอัดกระเด็นเข้ากับกำแพง, คอของเขาเสียหายไปครึ่งนึง, น้ำลายฟูฟ่องออกมาจากปากของเขา, และเมื่อลองดูในมุมมองความคิดจากทางฝั่งพวกมัน ดูเหมือนว่ามันเกิดขึ้นเพราะเขาประมาทและไม่ทันระวัง จึงได้เกิดเรื่องผิดพลาด
「เอ๊ะ? คอยังไม่หักอีกเหรอเนี่ย? สงสัยคอหมอนั่นน่าจะมีถูกปกป้องด้วยพลังเสริมแกร่งด้านวิญญาณ? ไม่น่าจะใช่นะ ฉันไม่รู้สึกถึงพลังเวทย์เลย, หรือบางที ร่างกายของเรารู้สึกหนักๆ? หืมมมมม~?」
ภายในห้อง ท่ามกลางความเงียบงัน มีแต่เสียงของเขาที่ดังออกมา
ไม่ว่าผมจะคิดยังไง เขาก็ดูไม่เหมือนพวกยอดฝีมือหรือคนที่แข็งแกร่ง แม้ว่าเขาจะเป็นแค่อัศวิน และผมเองก็ไม่ได้ใช้อาวุธด้วย คงเป็นไปได้ยากที่จะคิดว่าศอกของผมนั้นทำได้ถึงขนาดนี้
คอของเขามันควรจะหันไปอีกด้านนะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้เกิดขึ้น
「ระ, รอเล็น!!」
หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที พวกเขาก็ได้สติในที่สุด เหล่าอัศวินรีบไปช่วยเพื่อนในทันที, พวกเขาลนลานและตกใจมาก จนเริ่มร่ายเวทย์รักษาในทันที และพวกเขาตัดสินว่าจะไม่ทันการ พวกเขาจึงเอาโพชั่นฟื้นพลังระดับกลางออกมา และชโลมลงบนส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ
「มะ มีอะไรที่ท่านไม่พอใจอย่างนั้นหรือ ท่ะ ท่านผะ ผู้กล้า…」
ด้วยใบหน้าอันซีดเซียว ประกอบกับเธอเริ่มฟื้นตัว คำพูดที่ออกมาจากปากยัยองค์หญิงนั่นเข้าหูผมในทันที ความกระหายเลือดของผมแผ่ขยายออกมาโดยไม่ทันตั้งใจ และมันได้สะกดทุกการเคลื่อนของทุกคนที่อยู่ที่นี่
「โอ้ เธอยังพูดแบบนั้นได้อยู่อีกเหรอ อะลีเซีย มันชัดเจนอยู่แล้ว ฉันไม่ชอบทุกอย่างเลย น้ำเสียงนั่น สายตาพวกนั้น ไหนจะรูปร่างของเธอและจิตวิญญาณนั่นอีก มันทำให้ฉันคลื่นไส้ จนอยากจะอ้วกออกมาเลยล่ะ โดยเฉพาะไอ้คำว่า ‘ผู้กล้า’ ที่ออกมาจากปากของเธอ」