บทที่ 34: การค้นพบที่แสนมหัศจรรย์
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
====================
บทที่ 34: การค้นพบที่แสนมหัศจรรย์
เบื้องต้นเจ้าอ้วนมัวแต่ระวังสัตว์ร้ายจนลืมมองกำแพงด้านข้าง ด้วยการเตือนของเจ้าลิงเขาจ้องมองไปที่สิ่งนั้นเพื่อพิจารณาพร้อมกล่าวออกมาด้วยความประปลาดใจ “โห ประเสริฐนักนี่คือหินวิญญาณชนิดนึงใช่หรือไม่?”
หลังจากพูดจบ เจ้าอ้วนเหยียดมือออกไปพร้อมกับก้าวขาไปข้างหน้าอย่างระวังตน เขาถือมันไว้บนฝ่ามือพร้อมกับพิจารณาว่ามันเป็นหินวิญญาณวารีระดับต่ำนั่นเอง
เจ้าอ้วนเหยียดมือของเขาออกมาเพื่อให้เจ้าลิงและหานหลิงเฟิงดูมัน ในตอนที่เจ้าลิงได้เห็นมันใกล้ ๆ เขารู้ได้ทันทีว่ามันคืออะไร “ถูกต้องแล้ว มันคือศิลาจิตวิญญาณวารีระดับต่ำ ก่อนหน้านี้ข้าเคยได้สัมผัสมันโดยบังเอิญ ความสวยงามและความหนาแน่นของมันทำให้ข้าอยากรู้อยากเห็น ไม่คิดเลยว่าจะเป็นศิลาจิตวิญญาณที่แท้จริง!”
หานหลิงเฟิงหยิบมันออกมาจากมือของเจ้าอ้วนพร้อมตรวจสอบมัน จากนั้นนางจึงตะโกนออกมาด้วยความร่าเริง “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กเสียแล้ว มันเทียบเท่ากับหินจิตวิญญาณระดับต่ำถึงสิบก้อน! สวรรค์ เหตุใดจึงมีศิลาจิตวิญญาณวารีมากมายในที่แห่งนี้? อย่าบอกนะว่า...”
“อย่าบอกนะว่าที่แห่งนี้คือเหมืองหินจิตวิญญาณ?” เจ้าอ้วนต่อประโยคนั้นด้วยความตกใจ
“เป็นไปได้ แต่เราไม่สามารถระบุได้ว่ามันมีเพียงแค่หินจิตวิญญาณเท่านั้น!” หานหลิงเฟิงกล่าว “ลองเดินต่อไปเราอาจจะเจอสิ่งใดมากกว่านี้ก็ได้!”
“ไปกัน!” เจ้าอ้วนตอบพร้อมกับเดินต่อเข้าไปข้างใน คราวนี้ทั้งสามคนจ้องมองกำแพงหินและใช้มือตรวจสอบมันในบางครั้ง ท้ายที่สุดในสองชั่วโมงพวกเขารวบรวมหินจิตวิญญาณวารีระดับต่ำได้มากมายหลายสิบก้อน ซึ่งหมายความว่ามูลค่ารวมของมันเทียบเท่าหินจิตวิญญาณระดับต่ำนับร้อยก้อน
นอกเหนือจากนั้นเจ้าลิงยังได้พบศิลาจิตวิญญาณระดับกลางซึ่งมีขนาดเท่ากับศีรษะของมนุษย์ ตามอัตราการแลกเปลี่ยนในตลาดมืด ชิ้นส่วนนี้สามารถแลกเปลี่ยนเป็นหินจิตวิญญาณระดับต่ำได้นับร้อยก้อน แต่ขนาดที่ค้นพบเท่ากับศีรษะของมนุษย์ หมายความว่ามูลค่าของมันก็จะเพิ่มมากขึ้นไปอีก ด้วยขนาดที่ใหญ่ มันสามารถนำไปใช้ปรับแต่งอุปกรณ์วิเศษระดับสูงได้ ดังนั้นศิลาจิตวิญญาณระดับกลางก้อนนี้มีมูลค่าเป็นหินจิตวิญญาณระดับต่ำหนึ่งหมื่นก้อน
เจ้าลิงไม่เคยพบเห็นหินจิตวิญญาณมากมายขนาดนี้มาก่อนในช่วงชีวิตของเขา ในขณะที่มือของเขาถือมันอยู่ เขามีอาการตื่นเต้นจนมือสั่นพร้อมกล่าวว่า “พี่น้องอ้วน สิ่งนี้ สิ่งนี้คือศิลาจิตวิญญาณระดับกลาง เรามาแบ่งกันเถอะ!”
“อา อย่าได้คิดมากไป!” เจ้าอ้วนตะโกนออกมาพร้อมหัวเราะลั่น “มันเป็นของเจ้านับตั้งแต่ที่เจ้าพบมันแล้ว เราทั้งสองจะไม่ยื้อแย่งมันมาจากเจ้าเด็ดขาด!”
“อา ผู้ที่หยิบมันขึ้นมาเป็นคนแรกคือเจ้าของมัน สิ่งนี้คือโชคลาภของเจ้า! รีบเก็บมันไว้เสีย!” หานหลิงเฟิงยิ้มพร้อมกล่าวต่อ “ข้าก็จะไม่แบ่งให้กับเจ้าเช่นกันถ้าหากว่าข้าคือคนหยิบมันขึ้นมา” นางกล่าวในขณะที่กำลังหยิบหินวิญญาณขึ้นมา
“ก็ได้ ข้าไม่ขอมากมารยาทอีกต่อไป!” เจ้าลิงยิ้มกว้างพร้อมกับรีบเก็บศิลาจิตวิญญาณทันที
จากนั้นเขาถูมือไปมาพร้อมกล่าวต่อ “ค้นหากันต่อเถอะ ข้าคิดว่านี่ไม่ใช่เพียงเหมืองหินจิตวิญญาณ มันยังเต็มไปด้วยองค์ประกอบทั้งห้าธาตุอีกด้วย!”
ห้าองค์ประกอบทั้งห้าก็คือเหมืองจิตวิญญาณ เป็นเหมืองที่สามารถผลิตหินจิตวิญญาณของธาตุทั้งห้าได้ ประกอบไปด้วย ทอง ไม้ วารี อัคคี และปฐพี เหมืองที่มีสิ่งของพวกนี้หาได้ยากยิ่ง ปกติทั่วไปแล้วจะมีเพียงสององค์ประกอบเท่านั้นเช่น ปฐพีและวารี หรือโลหะและอัคคี แต่เหมืองที่เป็นเช่นนี้ซึ่งผลิตออกมาได้ทั้งห้าองค์ประกอบหาได้ยากยิ่ง ในเทือกเขากว้างใหญ่กว่าหนึ่งหมื่นลี้ถูกค้นพบไปแล้วนับหมื่นเหมืองแต่ไม่มีเหมืองใดที่เป็นเช่นนี้
“เช่นนั้นก็ดี เพราะตอนนี้พวกเราอยู่ท่ามกลางขุมสมบัติ พวกเราไม่ควรพลาดโอกาสนี้ไป!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างกระตือรือร้น “พวกเราค้นหาที่พักแรมพร้อมวางแผนรับมือกับความร่ำรวยนี้กันเถิด!”
“อือ ไปกันเถอะ!” หานหลิงเฟิงรีบวิ่งตาม
ทั้งสามคนลืมอีกาโลหิตที่เฝ้ารออยู่ภายนอก รวมถึงอันตรายที่กำลังรออยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ ตอนนี้พวกเขามุ่งมั่นไปที่ศิลาจิตวิญญาณเท่านั้น แม้ว่าเจ้าอ้วนและหานหลิงเฟิงจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับศิลาจิตวิญญาณที่เจ้าลิงค้นพบเท่าใดนัก แต่หากจะบอกว่าไม่อิจฉาคงเป็นการโกหกอย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเขาเลยตั้งใจที่จะหาศิลาที่มีระดับสูงกว่านี้
ทั้งหมดถูกหลอกล่อด้วยหินจิตวิญญาณ ทั้งสามลืมความหิวและความเหนื่อยล้าจนหมดสิ้น พวกเขาเดินตามปราณจิตวิญญาณที่หนาแน่นเข้าไปพร้อมกับขุดถ้ำกันอยู่ทั้งวัน ในที่สุดก็มาถึงทางตันเสียที
ที่แห่งนี้เป็นห้องโถงใหญ่ราวหนึ่งพันฟุต มันสูงหนึ่งร้อยฟุตและมีหินย้อยมากมาย ตรงกลางเป็นบ่อกลมมีความกว้างห้าสิบถึงหกสิบฟุต มีความลึกสามถึงสี่ฟุต
บ่อนั้นทำจากศิลาหยกเขียว ตรงกลางมีหินย้อยเป็นสง่ายาวกว่าสิบฟุต บนพื้นผิวมีไข่มุกประดับพร้อมกับส่องแสงประกายงดงาม
ขณะที่ทั้งสามเดินเข้ามาภายใน พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงกับปราณจิตวิญญาณที่หนาแน่นมากกำลังไหลออกมาจากบ่อแห่งนี้ แม้ห้องโถงของสำนักเสวียนเทียนยังมิอาจเทียบได้ ปราณจิตวิญญาณในที่แห่งนี้หนาแน่นมากจนเกิดเป็นหมอกโดยธรรมชาติ เพียงครู่เจ้าอ้วนก็รู้สึกตัวทันทีว่ามิติลึกลับของตนนั้นกลั่นปราณจิตวิญญาณออกมาจากหินจิตวิญญาณ
ทั้งสามตกตะลึงอยู่ในที่แห่งนี้ พวกเขาเดินไปรอบ ๆ สระพร้อมกับตรวจสอบมัน ในสระน้ำไม่มีสีหรือกลิ่นอีกทั้งยังบริสุทธิ์มาก เต็มไปด้วยดอกบัวที่ดูแปลกตามากมาย มีสองกอที่บานออกมาแล้วกลิ่นหอมที่โชยมาทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างยิ่ง ทั้งสามกำลังผ่อนคลายอย่างไร้การป้องกัน
“สิ่งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นดอกบัวแห่งองค์ประกอบทั้งห้า!” หานหลิงเฟิงตัวสั่นในขณะที่พูด
“ดอกบัวแห่งองค์ประกอบทั้งห้า?” เจ้าอ้วนถามอย่างเคร่งขรึม “มันคือสิ่งใด?”
“ข้าเคยเห็นมันในบันทึกของนิกายเขียนไว้ว่า ดอกบัวแห่งองค์ประกอบทั้งห้านั้นสามารถสร้างยาที่ใช้เสริมกำลังของปราณจิตวิญญาณทั้งห้าได้!” หานหลิงเฟิงกล่าวอย่างเร่งรีบ “ในข้อความบอกไว้ว่ามันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของปราณจิตวิญญาณได้!”
“อา” เป็นเจ้าอ้วนที่ตกตะลึงไปอย่างโง่งม เขาไม่เคยจินตนาการว่าจะมีวัตถุเช่นนี้อยู่บนโลกใบนี้ หนึ่งคือบุคคลที่มีองค์ประกอบทั้งห้าธาตุอยู่ในตัว หากต้องการจะปรับแต่ง มันจะสามารถทำได้ยากยิ่ง แม้ว่าหานหลิงเฟิงและเจ้าลิงจะมีพื้นฐานที่ดีกว่าบุคคลปกติทั่วไป แต่หากเทียบกับบรรดาอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากนับว่ายังห่างไกล มิเช่นนั้นพวกเขาก็คงได้เข้าเป็นศิษย์ในนานแล้ว
ภายใต้สถานการณ์ปกติ พรสวรรค์ของพวกเขาทั้งสองนั้นสามารถเข้าสู่ระดับจินตันหรือหยวนหยินได้ แต่ไม่มีโอกาสได้ไปต่อในขั้นถัดไป แต่ตอนนี้โอกาสนั้นมาอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว ถ้าหากว่าพวกเขาได้รับดอกบัวแห่งองค์ประกอบทั้งห้า มันจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของรากจิตวิญญาณภายใน อย่างน้อยพวกเขาก็จะสามารถเข้าสู่ระดับเทพหรือกึ่งเทพ หรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้ ด้วยเหตุเช่นนี้จะไม่ให้พวกเขาตื่นเต้นได้อย่างไร
สำหรับเจ้าอ้วน รากจิตวิญญาณของเขาก็ยังคงเป็นเช่นเดิม แต่หลังจากที่เขาได้ฝึกฝนด้วยเคล็ดวิชาปฐมกาลแห่งความโกลาหล มันก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย แม้ว่ายังไม่อาจเทียบกับเหล่าอัจฉริยะเหล่านั้นได้ แต่สิ่งนี้ทำให้เขาไม่กลายเป็นขยะไปจริง ๆ หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากดอกบัวแห่งองค์ประกอบทั้งห้านี้ เขาจะไปได้ไกลอีกเท่าไหร่? หัวใจของเจ้าอ้วนกำลังบีบรัดอย่างอดไม่ได้
หลังจากที่เขาได้ตรวจสอบดอกบัวทั้งหมดในทะเลสาบ เขาไม่สามารถทำสิ่งใดได้นอกจากถอนหายใจออกมา “ข้ามองไม่เห็นกระถางของมันเลย หรือมันไม่มีเมล็ดกันแน่ แล้วต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการปลูกมัน?”
“ข้าไม่รู้ มีตำนานเล่าขานว่าดอกบัวแห่งองค์ประกอบทั้งห้านี้เป็นดอกไม้ที่จะค้นพบกันในหลายช่วงของสหัสวรรษ วิธีออกดอกของมันไม่มีใครรู้ว่าเมล็ดของมันปลูกอย่างไร ข้าเกรงว่าคงต้องใช้เวลาหลายร้อยปี” หานหลิงเฟิงตอบกลับ
“หลายร้อยปี? มันนานเกินไป!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างผิดหวัง
“เราสามารถรอมันได้!” หานหลิงเฟิงกล่าว
“แต่ปัญหาคือเราไม่สามารถรอที่นี่ได้!” เจ้าอ้วนกล่าวเสริม “ร้อยปีมิใช่เวลาสั้น ๆ ถ้าหากมีใครมาค้นพบสถานที่แห่งนี้เข้า เป็นไปได้หรือว่าเราจะไม่สูญเสียมันไป?”
“งั้นก็คงช่วยไม่ได้” หานหลิงเฟิงกล่าว “ดอกบัวแห่งองค์ประกอบทั้งห้านี้ต้องใช้น้ำที่บริสุทธิ์อย่างยิ่งในการทำให้มันเติบโต สภาพแวดล้อมก็ต้องเข้มงวดอย่างยิ่ง มิเช่นนั้นมันก็จะเหี่ยวเฉา นอกเหนือจากสถานที่แห่งนี้เรายังจะสามารถหาที่อื่นที่เหมาะสมได้อีกงั้นหรือ?”